การให้ player อัพสเกล แล้วให้ทีวีรับสัญญาณ 4K จาก player
ไม่ได้ยืดอายุการใช้งานให้ทีวีพังยากขึ้นเลยครับ
(อย่าไปคิดลึกขนาดนั้น) ในทีวี full HD เวลาเราเล่นไฟล์ 720p 480p 240p processorมันก็จะทำการอัพเป็น 1080p ให้เองโดยอัตโนมัติ
ในทีวี 4K ถ้าเราเล่นไฟล์ 1080i/p 720p 480p 240p processorมันก็จะทำการอัพเป็น 4K ให้เองโดยอัตโนมัติ
ซึ่งการอัพสเกลมันคือ หน้าที่ปกติทั่วไปของ processor ที่อยู่ในทีวีอยู่แล้วครับ ไม่ได้ทำให้เครื่องทำงานหนักแต่อย่างใด
*สมมุติถ้าการดูไฟล์ความละเอียดต่ำ ทำให้processorต้องทำงานหนักมากขึ้นในการอัพสเกล
งั้นชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ซื้อทีวี full HD มาดูฟรีทีวีผ่านกล่องดาวเทียม 240p 480p ทีวีก็คงพังกันทั้งโลกแล้วครับ - ถ้าให้ player ปล่อยสัญญาณ 1080p 720p หรือต่ำกว่า เข้าทีวี ทีวีก็จะทำการอัพสเกลเป็น 4k โดยอัตโนมัติ
^
^
อันนี้คือ ให้ทีวีอัพสเกล
- ถ้าอัพสเกลจาก player ให้เป็นสัญญาณ 4Kก่อน ทีวีก็แสดงภาพ จากสัญญาณ4Kนั้นๆ
^
^
อันนี้คือให้ player อัพสเกล
การอัพสเกล จึงไม่สามารถทำสองต่อได้ครับ เพราะเมื่อสัญญาณเป็น 4K ความละเอียดก็สิ้นสุดเท่านั้น
การอัพสเกลแบบไหนดีกว่ากัน?
- ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของตัว player และ ทีวี เองครับ
ถ้าทีวีรุ่นสูงๆระบบอัพสเกลย่อมดีกว่า player ทั่วๆไป
player ตัวแพงๆหลายหมื่น ระบบอัพสเกลก็ย่อมดีกว่าทีวีในระดับเริ่มต้น
อย่างเช่นผลการทดสอบของทางเวป พบว่า การอัพสเกลผ่านทางทีวี samsung F9000 (รุ่นทอปปี 2013)
ให้ภาพที่ดีกว่าการอัพสเกลผ่าน player oppo 103D
ก็ต้องลองใช้งานเปรียบเทียบดูด้วยตัวเองครับว่าทีวีกับ player ที่เราใช้ตัวไหนจะอัพสเกลได้ดีกว่ากัน