27 Jan 2015
Article

จะเชื่อมต่อสัญญาณเสียงจากทีวีไปยัง ซาวด์บาร์ ได้อย่างไร?


  • lcdtvthailand

จะเชื่อมต่อสัญญาณเสียงจากทีวี

ไปยัง “ซาวด์บาร์” ได้อย่างไร?

ปัจจุบันอุปกรณ์โฮมเธียเตอร์รูปแบบ “ซาวด์บาร์” กำลังได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้น จากคุณสมบัติที่สามารถอัพเกรดคุณภาพเสียงของทีวีได้ด้วยงบประมาณที่แสนประหยัด ราคาเริ่มต้นไม่กี่พันบาทเท่านั้นเอง…

เหตุใดซาวด์บาร์จึงเสียงดีกว่า? ด้วยการออกแบบที่เน้นคุณภาพเสียง ซาวด์บาร์หลายๆ รุ่น จึงมาพร้อมกับภาคขยายและตัวขับเสียงคุณภาพ จัดวางในตำแหน่งที่ให้มุมกระจายเสียงมาถึงตัวผู้ฟังได้ดี ไม่ได้วางตำแหน่งลำโพงหลบๆ ซ่อนๆ ในซอกหลืบเหมือนลำโพงทีวี นอกจากนี้ซาวด์บาร์บางรุ่นมาพร้อมลำโพงแอ็คทีฟซับวูฟเฟอร์ด้วย จึงไม่แปลกที่การตอบสนองย่านความถี่เสียงของซาวด์บาร์จะครอบคลุมตั้งแต่ต่ำยันสูง ครบถ้วนกว่าลำโพงของทีวีเป็นไหนๆ 

ด้วยประสิทธิภาพของซาวด์บาร์ข้างต้น จะมัวรอช้าอยู่ใย เรามาอัพเกรดคุณภาพเสียงด้วยการเชื่อมต่อซาวด์บาร์เข้ากับทีวีกันเถอะ !!

1. การเชื่อมต่อสัญญาณเสียงระหว่างซาวด์บาร์และทีวี ทาง HDMI ARC

อุปกรณ์โฮมเธียเตอร์ที่มาพร้อมมาตรฐานตั้งแต่ HDMI 1.4 เป็นต้นมา จะมีฟังก์ชั่นที่เรียกว่า HDMI ARC หรือ Audio Return Channel ซึ่งสามารถรับสัญญาณเสียงจากทีวีมายังชุดโฮมเธียเตอร์ได้ และซาวด์บาร์หลายๆ รุ่นก็มีความสามารถนี้รวมอยู่ด้วย

อย่างไรก็ดี HDMI ARC จะจำกัดเฉพาะซาวด์บาร์รุ่นที่มาพร้อมช่องต่อ HDMI เท่านั้น ซึ่งมักจะเป็นรุ่นสูง นอกจากนี้ทั้งซาวด์บาร์และทีวีจะต้องรองรับฟังก์ชั่น HDMI ARC ด้วยกันทั้งคู่ ถึงจะใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้ครับ…

วิธีตรวจสอบ ซาวด์บาร์ และ ทีวี ว่ารองรับ HDMI ARC หรือไม่ มีดังนี้

– ที่ซาวด์บาร์ ตรวจสอบดูว่ามีช่อง HDMI In/Out หรือไม่ ถ้ามี ก็พอจะยืนยันได้ระดับหนึ่งว่าซาวด์บาร์รุ่นนั้นรองรับ HDMI ARC แต่หากจะให้ชัวร์ 100% ต้องตรวจสอบสเป็กกับทางผู้ผลิตเพื่อความแน่ใจครับ

– ที่ทีวี หากเป็นทีวีรุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะรองรับ HDMI ARC อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการตรวจสอบให้มั่นใจ 100% ให้สังเกตที่ HDMI In ของทีวีว่ามีช่องหนึ่งช่องใดที่มีคำว่า “ARC” กำกับอยู่หรือไม่ ถ้ามี ก็มั่นใจ 100% เลยว่า ทีวีรุ่นนั้นรองรับ HDMI ARC ครับ

เมื่อมั่นใจว่าสามารถใช้งาน HDMI ARC ได้ ก็ทำการเชื่อมต่อ HDMI Cable จากช่อง HDMI Out ของซาวด์บาร์ ไปยัง HDMI In (ARC) ของทีวี และตั้งค่าเสียงที่ทีวีนิดหน่อยก็ใช้งานได้แล้ว (ขั้นตอนการตั้งค่าเสียงที่ทีวี จะกล่าวถึงต่อไป)

2. การเชื่อมต่อสัญญาณเสียงระหว่างซาวด์บาร์และทีวี ผ่าน Digital Optical Cable

กรณีที่ ซาวด์บาร์ และ/หรือ ทีวี ไม่รองรับ HDMI ARC ทางเลือกลำดับถัดมา คือ เชื่อมต่อสัญญาณเสียงทาง Optical Input/Output ครับ

ช่องต่อดิจิทัลออดิโอที่เรียกว่า “Optical” นั้น โดยหลักการจะเปลี่ยน “ข้อมูลเสียงดิจิทัล” ให้เป็น “แสง” และส่งผ่านไปตามสายไฟเบอร์อ็อพติก ข้อดีคือ แสงจะไม่ได้รับผลกระทบจากสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า การสูญเสียคุณภาพสัญญาณจึงต่ำ ส่งผลให้ระยะทางเดินสัญญาณผ่านสาย Optic ไปได้ไกลมาก โดยทั่วไปช่องดิจิทัลออดิโอแบบ Optical นี้ จะมีใช้งานแพร่หลายกับซิสเต็มโฮมเธียเตอร์ และเป็นช่องต่อรับสัญญาณหลักของซาวด์บาร์เกือบทุกรุ่น

ขั้นตอนก็เพียงเชื่อมต่อสายสัญญาณจาก Optical Out ของทีวี มายัง Optical In ของซาวด์บาร์เท่านั้นเอง

หมายเหตุ:นอกเหนือจากช่องสัญญาณดิจิทัลออดิโอแบบ Optical ซาวด์บาร์และทีวีบางรุ่นยังมีช่องต่อดิจิทัลออดิโอแบบ “Coaxial” ด้วย หน้าที่เหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่ Coaxial ใช้หลักการส่งสัญญาณไฟฟ้าผ่านตัวนำทองแดง

3. เชื่อมต่อสัญญาณเสียงระหว่างซาวด์บาร์และทีวี ผ่าน Analog Cable

หาก ซาวด์บาร์ และ/หรือ ทีวี ไม่มีทั้ง HDMI ARC และ Optical คงไม่พ้นต้องเชื่อมต่อสัญญาณเสียงผ่านทางเลือกสุดท้าย คือ สายอะนาล็อก

ถึงแม้จะมีปัจจัยมากมายที่อาจลดทอนคุณภาพเสียงจากการส่งผ่านสัญญาณรูปแบบอะนาล็อก แต่ช่องสัญญาณรูปแบบนี้ ก็เป็นช่องต่อหลักที่มีในอุปกรณ์โฮมเธียเตอร์เกือบทุกชนิดซึ่งรวมถึงซาวด์บาร์ด้วย ช่องต่อรับสัญญาณเสียงแบบอะนาล็อกของซาวด์บาร์มักจะมีชื่อเรียกแทนว่า Line In หรือ AUX In ส่วนช่องต่อสัญญาณเสียงออกของทีวี จะใช้ชื่อเรียกว่า Line Out ซึ่งบางรุ่นอาจจะต้องใช้งานร่วมกันกับช่องต่อหูฟัง (Headphone Out)

4. เชื่อมต่อสัญญาณเสียงระหว่างซาวด์บาร์และทีวี แบบพิเศษ ผ่าน Bluetooth

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในปัจจุบัน การเชื่อมต่อสัญญาณเสียงจากทีวีมายังซาวด์บาร์สามารถดำเนินการ “แบบไม่ต้องเชื่อมต่อสาย” ก็ได้ครับ โดยอาศัยเทคโนโลยี “Bluetooth” ซึ่งข้อดี คือ ไม่ต้องลากสายให้รกรุงรัง แต่แน่นอนว่าทั้งซาวด์บาร์ และทีวี จะต้องรองรับเทคโนโลยีนี้ทั้งคู่ จึงจะสามารถใช้งานได้ครับ

มีข้อควรทราบ คือ การเชื่อมต่อสัญญาณเสียงผ่าน Bluetooth บางทีผู้ผลิตอาจจำกัดว่าต้องเป็นซาวด์บาร์และทีวียี่ห้อเดียวกันเท่านั้น จึงจะใช้งานได้ เหตุนี้เพื่อความชัวร์ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนว่า ซาวด์บาร์และทีวีที่ท่านใช้ สามารถเชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth เข้าด้วยกันได้หรือไม่ เพื่อป้องกันมิให้เกิดข้อผิดพลาด ซื้อมาแล้วใช้ด้วยกันไม่ได้

การตั้งค่าทีวี เมื่อต้องการเชื่อมต่อเสียงออกไปยังซาวด์บาร์

ปกติระบบเสียงของทีวีจะอาศัยลำโพงในตัวทีวีเป็นหลัก (TV Speaker) หากต้องการเชื่อมต่อสัญญาณเสียงไปยังชุดเครื่องเสียงภายนอก (ซึ่งในที่นี้ คือ ซาวด์บาร์) จะต้องตั้งค่าเพิ่มเติมเล็กน้อย ดังนี้ครับ

หากเป็นทีวีของ LG ต้องไปตั้งค่า Sound –> Sound Out ให้ตรงกับรูปแบบการเชื่อมต่อสัญญาณไปยังซาวด์บาร์ โดยหากเชื่อมต่อแบบ HDMI ARC ให้เลือกหัวข้อ Audio Out (Optical/HDMI ARC) และอย่าลืมปรับหัวข้อ SimpLink ให้เป็น On ด้วยครับ เพราะช่วยเพิ่มความสะดวก ระบบเสียงจะสลับระหว่าง TV Speaker และซาวด์บาร์โดยอัตโนมัติ เมื่อมีการเปิด/ปิด Soundbar

กรณีที่เชื่อมต่อแบบ Optical ให้เลือกหัวข้อ Audio Out (Optical/HDMI ARC) (เช่นเดียวกับ HDMI ARC) แต่อย่าลืมเปลี่ยนอินพุตรับสัญญาณที่ซาวด์บาร์ให้เป็น Optical ด้วย

กรณีที่เชื่อมต่อแบบ Analog Cable ให้เลือกหัวข้อ Audio Out (Line Out) และเปลี่ยนอินพุตรับสัญญาณที่ซาวด์บาร์ให้เป็น AUX ครับ

กรณีที่เชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth ให้เลือกหัวข้อ LG Sound Sync (Wireless) และทำการ จับคู่ (Pairing) เหมือนเช่นที่ทำกับอุปกรณ์ Bluetooth อื่นๆ ครับ

หากเป็นทีวีของ Samsung ให้ตั้งค่าที่หัวข้อ Sound –> Speaker List ให้ตรงกับรูปแบบการเชื่อมต่อสัญญาณไปยังซาวด์บาร์ โดยรูปแบบการเชื่อมต่อทั้ง HDMI ARC, Optical, และ Analog Cable ให้เลือกหัวข้อ Audio Out/Optical ยกเว้นรูปแบบการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth เท่านั้น ที่ให้เลือกหัวข้อ Bluetooth 

เพิ่มเติมสำหรับ HDMI ARC คือ ให้ปรับหัวข้อ System –> Anynet+ (HDMI CEC) ให้เป็น On ด้วยครับ เพราะช่วยเพิ่มความสะดวก ระบบเสียงของทีวีจะสลับระหว่าง TV Speaker และซาวด์บาร์โดยอัตโนมัติ เมื่อมีการเปิด/ปิด Soundbar

เพียงเท่านี้ท่านก็จะได้รับฟังรายละเอียดเสียงที่ชัดใส เสียงร้องนุ่มนวล และเบสอันหนักแน่นจากซาวด์บาร์ ที่เหนือกว่าลำโพงของทีวีแล้วครับ