21 Mar 2016
Review

รีวิวหนัง Room (2016) ภาพยนตร์ที่ให้แง่คิดที่น่าจดจำ


  • lcdtvthailand

“โลกภายนอกบางครั้งมันช่างแตกต่างและเต็มไปด้วยสิ่งที่น่ากลัวแต่ใช่ว่าเราจะผ่านมันไปไม่ได้”

เรื่องย่อ : Room เป็นเรื่องราวของ ‘จอย’(Brie Larson) เด็กสาวแสนดีที่วันหนึ่งเธอตั้งใจจะเข้าไปช่วยเหลือหมาน้อยที่บาดเจ็บของชายคนหนึ่งนามว่า นิค แต่ จอย หารู้ไม่ว่าเพราะความใจดีของเธอเป็นเหมือนเข็มทิศที่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล นิค ขัง จอย ไว้ห้องเก็บของหลังบ้านเพื่อเป็นเครื่องมือบำบัดความใคร่ ยาวนานกว่า 7 ปี เพราะจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมนี้ทำให้ จอย ได้กำเนิด  แจ็ค(Jacob Temblay) เด็กชายผู้เป็นเหมือนเข็มทิศแห่งชีวิตเธออีกครั้ง เธอเลี้ยงดูลูกชายของเธอในห้องเก็บของเล็ก ๆ สี่เหลี่ยม และในวันหนึ่ง แจ็คก็นำพาอิสรภาพมาให้เธอแต่การนำมาซึ่งอิสรภาพนั้นมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

วิจารณ์ : ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงคว้ารางวัลOscar 2016 มาได้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดง Plotเรื่อง หรือบท ทุกอย่างล้วนทำออกได้เข้ากันอย่างลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงของ Brie และ Jacob Brie ต้องแบกรับบทที่ยาก และค่อนข้างมีความซับซ้อนในตัวเอง โดยเธอต้องเล่นเป็นเด็กสาวที่เต็มไปด้วยความกลัวและความหวาดระแวงเรื่องราวในอดีตกับสิ่งที่เธอเพิ่งได้รับมา แต่ในอีกมุมหนึ่งเธอต้องเป็นแม่ที่เข้มแข็งพร้อมที่ปกป้องดูแล และให้ความอบอุ่นกับแจ็คลูกชายคนเดียวของเธอ ลองคิดดูว่าผู้หญิงคนหนึ่งแบกรับความเจ็บปวดนานถึง 7 ปี โดยถูกขังอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมขนาด 10 x 10 ไม่เคยได้เห็นแสงหรือโลกภายนอกใด ๆ จะเห็นก็แต่แสงแดดและแสงดาวผ่านทางหน้าต่าง Skylight เท่านั้น และอีกคนหนึ่งที่เราคิดว่า ควรถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscar คงเป็นใครไปไม่ได้นั้นก็คือ หนุ่มน้อยตัวเล็ก Jacob เขารับบทเป็นแจ็คลูกชายเพียงคนเดียวของจอยที่เกิดมาภายใต้ห้องสีเหลี่ยมเหมือนกับแม่ของเขา โดยที่ไม่เคยได้เห็นสิ่งมีชีวิตใดๆ เลย นอกจากสิ่งของในห้องและแม่ของเขาเอง ทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เขาเห็นทั้งหมด ล้วนผ่านทางโทรทัศน์เครื่องเล็ก ๆ และ คำสอนจากแม่ หรือการเล่าเรื่องเท่านั้น โดยที่เขาไม่เข้าใจเลยว่า สิ่งไหนคือสิ่งที่จริง หรือ สิ่งไหนคือสิ่งที่ปรุงแต่งขึ้น แต่ในทางกลับกัน เขาก็หวังไว้เล็ก ๆ ว่า จะได้ลองจะได้สัมผัสสิ่งที่แม่เล่าให้เขาฟังบ้าง

สรุป : สุดท้ายแล้ว Room เป็นหนังที่บอกเล่าและถ่ายทอดความกดดันออกมาได้ดี  และสิ่งที่เราสัมผัสได้จากการดูหนังเรื่องนี้คือ ความหดหู่และน้ำตา หนังเรื่องนี้นำเสนอจิตใจและความรู้สึกของตัวละครทั้งสองออกมาได้ดีมาก อีกทั้งยังให้คำนิยามในการใช้ชีวิตได้ว่า คนเราทุกคนล้วนต้องรู้จักการปรับตัวและยอกรับความเป็นจริงที่แสนเจ็บปวดให้ได้ ไม่ว่าเรื่องราวทั้งหมดมันจะคอยทำร้ายคุณมากน้อยแค่ไหน เวลาและกำลังใจ ความหวังและความศรัทธาจะเป็นเหมือนตัวช่วยและยารักษาความเจ็บปวดนั้น ๆ ให้ทุเลาลงและจางหายไปในที่สุด

คะแนน : 8.5/10