เรื่องย่อ : The 33 เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเหตุการณ์จริง โดยหยิบเอาเหตุการณ์เหมืองถล่ม เมื่อ 5 สิงหาคม ค.ศ. 2010 เหมืองนี้มีชื่อว่าเหมืองซานโฮเซ่ (San José) ในประเทศชิลี เป็นเหมืองที่ขุดแร่ทองและทองแดง เหมืองนี้เป็นเหมืองขนาดใหญ่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายร้อยเมตรเกิดถล่มลงมา คนงานนับ 33ชีวิตที่ต้องติดอยู่ในนั้นจะต้องหาทางเอาตัวรอด ท่ามกลางอาหารที่มีอยู่อย่างจำกัด และภาวะวิตกจริต
รีวิวและวิจารณ์ ภาพยนตร์ The 33 : ตัวเรื่องเปิดมาด้วยการเล่าถึงวิถีชีวิตคนงานเหมืองที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ผูกพันกันเหมือนพี่น้อง คนงานเหมืองทุกคนรู้ถึงความเสี่ยงอันตรายที่จะได้รับดี แต่ด้วยค่าตอบแทนที่สูงกว่างานทั่วไปจึงต้องยอมเสี่ยงอันตราย ก่อนจะว่าตัวภาพยนตร์กันอย่างเจาะลึก ต้องขอชมเชยผู้กำกับ Patricia Riggen ที่มีมมุมมองในการจัดวางภาพองค์ประกอบได้ดี ทำให้ภาพออกมาสวยงาม เห็นตัวละครหลัก และสภาพแวดล้อม รวมไปถึงบรรยายความยิ่งใหญ่ของเหมืองใต้ดินผ่านภาพให้ผู้ชมเข้าใจได้ง่าย
แต่นอกจากมุมมองการเล่าเรื่องผ่านภาพแล้วตัวบทออกจะอ่อนไปสักหน่อย เพราะจับทั้งประเด็นชีวิต จับประเด็นการเอาชีวิตรอด และการช่วยเหลือจากภายนอก ภายในระยะเวลา 127นาที จึงทำให้เจาะเข้าไปในประเด็นต่างๆ ได้ไม่ลึกพอ ทำได้แค่เพียงเห็นภาพรวมของแต่ละประเด็นโดยคร่าวๆ เช่นความยากลำบากในการใช้ชีวิตในเหมืองใต้ดินที่มีอาหารอยู่อย่างจำกัดก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือ อาการซึมเศร้าต่างๆ ที่ผู้ประสบเหตุ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ภาพยนตร์สามารถสื่อออกมาได้เป็นอย่างดีเลยคือความสามัคคี และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวเหมือง
อย่างไรก็ดีการเล่าเรื่องมุมกว้างแบบนี้ก็ทำให้ผู้ชมได้เห็นเรื่องราวหลายๆ ด้าน ทำให้ผู้ชมมีความเข้าใจในมุมมองของแต่ละภาคส่วนว่ามีความคิดเห็นอย่างไรต่อเหตุการณ์แบบนี้ อย่างเจ้าของเหมืองที่เห็นชีวิตของคนงานเหมืองเหล่านี้ไม่มีคุณค่าความหมาย คิดจะปล่อยให้ตายทั้งเป็นด้วยซ้ำ รวมไปถึงภาครัฐที่มองการช่วยเหลือเป็นหน้าตาเกี่ยวพันกับหน้าที่การงานของตัวเอง ซึ่งถ้าตัวบทเลือกที่จะเจาะประเด็นเดียวอย่างลึกซึ้ง ก็จะทำให้ผู้ชมไม่เอาจเข้าถึงมุมมองจากหลายๆ ฝ่าย ก็มีข้อดีข้อเสียกันไปตามแต่ความชอบครับแบบนี้
โดยรวม The 33 จัดเป็นภาพยนตร์ที่น่าดูมากเลยเรื่องหนึ่ง ภาพสวยงาม มุมมององค์ประกอบดี และมีคำพูดหนึ่งที่ผมชื่นชอบมากนั่นคือ “เราอยู่ตรงนี้คือชาวเหมือง เราออกไปก็คือชาวเหมือง” ใครอยากรู้ความหมายของประโยคนี้แนะนำว่าจะต้องไปดูเพราะความหมายมันลึกซึ้งเกินกว่าจะบรรยายผ่านตัวอักษร
คะแนน 7.2/10
