ผู้เขียน หัวข้อ: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Procella , SVS, Anthem, Parasound,Audyn  (อ่าน 329259 ครั้ง)

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #504 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2014, 05:33:42 pm »


วันก่อนมีโอกาศไปส่ง Klipsch RP-260F ไปให้ลูกค้าที่ประชาชื่นครับ ก่อนหน้านี้ลูกค้าจัด Klipsch RC-64 II ไป แล้วเกิดติดใจเพราะดูหนังสนุกและมันขึ้นมากกกก  เลยจะอัพคู่หน้าจากเดิมที่ใช้ RF-42 II ให้ใหญ่ขึ้น  เราเลยแนะนำให้ใช้ RP260F หรือ RP280F แต่เนื่องจากห้องลูกค้าเป็นห้องนอนที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก เลยมาจบและลงตัวที่ RP260F

ซิสเต็มของลูกค้ามีดังนี้
---------------------------
  1. Marantz Sr7011
  2. Klipsch RP260F
  3. Klipsch RC-64 ii
  4. Klipsch RS42 II
  5. Klipsch RP140SA

---------------------------

Klipsch RP260F เป็นลำโพงดูที่มาแทนรุ่นเก่าอย่าง RF-62 II แนวเสียงปรับจูนให้เสียงกลางแหลมลดความจัดลงนิดหน่อย แต่เพิ่มความลงตัวที่ย่านกลางต่ำให้มากขึ้น ฟังสบายมากขึ้นไม่ล้าหู และสามารถฟังได้นาน ดูหนังสนุกเหมือนเดิม ฟังเพลงได้ดีขึ้นด้วยครับ เสียงไม่ขึ้นขอบแข๊งเหมือนรุ่นเดิม
ใครที่หาลำโพงดูหนังสนุกๆ มันๆ ราคาไม่แพง เราแนะนำว่าให้พิจารณาตัวนี้อยู่ในช๊อยท์ด้วย รับรองจะไม่ผิดหวังครับ

ราคาและสเปก Klipsch RP260F: http://www.whatthatsound.com/product/13/klipsch-rp-260f








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 11, 2017, 11:31:36 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #505 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2014, 11:12:21 pm »


จัดส่ง Klipsch R112SW ซับเสียงดี ราคาย่อมเยาว์เสียงดี ยอดฮิตตลอดกาล  (ลูกค้ามารับเอง)

ไม่ว่าจะมือใหม่หรือนักเล่นมือเก่าระดับเริ่มต้นหรือ Mid-end ตัวนี้ถือเป็นซับคู่ใจที่คุ้มค่าที่สุดตัวนึง ราคาดี ขายต่อได้ทุกเมื่อ เสียงดี เบสหนัก  จัดเป็นซับสายบู๊ที่อัดได้ไม่มีแป๊กอีกตัวครับ

ราคา Klipsch R112SW: http://www.whatthatsound.com/product/4/klipsch-r-112sw

credit รูป: http://www.harmonique-blog.be/







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 12, 2017, 01:42:25 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #506 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2014, 10:49:14 am »




วันก่อนเราเอา Klipsch THX Ultra2 ไปส่งลูกค้า ประกอบไปด้วย
Klipsch KL525 จำนวน 5 ตู้ และซับวูฟเฟอร์ KW-120-THX สองตู้ และแอมป์ขับซับ KA-1000-THX อีกหนึ่งตัว

โดยที่น่าสนใจก็คือ KW-120-THX และแอมป์ KA-1000-THX นี่แหละครับที่เราได้รับความอนุเคราะห์จากลูกค้าใจดีของเรา ให้แกะมาเช็คและเทสทำรีวิวกันก่อน
ซึ่งบอกได้เลยว่าเบสของ KW-120 ร่วมกับแอมป์ KA-1000 นั้นครั้งแรกที่ได้ฟังก็สติกระเจิง เรียกว่าเป็นเบสในอุดมคติของคนที่รักเบสหนักๆ เบสสำหรับดูหนัง และสายโหดโดยแท้จริง  และเร็วๆนี้จะมีรีวิวมาให้ชมกันอย่างละเอียดครับ

งานนี้ซับตัวอื่นในห้องผมนั้นสั่นไปหมด แทบจะยกออก ขายทิ้งและเอาซับ Klipsch THX มาลงแทบไมทันจริงๆ

ราคา Klipsch THX Ultra2: http://www.whatthatsound.com/category/9/klipsch/klipsch-thx-ultra-2



















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 18, 2017, 12:44:45 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #507 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2014, 03:29:25 pm »
Full Review Klipsch THX Subwoofer




"เบสในอุดมคติคุณเป็นยังไง  แต่ Klipsch THX ตัวนี้ให้เสียงเบสที่เข้าใกล้คำว่าอุดมคติสำหรับตัวผมได้ได้มากเท่าที่ช่วงราคานี้จะให้ได้แล้วครับ  เบสที่หนักแต่ไม่คมจนรู้สึกกดดัน  แต่แฝงความนุ่มลึก เร็ว กระแทก impact punch กำลังดี ไม่แผ่ และไม่ห้วน  ยิ่งฟังก็ยิ่งอยากเร่งดังๆ   เค้าว่ากันว่าซับดีๆตัวเดียวสามารถเปลี่ยนบรรยากาศของซิสเต็มได้   ช่วยซัพพอร์ทให้กลางแหลมดูชัดและมีน้ำหนัก รวมถึงสร้างบรรยากาศในการดูหนังได้อย่างมหาศาล
และนี่เป็นเบสที่ทำให้ผมต้องไปขุดหาหนังเก่าๆมานั่งดูซ้ำ เพราะบรรยากาศมันไม่เหมือนเดิม ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นกับหนังเรื่องเดิม แต่เสียงไม่เหมือนเดิม"  


-------------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆได้ที่นี่: https://goo.gl/5kBcVk
-------------------------------------------------------------


วันนี้เราได้รับความอนุเคราะห์จากลูกค้าใจดีท่านนึงให้ยืมซับและแอมป์ในระบบ THX มาให้เรายืมเทส ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นของใหม่แกะกล่องซิงๆเลยทีเดียว
ก่อนเริ่มรีวิวเราต้องขอเขียนกันไว้ก่อนแบบนี้ทุกครั้ง เพราะจะได้ไม่มีคนเข้าใจผิดไปเองว่า เฮ้ย ได้ของมาฟรี เค้าจ้างเขียน หรือได้ตังมาเขียนเชียร์ เปล่าเลย   ความเป็นจริงคือ หากได้ลองอะไรแล้วมันเวิร์ก มันดี ก็จะมาเขียนให้อ่านกันว่ามันดีอย่างไร่  ข้อดี ข้อเสีย และเหมาะกับใคร ไม่เหมาะกับใคร  
ส่วนของที่เทสแล้วมันไม่ดี ห่วย ก็คงไม่เอามาเขียนประจานให้มันบาดหมางกันและเสี่ยงโดนสาวกบางคนที่เค้าชอบด่าเสียเปล่าๆปรี้ๆ




เริ่มกันที่ Subwoofer ในโลกนี้หากจะแบ่งประเภทกว้างๆก็สามารถแบ่งได้สองแบบนั้นคือ

1. Active Subwoofer ก็คือซับที่มีแอมป์ในตัว ซึ่งส่วนมากซับ 95% ในท้องตลาดในระบบ Home Theater ที่เราเล่นกันส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบนี้ละครับ   คือในตู้ซับจะมีแอมป์ใส่มาเลย เราเอาไปเสียบปลั๊ก แล้วก็หาสานสัญญาณามาเส้นนึงเสียบรับสัญญาณความถี่ต่ำจาก AVR / Pre ก็เล่นได้เลย  ใช้ง่าย สะดวก ไม่เกะกะ คนนิยมเล่นกัน มีตั้งแต่แพงยันถูก  มีทั้งตู้เปิดและตู้ปิด  ข้อเสียคือถ้ามันเสียก็จะต้องซ่อมยกลูก หรือทิ้งมันไปทั้งลูก ไม่สามารถแยกใช้งานแอมป์หรือดอกมันได้ (หากไม่รื้อมาดัดแปลง ซึ่ง user ธรรมดานั้นไม่แนะนำให้ทำ)    ซับแบบนี้ก็เช่น SVS, JL, Velodyn  หรือหลับตาจิ้มซับในบ้านเราส่วนใหญ่ก็เป็นแบบ Active หมดละครับ  เป็นที่นิยมใช้งานกันตามบ้านเรือน ห้องฟังขนาดเล็กถึงกลาง

2. Passive Subwoofer ก็คือซับวูฟเฟอร์ที่มีแต่ตู้และลำโพง  แต่ไม่มีแอมป์   ไม่ต้องเสียบปลั๊ก แต่ต้องต่อสายลำโพง เราต้องหาแอมป์มาขับเองต่างหาก  ซับแบบนี้หากนึกภาพไม่ออกว่ามันคืออะไร ให้นึกภาพถึงลำโพงคู่หน้า หรือลำโพงเซ็นเตอร์นั้นแหละ  ที่มันมาแต่ตู้ แต่ต้องหาแอมป์ (AVR / Power) มาขับมันอีกที  
ซับแบบนี้ข้อดีคือ มันทน ยืดหยุ่นสูง สามารถเอาแอมป์มาแมทชิ่งได้ตามเจ้าของต้องการ และที่สำคัญมันมักจะให้เสียงที่หนักแน่น ดุดัน สะใจ และไม่มีข้อจำกัดเรื่องกำลังขับด้วยครับ (เพราะมันแยกแอมป์ออกมา)  และที่สำคัญ อายุการใช้งานยืนยาว หากใช้งานนานๆ ก็มักจะไม่มีปัญหาเสียหรือพัง เพราะลำโพงที่ไม่มีวงจรแอมป์ภายในนั้นไม่รู้มันจะไปมีส่วนไหนเสียได้    และ Poweramp แยกนั้นก็ทนหายห่วงครับ ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร่หากคุณใช้งานในบ้านแบบปถุชนคนทั่วๆไป  เรียกว่าอยู่ได้ยันลูกหลานบวชนั้นแหละ
ข้อเสียของมันก็คือ ยุ่งยาก เกะกะ แทนที่จะใช้ซับลูกเดียว เสียบปลั๊กแล้วต่อสายสัญญาณใช้งานได้เลย  นี่ต้องเอาแอมป์มาวางแยกขับมันด้วย

ซับแบบนี้หาได้ยากในผู้เล่น Home Theater บ้านทั่วๆไป ถ้าจะมีคนเล่น subwoofer passive ก็คงจะเป็นนักเล่นรุ่นเดอะ เก๋าเกมกันจริงๆนั่นแหละที่เสาะแสวงหามาเล่นให้มันลำบากเล่นๆ อิอิ
ส่วนใหญ่คนเล่น subwoofer passive นั้นจะนิยมกันในชุดดูหนังใหญ่ๆ ห้องใหญ่ๆ ที่ต้องการกำลังสูงๆ  หรือเครื่องเสียง PA ลำโพงในผับ คอนเสริต์  หรือในโรงภาพยนตร์ แต่ในบ้านนั้นไม่ค่อยนิยมเล่นกันด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นครับ

ซึ่ง Klipsch KW120 และแอมป์ KA1000 นั้นก็เป็นอีกหนึ่่งซับวูฟเฟอร์ในซีรี่ย์ของ Klipsch THX ที่ทำออกมาในรูปแบบ Passive Sub




ก็ต้องยอมรับว่าผมเคยดูถูกดูถุยซับในตระกูล THX ของ Klipsch ไว้ ด้วยเหตุผลว่า มันแพงราคาต่อตู้ก็สูงอยู่ และต้องซื้อแอมป์มาขับด้วยก็ยิ่งแพงใหญ่ สู้เราเอาเงินไปซื้อ active sub ดีๆมาใช้น่าจะดีกว่า   สาบานได้ว่าผมคิดแบบนั้นจริงๆทั้งๆที่ไม่เคยลองฟังซับ THX
วันนี้เป็นบุญหูที่ได้ลองฟัง (ฟรีแบบไม่ต้องสั่งมาลองเองให้มันเปลืองเงิน)
ตอนที่แกะฟังนั้นก็ไม่ได้บงได้เบิรนอะไรเลยครับ เพราะเวลาน้อย

แต่เสียงที่ได้นั้น น้ำตาจะไหล นี่เป็นเสียงเบสที่ผมตามหานี่หว่า!!! เบสแบบอุดมคติของคนเล่น Home Theater ที่เน้นแนวโหดๆ หนักๆ เบสแบบสะใจ มาเร็ว ต้นมี ปลายก็มี ลูกใหญ่กำลังดี ไม่ใหญ่ไป ไม่เล็กไป   ต้นและปลายก็กำลังดี  ไม่ห้วนจนขาดหางเสียง และก็ไม่แผ่บาน แถมรายละเอียดมาตรึม เป็นลูก กระชับ   ฉากในหนัง underworld 3 ที่หมาป่าบุกช่วงท้ายเรื่อง   เบสที่ได้ก็รับรู้ถึง teen หมาป่ามาเป็นตับ ไม่ได้มาติดกันเป็นพรืด   แต่ได้รายละเอียดเท้ากระแทกพื้นมาเป็นเม็ดๆครบจนรู้สึกได้ว่ามีสัตว์ป่าวิ่งกันมาเป็นตับจริงๆ  
หรือฉากเสียงของใบพัดเฮลิคอปเตอร์ที่แต่ก่อนเบสจะมาเป็นปื้น ปึ้บบบบบๆๆๆๆ ติดกัน หนักและหนา  แต่ตอนนี้เบสที่ได้นั้นมาแบบ ปึ้บๆๆๆๆๆๆๆๆ ได้รายละเอียดแต่ละรอบไซเคิลให้เรารับรู้ถึงแรงของใบพัดที่ฟาดใส่ตามกำลังของเครื่อง และก็ได้อิมแพคของเบสมาเพิ่มด้วย

ผมนั่งขุดเอานั่งเก่าที่ดูแล้วมานั่งฟัง นั่งดูอยู่ตั้งแต่ 2 ทุ่มยันเที่ยงคืนกว่า เชื่อมั๊ยว่านั่งดูได้ไม่เบื่อเลย  ทั้งๆที่หนังก็ดูแล้วทั้งนั้น แต่เสียงที่ได้ เบสที่รู้สึกมันเปลี่ยนไป  มันเหมือนได้ดูหนังเรื่องใหม่จริงๆครับ   แค่เบสเปลี่ยน ก็เหมือนเปลี่ยนทั้งซิสเต็มแล้ว
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ซับดีๆก็เหมือนได้เปลี่ยนซิสเต็มให้ และยกระดับซิสเต็มขึ้นมาได้ คำกล่าวนี้ไม่เกินจริงครับ  เวลาดูหนังเก่าๆแล้วเบสเปลี่ยน เราจะอยากไปฟังฉากเดิมๆที่เราคุ้นชิน พอฟังอีกหน รู้สึกว่ารายละเอียดมาเพิ่ม อิมแพคมาเพิ่ม เราก็ยิ่งอยากดูฉากอื่นๆ เรื่องอื่นๆไปเรื่อยๆโดยไม่เบื่อ




ซิสเต็มที่ใช้ทดสอบ
-------------------------------------------------------------
1. Pre: Anthem AVM60
2. Power Emotiva XPA3,5
3. Klipsch THX Ultra2 LCR: KL650
4. Klipsch THX Ultra2 Surround: KS525
5. Subwoofer: Klipsch KW-120 + KA-1000

-------------------------------------------------------------

Klipsch KW-120 นั้นเป็นซับแบบ passive แบบตู้เปล่า ไม่มีแอมป์ขนาดดอก 12 นิ้วแบบ long throw ใช้วัสดุ Cerametallic  ตัวตู้ใหญ่พอสมควร ถ้าให้เทียบก็เล็กกว่า Klipsch R115SW และ SVS SB16 Ultra นิดหน่อยเท่านั้นเอง   น้ำหนักตัวตู้อยู่ที่ 36 kg
ออกแบบมาเป็นแบบตู้เปิด มีท่อลมด้านหน้าตำแหน่งด้านบน ต่างจาก Klipsch R115SW ที่ท่อลมอยู่ล่างด้านหน้า
look ของตัวตู้นั้นดูสภาพตอนแกะจากกล่องก็ไม่ต่างจากซับ pa ธรรมดาๆ ดูดิบ เถื่อนและดูไม่มีอะไรให้สนใจหรือสวยงามน่าโชว์เท่าไร่  
ตัว KW-120 ออกแบบมาให้ใช้กับแอมป์ KA-1000 โดยเฉพาะ  ภายในตู้ซับ wire ด้วยสายคุณภาพสูง และให้สายแบบ Neutrik Speakon® connectors
(แถมสายมาให้ด้วยประมาณ 5-6 เมตร) ข้อดีของสายแบบนี้คือต่อแล้วล๊อคแน่หนาด้วยกลไก ดูเท่ดี แต่ข้อเสียคือมันหาสายมาเปลี่ยนแทนยากมากครับ
และผมสังเกตอย่างนึงว่า ตัวขอบยางของซับตัวนี้นั้นจะไม่เหมือนกับซับตัวอื่นๆที่เคยใช้มานั่นคือขอบยางนิ่ม และมีความนุ่มมาก ต่างจากขอบยางซับทั่วๆไปที่จะแข๊ง หนา  ถ้าลองได้เอามาไปกดที่ขอบยางของซับตัวนี้จะเห็นว่ามันนุ่มคล้ายๆลำโพงปกติทั่วไปเลย เพียงแต่มีความหนามากกว่าแค่นั้นเอง
Spec:  FREQUENCY RESPONSE: 20-200Hz ±3dB
MAX SPL:
130dB @ 30Hz,
122dB @ 20Hz,
112dB @ 15Hz


Klipsch KA-1000 แอมป์สำหรับขับซับ Klipsch KW-120 โดยเฉพาะ ออกแบบมาโดยใช้หม้อแปลงแบบเทอรอยด์ ให้กำลังขับ 1000 วัตต์ ที่ 4 ohm สามารถต่อซับใช้งานได้พร้อมกันสองตัว กำลังเหลือล้น และออกแบบให้ใช้งานคู่กับ KW-120 โดยเฉพาะ  ช่องต่อกับซับจะใช้ขั้วลำโพงแบบ SpeakOn ใช้งานได้ดีแน่นหนา แต่ขั้ว Input จะใช้ RCA  และสามารถต่อ output พ่วงสัญญาณไปให้แอมป์ตัวอื่นใช้งานได้หลายๆตัวพร้อมกันก็ได้ (กรณีใช้ซับหลายๆตัว)
ส่วนหน้าตาดูแน่นหนา บึกบึน ให้ความรู้สึกว่ามันแข๊งแกร่งดีครับ




บุคลิกเสียงของ Klipsch KW-120 และ KA-1000

1. เบสสำหรับคนรักการดูหนังต้องชอบ ในโรงหนังเบสที่ได้เป็นยังไง ตัวนี้ก็ให้ได้แบบนั้น กระแทก impact ฉากโหมก็โหมเปรี้ยงขึ้นมา และหยุดเร็วตามสไตล์ซับแบบ passive  
ไม่ต้องห่วงว่าเป็นซับแบบตู้เปิดและมันจะย้วย ตัวนี้ขนาดดอก 12 นิ้ว ถือเป็นซับที่ดอกเล็กมากสำหรับซับที่ใช้ในระบบดูหนัง ยิ่งได้แอมป์กำลังถึง 1000 วัตต์ขับแยกนั้นเลิกห่วงครับว่าเสียงจะตามคู่หน้าไม่ทัน  ไม่เชื่อเปิดหนังที่เบสมาเป็นชุดๆ ตุบๆๆๆๆๆ เร็วๆดูสิครับ จะรู้เลยว่าเบสมาทุกเม็ด มีหนักมีเบา มีผ่อน มีนุ่มนวล มีลึก มีรายละเอียดดีกว่าซับปกติที่ขนาดดอกเท่านี้ที่เป็น Active มากนัก
และที่สำคัญยามที่เบสมันต้องหนัก เบสก็มาเปรี้ยงแบบไม่ต้องให้ลุ้นอะไรกันเลย  


2. บุคลิกเบสของ KW-120 นั้นค่อนข้างจะมาทางนุ่มลึก กระแทกก็จริง แต่มันไม่ได้โหดแบบเปรี้ยงแล้วปวดหัวเหมือนซับแนวดูหนังที่เคยเจอมา ตัวนี้เบสหนัก แต่เราจะรู้สึกมันเหมือนมีความนุ่ม ฟังสบายหู  กระตุ้นให้รู้สึกอยากจะเร่งเบสขึ้นไปอีกเยอะๆ เพราะพอมันกระแทกแล้วสะใจมาก เป็นความรู้สึกเหมือนลูกเหล็กลูกขนาดกำลังดีกระแทกไปบนวัสถุอะไรสักอย่างที่มันแน่นมากๆ  ตุบบ แล้วรู้สึกว่ามันอิ่มเบส  ให้ได้ทั้งปริมาณและรายละเอียด
ในการทดลองเอามันมาฟังเพลง (แนวที่ผมชอบ) ก็เพลงสมัยใหม่ทั่วไป มีเบส มีจังหวะ edm บ้าง electronic บ้าง pop บ้าง แต่ผมจะไม่ฟังเพลงร้องไม่ฟังแนวอคูสติกหรือเพลงช้าและไม่ฟังเพลงจีนและออดิโอไฟล์ ก็พบว่า เบสดี เหมาะกับเพลงแนวๆนี้ครับ มันเด้งดึ้งๆดี เบสดีและนุ่มด้วย รู้สึกได้ถึงความนุ่มลึก ดึ้งดั้งฟังสนุก และสบายหู



3. เบสไวจนซับตู้ปิดต้องอาย  ตัวนี้เบสไวมาก จากอาณิสงค์ของดอกที่เล็ก และแอมป์แยก (passive) ทำให้มันเก็บรายละเอียดของความถี่ต่ำและจังหวะได้ทุกจังหวะบนโลกใบนี้ได้ทัน   มาเร็วมาหนัก ผสมกันมามันถ่ายทอดได้ครบ และให้มาทุกเม็กแบบรู้สึกได้ด้วยว่าเม็ดไหนผ่อนเม็ดไหนแรง

4. กำลัง อันนี้คือข้อดีของซํบตู้เปิด และใช้แอมป์แยกแบบ passive เพราะกำลังนั้นบอกว่าเหลือเฟือ เกินพอจะใช้ในห้องดูหนังใหญ่ๆในบ้านคนปกติ ต่อให้เป็นห้องสักขนาด 8*10 ผมว่าก็ยังเอาอยู่ (2 ตัว)  เร่งได้เยอะมากๆ เบสเกินพอ และที่สำคัญความเพี้ยนต่ำ หากเราถอดลำโพงอื่นในระบบออกแล้วเร่งไปเยอะๆ ให้เบสทำงานตัวเดียว เราจะรู้เลยว่ายิ่งเร่งเบสยิ่งทำงานดีและหนักจนไม่น่าเชื่อว่า ในระดับความดังขนาดนี้ หากเราต่อลำโพงตัวอื่น (คู่หน้า เซ็นเตอร์) เข้าไปด้วยเราจะไม่สามารถทนฟังได้แล้ว  แต่การทดสอบให้เบสทำงานที่ความดังมากๆตัวเดียวนั้น เบสยังสามารถทำงานและดังได้แบบกระชับ หนัก ไม่เพี้ยน และเร่งได้มากจนเราทนไม่ไหวนั่นแหละ




ข้อดีของมันคือ

1. คุณภาพเสียงเบส ความถี่ต่ำคุณภาพที่แรงได้ สั่งได้ กระชากได้ โหดได้ นุ่มได้ สะใจได้แบบนี้  กล้าการันตีเลยว่าในช่วงราคานี้ ถ้าคุณกล้าก้าวข้ามซับราคาในระดับต่ำกว่าแสนขึ้นมาได้ เสียงเบสของมันไม่แพ้ตัวไหนๆอีกแล้วในช่วงราคานี้ครับ โดยเฉพาะซับยี่ห้อดังที่อยู่ในช่วงราคาเดียวกันนี้อย่างแน่นอน (ถ้าไม่มีอคติกับแบรนด์) ซึ่งเอาจริงๆแค่ข้อนี้ข้อเดียวก็มีเหตุผลมากพอที่จะเอาชนะข้อเสียอื่นๆของมันแล้วละ เพราะซับสักตัวคุณจะต้องการอะไรมากไปกว่าคำว่า "เสียงดี"

2. ความทนทานที่ผมคาดเดาว่ามันสามารถใช้งานได้แบบหายห่วงกันไปยาวๆโดยไม่ต้องเครียดว่าซับจะพัง หรือวันดีคืนดีต้องยกไปเปลี่ยนดอก เปลี่ยนขอบทุกๆ 2-4 ปีด้วย

3. เบสไวมาก เป็นซับตู้เปิดที่เร็วที่สุดเท่าที่ผมเคยฟังมาแล้วครับ กระชับฉับไว มีมวล ไม่ห้วนไป ไม่แผ่ไป คือดีเลย เป็นเบสธรรมชาติที่ฟังแล้วถูกหู (ผม)

4. พละกำลัง ดีมาก ใช้ในห้องใหญ่ๆได้เลยโดยไม่ต้องกลัวว่าซับจะเอาอยู่มั๊ย แนะนำว่าห้อง 12 - 30 ตรม สามารถใช้ตัวเดียวได้ แต่หากใหญ่กว่า 30 ตรม.ขึ้นไปก็ควรจะใช้สองตัวครับ

5. ตัวตู้แข๊งแรงมั่นคง สังเกตว่ามันเป็นซับ 12 นิ้วที่ตัวตู้ใหญ่กว่าปกติโดยเฉพาะด้านกว้าง ตู้ใหญ่ตัวดอกเลยดูเหมือนจะเล็กไปเลย





ข้อเสียของมันก็คือ

1. มันเป็นซับ passive
ที่อาจจะยุ่งยากหน่อยสำหรับมือใหม่ ต้องหาที่วางแอมป์เพิ่มอีกหนึ่งตัว แต่ก็แลกมากับซับที่เราไม่ต้องเสียบปลั๊ก มันตั้งลอยๆได้เลย และก็ความทนทานของซับแบบ Passive ที่ทนหายห่วง

2. ช่องต่อให้มาแค่ rca ไม่มี xlr ให้ใช้ สำหรับใครที่ชอบใช้ xlr อันนี้อาจจะต้องมองผ่านไป

3. ราคา คือตัวที่กำหนดและทำให้ซับตัวนี้คนเล่นน้อยลง เพราะซับในราคารวมแอมป์ KA-1000 ด้วยในระดับ 150,000 บาทนั้น มีตัวเลือกอื่นให้เล่นอีกเยอะ แต่สำหรับผมนั้นเสียงที่ได้จากตัวนี้ คุ้มค่าและไม่แพ้ซับ Active ยี่ห้อดังในช่วงราคานี้แน่นอนครับ แถมคุ้มค่ากว่าด้วยตรงที่ไม่ต้องพะวงมานั่งดูแลขอบว่าวันนึงมันจะเปื่อย ต้องเปลี่ยนดอก ต้องเปลี่ยนขอบแล้วเสียงเปลี่ยน และทนกับการบริการหลังการขายด้วยครับ   (ผมเชื่อว่าซับ Klipsch THX นั้นในบ้านเรามีคนครอบครองอยู่น่าจะหลัก 10 อย่างดีก็ไม่ถึง 100 คน) และก็เชื่อว่าใครที่ได้ครอบครองซับและแอมป์ตัวนี้นั้นจะไม่ค่อยขายออก ดูจากตลาดมือสองได้ว่าไม่มีใครปล่อยซับและแอมป์ตัวนี้เลย (หายากมาก) นั่นเป็นเพราะคุณภาพเสียงของมันนั่นเอง (เคยเห็นมีคนปล่อยอยู่ท่านนึง แต่หลังจากเซ็ทอัพและได้รับคำแนะนำจากคนเซ็ทว่า ตัวนี้อย่าขาย เสียงดีมากๆ ก็ยกเลิกการขายไป) ดังนั้นใครมีตัวนี้อยู่ในครอบครอง ผมแนะนำว่าให้กอดไว้ดีๆ

4. หน้าตาที่ดูโซลิด ดูแข๊งทื่อ ดูใช้งานในโรงหนัง โชว์ใครเค้าก็ไม่เชื่อว่านี่คือซับที่ราคาแสนกว่าบาทนะ  ยอมรับเลยว่าหน้าตาโชว์ไม่ได้จริงๆ แต่เสียงก็เป็นอีกเรื่องนึงครับ




5. Deep Bass ที่ลึกจริงๆในช่วงต่ำกว่า 20 Hz นั้นอาจจะขาดไปบ้างเมื่อเทียบกับซับตัวอื่นที่ลงลึกได้มากกว่านี้ เช่น SVS SB16 Ultra ที่ตัวนั้นบรรยากาศช่วงเบสลึกๆ มันแผ่ซ่านออกมากระทบได้ดีกว่านิดหน่อย  แต่ตัวเบสต้นและคุณภาพเบสนั้นก็ขอยกให้กับ Klipsch KW-120 กินในช่วงนี้ไป ซึ่งจะว่าไปบุคลิกของซับแต่ละตัวนั้นก็มีความไม่เหมือนกันอยู่ และมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ไม่มีใครเลียนแบบกันได้ครับ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะชอบแบบไหน SVS ก็มีบุคลิกและพลังเหมือนคลิ่น sonic แผ่ออกมาวูบนึงในช่วงเบสที่รุนแรงซึ่งเป็นบุคลิกของเค้าเลย  ส่วน klipsch ตรงนี้ก็อาจจะทำไม่ได้ แต่จะได้บุคลิกและคุณภาพของเบสโดยรวมมาแทน รวมถึงกำลังที่ดีกว่าด้วยครับ

6. หัวต่อระหว่างซับและแอมป์นั้นเป็นแบบ SpeakOn  หาสายมาเปลี่ยนลำบาก ไม่สามารถไปหาสายแบรนด์ดังๆมาใช้ได้ครับ คุณจะต้องสั่งสายและหัวเฉพาะของมันเท่านั้น  แต่เท่าที่ผมฟังดู เบสและคุณภาพที่ได้จากสายที่ Klipsch ให้มานั้น ผมว่าไม่จำเป็นต้องดิ้นรนไปหาสายอื่นมาใช้แล้วละครับ




คุณเหมาะกับ Klipsch KW-120 มั๊ย?
ต้องถามว่าคุณชอบดูหนังมั๊ย ถ้าคำตอบคือใช่  นี่คือเบสที่เข้าใกล้คำว่าอุดมคติของโลกการดูหนังมากๆแล้วครับ เพราะมันครบเครื่องและได้ใจคนที่ดูหนังส่วนใหญ่  ด้วยโทนเสียงที่มีความละม้ายกับเบสของโรงหนัง เบสของเวทีคอนเสิรต์ ลงลึก สะใจ โหด แต่ยังได้รายละเอียด มีมิติ มีความลึกและความนุ่มนวลในแบบซับบ้านมาเจือเบาๆให้ฟังแล้วไม่เครียดและเค้นจนเกินไป
 
และหากคุณกำลังหาซับหวานๆไปฟังเบาๆ ไปต่อ hi-level ฟัง หรือไม่ชอบเบสกระแทกๆ ไม่ชอบให้โซฟาสั่นเลย หรือเป็นคนสายละมุนที่ชอบฟังเสียงกลางแหลมเพียวๆ สะอาดๆ เบสต้องไม่มาปนเยอะจนเกินไป
หรือถ้าคุณเป็นพวกสายออดิโอไฟล์จ๋า ซับต้องซ่อนตัวไม่แสดงออก ห้ามใช้ซับใหญ่เดี๋ยวกลบกลางแหลม เดี๋ยวบรรยากาศไม่ดี
คุณควรจะผ่าน Klipsch KW-120 ไปครับ


ราคา Klipsch KW-120: http://www.whatthatsound.com/product/45/klipsch-kw-120-thx-subwoofer

ราคา Klipsch KA-100: http://www.whatthatsound.com/product/46/klipsch-ka-1000-thx-amplifier

 































« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 19, 2017, 10:23:03 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #508 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2014, 06:50:17 pm »
 [หื่น]

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #509 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2014, 09:32:30 pm »



จัดส่ง Klipsch THX Ultra2 KL525 สามตัว ไปให้ลูกค้าที่ชลบุรี (มารับเอง)

ชุดนี้ลูกค้าเอาไปใช้ทำ LCR สามตัวหน้าในระบบดูหนัง โดยเปลี่ยนจากของเดิม Klipsch RP280F, Klipsch RC-64 ii
สำหรับใครที่ชอบเสียงแบบโรงหนังจริงๆ เราอยากให้ลองดูซีรี่ย์ THX Ultra2 ของ Klipsch ก่อนครับ เพราะในเรื่องดูหนังแล้ว Klipsch สร้างชื่อมาตั้งแต่รุ่นเล็กสุด ล่างสุดอยู่แล้ว

และนี่คือซีรี่ย์เรือธงในด้านดูหนังของ Klipsch แล้ว (ไม่นับซีรี่ย์ palladium ที่เป็นลำโพง Home Audio) ชื่อชั้นก็การันตีได้ว่า เรื่องดูหนัง และความร๊อคนั้น Klipsch ไม่แพ้ใครในราคาเท่าๆกันหรือราคาสูงกว่าในงบ +- หนึ่งแสนถึงสองแสนแน่นอน

Klipsch THX KL525 เป็นลำโพงตู้ปิด ไม่มีท่อลมระบายอากาศ (ต่างจาก KL650 ที่เป็นตู้เปิด และมีรหัสซ้ายขวา) แต่ตัว KL525 จะไม่มีรหัสซ้ายขวา สามารถใช้แทนกันได้เลย ขนาดดอก 5.25 นิ้ว

ราคา Klipsch THX KL525:
http://www.whatthatsound.com/product/44/klipsch-kl-525-thx-bookshelf









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 19, 2017, 10:23:41 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #510 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 09:11:20 am »




จัดส่ง Klipsch THX KL525 ไปให้ลูกค้าที่นนทบุรี ตัวนี้ลูกค้านำไปทำ Surround Back

ซึ่ง KL525 นั้นเป็นลำโพงบุ๊กเชลฟ์ที่ใช้ทำ LCR ก็ได้ และใช้ทำ surround ก็ได้ บางสูตร (บางคน) ก็จะนำไปใช้ทำทั้ง SB, SR เลย
แต่บางคนก็ใช้ทำเฉพาะ SB
และก็มีบางคนไม่นิยม แต่จะใช้ KS525 ที่เป็นลำโพงแบบไบโพลแทน ซึ่งความชอบตรงนี้แล้วแต่คนชอบเลยครับ ไม่มีถูกไม่มีผิด

แต่ถ้าถามว่าผมชอบแบบไหน ส่วนตัวผมยังอนุรักษณ์นิยม ยังชอบเสียง SR จากลำโพงไบโพล KS525 มากกว่าแบบบุ๊กเชลฟ์ครับ

Klipsch KL525 เป็นลำโพงในซีรี่ย์เรือธงในด้านดูหนังของ Klipsch (ไม่นับซีรี่ย์ palladium ที่เป็นลำโพง Home Audio) ชื่อชั้นก็การันตีได้ว่า เรื่องดูหนัง และความร๊อคนั้น Klipsch ไม่แพ้ใครในราคาเท่าๆกันหรือราคาสูงกว่าในงบ +- หนึ่งแสนถึงสองแสนแน่นอน
Klipsch THX KL525 เป็นลำโพงตู้ปิด ไม่มีท่อลมระบายอากาศ (ต่างจาก KL650 ที่เป็นตู้เปิด และมีรหัสซ้ายขวา) แต่ตัว KL525 จะไม่มีรหัสซ้ายขวา สามารถใช้แทนกันได้เลย ขนาดดอก 5.25 นิ้ว

ปล. รูปลำโพงใช้รูปแทนจากต่างประเทศ

ราคา Klipsch THX KL525: http://www.whatthatsound.com/product/44/klipsch-kl-525-thx-bookshelf







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 19, 2017, 08:56:33 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #511 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 10:53:03 pm »


จัดส่ง SVS SB16 Ultra ไปให้ลูกค้าที่รังสิตครับ
สำหรับใครที่ไม่เคยฟังซับ SVS เราอยากจะบอกว่า ซับวูฟเฟอร์แต่ละตัว แต่ละยี่ห้อมีบุคลิก และมีโทนและเสียงที่แตกต่างกันไม่มากก็น้อย แต่สำหรับ SVS เราอยากจะจัดให้อยู่ในกลุ่มขอซับที่ฟังสนุก เน้นมัน เน้นโหด เบสที่ได้สำหรับตัว 16 Ultra นี้ ต้องบอกว่า มหาศาลจริงๆ เขย่า กระชาก หนัก กระแทก พั้นซ์แบบไม่ไว้หน้าใคร

จุดด้อยอาจจะเป็นในส่วนของความประนีประนอม ความนุ่มนวล ความลึกที่ฟังสบาย ฟังแล้วรู้สึกอิ่มนุ่ม แบบนี้จะน้อยกว่ายี่ห้ออื่น แต่ก็ได้ความโหด ฟังสนุกมาสำหรับสาวกที่ต้องการซับโหดๆมาใช้งาน
คุ้มครับ เป็นซับอีกตัวที่มาในแนวสะใจ สายกำลัง ควบคุมผ่านแอปบนมือถือ มีรีโมท ฟังง่าย เน้นมัน ให้ความดังสูงถึง Max spl 129 dB ลงลึก 16 dB สำหรับ SB16
และส่วน PB16 ให้ max spl ถึง 136 dB ลงลึก 11 dB(โคดโหด)

อย่าลืมว่าซับแต่ละแบรนด์โทนเสียงไม่เหมือนกัน ไม่มีตัวไหนแทนกันได้ และการดูสเปคซับนั้นเราอาจจะดูได้ระดับนึง แต่สุดท้ายไม่มีอะไรแน่นอน สเปกตัวนึงลงลึกกว่า แต่เสียงอาจจะเด่นย่านเบสต้น หนัก บุคลิกติดมันสนุก เลยเสียงไม่นุ่มลึก
ส่วนอีกแบรนด์เสียงนุ่มลึก แต่เสียงเบสต้นจะไม่ชัดและฟังไม่สนุกเท่า แต่ได้รายละเอียด อะไรแบบนี้เป็นต้น



การฟังในห้องลองแพงๆก็อาจจะฟังดีไปหมด และเชื่อถือได้ระดับนึง เพราะอย่าลืมว่าการฟังที่ผิดพลาดน้อยที่สุด สมจริงที่สุดก็คือการฟังในห้องฟังของตัวเอง ด้วยอุปกรณ์ทุกชิ้นของตัวเอง และสถานที่ใช้ฟังจริงของเราครับ

ปล. รูปจริงรูปแรก รูปอื่นรูปแทน

ราคา SVS SB16 Ultra: http://www.whatthatsound.com/product/480/svs-sb16-ultra








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 19, 2017, 10:21:53 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #512 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2014, 08:50:02 am »


SVS SB13 Ultra ซับวูฟเฟอร์ในราคา 5-6 หมื่นสุดคุ้มที่น่าใช้ที่สุดตัวหนึ่งในตลาด Home Theater ณ เวลานี้
 ถ้าคุณชอบโหดๆ SB13 คือคำตอบครับ ชื่อชั้น รางวัลจากนิตยสารและเว็บไซต์กว่า 20 รางวัลทั่วโลกการันตีได้...

 
เพราะนอกจากหน้าตา ผิวเปียโนแบล๊คสวยเกินจะห้ามใจ และไซส์ที่เล็ก กระทัดรัด สามารถยัดใส่ห้องเล็กๆขนาด 10 - 20 ตรมได้ดีแล้ว รุ่นนี้ยังถือเป็นตู้ปิดที่มีไซส์เหมาะสำหรับใช้ดูหนังแนวแอคชั่นมันๆ เบสโหด และยังสะอาด กระชับ เร็ว อีกตัวหนึ่งที่หาตัวจับยาก
 
-----------------------------------------------------
Driver: 13.5"
Amplifier: 1000 watts RMS (3600 watts peak)
Freq. Response: 20-460Hz ±3 dB
Dimension: 17.4" (H) 17.4" (W) 18.5" (D)
Weight: 92 lb

-----------------------------------------------------
 
Review SVS SB13 Ultra: https://goo.gl/ZtyUO1
 
ราคา SVS SB13 Ultra: http://www.whatthatsound.com/product/320/svs-sb-13ultra






























« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 19, 2017, 10:21:11 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #513 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2014, 12:54:00 pm »



เราไม่ได้เขียนบทความนานแล้ว  
วันนี้ผมก็เพิ่งมาสังเกตว่า มีคน follow เพิ่มขึ้นเยอะ และหลายๆคนหรือกล่าวได้ว่า กว่า 50% ก็เป็นมือใหม่เพิ่งเริ่ม หรือกำลังจะเริ่มเล่นแต่หาข้อมูลไว้ก่อน

----------------------------------------------------------------------
คำถามหลักที่ผมเจอบ่อยๆมากๆก็คือ  มีงบเท่านี้ xxxxxxx บาท  ดูหนัง 60% ฟังเพลง 40% จะเล่นตัวไหนดี   หรือชุดนี้ราคาเท่าไร่ (แยกชิ้น)

อ่านบทความนี้เต็มๆได้ที่นี่: https://goo.gl/4z1NnU
----------------------------------------------------------------------


วันนี้เลยอยากจะมากลับมาสู่เบสิค สู่จุดเริ่มต้น เอาใจมือใหม่กันบ้างว่าพื้นฐานการเล่นเครื่องเสียงระดับเริ่มเลยที่คุณต้องรู้ก่อนที่จะซื้อเครื่องเสียงสักชุดนึงให้ได้เสียงที่ถูกใจ และตอบโจทย์ที่สุดนั้นต้องรู้อะไรบ้าง  จะได้ไม่หลงไปกับแรงเชียร์ แรงโฆษณาตามร้านๆต่างๆ ตามกรุ๊ปที่เชียร์แต่ของของสปอนเซอร์ตัวเอง หรือตามร้านที่จัดชุดลำโพงหลักหมื่น แต่เส้นสานและอคูสติกห้องหลักร้านมาให้ฟัง

1.  คุณจะดูหนังหรือฟังเพลง เอาให้แน่ๆ  ซิสเต็มหรือเครื่องเสียงบ้านบนโลกในนี้มีสองแบบใหญ่ ไม่นับพวกลำโพงคอม ลำโพง active ไม่นับ PA  ไม่นับพวกหูฟัง  ก็คือ

   - Multi channel หรือบ้านเราเรียกกันว่า Home Theater เครื่องที่ต้องซื้อจะเป็น AVR หรือ pre processer ลำโพงต้องซื้ออย่างต่ำ 5 ตัวหรือ 5.1 แชนแนล   หรือถ้างบเยอะก็ไปยัน 7.2.4
ระบบแบบนี้ถูกสร้างมาเพื่อ ดูหนัง แผ่นที่เอามาเล่น (Bluray, DVD) ก็จะบันทึกมาแบบดูหนัง คือแยกเสียงพูดมาไว้ที่ลำโพงเซ็นเตอร์ เสียงดนตรีที่คู่หน้า เสียงบรรยากาศมาไว้ที่เซอราวด์
ดังนั้นเวลาฟังเพลงคุณจะก็จะฟังได้จากระบบของ home theater ถามว่าฟังดีมั๊ย  ก็ตอบว่าฟังเพลงได้ แต่ฟังไม่ดีมาก  แค่พอฟังได้ เพลินๆ ดูยูทูบ ดูทีวี ฟังแผ่น 2 แชนแนลได้ จะปรับเสียงลำโพงให้ออกหมดทุกตัวเป็นเซอราวด์ หรือให้ออกแค่ 2 แชนแนลก็ได้
แต่เสียงฟังเพลงจะไม่ดีเท่าไร่หรอก ให่้ทำใจไว้ว่าหากคุณเลือกระบบเสียง multi channels คือคุณจะไม่เน้นเรื่องการฟังเพลง แต่คุณกำลังให้ความสำคัญกับ ซิสเต็มที่อเนกประสงค์ ใช้งานได้ครอบจักรวาล เน้นดูหนัง ดูคอนเสริต์ และฟังเพลงได้



 
   - ระบบ 2 แชนแนล เป็นระบบที่ออกแบบและทำมาเพื่อฟังเพลงโดยเฉพาะ  มีลำโพงแค่ 2 ตัว มี amp อีกแบบที่เรียกว่า Integrated amp ใช้สำหรับฟังเพลงโดยเฉพาะ ต่อลำโพงสองตัวแล้วฟังได้เลย จะใช้ cd จะต่อ turn table ก็ตามสะดวก เสียงนั้นดีและลื่นไหลกว่าฟังด้วย AVR เยอะ  
แต่เอามาดูหนังก็ไม่ดี เพราะมันมีลำโพงแค่ 2 แชนแนล การดูหนังก็จะสู้แบบ multi channels ไม่ได้




2. ทำความเข้าใจให้ดีก่อนว่า เครื่องเสียงแยกชิ้นไม่ใช่เครื่องเสียงพวกมินิคอมโป หรือชุดที่ขายตามห้าง  ที่มีลำโพงเป็นเสาๆ หลายๆตัวแล้วมีเครื่องเล่นมาเป็นชุด ให้มาเป็นกล่องครบแบบนั้น
ดังนั้นเวลาจะหาข้อมูลเครื่องเสียงแยกชิ้นดีๆสักชุดมาเล่น   อย่าพยายามถามคนขายว่าชุดนี้ราคาเท่าไร่ เพราะคนขายอาจจะจับยัดของที่คุณไม่ได้เลือก หรือไม่ต้องการมาให้  
เนื่องจากเครื่่องเสียงแยกชิ้นมันไม่ได้ขายเป็นชุด มันขายเป็นชิ้น คุณต้องศึกษาว่ามีตัวไหนบ้าง ที่คุณจะเอามาใช้ในซิสเต็ม แล้วเอาราคาเป็นตัวๆ เลือกแต่ที่ต้องการ
ไม่เช่นนั้นจะเจอการยัดของ   คิดราคาเหมาที่บางทีแยกราคาแต่ละชิ้นแล้วยังถูกกว่าเสียอีก
จำง่ายๆ เลิกถามคำว่าชุดนี้ราคาเท่าไร่ เพราะเครื่องเสียงแยกชิ้นส่วนใหญ่มันไม่ได้จัดชุดไว้  ชุดนึงสามารถจับมามิ้ก เอาตัวนู้นผสมตัวนี้ ได้มากมาย หลากหลายราคา   บางทีคนขายก็งงว่าจะเอาตัวไหนให้ลูกค้าดี (ว่ะ)  จะจัดชุดใหญ่ให้ก็กลัวจะแพง.... ลูกค้าก็จะหาว่าแพงว่ะร้านนี้ หนีไปร้านอื่น ถามคำถามเดิม  ชุดนี้ราคาเท่าไร่   แต่ร้านนี้หัวหมอ อาจจะจัดชุดเล็ก ลำโพงตัวเล็ก ผสมซับรุ่นถูกให้คุณ  คุณก็จะ เออออ ถูกดี แบบนี้แหละที่ต้องการ ร้านแรกต้มหมูเรานี่เอง   ก็จะกลายเป็นโดนร้านที่สองหลอกฟาดไปแบบเนียนๆ




3. ถ้างบไม่เยอะ เล่นเครื่องเสียงชุดแรก งบจำกัด งบน้อย จำไว้เสมอว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องใส่ใจก็คือ ลำโพง แอมป์  ไม่ใช่สายและ accessories
เพราะเคยเจอคนเล่นลำโพงราคาหนึ่งหมื่น แต่ซื้อสายราคาสองหมื่นไปใช้  
พอเตือนก็เถียงมาอีกว่า  คนเล่นเครื่องเสียงเป็นเส้นสายควรจะให้ความสำคัญกับมัน  เอ้า ไม่เชื่อไปซะอีก  
มีผลคร้าบบบ เส้นสาย และ accessories มีผลแน่นอน แต่มีผล 10-20 % ของซิสเต็มหลัก   หากซิสเต็มคุณใหญ่มาก ห้องคุณจัดอคูสติกดี เซ็ทอัพถึง คุณเล่นไปเลยเส้นสาย มันฟังออกไม่มากก็น้อย
แต่ถ้าซิสเต็มระดับหมื่นต้นๆ หรือกลางๆ แล้วบอกจะทุ่มงบไปที่เส้นสายสัก 30% แบบนี้บอกเลยว่ามันไม่มีประโยชน์ สู้เอาเงินที่ทุ่มเรื่องเส้นสาย มาทุ่มที่ลำโพงหรือแอมป์ให้มันดีกว่าเดิมจะมีประโยชน์กว่า

อย่าลืมว่าเส้นสายใช้แต่งเติมและปรับจูน แต่มันไม่สามารถไปเปลี่ยนแนวเสียงของลำโพงและซิสเต็มหลักได้   หากซิสเต็มหลักเสียงไม่ได้เลย ไม่ใช่แบบที่ชอบ  ไม่ต้องไปดิ้นรนหาเส้นสายมาแก้ จงเปลี่ยนลำโพง เปลี่ยนแอมป์ หรือลองเซ็ทอัพ  หรือเปลี่ยนอุปกรณ์หลักให้มันถูกทาง ถูกหู เมื่อเสียงมาถูกทาง แล้วจึงใช้เส้นสายแต่งเติมอีกที  




4. ซิสเต็มชุดแรก พึงระวังชุดนี้พี่เค้าบอกมาว่าดี
ส่วนใหญ่มือใหม่จะหาที่พึ่ง เที่ยวไปถามผู้ใหญ่ ถามเพื่อน ถามรุ่นพี่ในวงการ
รุ่นพี่บางทีก็แนะนำชุดที่เค้าชอบ จงฟังหูไว้หู และให้มั่นใจว่า ไอ้ที่เสียงดีที่เค้าบอกนั้นนะ  เราชอบเสียงแบบนั้นหรือเปล่า

5. สิ่งสำคัญที่คุณอาจจะเรียนรู้และเป็นสิ่งสำคัญมากในการเล่นเครื่องเสียงนั้นก็คือ  คำว่า "Matching" บางยี่ห้อจับกับยี่ห้อนี้แล้วถูกกัน เข้ากันมากกกก เสียงดี แม้ราคาจะไม่แพงก็เสียงดี
แต่บางทีเอาตัวนี้จับกับอีกตัวแล้วฟังไม่ได้เลย ไม่แมทอย่างแรงก็มี
หรือบางยี่ห้อจับกับยี่ห้ออะไรก็ให้เสียงแบบนี้แหละ ไม่ได้มีอะไรต่างเท่าไร่ จะจับกับตัวไหนก็ได้หมด แบบนี้ก็มี

จงเรียนรู้และค่อยๆซึมซับไปครับ สิ่งนี้ไม่มีวันรู้ได้เลยในวันแรกที่เล่นเครื่องเสียง และมันก็ไม่สามารถสอนกันได้ บางทีคนนู้นบาง สองยี่ห้อนี้ไม่แมทกันนะ แต่พอเรามาลองเองแล้วชอบ  หรือบางคนบอกว่าสองตัวนี้เข้ากันได้ดี แต่เราลองแล้วไม่ชอบก็มี   เพราะมันมีตัวแปรมากมายที่ทำให้ซิสเต็มสองซิสเต็มที่คล้ายกัน สามารถให้เสียงไม่เหมือนกัน รวมถึงรสนิยม ความชอบส่วนตัวก็มีผลมากเช่นกัน
ทางเดียวที่จะรู้ได้นั่นคือ คุณก็ต้องลองๆๆๆ เล่นๆๆๆ และซึมซับมันไปเอง ไม่มีซิสเต็มไหนจะชัว และแน่นอนเท่าซิสเต็มที่ลองที่บ้านคุณเอง  
ห้องลองบางห้องเส้นสายแพงกว่ารถที่คุณขับมาอีก ค่าทำอคูสติกห้องแพงกว่าบ้านผมอีก  แบบนี้เสียงดีทุกยี่ห้อครับ ฟังได้แค่แนวเสียง แต่จะเอาให้เหมือนที่ห้องเราเองนั้นคงเป็นไปได้ยาก




6. จะร้องเกะ หรือจะเล่นเครื่องเสียง?  เครื่องเสียงบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้ออกแบมาให้ร้องเกะ  ก็เข้าใจว่าครอบครัวส่วนใหญ่อยากได้เครื่องเสียงชุดเดียวที่มันทำได้ทั้ง ดูหนัง ฟังเพลง ร้องเกะ อเนกประสงค์ครบชุดในตัว  ถามว่ามีมั๊ย มีแต่ทำไม่ได้ดีสักอย่าง
ถ้าจะเอาดูหนังดี มันจะฟังเพลงได้แค่กลางๆ และร้องเกะไม่ได้  
ถ้าเอาซิสเต็มฟังเพลงดี มันจะดูหนังไม่มัน และร้องเกะไมไ่ด้
จะเอาร้องเกะก็หาไมค์ หา mixer มาต่อ หรือหา dvd ที่มีฟังก์ชั่นคาราโอเกะ เสียบใมค์ได้มาเล่นจะดีกว่า

7. เครื่องเสียงบ้าน ไม่เหมือนเครื่องเสียงรถ และไม่เหมือนเครื่องเสียง pa (กลางแจ้ง)  ก่อนจะเดินไปร้านเครื่องเสียงหรือตัดสินใจซื้อ จงถามตัวเองก่อนว่า จะใช้งานแบบไหน  จะเอาลำโพงบ้าน ไปเปิดฟังออกงาน ทำปารตี้กลางแจ้งแบบนี้ไม่โอเค   หรือจะเอาลำโพงบ้านไปวางแด๊นหน้าปากซอย ใช้เล่นสงกรานต์แบบนี้พังครับ
ส่วนใหญ่ร้านที่ขายเครื่องเสียงกลางแจ้งก็จะเน้นกลางแจ้ง  ร้านที่ขายเครื่องเสียงบ้านก็จะขายแต่ของใช้งานในบ้าน อย่าเข้าผิดร้าน  คนละระบบกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งการใช้งาน ราคา และการต่อใช้งานและคุณภาพเสียง




8. อย่าเน้นถูกจนแบบ ถู้กกกถูกจนแบบผิดปกติ  ซื้อของชิ้นเดียวเช็ค 20 ร้าน เอาราคาทุกร้านไปบลัฟกัน สุดท้ายเอาราคาร้านที่ถูกที่สุดโทรไปหาผู้นำเข้าขอราคาถูกกว่าร้านที่ถูกที่สุด แบบนี้นอกจากอาจจะได้บริการแบบขอไปทีแล้ว บางทียังเจอตัวโชว์  
เพราะการขายแบบตัดราคามากๆ หากเกิดปัญหาหรืองานที่ต้องเซอร์วิสเช่นเสีย ร้านจะไม่สามารถมาวิ่งเซอร์วิสหรือมาบริการ รับของไปเคลมได้ เพราะกำไรเข้าเนื้อมากแล้ว  บางทีให้ลูกค้าวิ่งไปเคลมกับบริษัทผู้นำเข้าเอง หรือบางทีบ่ายเบี่ยง
หรือบางทีของไม่เสีย แต่ต้องการคำปรึกษาหรือต้องการความช่วยเหลือจากร้าน อาจจะต้องวิ่งมาดูให้ เซ็ท หรือโทรสอบถามการใช้งานภายหลัง ดึกๆดื่นๆ ติดขัดทำไม่ได้ เสียงไม่ออก  แบบนี้ร้านเค้าขายอย่างเดียวหรือจะช่วยเหลือคุณได้รึปล่า
หากคุณคิดว่าเอาตัวรอดได้ ไม่ต้องการความช่วยเหลือ เก่งแล้วก็จัดไปครับ  แต่ถ้ามือใหม่ ผมแนะนำว่าพยายามอย่าเลือกอะไรที่มันสุดโต่งมากไป  ตึงไป หย่อนไปก็ไม่ดี เอากำลังดี เน้นของดี คุณภาพ มีบริการหลังการขาย ถามได้ คุยได้ ปรึกษาได้ วิ่งเซอร์วิสได้ ไม่ทิ้งลูกค้า แบบนี้จะดีกว่า




9. เครื่องเสียงในงบต่ำกว่า 5 หมื่นบาท +- ไม่มีตัวไหนดีที่สุดครับ  มีแต่ได้อย่างนึงก็ต้องเสียอย่างนึง  ชุดนึงอาจจะเบสดี แต่แหลมไม่ดี  อีกชุดอาจจะคุ้ม ฟังก์ชั่นเยอะแต่เสียงไม่ดี  

10. เครื่องเสียงมีจุดคุ้มทุนของมัน หามันให้เจอแล้วตอบตัวเองให้ได้ว่า จุดไหนที่คุ้มที่สุดสำหรับคุณ
เช่นชุดเครื่องเสียงที่ราคา 1 แสนบาทให้เสียงได้ดีพอประมาณ ฟังได้ฟังสนุก แต่หากเพิ่มเงินไป แสนห้า เงิน 5 หมื่นบาทที่เพิ่มมาอาจจะไม่ได้คุณภาพเสียงขึ้นมา 50% ตามเม็ดเงินนะครับ
หรือซิสเต็ม 10 ล้านกับซิสเต็ม 1 แสน นั้นก็ไม่ได้ห่างกัน 10 เท่าตามราคา  ยิ่งซิสเต็มราคาแพงมากเท่าไร่ สิ่งที่ได้และเหนือกว่านั้นก็ได้มากขึ้นก็จริง แต่มันไม่ได้มากขึ้นเป็น linear เส้นตรงตามเม็ดเงินที่ลงไปนะครับ  เพียงแต่สิ่งที่ได้มานั้นมันอาจะเป็นอะไรที่พิเศษและทำได้ยากมากๆก็ได้   แล้วจุดไหนที่คุ้มทุนละครับ ?
จุดที่คุ้มทุนก็คือจุดที่คุณพอใจครับ บางคนพอใจที่ 3 หมื่นบาท บางคนพอใจแสนนึง บางคนพอใจสิบล้าน อยู่ที่ใจและกำลังทรัพย์ครับ ไม่มีถูกหรือผิด


จบครับวันนี้เอาแค่นี้ก่อน พอหอมปากหอมคอ สำหรับมือใหม่หวังว่าจะได้ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย หรืออ่านแล้วถ้าไม่ถูกใจก็ข้ามๆไปนะครับ ขออภัยไว้ล่วงหน้าสำหรับอะไรก็ตามที่อาจจะผิดพลาดหรือไม่โดนใจจากบทความนี้
แต่ยืนยันว่าตั้งใจเขียน และเขียนจากประสบการณ์จริงและหวังดีจริงๆ

ขอบคุณครับ วันหลังถ้านึกอะไรออกจะมีเขียน part 2 ต่อ.....




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 25, 2017, 11:54:06 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #514 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2014, 03:54:06 pm »


บรรยากาศจัดส่ง Klipsch Subwoofer THX KW120

จัดส่ง Klipsch Subwoofer THX KW120 สองตัว และแอมป์ KA100 หนึ่งตัวไปให้ลูกค้าที่บางแคครับ
 
ตัวนี้บอกเลยว่า เรามองข้ามมันว่าหน้าตาเชยๆ เป็นซับ Passive เฉิ่มๆ แต่พอได้มีโอกาศลองใช้มันแล้ว เฮ้ยยย มันดีมากกๆๆๆ
ซับไม่ต้องเสียบปลั๊ก ต่อสายลำโพงจากแอมป์ KA1000 มาเข้าแล้วใช้งานได้เลย บึกบึน ทนทาน ใช้ง่าย
และที่สำคัญเสียงดีมากกๆๆ ไม่ใช่ซับที่เสียงหนักอย่างเดียวเหมือนที่เคยคิดไว้
 
แต่มันเป็นซับที่ให้เสียงสไตล์ดูหนังที่ นุ่ม ลึก หนัก บทโหมกระหน่ำก็ซัดได้ สเกลใหญ่โตมโหฬาร ยามเงียบๆสุภาพ ก็มีเบสมาคลอเป็นฐาน คอยเสริมให้ย่านอื่นชัดเจน น่าฟังมากยิ่งขึ้น
 
ผมไม่เคยใช้คำว่าดีที่สุด หรือชมว่าตัวไหนดีพร่ำเพรื่อ (ตัวที่ลองแล้วไม่ดี ก็ไม่ขอเอ่ยถึงหรือวิจารณ์ละกัน ขี้เกียจโดนฟ้อง) แต่อยากจะบอกเลยว่า Klipsch THX Subwoofer มันดีจริงๆ สำหรับคนที่รักการดูหนัง
 
ราคา Klipsch KW120: http://www.whatthatsound.com/product/45/klipsch-kw-120-thx-subwoofer
 
ราคา Klipsch KA100: http://www.whatthatsound.com/product/46/klipsch-ka-1000-thx-amplifier
























« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 26, 2017, 11:01:34 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #515 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2014, 07:27:13 pm »


จัดส่ง Power Amp Marantz MM7025 เป็นเพาเว่อร์แอมป์ราคาประหยัด ย่อมเยาว์สุดๆเพียงสองหมื่นกว่าบาท สองแชนแนลกำลังขับ 140 วัตต์ต่อแชนแนลไปให้ลูกค้าที่บางนาครับ

สำหรับใครที่อยากจะหาเพาเว่อร์มาช่วยแบ่งเบาภาระของ avr  นำมาขับคู่หน้า และใช้ลำโพงตัวเล็กๆไม่โหดนัก เปิดใช้งานไม่โหด ไม่ได้เร่งดังมาก ตัวนี้เป็นอีกตัวที่คุ้มค่าและน่าลงทุนครับ นอกจากจะลดโหลดและภาระของ AVR หลักแล้ว ยังทำให้แชนแนลอื่นๆเช่นเซ็นเตอร์ และเซอราวด์ทำงานได้ดีขึ้น เพราะไม่ต้องโหลดกับคู่หน้าด้วยครับ

ราคา Marantz MM7025: http://www.whatthatsound.com/product/520/marantz-mm7025










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 29, 2017, 07:15:43 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #516 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2014, 09:29:17 pm »


จัดส่งลำโพง Klipsch RP250F ลำโพงตั้งพื้นรุ่นเริ่มต้นของ Klipsch Reference Premier ไปให้ลูกค้าที่แถวฟารืมจระเข้ (เหนือกว่านี้ยังมี RP260F, RP280F)   หากใครชอบดูหนัง งบประมาณกลางๆ ไม่มากไม่น้อย พื้นที่จำกัด แต่ยังอยากได้ลำโพงตั้งพื้นเพราะอยากได้ปริมาณเบสและไม่อยากหาขาตั้งมาใช้  
Klipsch RP250F เป็นอีกตัวที่น่าใช้และคุ้มค่าคุ้มราคามากครับ  เพราะเป็นลำโพง Home audio ที่ให้เสียงในการดูหนังสนุก แถมยังขับง่ายอีกด้วย  ไม่ต้องพะวงว่าใช้ลำโพงตั้งพื้นแล้วจะขับไม่ออก

แม้แต่ AVR ของ onkyo in the box ก็ยังสามารถอัพลำโพงมาใช้ตัวนี้ได้  เพราะขับง่าย และยังให้เสียงดูหนังที่ยอดเยี่ยมขึ้นเยอะอีกด้วยครับ

ราคา Klipsch RP250F: http://www.whatthatsound.com/product/14/klipsch-rp-250f








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 29, 2017, 10:41:09 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #517 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2014, 09:05:58 am »
บรรยากาศการจัดส่ง SVS SB2000 ซับตู้ปิดตัวเล็กเสียงดี



วันก่อนลูกค้าสั่ง SVS SB2000 ไปตัวนึง  ติดตั้งเสร็จแล้วลูกค้าก็ส่งรูปซิสเต็มสวยๆมาให้เราชมกัน  เป็นชุดในห้องนั่งเล่นที่สวยและลงตัว

==================================
อ่านบทความนี่เต็มๆได้ที่นี่: https://goo.gl/eBzIDd
==================================

โจทย์คือลูกค้าต้องการซับเล็กๆสักตัว เสียงดี และไม่ต้องการเสียงตู้มตามจนเยอะเกินไป  ซึ่ง SB ตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี สำหรับคนที่ห้องเล็ก ห้องคอนโด หรือห้องที่ไม่ได้ต้องการเบสตูมๆ
นอกจากเสียงดี ได้ทั้งดูหนังและฟังเพลงแล้ว ยังสวย ตัวตู้สีเปียโนไฮกลอสน่าใช้มากครับ

 สุ้มเสียงของซับ SB2000 ตู้ปิดตัวนี้แนวเสียงคือ เบสสะอาด กระชับ เร็ว ไม่แผ่ ใครชอบแผ่ๆไป paradigm เลยจ้า  เบสกำลังดี เบสออกแนวสุภาพ ไม่ได้บ้าพลัง  แต่ได้ลูกสะอาด กระชับ และลูกหนักๆก็มีมาให้ได้สะใจกัน  เหมาะกับห้องที่เล็กหน่อย ไม่ใหญ่มาก 

หน้าปัดด้านหลังเป็น analog หมุน จะไม่เหมือนกับรุ่นพี่ SVS SB13, 16 ultra ที่จะเป็นหน้าปัด digital มาให้  ผิวลำโพงไฮกลอสเปียโนสวยงามสมคำร่ำลือจริงๆ

เป็นซับอีกตัวที่ทำได้ดีทั้งดูหนัง และฟังเพลง เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่ชอบเบสล้นๆ เยอะๆหนักๆ แต่ชอบเบสแบบธรรมชาติ กระชับสะอาด ใช้ประจำการทั้งดูหนังและฟังเพลงได้ แถมตัวตู้เล็กกระทัดรัด ใช้ประดับบ้านได้ ยกง่าย เคลื่อนย้ายง่าย แต่ไม่เดินได้เหมือนซับบางตัว

สรุป เป็นซับผู้ดีที่โหดได้ ยามปกติก็เป็นซับที่สงบเสงี่ยม สุภาพ สะอาด กระชับ
ก็เป็นอีกตัวที่ควรจะพิจารณาสำหรับใครที่หาซับเสียงดีๆ สักตัวครับ

ราคา SVS SB2000: http://www.whatthatsound.com/product/319/svs-sb-2000
















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 01, 2017, 03:32:04 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #518 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2014, 12:42:47 pm »


จัดส่งขาตั้งคู่หน้า FC-5 ไปให้ลูกค้าที่ฉะเชิงเทรา
ตัวนี้ลูกค้าใช้วางลำโพง Klipsch R15PM  วางพอดี นิ่ง มั่นคง และอยู่ระดับที่พอเหมาะกับการนั่งฟังครับ


ราคา FC-5: http://www.whatthatsound.com/product/136/stand-front-fc-5




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 01, 2017, 04:02:05 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #519 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2014, 04:11:47 pm »


จัดส่ง Pioneer SC-LX79 AVR รุ่นรองท๊อปของปัจจุบันให้ลูกค้าจากจันทบุรี (อุตส่าห์ขับมารับเองจากจัน) โทรมาตอนเช้า บ่ายรับของไป ยกขึ้นท้ายรถ แล้วขับกลับทันที  จริงๆให้ส่งให้ก็ด้ายยยยยย

LX79 รองรับ 9.2 แชนแนล ราคาปกติ 49,900 บาท  ตอนนี้ลดกระหน่ำเหลือเพียง 34,900 บาท  ถูกแบบสุดๆ ใครจะขายมือสองตัวนี้น้ำตาตกในกันเลยทีเดียว  เพราะมือหนึ่งลดลงมาตัดราคาชนิดว่าถูกกว่ามือสองกันแล้ว

สำหรับใครที่หา avr รุ่นใหญ่ กำลังดีๆ เสียงดุๆ ดูหนังมันๆ ตัวนี้บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง รับรองว่าราคานี้ไม่มีอีกแล้วครับสำหรับรุ่นใหญ่รองท๊อปแบบนี้    เหมาะกับลำโพงระดับกลางและใหญ่ระดับนึงก็ยังเอาอยู่  ถ้าจับกับ klipsch เสียงจะดุดันและเหมาะกับการดูหนังมากๆครับ

ราคา Pioneer SC-LX79: http://www.whatthatsound.com/product/325/pioneer-sc-lx79












« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 01, 2017, 04:41:01 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #520 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2014, 05:57:20 pm »



จัดส่ง SVS PB16Ultra ซับตู้เปิดขนาดดอก 16 นิ้วไปให้ลูกค้าที่บางนาครับ (ลูกค้าไม่ประสงค์เปิดเผย) รูปทั้งหมดใช้รูปแทน

ตัวนี้ผมไม่ได้ไปส่งเอง แต่ให้คนไปส่งให้ เนื่องจากยกไม่ไหวครับ หนักเกิน ตัวซับหนักประมาณ 80 กิโลกรัม ยกสองคนยังไม่ไหว หลังจะเสียเอา ตัวตู้เป็นสีไฮกลอสเปียโนเงาสวยมากๆๆๆ มีช่องลมด้านหน้า 3 ช่อง (รหัส PB = Port = ตู้เปิด) ถ้าเป็นตู้ปิดจะเป็น (SB = Seal = ตู้ปิด)

ตัว SVS PB16 Ultra เป็น Active ซับ มีแอมป์ในตัวเลย สามารถเอาไปเสียบกับ AVR , Pre หรือ Int amp หรือแม้แต่เสียบใช้กับคอม หรือเสียบกับลำโพงแอคทีฟ ลำโพงคอมเช่น KEF LS50 Wireless, Klipsch R15PM ได้เลย เพราะตัวซับจะรับแค่สัญญาณความถี่ต่ำมา และมีแอมป์ มีกำลังในตัวเสียบปลั๊กใช้งานได้

ซึ่งจะไม่เหมือนกับซับ Passive เช่น Klipsch THX ที่ไม่มีแอมป์ในตัว แต่จะใช้แอมป์มาขับ และไม่ต้องเสียบปลั๊กที่ตัวซับ

ตัว PB16 Ultra ให้กำลังเฉลี่ยที่ 1500 วัตต์ พีคที่ 5000 วัตต์
ใช้ดอก 16 นิ้ว, Voice coil ใหญ่ 8 นิ้ว
ในกล่องมีหน้ากาก (Grill) และมีฟองน้ำสำหรับอุดรูเพื่อจูนเสียงให้มาด้วย
เรื่องเสียงนั้น ก็หนักและลงลึกได้ถึง 13 Hz (หูคนเราเริ่มไม่ได้ยินความถี่ต่ำที่ต่ำกว่า 18-20 Hz ลงมา) ลงได้ลึกมากๆๆครับสำหรับซับบ้านระดับราคานี้

แนวเสียง จุดเด่ฃนคือเบสที่เยอะ หนัก และเบสลึกๆที่ทำได้ลึกจริงๆ พาเราจมดิ่งไปในห้วงแห่งเบสได้แบบสุด ข้อด้อยก็อาจจะเป็นตู้เปิด เบสต้นอาจจะเซ็ทยาก และกระชับเท่าตู้ปิดไม่ได้ แต่ก็แลกมากับความหนัก กำลัง และสามารถลงได้ลึกมากๆ ถ้าใครชอบซับที่แผ่หน่อยๆ ไม่ห้วนเกินไป ตัวนี้ใช่เลยครับ




ราคา SVS PB16 Ultra: http://www.whatthatsound.com/product/479/svs-pb16-ultra



























« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 02, 2017, 11:44:39 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #521 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2014, 09:24:53 pm »


ข้อคิดเรื่อง Matching เรื่องเล็กๆที่ต้องใส่ใจ

วันนี้ผมมีโอกาศไปฟังลำโพง Klipsch THX ที่ห้องฟังของลูกค้าท่านนึง  ผมเข้า
ไปฟังได้ไม่นานครับ แป๊ปเดียว ก็ต้องขอตัวกลับออกมาเพราะจะไปธุระต่อ แต่แค่ได้ฟังแค่แป๊ปเดียวนั้น ผมกลับได้อะไรติดมือมาค่อนข้างเยอะ (ไม่ใช่ฉกสายไฟลูกค้ามานะ)  กล่าวคือ ห้องลูกค้าทำไว้ดีมาก บุผนังไว้ ฝ้าเพดานมีดาวด้วย และเสียงของซิสเต็มนั้นก็ฟังสบาย ไม่ล้าหู บาล้านดีมากๆ ให้บรรยากาศโรงหนังที่น่านั่งดูหนัง ดูได้นาน สนุก และได้อารมณ์ ไม่เครียดเค้นจนมากไป สมราคาค่าตัวของชุดลำโพงครับ

แต่สิ่งที่ทำให้ผมอยากเขียนบทความนี้ก็คือ  คนเราย่อมปรุงแต่งอาหารตามใจลิ้นฉันใด ก็ย่อมปรุงแต่งเครื่องเสียงตามใจรสนิยมและความชอบฉันนั้นครับ
คำกล่าวนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด เพราะลำโพง THX ที่ผมคุ้นเคยนั้นสุ้มเสียงมันจัดจ้าน ดุดัน และพุ่งสดกว่านี้เหลือคณานับ  แต่สิ่งที่ได้ฟังในบ้านของลูกค้าท่านนี้ ทำให้ผมคิดว่า  ลำโพงหนึ่งชุด หากเราเอาไปตั้งต่างสถานที่ ต่างห้อง ต่างอคูสติกกัน เครื่องเคราอุปกรณ์ต่างกัน เสียงย่อมออกมาต่างกัน เป็นไปได้ตั้งแต่ต่างกันนิดหน่อยไปจนจำเสียงแทบไม่ได้ว่านี่คือลำโพงตัวเดียวกันจริงหรือนี่   คำตอบสุดท้ายที่ตอบคำถามทั้งหมดก็คือคำว่า "แมทชิ่ง" ครับ  แมทชิ่งอย่างไรให้เสียงมันออกมาตรงใจและตอบโจทย์รสนิยมของเราให้ได้มากทีสุด

** ลำโพง Klispch THX เป็นลำโพงอีกตัวที่เสียงเปลี่ยนไปตามอุปกรณ์ แอมป์ และห้องที่ใช้ได้แบบไม่น่าเชื่อ เป็นลำโพงที่ Sensitive ต่ออุปกรณ์รอบข้างอย่างมากๆ  เราสามารถจูนให้มันกลายเป็นเสือร้ายดุดัน น่ากลัวจนเด็กไม่กล้าฟัง  หรือเราก็สามารถปรุงแต่งมันให้ออกมาอ่อนหวาน ฟังง่าย สบายใจ เป็นซิสเต็มที่ให้เสียงและโทนน่าฟังได้เช่นกัน

นี่แค่บ้านนักเล่นเท่านั้นนะครับ  นับประสาอะไรกับร้านค้าที่มีห้องลอง ที่ผ่านการปรุงแต่ง จูนเสียงด้วยอุปกรณ์ต่างๆ เสียงที่ได้ย่อมแตกต่างออกไปอีก
ลำโพงตัวนึงจับกับแอมป์ตัวนึง ก็เสียงออกไปแบบนึง จับกับปรีตัวนึงก็ไปอีกทาง เส้นสาย และห้องอีก หลายปัจจัยมากมายเกินจะนับไหวที่ทำให้เสียงของซิสเต็มนั้นๆถูกปรุงแต่งและยำออกมาเป็นเสียงที่คุณชอบ



แล้วเสียงมันต่างกันยังไงละในแต่ละห้อง
คำตอบคือ เสียงมันก็เป็นไปตาม taste หรือรสนิยมของเจ้าของห้องนั้นละครับว่าอยากได้เสียงแนวไหน  ซึ่งตรงนี้ผมค่อนข้างจะโชตดีกว่าคนอื่นหน่อยที่มีโอกาศได้ฟัง ได้ลองเยอะหน่อย เลยทำให้ค้นหาตัวเองได้ว่า เฮ้ยจริงๆแล้วเสียงทุกเสียง ทุกห้องมันไม่มีห้องไหนเสียงแย่  แต่มันมีแค่เสียงห้องไหนที่เราชอบ กับไม่ชอบ  และห้องไหนถูกรสนิยมเราหรือไม่ ก็แค่นั้นเอง

ซึ่งพอฟังหลายๆห้องผมก็พอจะรู้ว่า หากอยากได้เสียงแนวนี้ ต้องใช้อุปกรณ์แบบไหน ปรีตัวไหน power ตัวไหนถึงจะปรุงให้เสียงมันออกมาตามจริตของผู้ลงทุนและเจ้าของห้อง  ซึ่งตรงนี้มันต้องฟังอย่างเดียวจริงๆครับ มันไม่มีตาราง excel บอกว่ายี่ห้อนี้ ผสมยี่ห้อนี้แล้วมาไว้ในห้องกว้างขนาดนี้แล้วจะได้ออกมาแบบนี้

ซึ่งตรงนี้ส่วนตัวผมยอมรับว่าเป็นคนชอบเสียงค่อนข้างจัด หนัก แนวดูหนัง สดๆ สะใจ ซึ่งมันเป็นความชอบส่วนตัว  บางทีคนที่คร่ำหวอดในวงการก็จะบอกว่าผมเนี่ยเซ็ทเสียงออกมาแล้วมันล้นนะ  ที่ถูกมันควรจะแฟลท และเรียบกว่านี้ กลางแหลมควรจะเท่านี้ เบสควรจะลดลงมาเท่านี้ ก็ถูกครับ  แต่เราไม่ชอบเราอยากฟังแบบที่เราชอบ สุดท้ายมันก็จะปรับ จะจูนด้วยเส้นสาย ด้วยการเซ็ทอัพ ด้วยตำแหน่ง ด้วย level อะไรทั้งหลายแหล่ให้มันออกมาในแบบที่เป็นตัวเราที่สุดอยู่ดี   จนสุดท้ายลูกค้าผมส่วนใหญ่ที่ชอบในแนวเดียวกัน และไว้ใจให้ดูแลและแนะนำการแมทชิ่งก็จะได้ชุดที่แนวเสียงที่มีบุคลิกหรือ DNA ในแบบคนที่แนะนำติดไปด้วยไม่มากก็น้อย (ลูกค้าผมหลายคนที่ชอบในแนวเสียงคล้ายๆกันก็จะได้ชุดแนวเสียงโหดๆ ดูหนังมันๆแบบนี้ไปเช่นกัน ซึ่งก่อนจะเริ่มจัดชุดก็ต้องถามแนวเสียงที่ชอบและเครื่องและอุปกรณ์เดิมที่ใช้กันก่อนว่าใช้อะไร ชอบมั๊ย และอยากได้หรือขาดอะไร )  ซึ่งตรงนี้ถ้าเลือกผิด มันคือผิดเลย อุปกรณ์ที่มีผลต่อเสียงสูงสุดสองอย่าง (ไม่นับห้อง) คือลำโพงและแอมป์ (Power+Pre / AVR) แมทชิ่งอุปกรณ์หลักๆ 2-3 อย่างนี้ให้ได้ลงตัว แล้วอย่างอื่นที่เหลือแนวเสียงมันจะเป็นไปตามอุปกรณ์หลักนี้เองครับ




และข้อเท็จจริงที่น่าสังเกตอีกข้อก็คือ คุณเคยสังเกตมั๊ยครับว่าร้านแต่ละร้าน หรือแม้แต่คนที่เป็นผู้ให้คำแนะนำการแมทชิ่งซิสเต็มให้กับลูกค้าแต่ละคนก็จะมีสไตล์ของตัวเอง ไม่มีใครเหมือนกัน (ตรงนี้ไม่ได้บอกว่าใครผิดหรือถูกนะ)  สไตล์ที่ว่าก็คือ บางร้านหรือบางคนก็มักจะจัดชุดหรือแนะนำชุดให้ลูกค้าไปทางด้านใดด้านหนึ่งที่ทางร้านชอบหรือถนัดเสมอ  เช่นคนที่ชอบฟังไปทางแฟลทๆ ละมุนก็จะจัดชุดไปทางนั้น เบสหรือซับก็จะแนะนำให้น้อยกว่าที่ห้องรับได้เสมอ

ส่วนบางร้านบางคนก็อาจจะชอบสไตล์โหดๆ ก็มักจะจัดชุดหรือแนะนำซิสเต็มไปทาง over เสมอ เช่นกำลังที่เอามาขับลำโพงต้องเน้นมากกว่า ซับหรือเบสจะเน้นให้ค่อนไปทางมากกว่าห้องนิดๆ  และโทนเสียงของแอมป์ หรือปรีก็มักจะจัดไปทางนั้น

ซึ่งสไตล์แต่ละสไตล์ตรงนี้ มันลอกเลียนแบบกันไม่ได้ครับ เป็นเรื่องปัจเจก เป็นเรื่องรสนิยมและความชอบ    คนที่ชอบนุ่มๆจับมาฟังซิสเต็มเสียงจัดๆ ฟังแป๊ปเดียวเค้าก็ลุกหนี  หรือคนที่ชอบซิสเต็มโหดๆ พอมาฟังซิสเต็มนุ่มๆเนียนๆ ฟังแป๊ปๆก็นั่งหาว อยากจะนอน

ดังนั้นหากคุณเป็นมือใหม่และอยากจะจัดชุด เราอยากให้สนใจเรื่องการแมทชิ่งให้มากๆพอๆกับชุดซิสเต็ม ไม่ใช่ว่าจัดแต่ของแพง แต่ลืมคำนึงถึงความชอบของตัวเรา  ตอบตัวเองให้ได้ว่าชอบแบบไหน แล้วจัดชุดแบบนั้นออกมาให้ได้ ชุดนั้นจะเป็นชุดที่คุ้มค่าเงินมากกว่าชุดแพงๆที่ไม่ตอบโจทย์เราเสียอีก

อย่าคิดว่าเครื่องแพงแล้วจะดีเสมอไป เพราะบางทีการเอาไข่ปลาคาเวียร์มาวางให้คนที่อยากกินส้มตำหรือน้ำตกมันอาจไม่ถูกใจเท่าอาหารที่เค้าอยากจะกิน
ปรุงอาหารตามใจปาก ก็ต้องปรุงเสียงให้ตามใจผู้ฟังด้วยเช่นกันครับ






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 06, 2017, 05:26:20 pm โดย keamglad »