LG OLED65B7T UHD HDR OLED TV
ยอมรับว่าทีแรกหนักใจแทน LG อยู่ไม่น้อย เมื่อทราบข่าวว่า “คู่แข่งตัวท็อป” จากแดนอาทิตย์อุทัย ทั้ง Sony และ Panasonic ต่างก็เข้ามาร่วมชิงชัยในตลาด OLED TV ประจำปี 2017 ที่น่ากลัว คือ ทั้ง 2 ค่าย จัดเต็มแบบไม่ยั้งเพราะปล่อยรุ่นเด็ด เรือธงสเป็กเทพ ดีไซน์งี้ล้ำมาเลย แต่… อย่าลืมว่า LG ก็ยังเป็นเจ้าของพาเนลอยู่นะครับ
W7 “Wallpaper” OLED TV หนึ่งในทีวีระดับท็อปที่มีนวัตกรรมโดดเด่นที่สุดเครื่องหนึ่งประจำปี 2017 แต่น่าเสียดายที่ทาง LG ไม่นำเข้ามา (อ้างอิงขณะทำการทดสอบ) รุ่นรองที่มีจำหน่ายในประเทศไทยก็อิงดีไซน์เดิมจากปีก่อนมาแทบจะทุกจุด (ความต่างน้อยมาก) หลายท่านจึงมองว่ายังไม่สมศักดิ์ศรีหากจะนำไปเทียบกับดีไซน์อันหวือหวาของ OLED TV เรือธงจากแบรนด์คู่แข่ง… แต่ ถ้าตัดประเด็นเรื่องความหวือหวาของรูปลักษณ์ภายนอกออก แล้วเน้นเรื่องของคุณภาพภายในล่ะ LG OLED TV ประจำปี 2017 จะสู้ได้ไหม?
ปีนี้ LG ถือเป็นผู้ผลิต OLED TV ที่มีจำนวนรุ่นมากที่สุดถึง 5 ซีรี่ส์ (หากนับ W7 ด้วย) ซึ่งไม่น่าแปลกใจ เพราะเดิมเป็นผู้ผลิตหนึ่งเดียวมานานแล้ว โดยรุ่นที่ทีมงาน LCDTVTHAILAND จะทำการทดสอบครั้งนี้ คือ OLED65B7T ถือเป็นซีรี่ส์น้องเล็ก ราคานับว่าเย้ายวนมากที่สุดเมื่อเทียบกับ OLED TV ซีรี่ส์อื่นๆ ของ LG เอง และรวมถึงของคู่แข่งด้วย (ปัจจุบันมีกันแค่แบรนด์ละรุ่น)
Design – การออกแบบ
ดังที่เกริ่นไปว่า OLED TV ของ LG ปีนี้ (นอกเหนือจาก W7) จะอิงดีไซน์ตามแบบของรุ่นปีที่แล้ว และหากดูรูปลักษณ์ภายนอกของ B7 จะเหมือนกับ B6 นั่นเอง ดูไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่…
B7 ขนาดอื่นที่มีวางจำหน่ายนอกจาก 65 นิ้ว ยังมี 55 นิ้ว ด้วย ราคาย่อมเยากว่า เริ่มต้นไม่ถึง 1 แสนบาท เหมาะมากสำหรับท่านที่กำลังมองหา 4K/UHD OLED TV ราคาไม่แรง
เมื่อเป็น OLED TV เรื่องความบางของจอภาพไม่ต้องห่วง บางจริงครับ ส่วนที่บางทีสุดอยู่ระดับไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้น!
ฐานตั้งเป็นวัสดุใสรองรับด้วยแผ่นโลหะ มองเผินๆ เหมือนทีวีลอยอยู่ (โครงสร้างฐานลักษณะนี้ใกล้เคียงกันรุ่น C7 แต่ B7 จะมีขนาดฐานเล็ก ประหยัดเนื้อที่กว่า)
ด้านหลังจอภาพส่วนบนเป็นวัสดุเรียบเงา น่าจะเป็นโลหะ ส่วนล่างตกแต่งด้วยวัสดุสังเคราะห์สีขาวด้านดูดี แต่ต้องระมัดระวังเล็กน้อยเพราะสีขาวจะเปื้อนง่ายและถ้าเปื้อนจะเช็ดออกยากหน่อย
รีโมตคอนโทรลของ LG OLED TV ทุกรุ่นจะเป็น Magic Remote ที่รวมความสามารถของ Air Mouse มาด้วย หน้าตาจะเหมือนที่แถมมากับรุ่น Super UHD TV (ไม่ใช่รีโมตหน้าตาแบบที่แถมในรุ่น E7T และ G7T) มีเพิ่มปุ่มลัด Netflix และ Amazon เข้ามา เพื่อการเข้าถึงที่สะดวกรวดเร็วขึ้น
Connectivity – ช่องต่อ
OLED65B7T ติดตั้งจุดเชื่อมต่อสัญญาณภาพและเสียงมาครบครัน ไม่ต่างกับทีวีระดับท็อปยี่ห้ออื่น แบ่งได้เป็น 2 ฝั่ง คือ ด้านหลังและด้านข้างของจอภาพ (เยื้องไปทางฝั่งขวา เมื่อมองจากด้านหลัง)
ด้านหลังประกอบไปด้วย HDMI In 2 ช่อง, ช่องต่อสัญญาณภาพและเสียงอะนาล็อกแบบ Composite และ Component 1 ชุด (ใช้ร่วมกัน), USB 1 ช่อง, Optical Audio Out, Ethernet, Headphone Out พ่วงด้วย Service Input
ส่วนด้านข้าง ประกอบไปด้วย HDMI In 2 ช่อง และ USB 2 ช่อง (เป็น USB 3.0 1 ช่อง)
สรุปจำนวนช่องต่อของ LG OLED65B7T ได้ดังนี้
HDMI™ In | 2 (ด้านข้าง), 2 (ด้านหลัง) |
USB | 2 (ด้านข้าง), 1 (ด้านหลัง) |
Ethernet | 1 (ด้านหลัง) พร้อม Wi-Fi Built-In |
Composite Video In | 1 (ด้านหลัง ใช้ร่วมกับ Component) |
Component Video In | 1 (ด้านหลัง ใช้ร่วมกับ Composite) |
RF (Antenna) In | 1 (ด้านหลัง) พร้อม DVB-T2 Digital Tuner |
PC HD15 In | – |
Analog Audio In | 1 (Mini Jack ด้านหลัง ร่วมกับ Composite และ Component) |
Digital Audio Out | 1 (Optical ด้านหลัง) |
Audio/Headphone Out | 1 (Mini Jack ด้านหลัง) |
Bluetooth Audio | Yes |