ผู้เขียน หัวข้อ: ขอคำแนะนำ วางแผนระยะยาว ทยอยซื้ออุปกรณ์เครื่องเสียงทีละชิ้น  (อ่าน 2925 ครั้ง)

ออฟไลน์ dechachais

  • New member
  • *
  • กระทู้: 8
    • ดูรายละเอียด
ปัจจุบัน ผมมี Smart TV ซัมซุงรุ่น JU6600 กับชุด Home Theater in a Box รุ่นเก่ากึ๊กร่วม 10ปี
ของ Sony รุ่น dav dz290k ซึ่งปัจจุบันยังใช้ดูหนังได้ดีอยู่ แต่เวลาฟังเพลงจาก youtube ที่ต่อมาจาก TV เสียงปรับแทบไม่ได้
เลยวางแผน ระยะยาว (ไม่อยากใช้เงินซื้อตู้มเดียว เพราะจะใช้เงินที่ได้จากปันผลจากการลงทุนทยอยซื้อ) แต่เพราะไม่มีความรู้เอาซะเลย
และหลังพยายามอ่านเว็บต่างๆ เพื่อหาความรู้ด้วยตนเอง ก็ยังมีคำถามคาใจ เลยขอคำแนะนำตามนี้ครับ

1) จริงหรือไม่ครับ ถ้าฟังเพลงใน youtube ที่ต่อมาจาก TV ลำโพง 2.0 ราคาช่วง 5,000-15,000 บาท ก็ให้เสียงไม่ต่างกัน เพราะเสียงมาจากแหล่งกำเนิดที่ไม่ดี จึงไม่จำเป็นต้องซื้อลำโพงแพงๆ
2) ผมต้องการเรื่องฟังเพลง(จาก TV) ก่อน ส่วนดูหนังใช้ ชุดโฮมเก่าแก้ขัดก่อนได้
3) ผมดูลำโพง YAMAHA NS-F51 กับ ONKYO SKF-4800 ไว้ดีไหมครับ  + amp ราคาถูกพันกว่าบาท แล้วค่อยปีหน้าเปลี่ยนภาคขยายดีๆทีหลัง หรือลำโพงควรอยู่ในระดับดีกว่านี้ (ผมดูลำโพงจากรูปทรงเข้ากับขนาดมุมทีวี และชั้น ส่วนเรื่องเสียงไม่มีความรู้)
4) ผมว่างแผนว่าจะซื้อ ลำโพง ,avr ,ซัพ และเซอร์ราวไวเลส (ถ้าลำโพงไม่ดี avr แพงๆ ก็ไม่มีประโยชน์ ถูกหรือเปล่าครับ)   
5) ถ้าตาม 1 - 4 ผมเข้าใจผิด ช่วยแนะนำ แนวทางลำดับการทยอยซื้ออุปกรณ์  ทีละชิ้นทีครับ (5.1) 

ปล.ผมเป็นคนไม่ชอบฟังเพลงเสียงดังๆ ครับ ... เพลงที่ฟังจาก youtube เสียส่วนใหญ่ ... ชอบปรับเสียงให้ออกเบส ออกเสียงฉิ่งฉาบครบครับ
ขอบคุณสำหรับคำตอบ ล่วงหน้าครับ 

ออฟไลน์ osxp

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 758
    • ดูรายละเอียด
1. 2. ถึงต้นทางจะมาจาก TV มันก็ยังต่างอยู่ครับ
แต่มันยังไปได้ไม่สุดเท่าที่เครื่องเสียงจะทำได้ ถ้าได้ต้นทางดีๆ ก็ไปได้อีก

3. 4. เล่น AVR เลยครับ แล้วค่อยขยับขยายเอาทีหลัง
ชุดของผมตามลายเซ็นต์ ผมใช้เวลาร่วมๆ 5 ปี ขยับมาเรื่อย

เริ่มจากตอนต้นปี ได้ลำโพง diamond 9.1 มือสองมาคู่นึง ใช้ mini compo ขับคู่หน้า
แล้วเอาแอมป์ DIY ขับ sub, center, surround ใช้ลำโพงที่มากับ mini compo กับลำโพงตัวเล็กๆ ที่มีในบ้าน ต่อให้ครบ 5.1

รูปนี้ยังเป็นแค่มุมดูหนังฟังเพลงเล็กๆ จะเห็น UPS 2 ตัว เพราะแถวบ้านไปแย่มาก ไฟตก ไฟดับประจำ เลยจำเป็นต้องใช้ UPS


ก็คิดว่าจะมาเล่นจริงจังซะที ที่วางแผนไว้ก็ AVR > Sub > Center > Surround ค่อยๆ ทยอยซื้อทีละชิ้น

ผ่านมาอีกครึ่งปีเจอ AVR Marantz กำลังเซลล์พอดี และทยอยตามมาด้วย Sub PSW110  
จากนั้นก็พยายามตามหาลำโพง Whafedale Diamond มือสองมาให้เข้าชุดกัน
Center เล็ง Diamond 9.CS มือสองไว้ แต่ยังหาไม่ได้ซะที เลยจัดรุ่น Xarus ของใหม่มาใช้ก่อน ตามด้วย Surround (Amber 20.1 มือสอง)

กว่าจะหา 9.CS ได้ ก็เกือบปี เลยได้เปลี่ยน Center ปิดท้ายโครงการเฟส 1 ได้ใน 1 ปีพอดี

ปีที่ 3 Sub PSW110 พัง เสียงก็ยังไม่ถูกใจด้วย เลยเปลี่ยนมาเป็น SVS กับหา DAC ที่รองรับ DSD มาต่อเพิ่ม ปิดโครงการเฟส 2

ตอนนี้เริ่มขยายพื้นที่แล้ว


ปีที่ 4 ซ่อมบ้าน ทาสีใหม่ กั้นห้องนิดหน่อย ทำเป็นมุมบันเทิงเต็มที่ จบเฟส 3

ปีที่ 5 เล่นตั้งพื้น Diamond 230 (ได้มาตอนกำลังลดราคา) แล้วย้าย 9.1 ไปทำ surround
นานเลยกว่าจะได้เล่น Diamond ครบชุดอย่างที่หวังไว้ ปิดโครงการเฟส 4 ได้ซะที

ถึงจุดนี้แล้ว ก็คงจะนิ่งๆ ไปได้อีกนานเลยครับ

สภาพปัจจุบัน ใช้ PC 2ตัว ดูหนังฟังเพลงเครื่องนึง เล่นเกมส์ใช้เครื่องขวาสุด
ตอนนี้ก็เปลี่ยนมาใช้ UPS แบบ True Online ตั้งอยู่หลังผนัง เดินสายทะลุมาออกที่ปลั๊กข้างลำโพงเลย





ก็แนะนำว่า Center กับ Sub ควรลงทุนใช้ของดีๆ ไปเลย ไม่งั้นก็คาใจ ได้เปลี่ยนอีกรอบ
ลำโพงก็ควรใช้ยี่ห้อและ series เดียวกัน ถึงจะต่างยุคเก่าใหม่ แต่ยังก็ไปกันได้ดีกว่าต่าง Series

และช่วงกลางปี กับปลายปี มักจะมีเทศกาลลดราคา รอได้ก็ควรรอครับ


ป.ล. แก้ไขโพส เพิ่มเติมรายละเอียดให้อีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 27, 2016, 02:38:14 am โดย osxp »
5.1 System >> HTPC : Intel i3 8350k + Asrock H370M-ITX/AC + AMD RX560 + Fractal Design Node 202 + Corsair SF450 AVR : Marantz SR5005  Speakers : Wharfedale Diamond Series - 220 / 220C / 220 Subwoofer : SVS SB-2000
2.0 System >> Network Audio Player : Asus Tinkerboard + Volumio OS DAC : iFi Nano iDSD + DIY LT1085 5V Linear Power supply Stereo Receiver : Onkyo TX-8020 Speakers : Wharfedale Diamond 230
Display : Philips 55PFT5509S/98 LED 55" Cables : Canare, Kaiboer, Lappkabel, Helukabel UPS : CleanLine T-1000 True Online 1000VA/800W Cable Modded

ออฟไลน์ SanDer

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 358
    • ดูรายละเอียด
สวัสดีครับ

ข้อ 1) มีความเห็นในแนวเดียวกับท่าน เพราะการทุ่มกับอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป อาจไม่ได้ยินเสียงอย่างที่หวังไว้

ข้อ 2) ถ้า sony มีช่องต่อ ขาว-แดง สามารถต่อจากทีวีได้ไหมละครับ (ผมไม่ได้เช็คสเปคของทีวีและเครื่องเล่นเลย) เสียงน่าจะโอเคพอควร

ข้อ 3) เรื่องระดับของลำโพง นั้นขึ้นอยู่กับงบและความพอใจของท่านละครับ ลำโพงที่ท่านเสนอมา ผมว่าเสียงมันคงดี ว่าแต่ว่า ท่านชอบแนวเสียงของมันหรือเปล่า
ลองฟังให้มาก ลองให้แน่ใจ แล้วค่อยซื้อ ฟังไปถามคนขายไป ผมเองก็งบน้อย แต่ถ้าพี่คนขาย ชวนฟังชุดแพงๆ ผมไม่เคยปฏิเสธครับ แถมติดแผ่นที่ชอบไปด้วย
เรื่องฟังก์ชั่นการใช้งาน ท่านควรศึกษาให้ดี ให้เข้ากับการใช้งานของท่าน เดี๋ยวนี้อุปกรณ์หลายตัวมีลูกเล่นเยอะมากเลย

ข้อ 4) ก็เหมือนกับข้อ 1 ไม่ใช่ไม่มีประโยชน์แต่ความสามารถ ถูกจำกัดอยู่ เต็มที่เท่าที่ลำโพงทำได้แล้ว
แนะว่าควรให้น้ำหนักกับ avr พอๆ กับลำโพง อย่าประหยัดส่วนนี้จนเกินไปครับ
ท้ายที่สุดต้องลองฟังครับ ผมเคยฟังลำโพงหมื่นต้น กับชุดหลักหลายแสน ถึงกับต้องเดินไปดู ไปฟังใกล้ๆ เลยทีเดียว ว่าใช่ A3 แน่หรือเปล่า เนียนผิดหูผิดตา

ไวเลสเห็นบางรีวิวว่า อาจมีเสียง ปิงป๊อง ได้ในบางครั้ง อันเนื่องมาจากสัญญาณ ซึ่งไม่ใช่ไม่ดี แต่เป็นลักษณะของไวเลสเค้า... เห็นเค้าว่างั้นครับ ผมไม่เคยใช้

ข้อ 5) ลำดับการซื้อ ตามที่ท่าน osxp แนะนำเลยครับ
แต่ถ้าอดใจไว้ได้ ก็สะสมไว้สอยครั้งใหญ่เลยครับ อาจได้ส่วนลดและของแถมเยอะหน่อย

ท่านจะซื้อลำโพง + ซื้อแอมป์ แล้วภายหลังท่านจะซื้อ avr ท่านต้องเลือก avr รุ่นที่มี pre-out นะครับจะได้ใช้แอมป์ร่วมได้

ฟังจาก youtube ไม่ลองมองพวก PC Notebook มือถือ อะไรพวกนี้ดู ใช้โปรแกรมปรับ EQ ได้ แก้ปัญหาเรื่องต้นทาง (ทีวี) เสียงไม่แจ่มด้วย
แต่ทั้งหมดทั้งมวล ก็ขึ้นอยู่กับเพลงนั้นๆ

คหสต. ผมใช้ PC ซึ่งระหว่าง Firefox กับ Chrome ผมรู้สึกว่าเสียงจาก Firefox ดีกว่าแฮะ... 

ออฟไลน์ maxxx

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 348
    • ดูรายละเอียด
ท่านพี่ข้างบนตอบไว้หมดทุกข้อแล้ว ผมมาเติมๆให้แล้วกัน

ยังไงก็ตาม เสียงจาก ทีวี ต่อ ออกมา แอมป์ลำโพงแยก เสียงยังไงก็ดีกว่า จากทีวีครับ ห่างกันเป็นเท่าตัว แม้ต้นทางจะไม่ดีเหมือนกันก็ตาม

ผมแนะนำเรียงลำดับตามนี้นะ

1.ชุดแรกหนักหน่อย  avr  กับ ลำโพง คู่หน้า (ควรเลือกให้เหมาะสม ถ้าเป็นไปได้ควรซื้อ avr รุ่นกลางๆขึ้นไปจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนหลายรอบ แล้วถ้าเลือก avr รุ่นกลาง ควรเล่นแค่ลำโพง bookshelf ก็พอ อย่าไปมองตั้งพื้น เดี๋ยวจะยาว)

2.surround ถ้าเป็นไปได้ ไม่อยากแนะนำให้ใช้ surround wireless เลย เพราะจะให้เสียงดี ท่านก็ต้องซื้อคู่หน้า และ เซ็นเตอร์รุ่นยี่ห้อเดียวกัน เหมือนมันบังคับให้เลือกเกินไป ที่แนะนำให้ใช้ รุ่นเดียว ยี่ห้อเดียว คือ เสียงจะได้ เหมือนกัน กลมกลืนกัน ซึ่งมีผลมากเวลาดูหนัง  ที่แนะนำให้ซื้อ surround ก่อนเพราะว่า ใน avr สามารถ ตั้งให้เล่น 4.0 ได้  ท่านก็จะได้เล่นระบบเสียงรอบทิศทางได้เร็วขึ้นครับ

3.center ตัวนี้สำคัญ พยายามเอารุ่นเดียวกับคู่หน้าครับ และถ้ามี รุ่นแยกย่อย ควรเอารุ่นใหญ่สุดเท่าที่ซื้อไหว เพราะมันคือพระเอกในการดูหนังเลย

4sub ผมไว้สุดท้าย เพราะว่าท่านบอกว่าเปิดไม่ดังมาก และอยากให้ท่านได้เล่นระบบเสียงรอบทิศทางก่อน


แต่กลับกันคิดได้อีกแบบ ท่านมี โฮมชุดเก่าและไม่ซีเรียสที่จะเอามาผสมกัน ก็ใช้งานได้นะครับ

ก็จะกลายเป็น

1 avr + sub  แล้วเอาลำโพงเดิมมาใช้ คู่หน้า เซ็นเตอร์ เซอร์ราวน์ แก้ขัดไป

2.แล้วก็ค่อยมาไล่ซื้อ เซ็นเตอร์ กับ เซอร์ราวน์ ทีหลัง

แต่ผมแนะนำ ด้านบนนะให้เสียงที่ดีกว่าตั้งแต่ต้นเลย


ออฟไลน์ kollove

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 204
    • ดูรายละเอียด
ความเห็นส่วนตัว อย่าไปทยอยเก็บตังค์ซื้อทีละชิ้นเลยครับ ทรมานใจเปล่าๆ ชอบฟังเพลงยูทูป ผ่านทีวี เก็บเงินครบ ซื้อชุด htb รุ่นใหม่ หรือ เลือก sound bar ดีๆสักตัวจบกว่าครับเล่นแยกชิ้น มันจะเปลืองตังค์ไปเรื่อยๆ จบยากครับ เริ่มต้นผมเอง เหมือน จขกท.เลย มีทีวีใหม่ ชุดhtb เก่าก้อเก่ามาก พอขยับไปเล่นแยกชิ้นตั้งแต่ชุดแรก 5 หมื่นกว่าๆ ผ่านไป3ปี ตอนนี้ปาไป 6แสนกว่า แล้วยังไม่ยอมจบง่ายๆเลย วางลำโพง ติดผนังซะดิบดี พอเทคโนโลยีเสียงเปลี่ยนเป็น atmos เริ่มเดือดร้อนอีกแล้ว555

ออฟไลน์ dechachais

  • New member
  • *
  • กระทู้: 8
    • ดูรายละเอียด
ขอบพระคุณทุกท่านมากครับ ทุกท่านตอบได้ครบ และให้แง่คิดรอบด้านจริง

ออฟไลน์ bkav

  • Full LED TV member
  • ****
  • กระทู้: 1,851
    • ดูรายละเอียด
...เพลงจาก Utube...เบสออกเสียงฉิ่งฉาบครบ...อย่าไปหวังมาก เพราะเพลงไม่ได้มาตรฐาน บางเพลงเสียงอับ บางเพลงเสียงใส เล่น AVR ต้องเล่นไฟล์ Flace ขึ้นไปครับ มีโหลด Torrent มากมาย ก๊อปใส่แฟลชได้ร์เสียบ USB ด้านหน้าเครื่อง เสียงมาเต็มๆ

...ถ้าอยากให้เสียงใสทอดยาวไกล เรียงร้องเด่นชัด ต้องเล่นลำโพง 4 ขั้วต่อด้านหลัง เช่น Polk A3 แต่การต่อไบวายด์ได้ผลเพียงเล็กน้อย(กลุ่ม 5.1 ch.ทั้งหลาย) หรือ 7.1 ระดับล่างที่ไม่มีเมนู setup mic > Bi-amp

...setup mic > Bi-amp 7.1 , 7.2 จะมีในยี่ห้อใด รุ่นใด ให้ถามพนักงาน ให้เค้าเข้าเมนูให้ดู(พนักงานบางคนขายเป็น แต่ความรู้เรื่องเครื่องเสียงสู้คนไปซื้อยังไม่ได้)

...ต่อระบบ Bi-amp เสียงจะแตกต่างกับระบบธรรมดาอย่างชัดเจนครับ. ดูหนังระบบ 5.1 จะได้ยินเสียงแก้วแตก เสียงที่ไม่เคยได้ยินกลับได้ยิน แต่ถ้าจะดูหนังระบบ 7.1 เช่น TureHD ต้องเซ็ทระบบใหม่เป็น 7.1 > setup mic ใหม่ให้เป็นระบบธรรมดา ใส่จั๊มเปอร์ขั้วลำโพงกลับคืน (ดังนั้นจึงควรใช้หัวเสียบลำโพงแบบ Banana จะสะดวกมาก.

...ค่อยๆ สะสมไปครับ

...ประสบการณ์ของผม

ปีแรก Onkyo 5.1 in the box (เดือนละ 1000 / 10 เดือน)

ปีที่ 2 Polk rti A3 นำมาเปลี่ยนคู่หน้า เสียงใส เสียงใหญ่เกินตัว ดูหนังมันส์ ฟังเพลงหวานเจี๊ยบ

...ปีที่ 3 ได้ 717 รุสต๊อก (ผ่อนเดือนละ 2000 บาท)

...ปีที่ 4 Polk A4 - sub Polk PSW 125(ผ่อน 10 เดือน)

...ปีที่ 5 Polk rti A3 แทน surround(ผ่อน 10 เดือน)

...ยก Onkyo 5.1 in the box ให้ลูกไปดูหนัง ฟังเพลง

...ปีที่ 6 เนื่องจาก sub Polk PSW 125 ยิงล่าง เสียงต่ำ ลึก นุ่ม อยากได้เบสเสียงกลางมาเสริม ซื้อ sub Pioneer หน้ากากฟันเฟือง ดอก 12 นิ้ว/200w หกพันบาท(ซื้อสด) ยิงหน้าท่อคู่ มาเล่นซับคู่ ใช้ setup mic > Bi-amp เสียงเบสหนักแน่นเป็นลูกๆ ต่ำ ลึก ดูหนัง ดูคอนเสริต(DTS ทั้งหลาย -อัสนี วสันต์มีอยู่ชุดหนึ่ง)เหมือนจริงมากเหมือนนั่งอยู่หน้าเวที เสียงร้องเด่น เบสตึบๆ.

...เล่าจากประสบการณ์จริง เล่นเครื่องเสียงต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป สะสมไปเรื่อยๆ ถึงแสนบาทช่างมัน ขายเมื่อไหร่ได้เงินคืน ราคาไม่ตกมากเหมือนโน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์ครับ.


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 31, 2016, 11:30:11 am โดย bkav »

ออฟไลน์ maxxx

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 348
    • ดูรายละเอียด
ผมชอบการเดินทางของท่าน bkav จัง เรื่อยๆมีเป้าหมาย ไม่บานปลาย ถ้าได้ใส่ a6 เข้าไปนี่เต็มชุดเลย