02 Jun 2016
Review

รีวิวหนัง X-Men: Apocalypse


  • lcdtvthailand

เรื่องย่อ : นับตั้งแต่รุ่งอรุณแห่งอารยธรรม เขาถูกบูชาในฐานะพระผู้เป็นเจ้า อโพคาลิปส์ คือมนุษย์กลายพันธุ์คนแรกและทรงพลังที่สุดในจักรวาล X-Men ของมาร์เวล ผู้เป็นอมตะจากการรวบรวมพลังพิเศษของมนุษย์กลายพันธุ์รายอื่น แต่เมื่อเขาตื่นขึ้นจากการหลับใหลนับพันปีแล้วพบว่าโลกไม่เป็นไปตามใจปรารถนา อโพคาลิปส์เริ่มมองหาลูกทีมผู้ทรงพลังรวมทั้ง แม็กนีโต้ (ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์) ในภารกิจล้างมลทินมนุษย์และจัดระเบียบโลกใหม่ภายใต้การปกครองของเขา และในเมื่อชะตากรรมของโลกกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย ราเวน (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) ต้องร่วมมือกับ โปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ (เจมส์ แม็คเอวอย) นำทีมยอดมนุษย์ X-Men รุ่นใหม่ต่อกรกับศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และปกป้องมวลมนุษยชาติให้รอดพ้นจากการทำลายล้างอันใหญ่หลวง

บทวิจารณ์ : ในตอนแรกเราไม่ได้คิดจะไปดู X-men ภาคนี้เลย เพราะผิดหวังมาจาก Captain America: Civil War ที่พลอตอ่อนและนิสัยของตัวละครในเรื่องขัดแย้งกับลักษณะนิสัยของตัวละครที่แท้จริงจากภาพยนตร์ภาคก่อนๆ ทำให้เราคิดว่า Marvel ปล่อยหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ออกมาติดๆ กันมากเกินไป จนคุณภาพงานถดถอยลง แต่สุดท้ายก็ต้องยอมไปดู X-Men: Apocalypse ก็เพราะเพื่อนตัวดีออกมาโพสต์ให้คาใจว่า “X-men เป็นหนังตลก” เท่าที่ดูมาเราไม่เคยคิดว่าหนังเรื่องนี้จะมีอะไรตลก ทำให้รู้สึกว่าภาพยนตร์ภาคต่อตอนนี้น่าจะมีอะไรน่าสนใจ เพราะเจ้าของโพสต์นี่ไม่ใช่คนช่างพูดแต่อย่างใด ว่าแล้วก็รีบออกตัวไปดูหนังอย่างรวดเร็ว พอเริ่มต้นดูฉากอินโทรก่อนเข้าเรื่อง ก็รู้สึกว่าต่อให้กลับบ้านตอนนี้ก็คุ้ม เพราะเปิดตัวได้อลังการมากจริงๆ แอฟเฟคดี ลำดับภาพดี ทุกอย่างดี

แต่แน่นอนว่าเราอยู่ดูต่อจนจบนะ เนื่องจาก X-Men: Apocalypse ไม่ได้เอาตัวละครจากเรื่องอื่นเข้ามาปน โครงหลักของเรื่องก็ยังคงเส้นคงวาเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือรายละเอียดของตัวละครแต่ละตัว ในภาพยนตร์ตอนนี้ เราจะได้รู้จักตัวละครมากขึ้น ทั้งแง่ของประสบการณ์และความรู้สึก ใครที่เคยดู X-men ภาคอื่นๆ มากก่อนรับรองว่าอินกว่าเดิมแน่ ส่วนใครยังไม่เคยดู X-men มาก่อน ก็สามารถดูได้ รับรองว่าไม่งง เพราะไม่มีการย้อนเหตุการณ์จากอดีตสลับกับปัจจุบันและอนาคตแต่อย่างใด เนื้อเรื่องไหลตามลำดับเวลา ไม่มีการซ้อนแผน ไม่เครียด มีแต่ฉากลุ้น และฉากประทับใจ โดยส่วนตัวเราว่าหนังเรื่องนี้ดูได้ที่ชายและหญิง เด็กๆ ก็สามารถดูได้ เพราะไม่มีฉากรุนแรงให้เห็นตรงๆ แต่ใช้ซีนอารมณ์ถ่ายทอดเหตุการณ์ออกมาแทน งานดี Marvel รักษามาตรฐานเอาไว้ดีได้เลยทีเดียว ได้ใจเรากลับไปเช่นเดิม และคิดว่าจะกลับไปดูหนังของค่าย Marvel อีกครั้ง ที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นตอนทำให้เวลาเดินช้าลงแล้วช่วยคนออกจากตึก ชอบเพลงประกอบ และมุกตลกของคนเขียนบท เราเผลอหัวเราะออกมาซะเสียงดังเลย

สรุป : ภาพยนตร์เรื่อง X-Men: Apocalypse เป็นหนังครบรส ถ่ายทอดออกมาได้ดี คุ้มค่าที่จะเสียเงินไปดูอย่างยิ่ง ที่สำคัญความยาวหนังไม่นานเกินไป เรื่องราวคลี่คลาย ไม่มีอะไรทิ้งไว้คาใจ ถ้ามีเวลาว่าง เราแนะนำให้ไปดูนะ

คะแนน : 7.5/10