ผู้เขียน หัวข้อ: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Procella , SVS, Anthem, Parasound,Audyn  (อ่าน 329285 ครั้ง)

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #522 เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2014, 09:07:02 am »


จัดส่ง klipsch CDT 5800 C II ลำโพงแบบฝังฝ้าไปให้ลูกค้าที่นนทบุรีครับ

ไปถึงบ้านลูกค้า ต้องขอบ่นนิดนึงว่า พอส่งของปุ๊ปเจ้าของบ้านตัวจริงก็ออกมาจากในบ้านแล้วขึ้นไปนั่งทับแสดงความเป็นเจ้าของ และหันมามองหน้ากวนๆใส่ผมแบบนี้แหละครับ รู้สึกหมั่นไส้มากๆ อิอิ

ตัวนี้เป็นลำโพงฝังฝ้าความไวสูงจาก Klipsch  ขนาดดอก 8 นิ้วสำหรับห้องและลำโพงในระบบที่มีขนาดใหญ่ ทำจาก cerametallic cone woofer สีทองแดง  เหมาะกับระบบ Atmos  และที่สำคัญตัวทวีตเตอร์ปรังเอียงองศาได้ตามต้องการ

ก่อนกลับก็ได้มีโอกาสฟังซิสเต็ม Klipsch THX 7.1.4  ของลูกค้าด้วย  เสียงดีสมคำร่ำลือจริงๆ และโดยเฉพาะห้องฟังของลูกค้านั้นอลังการมาก บรรยากาศน่าดูหนังสุดๆ ปิดไฟแล้วมือสนิท ฟังสบาย ดูหนังเพลินครับ

ราคา klipsch CDT 5800 C II: http://www.whatthatsound.com/product/258/klipsch-cdt-5800-c-ii










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 06, 2017, 06:01:58 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #523 เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2014, 12:54:00 pm »


จัดส่ง Klipsch R15M ลำโพงบุ๊กเชลฟ์รุ่นเล็ก ในซีรี่ย์เริ่มต้นของ Klipsch อย่าสับสนกับ RP150M นะครับ อันนั้นจะเป็นซีรี่ย์สูงกว่า
และก็อย่าสับสนกับ R15PM นะครับ อันนั้นเป็นลำโพง Active ไม่ต้องใช้แอมป์

ส่วน R15M เป็นลำโพงบุ๊กเชลฟ์แบบ passive ใช้แอมป์ขับ ใช้ทำคู่หน้าก็ได้ ใช้ทำเซอราวด์ก็ได้ ใช้แขวนทำลำโพง atmos ก็ได้ หรือจะใช้ต่อฟังเพลงในระบบ 2 ch ก็ได้เช่นกัน ราคาย่อมเยาว์เข้าถึงได้ง่ายมากๆครับ 

แนวเสียงกลางๆ ฟังง่าย อุ่นๆ นุ่มๆ ไม่จัดจัดจ้านเหมือนรุ่นพี่ครับ

ราคา Klipsch R15M: http://www.whatthatsound.com/product/171/klipsch-reference-r-15m










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 06, 2017, 06:37:11 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #524 เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2014, 03:50:32 pm »


จัดส่ง SVS SB13 Ultra มือสองสภาพใหม่กริ๊ปสุดๆ อายุ 7 เดือนไปให้ลูกค้าที่รังสิตครับ
ตัวนี้แนวเสียงกระชับ ฉับไว แน่น เบสต้นดี เจ้าของเดิมที่ปล่อยเพราะอยากได้ซับโหดๆ เบสเยอะๆ แผ่กว่าตัวนี้ จึงจะไป PB13 Ultra
ส่วนเจ้าของใหม่ก็อยากได้ซับเร็วๆกระชับๆ แน่น สะอาด ไม่แผ่  ความต้องการลงตัวและได้แฮปปี้ทุกฝ่าย

ปล. SB13 Ultra ตัวนี้เป็นซับที่ดีมากๆๆๆ ตัวนึงเลย ผมชอบครับ แนวเสียงแน่น สะอาด โหด ดุ เบสต้นดี เร็ว จะขาดก็แค่ลูกแผ่ และเบสลึกๆที่ทำสู้ตัวอื่นไมไ่ด้ แต่ซับตัวอื่นที่ทำตรงนี้ก็จะขาดในสิ่งที่ S13 Ultra ทำได้เช่นกัน

ซับทุกตัวในโลกไม่มีตัวไหนที่สมบูรณ์พร้อมครับ จงเลือกซับที่ตรงกับจริตและรสนิยมของคุณ   

ราคา SVS SB13 Ultra (ของใหม่่) : http://www.whatthatsound.com/product/320/svs-sb-13ultra


















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 06, 2017, 07:56:11 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #525 เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2014, 10:27:41 pm »


จัดส่งซับ SVS SB16 Ultra ไปให้ลูกค้าที่จังหวัดกระบี่ครับ

ตัวนี้จัดส่งวันเดียวลงใต้ง่ายๆปลอดภัย วันเดียวถึง แกะกล่องติดตั้งกันไปแล้ว โดยซิสเต็มลูกค้าประกอบด้วย M&K S3300
ซับในห้องมี JL F113 2 ตัว มี rel S5 4 ตัว (ต่อ Hi level)
และน้องใหม่สดๆร้อนๆ SB 16 Ultra ตัวนี้ไปเสริมความถี่ต่ำครับ สรุปว่าใช้ซับทั้งหมดจริงๆแล้ว 3 ตัว

แต่เดิมลูกค้าใช้ SVS PB13 Ultra อยู่ เปลี่ยนมาเป็น SB16 Ultra ด้วยเรื่องการเซ็ทอัพที่ SB16 ทำได้ง่ายกว่า และเซ็ทให้กลมกลืนกับซับตัวอื่นในห้องได้ง่ายกว่าด้วยครับ   รวมถึงบุคลิกเบสที่ตู้ปิด (SB) จะให้เบสที่เร็ว หนัก กระชับ ปรับง่าย ตรงกับแนวเสียงที่ลูกค้าต้องการครับ

ราคา SVS SB16 Ultra: http://www.whatthatsound.com/product/480/svs-sb16-ultra






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 06, 2017, 09:00:10 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #526 เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2014, 09:15:44 am »
บรรยากาศจัดส่ง SVS PB13 Ultra ยักษ์ใหญ่จอมโหด




จัดส่ง SVS PB13 Ultra มือสองตัวนี้ให้ลูกค้าที่รังสิตครับ ตัวนี้ถูกส่งมาไกลจากกระบี่ ตอนเราไปรับของก็ตกใจกับขนาดกล่องว่าตรูยกจะเอาเข้ารถยังไง (ว่ะ) แถมตอนยกขึ้นรถกับพี่เจ้าหน้าที่นั้นแกดันเกือบลื่นหลุดมือด้วยซ้ำ เฮ้อออ ดูสภาพเอาว่า ด้านหลังรถ Mid size SUV ทั่วๆไปที่มีขายในบ้านเรายังใส่แล้วสภาพแทบจะมิดคัน ถ้าใครใช้ Compact อาจจะใส่รถไม่ได้ครับ ไม่งั้นก็ต้องกระบะไปเลย

ขนขึ้นรถได้ก็ขนไปไปส่งบ้านลูกค้าที่รังสิตกันเลย ไปถึงยกลง แกะกล่อง แล้วก็ยกเข้าห้องฟังที่อยู่ชั้นสอง
SVS PB13 Ultra ใช้ดอก 13.5 นิ้ว ลงลึกได้ 14 Hz
น้ำหนักตู้ประมาณ 68 กิโลกรัม ใช้แอมป์ในตู้ขับ 1000 วัตต์

ลองต่อ ลองฟังเสียง
โอ้โห อภิมหาเบส เบสเยอะจริงๆ โครมครามสุดๆ หนักแบบต้องร้องขอชีวิต สะใจแน่ๆสำหรับใครที่ชอบเบสเยอะๆ
เซ็ทยากหน่อย ต้องตั้งใจเซ็ทดีๆหน่อย แล้วผลลัพธ์ที่ได้ ถ้าเซ็ทลง (ลงตัวไม่ใช่ลงกล่องหรือลงเหว) รับรองว่าสวรรค์ของการดูหนัง เพราะเบสที่แผ่มานั้นมหาศาล หนักสุดๆ



System ลูกค้า
Yamaha RX-A3060
Power Adcom 7705
Klipsch RP280F
Klipsch RC64 II
Klipsch RF52 II
SVS PB13 Ultra
SVS PB12 Plus


ราคา SVS PB13 Ultra มือหนึ่ง: http://www.whatthatsound.com/product/322/svs-pb-13ultra



















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 08, 2017, 10:02:05 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #527 เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2014, 12:57:58 pm »
SVS Prime ของดี ราคาย่อมเยาว์ที่ถูกลืม



วันก่อนเราได้มีโอกาศไปส่ง SVS Prime Bookshelf และ Prime Center ให้ลูกค้าที่ลาดพร้าวมาครับ  ซึ่งถ้าจะนับซีรี่ย์และลำดับของลำโพง SVS นั้นก็ต้องบอกว่า SVS สร้างชื่อเสียงในระดับโลกรวมถึงในบ้านเรามากับ ซับวูฟเฟอร์มาเป็นหลัก ด้วยบุคลิกที่หนัก และบ้าระห่ำสุดๆ  แต่ทว่าบ้านเรากลับไม่ค่อยมีใครสนใจและลืมไปว่า SVS นั้นยังผลิตลำโพงด้วย และชื่อเสียงในเมืองนอกนั้นก็ต้องบอกว่า คุณภาพและชื่อชั้นนั้นไม่เป็นรองใครเลยในระดับราคานี้

------------------------------------------------------
อ่านบทความนีเต็มๆได้ที่่นี่: https://goo.gl/ryiRVT
------------------------------------------------------

ไลน์ผลิตภัณฑ์ของลำโพง SVS  จะเป็นดังนี้ครับ

---------------------------------------------------
1. SVS Prime Sattellite
 2. SVS Prime Series

      - Prime Bookshelf
      - Prime Center
      - Prime Floorstand
 3. SVS Ultra Series
      - Ultra Bookshelf
      - Ultra Center
      - Ulra Floorstand
----------------------------------------------------




ประมาณนี้ครับ โดยตัวเล็กสุดจะเป็นชุด Sattellite และระดับกลางก็จะเป็น Prime นี้แหละครับ โดยมีรุ่นเรือธงคือ Ultra
วันนี้ได้ฤกษ์และได้รับเกียรติจากลูกค้าให้แกะกล่อง SVS Prime 2 ตัวด้วยกันได้แก่ Prime Bookshelf และ Prime Center
หลังจากแกะออกมา และลองต่อฟังกันแล้วก็ขอสรุปสาระสำคัญเป็นประเด็นสำคัญย่อๆเพื่อความกระชับดังนี้ครับ

1. งานประกอบ  ขอบอกว่าตอนแกะออกมาและเห็นงานประกอบแล้วตกตะลึง คือดี ดีมาก ดีที่สุดในระดับราคานี้จะไม่สามารถหาลำโพงอะไรที่งานประกอบเลิศเลอ เรียบร้อย และดูหรูหราไฮโซ ผสมปนกับดุดันได้ขนาดนี้อีกแล้ว  ลองสังเกตตัวตู้มีการลบเหลี่ยมมุมทุกด้าน และตัวตู้ลำโพงก็ไม่ได้ทำมาเป็น 4 เหลี่ยมทื่อๆ มีเหลี่ยมมุมป้านที่ตัวตัวในบางมุม แถมผิวลำโพงเป็นเปียโนไฮกลอสเงาวับ หรูหราได้อีก  ยังไม่พอกับตัวตู้มีสกรีนคำว่า SVS เพิ่มความเท่ที่หน้าลำโพง และตระแกรงกั้นตัวทวีตเตอร์ก็ดูสวยงามดุดันและดูมีราคาด้วยครับ
ด้วยงานประกอบแบบนี้บอกตรงๆว่ายกนิ้วให้เลย

2. แนวเสียง ทั้งลำโพงบุ๊กเชลฟ์ และลำโพงเซ็นเตอร์ที่เราแกะกล่องออกมานั้น เราจัดการเอาตัวเก่าออก (Klipsch RP150M, RP440C) และเอา SVS Prime Bookshelf, Prime Center ใส่แทน  แนวเสียงของ SVS Prime จะเป็นแนวดูหนังครับ  คือดุดัน สไตล์อเมริกัน แต่แนวเสียงจะต่างกันกับ Klipsch ตรงที่ว่าจุดเด่นของ SVS ในซีรี่ย์ Prime  คือเสียงทุกย่านจะสมดุล และบาล้านกันพอสมควร  แต่มีจุดเด่นตรงย่านเสียงกลางเป็นพิเศษ เสียงกลางชัด เด่น เสียงแหลมละเอียดแต่ไม่บาดหู และไม่สดจนเกินไป  ย่านเบสมาแนวดูหนังคือแน่น กระชับ เร็ว ไม่ย้วย  เเบสเป็นแนวดุดัน สนุกๆ สไตล์อเมริกันนั่นแหละครับ ไม่ใช่แนวนุ่มๆลึกๆฟังสบายๆ ใสๆ เหมือนลำโพงในระดับราคานี้ทั่วๆไป
ถ้าให้พูดตรงๆก็คือลำโพงในระดับราคา หมื่นกว่าๆ ถึงสองหมื่นกว่าๆ ที่ให้แนวเสียงดุๆฟังสนุกๆ ในบ้านเราที่ยังทำตลาดและหาซื่้อได้ตอนนี้ก็คงจะเหลืออยู่แค่ 2 ยี่ห้อนี้แหละครับ ก็คือ Klipsch และ SVS ส่วน paradigm นี่ก็ได้อยู่เพียงแต่อาจจะหาซื้อไม่ค่อยได้แล้ว




แนวเสียงของ SVS เป็นแนวดูหนังสนุกดุดัน แต่ไม่ซ้ำทางกับ Klipsch ที่จะมาแนวสด ชัด แหลมสดจัด  ส่วน SVS จะสมดุลในทุกๆย่านและเด่นที่ย่านเสียงกลางเป็นพิเศษ กลางแหลมฟังสบาย ผ่อนคลายกว่า เบสดีและไม่มากและไม่น้อยไป

 ข้อเสีย
ข้อเสียที่เจอคือผิวไฮกลอสสวยงามก็จริง แต่เป็นรอยมือง่ายมากๆ เอามือจับปุ๊ปเป็นรอยปั๊ป  และถ้าบ้านไหนมีฝุ่นเยอะๆแป๊ปเดียวก็ฝุ่นจับแล้วครับ พอฝุ่นจับผิวลำโพงแบบนี้ก็มองเห็นได้ง่ายมากๆ


 สรุป
SVS เป็นลำโพงนอกสายตาอีกแบรนด์ที่น่าสนใจมากกๆๆ  แนวเสียงนั้นมันทำให้ผมคิดไปว่า น้ำเสียงละม้ายคล้ายกับลำโพง Paradigm จากแคนาดาในซีรี่ย์ Studio + Monitor ผสมกัน คือมีความดุ และมีความสมดุลย์ เสียงไม่จัด แต่ทว่ายังรักษาเอกลักษณ์ของความดุดันในน้ำเสียงเอาไว้ได้อยู่
ผมว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวครับสำหรับใครที่อยากได้ลำโพงที่มีงานประกอบสวยจัดๆ เสียงดีๆ ดุดัน แต่ก็ไม่อยากได้ Klipsch และไม่ชอบทวีตเตอร์แบบฮอร์นที่อาจจะกัดหูและกระด้างเกินไปสำหรับผู้ดีอย่างเรา
SVS Prime ผิวเปียโนขับให้ภาพลักษณ์ของผู้ที่ครอบครองดูเป็นคนนอกกระแส คนชิคๆ คนที่ชอบม้านอกสายตาทว่าฝีเท้าจัดจ้าน  เป็นลำโพงที่เสียงดี แต่คนเล่นน้อย เจ้าของต้องคิดจะครอบครองและไม่ขายต่อ (เพราะขายยาก)




นี่คือลำโพงที่ไม่ต้องการการอวดศักดาว่าข้าแน่เหนือใครๆในเรื่องการดูหนัง แต่ตัวมันเองมีของดีที่เอาชนะลำโพงทุกตัวในย่านราคานี้ได้หมดแบบราบคาบ
จะมีที่เขม่นและกินกันไม่ลงก็อาจจะเป็น Klipsch ที่อาจจะเด่นไปคนละแนว และดีไปคนละอย่าง

หากคุณคิดจะครอบครองลำโพง SVS Prime หรือ Ultra สักชุด  ผมคิดว่ามันคือความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของลำโพงที่ราคาคุ้มค่าเงินที่สุดชุดนึง งานประกอบดีที่สุดในราคานี้ คุณภาพเสียงดีจนลืมไปเลยว่า เฮ้ยนี่มันลำโพงแค่หลัก 1-2 หมื่นเองนะ.....

ราคา SVS Prime :
http://www.whatthatsound.com/category/101/svs/svs-speakers


























« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 09, 2017, 10:19:12 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #528 เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2014, 04:46:56 pm »
บรรยากาศจัดส่งชุด Klipsch RF7 II ไปรามอินทรา กับลำโพงที่ไม่ได้มีดีแค่ใหญ่



-------------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆได้ที่นี่: https://goo.gl/WJGRse
-------------------------------------------------------------

วันก่อนลูกค้าท่านนึง สั่งของมาจากต่างประเทศบอกว่าอยากได้ Klipsch RF-7 II และ Klipsch RC-64 II และ Klipsch RP250S (Bipole) และ Klipsch RP150M (Bookshelf)  จะกลับมากรุงเทพคืนนี้ ให้ส่งของให้เร็วที่สุด
เราเลยส่งด่วนเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น 8.30 ออกเดินทางไปเคาะประตูบ้านลูกค้าเรียกลงมารับของกัน (ลำโพงใหญ่มาก ใส่รถกระบะก็จะเต็มแล้ว)

ซึ่งเดิมทีลูกค้าท่านนี้ถ้ามีใครอยู่ในแวดวงเครื่องเสียงน่าจะพอจำกันได้ เพราะชุดเดิมของลูกค้าก็เป็นชุด RF-7 II นี้แหละครับ เพียงแต่เมื่อหลายเดือนก่อน ลูกค้าขายยกชุดออกไป เพราะคิดว่าจะอัพไปชุด Cinema แทน  แต่จนแล้วจนรอดด้วยภาระงาน และอะไรหลายๆอย่าง ทำให้ยังไม่ได้อัพเสียที 
มาวันนี้ลูกค้าตัดสินใจสั่งลำโพงชุดเดิมเด๋ะๆ กลับมาอีกครั้ง ด้วยเหตผลเดียวก็คือ
"ยังรักและคิดถึงเสียงในแบบของ Klipsch RF-7 II และเสียงทวีตเตอร์ฮอรน์แบบนี้อยู่" 

จะว่าไปนั้น Klipsch RF-7 II และ Klipsch RC-64 II เนี่ยความพิเศษมันอยู่ที่ งานประกอบลำโพงทุกตัวมันถูกทำแบบ Hand craft คือถูกทำด้วยมือทุกชิ้น และทำในโรงงานที่อเมริกาด้วยไม่ใช่จีน  ส่วนงานผิวลำโพงนั้นเป็นผิวลำโพงแบบ Furniture grade ที่ลายลำโพงเป็นลายไม้จริงคนละแบบกับรุ่น RP (Reference Premier)   ความพิเศษมันไม่หมดตรงนั้นเพราะว่า  ด้วยความที่ผมเป็นคนขายลำโพง   เวลามีโอกาศได้ไปส่งหรือได้แกะกล่องเจ้า RF-7 II และ RC-64 II เนี่ย  ลึกๆผมก็ตื่นเต้นทุกครั้ง เหตุผลก็คือเจ้าลำโพงทั้งสองรุ่นที่ว่า ลายไม้ และผิวมันมีความพิเศษตรงลายมันไม่เหมือนกันสักตัวเดียวครับ บางตัวลายชัด ลายบางทีถี่และเยอะ บางทีลายน้อย  นี่คือสิ่งที่เป็นเสน่ห์อย่างนึงของงาน Hand Craft
และแน่นอนว่าที่เกริ่นมาแบบนี้ก็เพราะ เจ้าลำโพง RF-7 II ของลูกค้าท่านนี้มันมีความพิเศษราวกับเป็นตัว limited edition เลย เพราะแกะกล่องออกมาผมกับลูกค้าพบว่า ลายไม้ที่ตัวมันชัดมากๆ ชัดกว่าตัวอื่นที่เคยพบเห็นและเจอมามากมายนัก  ลายเหมือนเป็นลายพรางทหารเลยครับ ถ้าได้มาเห็นของจริงจะพบว่าสวยมากๆ  ลูกค้าเองก็บอกว่า RF-7 II ตัวก่อนที่ขายไปลายก็ไม่ชัดแบบนี้




ซิสเต็มของลูกค้าที่เอามาใช้ด้วยนั้นประกอบด้วย
 Pre : Anthem AVM60
 Power : Anthem MCA525, MCA225
 Subwoofer: SVS SB13 Ultra * 2

ส่วนซิสเต็มที่เอามาลงก็ประกอบด้วย
 Front : Klipsch RF-7 Ii
 Center : Klipsch RC*64 II
 Surround : Klipsch RP250S
 Surroud back : Klipsch RP150M




แนวเสียงตัว Klipsch RF-7 II และ Klipsch RC-64 II นั้นเดิมๆเนื้อแท้ของมันมีความไวและแปรเปลี่ยนไปตามอุปกรณ์หลักเช่น แอมป์และ Power ค่อนข้างมากครับ  แต่โดยเนื้อแท้ของลำโพงโทนเสียงมีความคม สด ชัด ย่านที่เด่นคือกลางแหลม  บางคนชอบแบบนี้ บางคนก็ไม่ชอบเพราะแหลมมันสด บางทีขึ้นขอบเป็นซ.โซ่ติดปลายนิดๆ แลกกับความชัดและรายละเอียด
ส่วนเนื้อเบสของ RF-7 II ที่ใช้ดอกขนาด 10 นิ้วนั้นเยอะจริงๆครับ  เป็นลำโพง Home Audio ที่ดูหนังมันด้วยตัวของมันเองง่ายๆ แค่ตั้ง แมทชิ่งดีๆ เซ็ทเสียหน่อย เสียงก็ดีแล้ว
เสียงของ RF-7 II นั้นแม้จะไม่ชัดเท่าลำโพงแนว Cinema แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงลำโพง Cinema มากๆแล้ว แต่ด้วยการออกแบบต่างกันทำให้ RF-7 II จะให้เบสที่มากและลงได้ต่ำกว่า 80 Hz 
ส่วนลำโพง cinema จะเน้นที่ความชัด ไดนามิค ความกว้าง ความสมจริงที่เหนือกว่า RF-7 II แต่เนื้อเบสนั้น Cinema จำเป็นต้องพึงซับวูฟเฟอร์และตัดที่ 80 Hz ตามมาตรฐาน THX ครับ

ประเด็นสำคัญอีกอย่างของคนที่หลงใหลในเสียงของลำโพง Klipsch ควรจะต้องใส่ใจก็คือ Klipsch เสียงแปรเปลี่ยนตามแอมป์และปรี หรือ AVR ค่อนข้างมาก  การจะจับ Klipsch กับแอมป์อะไร ควรจะดูความชอบของเราเป็นหลัก เพราะ Klispch จับกับแอมป์ตัวนึงก็ให้เสียงแบบนึง จับกับอีกตัวก็ให้เสียงต่างกันออกไป
ชุดของลูกค้านำไปใช้กับ power amp Anthem MCA525 และปรี Anthem AVM60
โทนเสียงของ Anthem เมื่อจับกับ Klipsch  เสียงทีไ่ด้จะบาล้านทุกย่าน ดุดัน โทนเสียงไม่สดเกินไป เสียงหนากำลังดี ลดแหลม   ฟังแล้วรู้สึกว่าไม่ล้าหู แต่ก็ไม่สดมาก  และนี่คือโทนของ Anthem ครับ

ชุดของลูกค้าท่านนี้ดูลงตัวครับ แม้จะเป็นห้องนั่งเล่นมีพื้นที่เปิด แต่ก็ใช้งานพื้นที่ได้คุ้มค่าและเสียงก็อยู่ในระดับที่ดีเลยทีเดียว



ราคา Klipsch RF-7 II: http://www.whatthatsound.com/product/7/klipsch-rf-7-ii-black

ราคา Klipsch RC-64 II: http://www.whatthatsound.com/product/22/klipsch-reference-rc-64-ii-black

ราคา Klipsch RP250S: http://www.whatthatsound.com/product/21/klipsch-reference-premier-rp-250s

ราคา Klipsch RP150M: http://www.whatthatsound.com/product/18/klipsch-reference-premier-rp-150m



















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 10, 2017, 11:36:23 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #529 เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2014, 08:24:02 pm »
บรรยากาศ Klipsch THX Demo ที่รามอินทรา



วันก่อนเรามีโอกาสได้เอา Klipsch THX ไปเดโมที่บ้านลูกค้ามาครับ เป็นโอกาสที่ดีที่ลูกค้าที่ไม่เคยฟังชุดลำโพง cinema เลยจะได้สัมผัสลำโพง Klipsch THX Ultra2 ตัวเป็นๆ และได้ฟังเสียงจริงๆจากระบบของลูกค้า อุปกรณ์ทุกอย่าง ห้อง อคูสติก ออกมาเป็นเสียงจริงๆที่ลูกค้าจะได้หากตัดสินใจซื้อลำโพงรุ่นนี้ไปใช้

-----------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆได้ที่นี่: https://goo.gl/kcxsY5
-----------------------------------------------------------

เพราะการไปฟังตามร้านหรือบ้านเพื่อน เสียงย่อมต้องมีไบแอส ไม่มากก็น้อย จับแนวเสียงไม่ได้ เพราะชุดก็ไม่เหมือนที่เราใช้ จะยกแอมป์ยกปรี ยกสายไปลองให้เหมือนเป๋ะๆ ก็ไม่มีใครเค้ายอมให้คุณทำแบบนั้นแน่นอนครับ  แต่ถึงทำได้เสียงมันก็ไม่เหมือนกันอยู่ดีเพราะขนาดห้องและอคูสติกย่อมแตกต่างกันไป

วันนี้นับว่าเป็นโชคดี เพราะนอกจากลูกค้าจะได้ลอง Klipsch THX ฟรีๆแล้ว ยังประจวบเหมาะพอดีได้มีโอกาสลองลำโพงแนว cinema อีกแบรนด์นั้นคือ XTZ ไปด้วยเลย   สรุปว่าวันนั้นลูกค้าเลยได้เทียบเสียงจากชุดของลูกค้าเองนั่นคือ
 Klipsch RF-7 II  และชุดของเรา Klipsch THX Ultra 2 (KL650) และสุดท้ายด้วย XTZ



บรรยากาศการทดลองก็เป็นไปด้วยความราบรื่น  เราขนเอา Klipsch KL650 ไปด้วยกัน 3 ตัว สำหรับทำ LCR และก็ไม่ลืมเอาขาตั้งติดไปด้วย 2 อัน  ส่วนตัวกลางนั้นเราใช้กล่องลำโพงรองไปก่อน  การทดลองนั้นได้รับความอนุเคราะห์จากคุณบอล  เอาไมค์วัดเสียงมาให้ใช้ โดยการลองจะค่อนข้างเป็นระบบหน่อยโดยเราจะฟังทั้งหมด 3 รอบ

1. แต่ละรอบจะปิดซับออกเพื่อไม่ให้ความถี่ต่ำมากวนเสียงลำโพงหลัก

2. ตัด cross ที่ 80 เพื่อไม่ให้ลำโพง THX และ XTZ เสียเปรียบ เนืองจากหากเราตั้งเป็น large ลำโพง RF-7 II จะฟังครบเครื่องกว่าทันทีเพราะดอกใหญ่และมีเบสจากตัวลำโพงมาช่วยในย่านต่ำกว่า 80 Hz  ส่วนลำโพงแนว Cinema อย่าง THX, XTZ นั้นในย่านต่ำกว่า 80 Hz เบสจะน้อยกว่า

3. สุดท้ายก็วัดเสียงให้ทุกชุดออกมาที่ 75 dB เท่าๆกัน ขณะฟังก็เปิดความดังที่ระดับเท่ากันจะได้ไม่มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบ
  ซึ่งถ้าเป็นลูกค้าหรือบ้านอื่นอาจจะไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ครับ อาจจะเปิดซับฟังไปเลย  แต่เนื่องจากครั้งนี้เรามีลำโพงหลายชุด เพื่อกันการซับซน เราจึงปิดซับและอยากได้ยินโทนเสียงที่แท้จริงของลำโพงแต่ละตัวเพื่อเปรียบเทียบ




รอบแรก : Klipsch RF-7 II, Klipsch RC-64 II
รอบสอง : Klipsch THX KL650 * 3 (LCR)
รอบสาม : XTZ

ฟังจบ ผมขออนุญาติไม่สรุปผล ไม่บอกว่าอะไรดีกว่าอะไร แต่ลูกค้ามีคำตอบที่บอกกับเราแล้วว่า เค้าชอบตัวไหนมากที่สุด  แต่ของแบบนี้มันอยู่ที่ความชอบ และรสนิยมครับไม่มีผิดไม่มีถูก




ผมอยากสรุปแบบนี้

Klipsch RF-7 II + Rc-64 II เป็นซิสเต็มที่ฟังสนุก ได้อารมณ์ของลำโพงที่ครบเครื่องทั้งดูหนังดี ฟังเพลงมัน เบสเยอะ เสียงถูกจูนมาให้เป็นลำโพงที่ใช้ซับช่วยระดับนึง ลำพังตัวลำโพงแนวเสียงสด จัดจ้านและฟังสนุกอยู่แล้ว ความชัดและรายละเอียดดีในระดับนึง แต่ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นๆถือว่าดีมากแล้ว
ข้อเสียคือเสียงสดมากที่สุดในซิสเต็มทั้งสามชุด ถึงแม้จะใช้ Anthem แล้วก็ยังสดอยู่




Klipsch THX KL650 * 3 (LCR) ความชัด และรายละเอียดดีกว่า RF-7 II และ RC-64 II ไปอีกระดับนึง ฟังออกว่าต่างแบบชัดเจนว่ารายละเอียดเยอะและชัดจริงไม่มโน โทนเสียงกลางแหลมเด่น เสียงไม่จัดและไม่กัดหูเท่าชุดแรก ฟังรู้สึกว่ามีอิมแพค รุกเร้า ชัดเจน ให้ซาวด์สเตจที่กว้างกวางและรู้สึกสเกลใหญ่อลังการ
แนวเสียงผมว่าฟังสนุก โทนรุกๆ คึกๆหน่อย
ข้อเสียคือต้องใช้ซับช่วยในย่านต่ำกว่า 80 Hz อย่างเดียว เพราะลำโพงถูกออกแบบมาให้ทำหน้าที่ได้ดีในย่าน upper 80 Hz ขึ้นไป




XTZ ความชัดและรายละเอียดดีกว่า RF-7 II แต่ถ้าเทียบกับ Klipsch THX ผมว่าไม่ได้ต่างจาก THX มาก  โทนเสียงลำโพง Cinema ส่วนตัวผมว่าเซ็ทแล้วก็ออกมาดทนๆเดียวกัน แต่จะต่างกันตรงบุคลิกเสียง แล้วแต่ว่าใครชอบตัวไหน  ตัวนี้ผมว่าโทนเสียงจะซอฟท์และฟังง่าย ดูเป็นธรรมชาติที่สุดในสามชุด สเกลเสียงจะดูไม่ใหญ่เท่า klipsch THX อาจเป็นเพราะขนาดตู้และดอกลำโพงเล็กกว่า แต่โดยรวมเป็นชุดที่โอเค เสียงฟังง่ายและฟังสบายครับ




สรุปผล

ทั้งสามชุดมีดีไปคนละแบบ Klipsch RF-7 ii ผมว่าตอบโจทย์การใข้งานของชุดทั่วๆไป ได้ทั้งเบส และกลางแหลมที่ฟังสนุก รายละเอียดของเสียงก็ไม่ได้ถูกชุด Klipsch THX และ XTZ ทิ้งแบบขาดเป็นทุ่ง แต่โดยรวมถ้าฟังก็ยังฟังออกว่าลำโพง cinema อีกสองชุดนั้นทำได้ดีกว่าในแง่ความชัดและรายละเอียด
แต่ถ้าวัดความคุ้มค่าโดยรวมและความสวยงาม ความลงตัว ความยิ่งใหญ่สวยงามของงานประกอบและตัวลำโพงแล้ว ผมว่า RF-7 II และ RC-64 II น่าเล่นครับ

ส่วน Klipsh THX และ XTZ ก็ตามสไตล์ลำโพง cinema ครับ คือเด่นที่ความชัด ความสด  หลักๆแล้วโทนเสียงก็ต่างกันตามสไตล์ของยี่ห้อลำโพง ตามขนาดลำโพงและราคา แล้วแต่ชอบครับ ไม่มีใครดีกว่าใคร  

สุดท้ายวัตถุประสงค์หลักของการเอาลำโพงไปลองครั้งนี้นั้นไม่ใช่เพื่อแข่งขันหรือประชันขันแข่งมุ่งเน้นเอาชนะกันแต่อย่างใด เพราะเราๆท่านๆก็เป็นเพียงนักฟัง เป็นคนรักในเครื่องเสียง แม้จะมีร้านค้าเข้าร่วมฟัง เราก็เป็นเพียงผู้ขาย ไม่ใช่เจ้าของผลิตภัณฑ์ไม่ใช่ผู้ผลิตที่ต้องมุ่งเน้นเอาชนะและเล็งผลเลิศเพื่อยอดขาย
เราเป็นเพียงตัวแทนขาย หากตัวไหนไม่ดี เราก็สามารถขายตัวอื่นได้ หรืออนาคตก็อาจได้มีโอกาสขายของหลายๆแบรนด์หรือแบรนด์อื่นได้เช่นกัน ดังนั้นลำโพงทุกตัวที่เอามาเทสในครั้งนี้ก็เพื่อให้ลูกค้าได้รับรู้แนวเสียง ได้รับรู้ความแตกต่างของชุดลูกค้าเดิม และสิ่งที่ลูกค้าจะได้เพิ่มหากเปลี่ยนลำโพงเป็นตัวใหม่ว่าจะได้อะไรเพิ่มมาบ้างและเสียอะไรไปบ้าง (ซึ่งชุดเดิมลูกค้าก็ดีมากๆในระดับนึงแล้วครับ)

สุดท้ายคนที่ตัดสินใจว่าตัวไหนดี ตัวไหนเหมาะที่จะเอามาใช้ในบ้านก็ไม่ใช่ผม ไม่ใช่บริษัทผู้ขายลำโพง แต่เป็นลูกค้าเองที่ได้รับฟังการเดโมครั้งนี้ครับ.....



สุดท้ายของสุดท้าย หากสนใจ Klipsch THX Demo ถึงบ้าน ติดต่อเราได้ตามรายละเอียด้านล่างนี้ครับ



1. ติดต่อนัดหมายแจ้งความประสงค์ ขอลอง Klispch THX Ultra2 มาที่เรา บอกวันเวลาที่สะดวกล่วงหน้า และระบุ ชื่อรุ่นลำโพงรุ่นที่ต้องการ โดยจำนวนและรุ่นลำโพงจะมีค่าบริการต่างกัน

2. เมื่อถึงวันนัด เราจะรับผิดชอบในการขนส่งลำโพงไปถึงบ้านของคุณ รวมถึงติดตั้ง (มีขาตั้งบริการฟรี)
ซึ่งในเบื้องต้นขอสงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าใน นนทบุรี และกทม (ไม่รวมเขตบางนา สมุทรปราการ สำโรง)

3. อุปกรณ์ เครื่องเล่น แอมป์ AVR/Pre และเส้นสายทุกอย่าง รวมถึงหนัง และเพลงจะใช้ของลูกค้าเอง  และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงและแต่งแติมใดๆเลยเพื่อให้เสียงเกินจริง

4. ระยะเวลาในการ Demo หากนัดเช้า จะสามารถลองได้จนพอใจภายในครึงวัน  และหากนัดบ่าย สามารถลองได้ครึ่งวันจนถึงช่วงเย็นเช่นกัน  ขอสงวนสิทธิ์ยังไม่มีบริการทิ้งลำโพงไว้ค้างคืน

5. อัตราค่าบริการ demo ฟรี แต่ร้านจำเป็นต้องเก็บค่าขนส่ง ค่าเดินทาง ค่าดำเนินการในวันนั้นๆ โดยมีค่าใช้จ่ายจัดเก็บเป็นรุ่นของลำโพงดังนี้ ***** (ไม่คิดค่าใช้จ่ายในการเดโม หากสั่งซื้อสินค้า)

Klipsch THX Ultra 2 KL650 x1 ตัว: 1,600  บาท  Klipsch THX Ultra 2 KL650 x2 ตัว: 2,000  บาท

Klipsch THX Ultra 2 KL650 x3 ตัว: 2,300  บาท

Klipsch THX Ultra 2 KS525 1 คู่: 2,000  บาท

Klipsch THX Ultra 2 KL650 x3 ตัว + KS525 1 คู่: 3,500  บาท

SVS SB13 Ultra: Coming soon

SVS SB16 Ultra: Coming soon



















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 10, 2017, 02:45:43 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #530 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2014, 09:26:56 am »


จัดส่ง Onkyo RZ810 ไปให้ลูกค้าที่นครปฐมครับ   ตัวนี้ไปส่งเอง เพราะมีงานแถวนั้นพอดี เลยวิ่งส่งให้ลูกค้าแบบหน้าประตูบ้านกันเลย

RZ810 คือ AVR ที่เป็นผลพวงจากการรวมตัวของ Onkyo และ Pioneer และนี่คืองานออกแบบที่เปลี่ยนใหม่หมดทั้งดีไซน์และแนวเสียง ถ้าคุณคุ้นเคยกับแนวเสียงกลางๆของ Onkyo ที่ฟังสบาย รื่นหู
ในซีรี่ย์ใหม่ RZ นี้จะทำให้คุณเปลี่ยนความเชื่อแบบเดิมๆครับ ด้วยหน้าตาที่กระเดียดไปทางอเมริกันมากขึ้น ดูบึกบึน หนา และโหดกว่าเดิม
เป็น AVR ในระบบเสียง 7.2 Ch. ออกแบบวงจรภายในใหม่ทั้งหมด สามารถลงระดับความถี่เสียงได้ต่ำสุดถึง 5Hz โดยได้รับ THX Select2 Plus-certified

ปล. ความต่างของ RZ710 และ 810 นอกจากเรื่องกำลังขับแล้ว ยังเป็นเรื่้อง pre-out ที่ 810 จะมีช่อง preout ให้สามารถต่อ Power amp ภายนอกเผื่อสำหรับอนาคตได้ (710 ไม่มี)

นอกจากนั้นยังมีรุ่นพี่ในตระกูล RZ เช่น RZ1100, RZ3100, RZ5100 (ตัวนี้เป็นปรี)

หากชอบดูหนัง สไตล์เสียงดุดัน  Onkyo RZ คือ AVR อีกตัวที่น่าสนใจครับ

ราคา Onkyo RZ810: http://www.whatthatsound.com/product/367/onkyo-tx-rz810



















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 22, 2017, 09:04:40 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #531 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2014, 12:35:36 pm »
บรรยากาศจัดส่ง Power Anthem MCA525 ที่นครปฐม




เราเอา Power amp สัญชาติแคนาดา Anthem MCA525 (5 ch กำลังขับ 225 วัตต์) ไปส่งพร้อมติดตั้งให้ลูกค้าที่นครปฐมมาครับ

--------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆที่นี่: https://goo.gl/kOl7g4
--------------------------------------------------------

ตัวนี้เป็น Power amp ที่แนวเสียงดุดัน เนื้อเสียงหนา เบสหนัก ปลายแหลมไม่เจี๋ยวจ้าว ส่วนตัวผมมองว่าเป็นแอมป์ที่มีความบาล้านกันดีในทุกๆย่าน  ไม่บางไป ไม่ทึบไป และก็ไม่สดไป   เป็น power ที่น่าเล่นและจับกับลำโพงแนวดูหนังได้ดีมากๆ    ตัวนี้ลูกค้าเอาไปใช้กับลำโพง Paradigm signature ทั้งชุด (5.1)
ซับวูฟเฟอร์เป็น Seimic

ของเดิมลูกค้าใช้เพียง AVR Pioneer lx83 ขับลำโพงทั้งหมด ซึ่งดูหนักหนาและโหดร้ายกับแอมป์มากกเกินไป  จึงนำ Power amp มาช่วยเสริมกำลังทัพโดยยังใช้ AVR เป็น pre เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง 

มาถึงบ้านลูกค้าเกือบเที่ยง ก็ยกของลง (หนักมาก) แล้วก็บรรจงต่อสายกันเลย โดยใช้สาย RCA เพิ่มอีก 5 เส้น ครบตามจำนวนแชนแนลพอดี (Furu SA22 เข้าหัว FP160 G)
ต่อง่ายๆครับ ใครที่มี avr ที่มีช่องต่อ pre-out แล้วอยากต่อก็แค่หา power amp มาสักตัว แล้วต่อเล่นได้เลย  บุคลิกเสียงก็จะเปลี่ยนไปตาม power ด้วยส่วนนึง แต่บุคลิกเสียงอีกส่วนก็จะยังคงเป็นไปตามบุคลิกของ AVR ตัวนันอยู่ เพียงแต่จะสามารถขับและผลักดันลำโพงได้สุดมากยิ่งขึ้น ขุดเอารายละเอียดต่างๆออกมาได้มากขึ้น ได้บรรยากาศมาขึ้น  ฉากเงียบก็มีความสงัดมากขึ้น ฉากโหมหนักๆลำโพงก็เอาอยู่มากยิ่งขึ้น เบสของคู่หน้าและเซ็นเตอร์ไม่มั่ว ไม่ย้วย กระชับฉับไว หนักขึ้น




แปปเดียว ต่อเสร็จก็ลองเสียงกันเลย ต่อง่ายมากๆ แต่หนักยก power ออกมาจากกล่องแค่นั้นเอง  หลังจากนั้นเราลองเสียง ปรับ level ฟังเทสโทนลำโพงทั้งหมด  ก็ใช้งานได้แล้วครับ

ตัวนี้จากที่เราลองฟัง ซิสเต็ม Paradigm มีความแมทกับ Anthem มากๆๆๆแบบเป็นเนื่้อคู่กันเลยก็ว่าได้ (แน่นอน เพราะผู้ผลิตก็เจ้าของเดียวกัน) จับคู่กันแล้วเสียงบาล้านทุกๆย่าน แหลมมีรายละเอียดไม่กุด กลางมีมวลพอประมาณ และเบสก็หนักด้วย ถ้าใครใช้ลำโพง Paradigm อยู่แล้วอยากใช้ power แต่ไม่รู้จะใช้ของอะไรดี เราก็แนะนำเลยครับว่า paradigm เหมาะกับ Anthem มากๆ

จริงๆการเลือก power ให้เข้ากับลำโพงหลัก ถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆเรื่องนึง เพราะ Power amp บางตัวให้เสียงต่างกันออกไปเมื่อนำไปจับกับลำโพงตัวใดตัวหนึ่ง  บางทีก็มีตัวที่แมทกัน บางตัวก็มีตัวที่เข้ากันไม่ได้เลยก็มี  ตรงนี้พิจารณากันให้ดีครับ ไม่ใช่ว่าเห็นว่าลำโพงเสียงแหลมจัด ต้องจับกับ power ทึบๆ แล้วเสียงจะออกมาตรงกลางแบบนี้ หรือลำโพงเสียงกลางๆทึบๆ ไปจับกับ power แหลมๆแล้วจะดีเสมอไป 
บางทีมันมีอะไรบางอย่างที่ถูกจริตและเข้ากัน ของแบบนี้ต้องอาศัยการลองและฟัง และเรียนรู้ด้วยตัวเองครับ เพราะบางทีคนอื่นบอกว่าแมทกันแต่เราฟังแล้วไม่ชอบก็มี




ห้องของลูกค้านั้น เสียงที่ได้ค่อนข้างมีความสมดุลสูง รายละเอียดดีอยู่แล้ว ส่วนหนึ่งขอยกความดีความชอบให้กับห้องที่ทำไว้ค่อนข้างดี  อคูสติกดี ฟังอะไรก็ดีครับ รายละเอียด ความสงัดของเสียงต่างๆ หลังจากที่ได้ power กำลังดีๆเข้าไปลำโพงก็ให้อะไรได้มากกว่าเดิมค่อนข้างมาก

สำหรับใครที่ใช้ลำโพงตัวใหญ่ๆและคิดจะอัพเกรดเสียงให้ดียิ่งๆขึ้น  การเพิ่ม power amp นี่แหละครับเห็นผลที่สุดรองไปจากการเปลี่ยนลำโพง ไม่ต้องเพ่ง ไม่ต้องมโนหรือจินตนาการใดๆทั้งสิ้น  เห็นผลแบบจะแจ้ง ดีกว่าเปลี่ยนเส้นสาย ดีกว่าการหา accessories ต่างๆมาใช้  และอีกอย่าง power amp เป็นอะไรที่น่าลงทุนครับ เพราะอายุการใช้งานค่อนข้างทน ยืนยาว อายุเป็นสิบปี ไม่มีส่วนเคลื่อนไหวอะไรให้เสียเหมือน bluray, cd หรือแม้แต่ avr ที่มีทั้งภาพและเสียงเยอะแยะเต็มไปหมด

ดังนั้น Power amp ดีๆ แรงๆ เสียงแบบที่คุณชอบสักเครื่อง แล้วจะรู้ว่า สวรรค์ของการดูหนังในบ้านมันเป็นเช่นไร....




สรุป ห้องนี้เป็นอีกห้องที่เสียงดีครับ การให้ความสำคัญกับห้อง เป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆของการฟังพอๆกับอุปกรณ์เครื่องเสียงเลย แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นลำโพง แอมป์ ปรี หรือ AVR เองก็ตาม ล้วนมีผลทั้งสิ้น สัดส่วนมากน้อยตามแต่ละอุปกรณ์ (ลำโพงมีผลมากที่สุด ปรี เพาเวอร์ ตามลำดับ)  ซึ่งลูกค้าเลือกที่จะให้ความสำคัญกับลำโพงมากที่สุด (Paradigm Sig)  ส่วนตัวผมมองว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ลำโพงดี ใช้สายเมตรละ 50 มันก็ดีครับ  แต่ถ้าลำโพงไม่ดีต่อให้ใช้สายเส้นละล้านมันก็ไม่ช่วยอะไร 

ดังนั้นการแมทชิ่งอุปกรณ์ให้เสียงออกมาตามใจที่เราชอบนั้นเป็นเรื่องที่สนุกและเป็นศิลป์อย่างนึง  จะทุ่มไปที่อุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง หรือจะบาล้านอุปกรณ์ทุกชิ้นให้สมดุลกันก็ขึ้นอยู่กับสูตรและทุนทรัพย์ของแต่ละคนเลย

สุดท้ายของท้ายสุด  เราขออนุญาติพาไปชมห้องฟังและอุปกรณ์สวยๆของลูกค้าท่านนี้กันครับ  ขอบคุณในความอนุเคราะห์ให้เราเข้าไปติดตั้งและเก็บภาพมา ณ ที่นี้ด้วย

ราคา Anthem MCA525: http://www.whatthatsound.com/product/441/anthem-mca525



















































« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 23, 2017, 09:40:56 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #532 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2014, 04:11:51 pm »
จัดส่ง Klipsch PowerGate ไปให้ลูกค้าที่ลำลูกกา ปทุมธานีครับ



ตัวนี้เป็น Network Integrate Amp ใช้สำหรับขับลำโพงฟังเพลงโดยเฉพาะ มีกำลังขับ 100 วัตต์ 2 แชนแนล ขับลำโพงตั้งพื้นได้สบายๆ
ลูกค้าเอาไปขับกับลำโพงยี่ห้อนึง วัตถุประสงค์ใช้ฟังเพลง จะใช้งานบลูทูธผ่านโทรศัพท์ และฟังเพลงจาก Play-Fi โดยเฉพาะครับ ง่ายดาย เปลี่ยนโลก integrate amp เดิมๆที่ต้องใช้ cd มาต่อเล่นอย่างสิ้นเชิง แค่มีลำโพง กับโทรศัพท์ก็เล่นได้เลย รองรับไฟล์เพลงคุณภาพสูง lossless ได้ด้วย

ที่สำคัญเป็น integrated อเมริกันที่ให้กำลังสูงถึง 100 วัตต์ ในราคาแค่ 2 หมื่นกว่าบาท แนวเสียงสไตล์ klipsch มีอะไรจะคุ้มไปกว่านี้อีก
หายี่ห้ออื่นที่ให้กำลังสูง 100 วัตต์ต้องจ่ายมากกว่านี้เยอะ

ปล. สามารถใช้ app เล่นเพลงผ่าน wifi ได้สองแบบ
1. ผ่าน app DTS Play-fi
2. ผ่าน app Klipsch Stream
ทั้งสองวิธีใช้งานเหมือนกัน ผลลัพธ์เหมือนกัน

ราคา Klipsch PowerGate: http://www.whatthatsound.com/product/524/klipsch-powergate
https://youtu.be/NgTILM31wvE




























« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 27, 2017, 09:23:32 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #533 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2014, 08:11:38 pm »
บรรยากาศจัดส่ง SVS SB16 Ultra และ PrePro Anthem AVM60 ที่นครปฐม




วันนี้เราจะพาไปชมรูปสวยๆ จากบรรยากาศที่เราได้มีโอกาศเอา Prepro ตัวเทพล่าสุดของค่าย Anthem อย่าง AVM60  และซับวูฟเฟอร์ SVS SB16 Ultra อีกหนึ่งตู้ไปอัพระบบลูกค้าที่นครปฐมครับ

เดิมทีลูกค้าท่านนี้ใช้ซิสเต็มของ Paradigm Signature ทั้งระบบ และขับด้วย AVR ตัวเดียวอย่าง Pioneer LX83    เราจึงแนะนำว่าให้ใช้ power มาขับจะดีกว่า เเพราะปัจจุบัน AVR ขับลำโพงได้ไม่ถึง 50%
ลูกค้าจึงลองเริ่มต้นด้วยการสั่ง PowerAmp Anthem MCA525 มาลองต่อกับ AVR Pioneer ดูก่อน

หลังจากนั้นไม่นาน หลังจากสัมผัสถึงพลังเสียงที่แท้จริงของลำโพงที่ให้ได้ จึงตัดสินใจเรียกเราเข้าไปอัพเกรดระบบอีกครั้ง โดยคราวนี้ใช้ Pre Processor ของ Anthem AVM60 แทน AVR ตัวเก่า และพ่วงเอาซับวูฟเฟอร์อย่าง SVS SB16 Ultra เข้าไปแทนซับตัวเก่าอย่าง Paradigm Seismic ที่มีปัญหารับความถี่ต่ำช่วงที่โหมมากๆไม่ค่อยไหว (ปัญหาประจำรุ่น)




เราเอาของไปส่งกันก่อนล่วงหน้าหนึ่งวัน  หลังจากนั้นเราก็เข้าไปจัดการต่อและเซ็ทอัพเบื้องต้นรวมถึงย้ายซับกับ avr ตัวเก่าออกมา เสร็จเรียบร้อย  ซึ่งก็เรียกเหงื่อพอสมควร  หลังจากนั้นเซ็ทอัพค่าเบื้องต้น ลองต่อฟังให้ลูกค้าเบิรนฟังเพลงดูหนังไปเรื่อยๆ เพราะจะว่าไปเจ้า SVS SB16Ultra หรือรวมถึง PB16Ultra เป็นซับที่ต้องเบิร์นกันนานมาก เพราะดอกยางแข๊ง ว๊อยคอยล์ใหญ่ ดอกใหญ่ถึง 16 นิ้ว  ตัวนี้ที่เราไปติดตั้งบ้านลูกค้ามา ส่วนใหญ่เบสจะมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย หลังจาก 50 ชมแรกพ้นไปแล้ว (แรกๆจะรู้สึกแข๊งๆ ดังแต่อิมแพคไม่ค่อยปะทะเท่าไร่)

ตัวนี้ลองดูหนังไปแป๊ปนึง รู้สึกว่า SB16 Ultra เป็นซับที่ไวมาก ฉากโหม ฉากที่เบสมาแบบฉับพลันจะมาเร็วและรุนแรง หนักหน่วงกว่าตัว Paradigm Seismic ค่อนข้างมาก  รวมไปถึงสเกลของเสียงเบสที่ใหญ่โตอลังการมาก  จึงเป็นซับที่เหมาะจะอยู่ในห้องดูหนังและซิสเต็มขนาดกลางจนไปถึงใหญ่มากๆครับ




ส่วนตัว AVM60 เป็น pre processor ของค่าย Anthem ที่ออกมาใหม่ล่าสุด รองรับ dolby Atmos, DTS:X  และรองรับลำโพงได้ 11.2 แชนแนล  ในกล่องแถมไมค์สำหรับใช้ร่วมกับโปรแกรม ARC (Anthem Room Correction) มาด้วย

วิธีการใช้งานไมค์และโปรแกรม ARC: https://goo.gl/4Jenlo

ตัว AVM60 แนวเสียงดุดัน รายละเอียดดี เบสหนักพอประมาณ (ถ้าเทียบกับแอมป์ญี่ปุ่น AVM60 น่าจะหนักระดับต้นๆ แต่ถ้าเทียบกับแอมป์อเมริกันเบสยังแพ้ HarmanKardon)  ส่วนแยกแยะรายละเอียดของแต่ละแชนแนลได้ดีมาก ทำให้บรรยากาศในการดูหนังสมจริง การโอบล้อมทำได้ยอดเยี่ยม เหมือนเราเอาข้อดีของ Yamaha ที่โอบล้อมดีแต่เบสบาง อิมแพคไม่ค่อยมี มารวมกับ HarmanKardon ที่เบสหนักแต่เสียงทึบ  แล้วออกมาเป็น Pre Processor ดีๆและแถมฟังก์ชั่นในการปรับและเซ็ทกราฟอย่าง ARC มาให้ด้วย




เป็น PrePro ที่น่าใช้ที่สุดตัวนึงในตอนนี้แล้วครับ ถ้าคิดจะดูหนัง คงไม่มีตัวไหนที่ตอบโจทย์ได้ดีกว่านี้ และยิ่งใช้งานร่วมกับลำโพงแบบ Cinema เช่น Klipsch THX, M&K, XTZ ยิ่งเหมาะและแมทกันมากๆยิ่งขึ้นไปอีก
แต่หากจับรวมกับลำโพง Home Audio ธรรมดา ก้จะช่วยเรื่องบรรยากาศและความหนักแน่นให้การดูหนังสนุกยิ่งขึ้นไปอีกครับ

รีวิว Pre Anthem AVM60: https://goo.gl/20gmkI




สรุป

เราเข้าไปติดตั้งและลองฟังซิสเต็มลูกค้ามาสองครั้งแล้ว บรรยากาศที่ได้หลังจากเปลี่ยนเป็น Anthem AVM60 และเติมซับ SVS SB16 Ultra แล้ว 
เสียงและบรรยากาศในการดูหนังดีขึ้นมาก  ความถี่ต่ำไม่แป้กแล้ว เบสเอาอยู่ทุกความถี่ต่ำ และบรรยากาศต่างๆก็มามากขึ้น รวมถึงเบสและอิมแพคก็เยอะกว่า AVR ตัวเก่าลูกค้าขึ้นมาอีกระดับนึงด้วย
ผมนั่งเซ็ทเสียง เซ็ทอัพค่าต่างๆของ AVM60 ไปด้วย และเปิดหนังนั่งฟังไปด้วยเกือบครึ่งชั่วโมง เสียงดีครับ บรรยากาศดีมากๆ เหมือสนามเสียงมาห่อหุ้มห้องดูหนังไว้เลย  รายละเอียดมาครบๆ เบสก็หนักขึ้น ฉากที่เบสมาก็ได้ความรู้สึกว่าความถี่ต่ำวิ่งมาปะทะตัว ได้อารมณ์ในการดูหนังที่ดีมากๆ




ถ้าคิดจะทำห้องดูหนังฟังเพลงดีๆสักห้องเราอยากให้เลือกลำโพงดีๆสักชุด เน้นเลยว่าแนวเสียงจากลำโพงต้องดีและถูกใจเราก่อน  จะเลือกลำโพงนุ่มๆแนวฟังเพลงก็จะต้องเสียอารมณ์ในการดูหนังไป  หรือหากจะเลือกลำโพงที่หนักแน่น เสียงชัด สดก็จะดูหนังดี แต่การฟังเพลงแนวช้าๆ เนิบๆหวานๆก็จะเสียไปแช่นกันครับ  ดังนั้นต้องเลือกให้ดีก่อนจะลงทุนว่าคุณชอบแบบไหน ชอบอะไร เสียงนุ่มๆเนิบๆ ฟังเคลิ้มๆ หรือต้องการเสียงที่ชัด ดุดัน
เพราะถ้าเสียงชัด ดีเทลเยอะ จะดูหนังสนุกแต่ฟังเพลงไม่เพราะ
กลับกันหากเสียงนุ่ม โทนเสียงออกผู้ดี ฟังสบายก็จะฟังสบาย หวาน และฟังเพลงดีแต่ดูหนังไม่สนุก

ส่วนจะเลือกใช้ AVR หรือ PrePro นั้นให้ดูความเหมาะสมของลำโพงเป็นหลัก ไม่ใช่ราคาลำโพง 3 แสนรุ่นท๊อปตั้งพื้น แต่ใช้ AVR ขับ แบบนี้ก็ไม่เหมาะสม  ให้ลองศึกษาให้ดีครับ  ซิสเต็มที่ดีอาจไมจำเป็นต้องใช้ของแพง แต่หากเป็นซิสเต็มที่แมทชิ่งได้ดี แมทอุปกรณ์ทุกชิ้นได้สมดุล ขับลำโพงได้ครบ และให้แนวเสียงที่ถูกใจเราครับ 

ราคา Anthem AVM60: http://www.whatthatsound.com/product/446/anthem-avm-60-2

ราคา SVS SB16 Ultra: http://www.whatthatsound.com/product/480/svs-sb16-ultra





















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 29, 2017, 05:09:14 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #534 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2014, 10:28:44 am »


จัดส่งขาตั้งลำโพงหน้า  F4
ขาตั้งลำโพงเซอราวด์ S10
และชั้นวาง R3 Double ไปให้ลูกค้าที่ปิ่นเกล้า


ราคาขาตั้ง F4: http://www.whatthatsound.com/product/140/stand-front-f-4

ราคาขาตั้ง S10: http://www.whatthatsound.com/product/142/stand-surround-s-10

ราคาชั้นวาง R3 Double: http://www.whatthatsound.com/product/162/%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87-r-3-double


















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 29, 2017, 06:05:45 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #535 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2014, 01:30:58 pm »


จัดส่ง Pioneer LX79 3 เครื่องไปให้ลูกค้า

1. ราชประสงค์
2. จัดส่งไประยอง (ขนส่ง)
3. สระบุรี

และจัดส่ง Marantz SR5011 ไปให้ลูกค้าที่พระราม2 อีกหนึีงเครื่่องครับ

ตอนนี้แจ้งให้ทราบว่า Pioneer LX79 ของหมดแล้วนะครับ ไม่ต้องหากันแล้ว

ราคา Marantz SR5011: http://www.whatthatsound.com/product/495/marantz-sr-5011








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 29, 2017, 06:22:07 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #536 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2014, 04:13:02 pm »


จัดส่ง Paradigm seismic มือสองไปให้ลูกค้าที่ปากช่องครับ (ส่งเอง)

ตัวนี้เป็นซับ 10 นิ้วที่กำลังดีเกินขนาดตัว เหมาะสำหรับห้องขนาดย่อมๆ ไม่ใหญ่มาก เป็นซับอีกตัวที่สมัยก่อนฮิตกันมาก ปัจจุบันเสื่อมถอยความนิยมลงไปตามกาลเวลา

ยังมีซับอีกหลายตัวที่แต่ก่อนนิยมกันมาก เช่น mj, martin dynamo และปัจจุบันยังมีคนนิยมและตามหากันอยู่เนืองๆ
















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 01, 2017, 07:31:01 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #537 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2014, 07:30:31 pm »


จัดส่ง AVR Pioneer LX83 รุ่นใหญ่ในอดีตสภาพกริ๊ปไปให้ลูกค้าที่ฉะเชิงเทรา (ส่งเอง) เป็นรุ่นเก่าแล้วแต่ยังเสียงดีสไตล์ Pioneer คือสด กลางแหลมดี ดูหนังสนุก  และมี preout ด้วย

สำหรับใครที่จะเลือก avr รุ่นเก่าๆมือสองก็พยายามเลือกรุ่นที่มี preout ไว้จะมีประโยชน์ต่ออนาคตเอาไว้เผื่อหา Poweramp มาต่อใช้งานได้ครับ
























« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 01, 2017, 07:39:45 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #538 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2014, 10:11:03 pm »


จัดส่ง Anthem MCA50 (มือสอง) ไปให้ลูกค้าแถวดินแดงครับ

ลูกค้าเอา Poweramp ไปเสริมกำลังทัพให้กับลำโพง Pioneer Andrew John

 




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 03, 2017, 10:23:55 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #539 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2014, 11:30:06 am »


Klipsch The Sixes
ลำโพง Active รุ่นใหม่ของ klipsch ที่มาพร้อมกับคราบไคลและกลิ่นอายแบบวินเทจ กับ Klipsch The Sixes ลำโพงในซีรี่ย์ Heritage ที่พกพาหน้าตาเก่าๆ แต่เปี่ยมไปด้วยความสามารถไม่ว่าจะเป็นช่องต่อ rca, phono, bluetooth, minijack (ต่อโทรศัพท์), digital optical (ต่อทีวี) และ USB สำหรับต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ด้วย แถมยังมีช่องต่อซับได้อีก

กับดอกลำโพง 6.5 นิ้วขนาดใหญ่ทำให้ตัวตู้ดูบึกบึน ใหญ่โต วางตั้งในบ้านไม่ต้องเปิดเสียงก็เก๋เกินที่ใครจะห้ามใจให้เดินเข้าไปสัมผัสได้
ต่อทีวีได้ ต่อเครื่องเล่น cd ได้ ต่อเครื่องเล่นแผ่นเสียงได้ ต่อคอมได้ ต่อโทรศัพท์ได้ บลูทูธได้  จะเอาอะไรอีกกกก????

ราคา: http://www.whatthatsound.com/manage/inventory/product/536/



Features

    1” Titanium-loaded Tweeters with Tractrix Horns
    6.5” Woofers with a Ported Enclosure
    100W x 2 continuous @<1% THD
    200W x 2 short term peak power
    40Hz ~20kHz @ -3dB
    Subwoofer output
    1 x pair of RCA phono level inputs with switch for Phono/Line input versatility (Phono Pre-amp with ground screw terminal)
    Bluetooth® wireless technology
    1 x 3.5mm mini jack line level
    1 x Digital optical
    1 x USB digital audio from a PC or Mac
    Single RCA line level output for connection to sub.
    8.625” (22cm) x 16.75” (42.55cm) x 11” (27.9cm)
    Walnut
    Included
       4-conductor speaker cable (for R to L connection)
       3.5mm aux cable
       USB Type B to USB Type A cable
       Optical (TOSLink) Cable
       Wireless Remote ControlPower Cor


































« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 03, 2017, 10:32:40 pm โดย keamglad »