ผู้เขียน หัวข้อ: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Procella , SVS, Anthem, Parasound,Audyn  (อ่าน 329603 ครั้ง)

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #702 เมื่อ: มกราคม 17, 2015, 09:48:58 am »
บรรยากาศจัดส่ง Dual SVS PB2000 และปรี Emotiva XMC-700 ที่สมุทรสาคร

-------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆได้ที่นี่: https://goo.gl/EhxR5n
-------------------------------------------------------



วันก่อนเราเอา SVS PB2000 ซับตู้เปิดขนาด 12 นิ้วและ Pre-Processer Emotiva MC700  ปรีรุ่นเล็กไปส่งให้ลูกค้าที่สมุทสาครมาครับ
เดิมทีลูกค้าสั่ง PB2000 และ MC700 กับเราเอาไว้สองตู้ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคมปีที่แล้วนู้นแนะ
ด้วยความที่กำลังทำห้องดูหนัง ยังไม่สะดวกเอาเข้าบ้าน ก็เลยฝากไว้ที่เราให้ช่วยเบิรนซับไปพลางๆก่อน
ระหว่างรอห้องเสร็จ เราก็แกะมาเบิรนอิน และรอเวลาจนเวลาล่วงเลยผ่านไปร่วม 4 เดือนห้องเสร็จ และปีเข้ามาพอดี (Emo รอนานมว๊าก ของมีน้อย)

ได้ฤกษ์ดี ห้องเสร็จเราเข้าไปส่งถึงบ้านลูกค้า ก็จัดการยกซับขึ้นประจำการทั้งสองตัวเป็น dual subwoofer และถอดเอา AVR Sherwood R977 ออก และเอาปรี Emo รุ่นเล็ก 7.1 แชนแนลราคาย่อมเยาว์เข้าประจำการแทน โดยลูกค้าใช้ Power amp Emotiva XPA3 gen3 และ Audyn MA9 ที่มีอยู่แล้วเป็นขุมพลัง (Emo XPA3 ขับสามตัวหน้า ส่วน Audyn ขับ Surround และ Surround Back)




แม่้จะเป็นปรีรุ่นประหยัด แต่แนวเสียงก็มาแนวอีโม คือดุดันและดูหนังสนุก กลางแหลมไม่บาดหู กลางแหลมกำลังดี และได้ความถี่ต่ำจาก PB2000 สองตู้เข้ามาช่วย ทำให้เบสที่ได้เข้มข้น และอิ่ม หนักมากกๆ ลูกค้าบอกว่าเบสสะใจกว่าที่คิดเอาไว้เยอะทีเดียว เบสมาแบบถล่มทลายมาก มีแววดี ถ้าเซ็ทดีๆ รับรองว่าดูหนังมันแน่นอนครับ

ด้วยข้อดีของซับตู้เปิดที่ลูกค้าศึกษาทำการบ้านมาก่อนเป็นอย่างดีว่า ตัวเองชอบเล่นเกมและดูหนังแนวแอคชั่น ชอบเบสเยอะ เบสชัด ปริมาณสะใจและหนักมากกว่าเบสกระชับเก็บตัวเร็วสะอาด จึงตั้งใจเลือก PB2000 มาประจำการ ซึ่งไม่ผิดหวังครับกับการวางแผนมาล่วงหน้่า

ปล PB2000 ของมาน้อย ขาดตลาด ขาดทียาวนาน ลูกค้าสั่งไว้นาน ตับตั้งแต่สั่งวันนั้น จนวันนี้ของขาดร่วม 2-3 เดือนแล้ว ใครคิดจะเล่น PB หรือตู้เปิด รีบตัดสินใจรีบซื้อ จองล่วงหน้าครับ

ปล. ห้องนี้ใช้ PS4 เล่นแผ่น และลูกค้าชอบเล่นเกมเป็นหลัก





















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 21, 2018, 04:49:06 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #703 เมื่อ: มกราคม 18, 2015, 10:29:59 am »


Klipsch และ Emotiva XPA7+5  จับคู่กันเมื่อไร ตัวเดียวไม่เคยพอครับ เป็น power และลำโพงที่เสริมกันไปในทางที่ดีขึ้นมากจนไม่น่าเชื่อ

-------------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆได้ที่นี่: https://goo.gl/ZvFW6U
-------------------------------------------------------------

ลำโพง klipsch อาจเป็นลำโพงที่ขับง่าย แต่ไม่ได้หมายความว่าแอมป์อะไรก็ได้จะขุดศักยภาพของลำโพงออกมาได้สูงสุด
ลำโพง Klipsch มีพลังแฝงที่คุณคาดไม่ถึงอยู่อีกเยอะครับ

เดิมทีลูกค้าสั่ง XPA7 ไปลองก่อน และพบว่าเสียงดีขึ้นมาก จึงสั่ง XPA5 ไปเติมให้ครบ 11 แชนแนล  ตอนนี้ยังใช้ AVR Marantz SR6011 เป็นปรีอยู่ อนาคตหากอัปไปใช้ Pre แล้ว เสียงคงดีขึ้นกว่านี้ไปอีก

พอ Power วางในแร๊คเต็มๆแบบนี้แล้ว มันสวยงามและมีเสน่ห์มากครับ










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 21, 2018, 04:58:13 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #704 เมื่อ: มกราคม 18, 2015, 02:38:11 pm »


Preview แกะกล่องลองยลโฉม Poweramp ใหม่จาก Emotiva - DR Series

---------------------------------------------------------------
อ่านบทความนี่้เต็มๆได้ที่นี่: https://goo.gl/w9ft9a
---------------------------------------------------------------


Emotiva ออก Power ไลน์ใหม่ออกมา ใช้ชื่อว่า DR (Differential Reference) โดยถูกวาง Position เอาไว้เป็นแอมป์ที่อยู่ภายใต้สายการผลิต Generation ที่ 3  แต่อยู่เหนือ XPA ขึ้นไปอีก โดยวางตัวเป็นแอมป์กำลังขับสูง คุณภาพสูง มีด้วยกันทั้งหมดสามรุ่น ได้แก่

DR1: Monoblock 1 ch
650 watts RMS into 8 Ohms at <0.1% THD.
1000 watts RMS into 4 Ohms at <0.1% THD.

DR2: 2 ch (550 watts * 2)
550 watts RMS, per channel, into 8 Ohms, at <0.1% THD.
800 watts RMS, per channel, into 4 Ohms, at <0.1% THD.

DR3: 3 ch (450 watts * 3)
450 watts RMS, per channel, into 8 Ohms, at <0.1% THD.
600 watts RMS, per channel, into 4 Ohms, at <0.1% THD.

ทุกรุ่นมาพร้อมกับสเปคค่า damping factor >500
และพกพาช่องต่อ RCA และ XLR พร้อม  ฟังชั่นต่างๆก็เรียบง่ายๆตามประสา Poweramp ไม่มีอะไรแฟนตาซีมากมาย (ก็มันคือ Poweramp) ก็จะมี Main switch อันนึง  มีฟิวส์ มีสวิทซ์เปลี่ยนการรับสัญญาณจาก RCA ไป XLR หรือ XLR ไป RCA แค่นี้ครับ ใช้ง่ายๆ ทนทาน ถึก ตามประสา power สไตล์อเมริกัน  ใครใช้ Emo แล้วเสียได้ขอยกนิ้วให้เลย



รุ่นที่เราจะแกะมาทดลองวันนี้เป็น DR3 ให้กำลังขับสูงถึง 450 วัตต์ที่ 8 โอห์ม แยกแต่ละช่องกัน โดยให้มาทั้งหมดสามช่อง ก็แปลว่าสามารถต่อลำโพงได้สามแชนแนล  ซึ่งก็แน่นอนครับ power แบบนี้ก็นิยมเอาไปต่อ LCR หรือลำโพงสามตัวหน้าที่เป็นคู่หน้า และเซ็นเตอร์อยู่แล้ว
ดังนั้น LCR เราจะโดนขับด้วย Power ที่มีกำลังมหาศาลถึง 450 วัตต์แต่ละช่องเลยทีเดียว  ซิสเต็มที่เราเอามาต่อทดสอบก็เป็น Klipsch THX Ultra 2 KL650 และ Pre-Processcer Anthem AVM60

แกะกล่องออกมาก็เจอใบ Certificate มีลายเซ็นสดๆที่ไม่ใช่แบบถ่ายเอกสารของพนักงานฝ่ายประกอบ ฝ่าย QC อะไรทำนองนี้เพื่อการันตีว่าแอมป์ตัวนี้ถูกผลิตมาจากอเมริกา และใช้ Part จากอเมริกาแท้ๆ มีแจ้งเลข serial number พร้อมสรรพ
และก็มีกล่องอุปกรณ์ที่ประกอบด้วยสายไฟ (ให้สายไฟมาด้วย ต่างจาก Anthem ที่ไม่ให้สายไฟ)
และก็มีสติ๊กเกอร์เอาไว้ปิดบอกว่าแชนแนลไหนเราจะใช้ต่ออะไร ซึ่งเป็นกิมมิจที่จะแปะก็ได้ ไม่แปะก็ไม่เป็นอะไรครับ เอาไว้ขำๆ จริงๆผมแนะนำทาง emo นะว่าถ้าจะให้ดูดี ดูไฮขึ้นน่าจะแถมถุงมือผ้าสีดำมาอีกคู่นึงไปเลยฮะเพ่ จะได้ดูโปรกว่านี้ยิ่งขึ้นอีก อ่ะ หยอกๆๆ


หน้าตาของ DR3 ของเรานั้นแกะกล่องออกมาแล้ว ด้านหน้าก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจาก Emotiva Gen3 รุ่น XPA เลยครับ มีจุดนึงที่บอกว่า ตรูข้าเนี่ยคือ DR Series เหนือกว่าพวกแกเหล่า XPA นะเฟ้ย ก็ตรงป้ายเพลทบอกรุ่นที่แปะคำว่า DR-3 เอาไว้นั่นแหละครับ ด้านหน้ามีแค่นี้

พอพลิกมาด้านหลัง หน้าตาดูอลังการงานสร้างมาก เพราะ DR Series ให้ขั้วต่อลำโพงแบบใหญ่บึ้มมาเลย คือถ้าดูจากรูปแล้วจะไม่รู้สึกว่าใหญ่อะไรมาก แต่ถ้าดูตัวจริงจะตกใจ เป็นขั้วต่อลำโพงที่ดูไฮโซ ใหญ่ และหนามาก  ดูน่าเกรงขามมากๆครับ และการจัดวางตำแหน่งของขั้วลำโพงก็จะวางสลับฟันปลาขึ้นลงกัน ต่างจากรุ่น XPA ปกติที่วางเรียงกันตรงๆ
ในเรื่องของหน้าตานั้นยอมรับว่าด้านหน้าอาจจะไม่มีอะไรหวือหวา แต่ด้านหลังยอมรับว่าเราชอบ มันดูยิ่งใหญ่ และดุดันดีครับ




ลองฟังเสียง
ในคำโปรยของ Emotiva เค้าโปรยไว้ว่า Power amp ตัวนี้เป็น high power audiophile to deliver musical crescendos and movie
เห็นโปรยแบบนี้ก็อย่าเพิ่งตกใจไปว่า แนวเสียงจะมาเน้นแนวฟังเพลง ละมุนนุ่มดั่งปุยเมฆแบบ Parasound เหรอ
เปล่าครับ ไอ้คำว่า music ของมะกันเค้า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า แนวเสียงฟังเพลงแบบคนอเมริกัน กับแนวเสียงฟังเพลงแบบคนเอเชียชาติไทย แถบๆฮ่องกง ญี่ปุ่น จีน ที่นิยมเปิดตามงานเครื่องเสียง ชุดละหลายล้านกรุ้งกริ้งๆ หรือเปิดเพลงร้องไทยเดิมแบบนั้น มันคนละแนวกัน  ซึ่งผมลองต่อฟังแล้วก็ไม่แปลกใจที่มันกล้าใส่คำโปรยว่ามันทำได้ดีเรื่องฟังเพลง เพราะมันฟังดีจริงๆ อิมแพคดี ไดนามิคมา แต่มันฟังดีในแบบเพลงแนวอเมริกัน ไม่ใช่แบบที่เปิดเสียงฉาบ เสียงเคาะขิม เคาะแก้วอะไรแบบนั้นน่ะ ต้องทำความเข้าใจกันก่อนจะได้เดินไปถูกทาง

เราลองต่อฟังกันแบบคร่าวๆ ยังไม่พ้นเบิรน์ กับห้องเดิมๆ หนังเรื่องเดิมๆที่เราชอบ ที่เราคุ้นเคย ชินเสียง และจำเสียงได้ดีทุกเม็ดทุกฉาก ระหว่างรอห้องใหม่ในโชวรูมเราที่เป็น 9.1.6 (Immersive sound) กันไปพลางๆ
เทสด้วยหนังที่เราชอบเปิดเทสอย่าง Assasin Creed ฉากท้ายที่แหกคุกออกมา และเปิดไล่ดูหนังที่คุ้นเคยอีกหลายเรื่อง ดูเพลินไปเป็นชั่วโมงเลยครับ สิ่งที่ได้และรู้สึกชัดเจนคือ

1. เป็น Poweramp ที่ผมกล้าพูดว่า ในระดับ 2 แสนบาทลงมา มันเป็นแอมป์ที่โหด หนัก พั๊นซ์ และครบเครื่องในเรื่องบู๊แบบเอาตายที่สุดแล้ว  เบสโหดมว๊ากกกกก โหดแบบกระแทกจุกลิ้นปี หนัก อัด สเกลเสียงโดยรวมหนาขึ้น ลดสดของลำโพง klipsch THX ให้อยู่ในระดับที่สมดุล ไม่ขึ้น ฟ.ฟัน หรือซ.โซ่ ในฉากเสียงแหลมจัดๆ  เพราะแนวเสียง Klipsch THX นั้นเเด่นปลายแหลม รายละเอียดชัดสดอยู่แล้ว  ได้ DR มาเสริม ทำให้สเกลเสียงหนาขึ้น ใหญ่โต อลังการ กลายเป็นลำโพงที่โทนเสียงยิ่งใหญ่ไปเลย เหมือนสองบริษัทนี้เค้าวิจัยมาเพื่อกันและกัน เข้ากันได้พอดี
ถ้าใครใช้ลำโพง Cinema ตัวอื่น โทนเสียงจะยิ่งหนาและใหญ่กว่านี้อีกครับ
ถ้าใครนึกไม่ออกว่าโทนเสียงแบบสเกลใหญ่ อลังการมันเป็นยังไง ให้นึกถึงโทนเสียงของ Pre-processor Anthem D2V ครับ หนาใหญ่ อลังแบบนั้นเลย
และถ้าเป็นลำโพงก็ให้เสียง หนา อลังการ สเกลใหญ่เหมือนๆลำโพง Procella P8 ทำนองนั้น ถ้าใครเคยฟังจะรู้ว่าสเกลมันใหญ่มาก ไดนามิคดี   ส่วนตัวผมยังไม่ได้มีโอกาศลองเอา Emotiva DR3 ไปจับกับ Procella เลยไม่รู้ว่า ถ้าคู่นี้จับคู่กันขึ้นมาแล้ว มันจะยิ่งอลังการใหญ่โตไปได้อีกแค่ไหนครับ แต่แค่ Klispch THX ผมก็พอใจและคิดว่าสมดุลดีแล้ว




2. แนวเสียงของ DR แนวเสียงมาแนวหนา แต่ไม่ทึบ รายละเอียดเยอะมาก (มากจริงๆนะ รายละเอียดต่างๆมันขุดขึ้นมาหมดเลย) ซึ่งก็เข้าใจว่าเป็นแนวที่คนไทยชอบ
แนวเสียงจะต่างจาก XPA ตรงที่สเกลเสียงของ DR จะใหญ่โต อลัง และให้ความรู้สึกว่ายิ่งใหญ่กว่า  เหมือนนั่งดูอยู่ในโรงหนังใหญ่ๆ ให้ความรู้สึกห้องกว้างขึ้น ไดนามิค สเกลเสียงใหญ่
แต่โทนเสียงค่อนข้างจะไปคล้ายโทนทางฝั่ง Anthem MCA Seires ที่เป็น Poweramp โทนอุ่นมากขึ้นอีกนิดนึง

แต่สิ่งนึงที่มั่นใจ และกล้าฟันธงเลยก็คือ รายละเอียด เสียงก้อกแก้กของ DR series นั้นให้ได้มากกว่าและชัดกว่า Anthem MCA อย่างทิ้งกันขาดลอย และทิ้งกันเป็นทุ่งด้วยครับ
เราลองเทียบสเกลเสียง ความหนาของเสียงที่ได้เป็นคะแนนออกมา

สมมติ MCA หนาประมาณ ระดับ8  ซึ่งขาฟังเพลง 2 channels และคนชอบแนวเปิดโปร่งมาฟังก็จะบอกว่าทึบไปเลย  ซึ่งผมก็คิดว่ามันหนาจริง และเบสหนัก

ตัว DR Series จะหนาระดับ 6-7 คือหนามากกว่าเดิมเข้าใกล้ Anthem MCA ไปอีก  แต่ในขณะที่ Emotiva DR รายละเอียดยังเยอะ และจุ๊กจิ๊ก นับใบไม้ นับเสียงลมหายใจได้ ซึ่งถ้าหนากว่านี้ รายละเอียดน่าจะหายไปบ้างแล้ว แบบนี้ดีแล้ว เชื่อเถอะ หนามากๆ ฟังสบายหูก็จริง แต่มันไม่เปิดรายละเอียดออกมา จะเอาหนาไปไหน ไม่เอาซับมาเปิดเป็น LCR ไปเลยละ นั่นหนาสุดละ อ่ะ หยอกๆๆๆๆ ล้อเล่น

ส่วนตัว XPA Gen3 จะหนาประมาณ 5-6  คือกลางๆ ติดไปทางสดนิดๆ  ฟังดุดัน แต่รายละเอียดไม่มากเท่า DR และดันลำโพงได้ไม่ 100% เท่า DR

และ Gen1-2 จะหนาประมาณ 1-3 อันนี้คือตำนานความแห้ง และสด เฟี้ยวฟ้าวจนคนไทยค่อนขอดว่า แอมป์อะไรทำไมแห้งจัง  สายฟังเพลงสองแชนแนล ที่ชอบหนาๆนุ่มๆมาฟังจะทนฟังได้ไม่เกิน 5 นาที




3. เสียงพูด เสียงกระซิบกระซาบใน dialog บทพูด เสียงลมหายใจ  และเสียงจุ๊กจิ๊ก ก้อกแก๊กในหนังที่มาให้ได้ยินเพิ่มแบบชัดเจน ตรงนี้เข้าใจว่าเป็นผลพลอยได้มาจาก กำลังขับมหาศาลถึง 450 วัตต์ต่อแชนแนลของมัน ที่ขุดและดึงศักยภาพของลำโพง Klispch THX ออกมาได้แบบหมดจด รีดจนหมดหลอด ดึงกันจนถึงแก่นแท้ของ Klipsch THX อย่างแท้ทรู  ส่วนเสียงพูดดูหนา มีพลัง และชัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องนั่งเพ่งแบบการเปลี่ยนสายสัญญาณ อ่ะ หยอกๆๆๆ

4. บรรยากาศ มิติของเสียงก็ดีขึ้นด้วย
เวลาสายละมุนที่ชอบฟังเสียงบรรยากาศ เสียงโอบล้อมในหนัง ชอบนั่งนับเสียงใบไม้ว่าหล่นกี่ใบ เสียงหายใจดังชัดลึกมั๊ย เป็นหอบหรือเปล่า แบบนั้นเค้ามักจะพูดกันเรื่องมิติเสียงว่า เนี่ยปรีตัวนี้ให้มิติเสียงในเชิงลึกได้ดีเยี่ยม และ Power ตัวนี้ให้มิติเสียงแยกกันได้เป็นชั้นๆ ชัดเจน  สายดูหนังแนวกำลังอย่างเราก็จะงงว่า อะไรว้า เพราะปกติสายดูหนังก็จะเน้นโทนเสียง เบส ไดนามิค กันเสียมากกว่า  พอเปลี่ยน Power มาลอง Emotiva DR แล้วก็เฮ้ย สงสัยเราจะพลาดอะไรไป ไอ้มิติที่เค้าบอกมันเป็นแบบนี้ใช่มั๊ย เหมือนคนเดินผ่านน้ำมนต์แล้วเบิกเนตร หุตาสว่างว่า อ้อ ไอ้มิติเสียงที่มันแยกแยะได้ชัดแจ้งมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
แบบนี้แหละที่สายละมุนเค้าบอกว่ามันอร่อย ไม่ใช่เอาแต่ฟาดเบสโครมๆ อัดจุกๆอย่างเดียว แต่ความสุขของการดูหนังมันต้องมีมิติเสียงที่ดี ถ้าเอามือไปคว้าก็สามารถระบุได้เลยว่าเสียงไหนเกิดขึ้นที่ตรงไหนของห้อง ความสูงเท่าไร่ อยู่หน้าหรือหลังเรา อะไรทำนองนี้
เขียนไปอ่านจะเว่อร์สักนิด แต่สรุปก็คือ มิติเสียงแยกแยะดีขึ้น  ฉากเงียบสงัดดีขึ้น ฉากพีคก็คุมลำโพงได้ดี หนัก และแน่น เก็บตัวเร็ว คุมเบสได้ดี มิติเสียงก็พลอยดีตามไปด้วยครับ

ข้อดีของ Emo DR นอกจากเรื่องเสียงคือแอมป์ไม่ร้อนครับ ใช้ไปเลย มันไม่ร้อน และขั้วต่อลำโพงด้านหลังให้มาสะใจมาก ยิ่งใหญ่อลังการดาวล้านดวง
ในโลกใบนี้ DR ตัวนี้ไม่น่าจะมีลำโพงดูหนังตัวไหนที่มันขับไม่ออกแล้วนะครับ หรือถ้ามีก็คงไม่ใช่ลำโพงปกติที่คนทั่วไปใช้เล่นกัน ซึ่งผมก็เห็นว่าถ้าจะมีก็คงเป็นลำโพงฟังเพลง super hi-end ซึ่งแอมป์ตัวนี้มันก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของนักเล่นสองแชนแนลอยู่แล้วครับ

ข้อเสียก็คือ ถ้าคุณเป็นคนชอบเสียงแจ๊ดๆ เสียงแช่ะๆ ของเสียงแหลมให้มันเสียดแทงหู เหมือนแอมป์ Emo รุ่นเก่าๆอย่าง Gen1,2
รุ่นใหม่ DR Series นี้ไม่มีอีกแล้วนะครับ โบกมืออำลาได้เลยกับเสียงแว้ดๆ แห้งๆ หวีดๆแบบเดิมๆ ถ้าใครยังชอบแบบนั้น (ซึ่งผมคิดว่าต้องมีแหละ) ก็ให้เก็บแอมป์รุ่นเก่าของคุณเอาไว้ให้ดี มันไม่มีผลิตแล้ว เก็บไว้ฟังให้มีความสุขครับ

สรุป
ได้นั่งฟังมาสักพัก เรามั่นใจ และจะไม่ขอใช้คำพูดเดิมๆ ถนอมน้ำใจกันแบบประมาณว่า "Emotiva DR Series เป็นหนึ่งในแอมป์ที่ให้เสียงดุ หนัก บ้าพลังมากที่สุดในงบ 2 แสนบาทตัวหนึ่ง" อีกต่อไปแล้ว

แต่เรากล้าฟันธงว่า "ในงบ 2 แสนบาทลงมา ในเรื่องของการดูหนัง
นี่คือแอมป์ที่ให้เสียงได้โหดสุดๆ เบสหนัก บ้าพลัง ไดนามิคสุดๆ สเกลเสียงอลังการ ใหญ่โต ให้ฟีลการดูหนังในแบบของโรงภาพยนตร์ และให้รายละเอียด ดีเทล และรองรับฉากพีค มี headroom เหลือๆ ได้ดีที่สุดเท่านี้อีกแล้ว"

ไม่เชื่อมาทำ Blind test กันก็ได้ มาาาๆๆๆๆ
(ยกเว้นคุณไม่ชอบแนวดุ แต่ชอบแนวฟังสบาย พริ้วๆ อันนี้ก็อาจจะคนละทางกัน)

จบจ้า




พบกันเร็วๆนี้กับ Showroom 9.4.6 ที่จะทำให้โลกการดูหนังในระดับ Mid-end ของคุณเปลี่ยนไป ด้วยซิสเต็ม
Klipsch THX Ultra2 + Procella
ประมวลผลด้วย emotiva RMC-1 และ Emotiva DR-3, XPA6, XPA7  และระบบภาพ 4K จากค่าย JVC บนจอ AT ขนาด 140"
Soon จ้า........





















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 21, 2018, 05:29:36 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #705 เมื่อ: มกราคม 18, 2015, 08:15:35 pm »



จัดส่งลำโพงฝังฝ้า Atmos Klipsch Pro-160RPC ขนาดหกนิ้วไปให้คุณตุลย์ พร้อมขาแขวน Benq W1800 และ hdmi FIBBR Ultrapro 15 m ที่กัลปพกฤษ์ครับ

ราคา Atmos Klipsch แบบฝังฝ้า: http://www.whatthatsound.com/category/57/klipsch/klipsch-in-wall-in-ceiling










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 21, 2018, 05:34:18 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #706 เมื่อ: มกราคม 19, 2015, 11:54:51 am »
SVS ตู้เปิด หรือ ตู้ปิด

วันนี้มีโอกาสเขียนถึงแนวเสียงของซับวูฟเฟอร์ตู้เปิด และตู้ปิดของ SVS อีกครั้ง  ก็เพราะว่าผมได้ลูกค้าใจดีท่านนึงสั่ง SVS PB2000 เอาไว้สองตู้ ในระหว่างที่ลูกค้าทำห้องยังไม่เสร็จ แกก็ฝากผมเบิร์นไปเรื่อยๆ  จนวันนั้นมาวันนี้ก็เกือบ 2-3 เดือนเข้าไปแล้วครับ ผมเลยได้เล่น PB2000 ผสมกับ SB16 Ultra จนอิ่มไปเลย

วันนี้ใกล้กำหนดที่ผมต้องส่งมอบของให้ลูกค้าแล้ว ผมจึงจัดการถอด PB2000 ออกมาแพ๊คใส่กล่องให้เหมือนเดิม
ความรู้สึกตอนนี้ผมเลยอยากเขียนเปรียบเทียบเอาไว้เผื่อใครที่ตัดสินใจเลือกซับ SVS ระหว่างตู้เปิดและตู้ปิด ว่าแบบไหนดีกว่าและเหมาะกับตัวเองมากกว่า  (พูดถึงตู้ปิด / ตู้เปิดของ SVS เท่านั้นนะครับ ยี่ห้ออื่นผมไม่พูดถึง)



1. PB หรือตู้เปิด กำลังเยอะกว่าตู้ปิด ราวๆ 1.5-3 เท่าในรุ่นดอกเท่าๆกัน  เยอะขนาดที่ PB2000 กำลังและเนื้อเบสคลุมห้องได้เยอะกว่า SB16 Ultra เสียอีก

2. แนวเสียงตู้เปิด (PB) มาแบบเนื้อเยอะๆ หนาๆ และครางหน่อยๆ ยิ่งดอกใหญ่ยิ่งครางและเก็บตัวช้า แต่ข้อดีคือพละกำลังมหาศาลมาก เหมือนปล่อย Monser วิ่งไปทั่วห้อง  ฉากที่โหม เบสจะพัดมาเป็นคลื่นพัดมาที่ขา ที่หน้าเป็นระลอกเลย และลงได้ลึกกว่าตู้ปิด กระชากโซฟาดำดิ่งได้ดีกว่าตู้ปิด
ถ้าชอบสะใจตัว PB นี่แหละใช่ แต่ต้องแลกมากับความไม่กระชับ ไม่สะอาด มันจะกลบรายละเอียด และถ้าฟังคอนเสิรตช่วงไลนเบสเร็วๆมันจะไม่เด้งดึ้งรัวๆชัดๆ ประมาณว่าคอสองแชนแนลเค้าชอบบอกว่าหัวเบสมันไม่ชัด มันกลบรายละเอียดอะไรทำนองนั้น แต่ได้กำลัง....

3. แนวเสียงตู้ปิด กระชับกว่า เร็วกว่า พั๊นซ์กว่า เบสมาแบบจุดๆ อึกๆๆๆๆ เป็นลูกๆ แล้วหยุด ไม่ได้มาเป็นคลื่นแผ่ยาวๆหนักๆแบบตู้เปิด  เลยทำให้ดูว่าเบสน้อยกว่า
ข้อดีคือเบสเร็ว กระชับกว่า เบสต้นชัดกว่า เก็บตัวดีกว่า ไม่กลบรายละเอียด ได้ยินเสียงไลน์กีตาร์เบสชัดขึ้น ได้ยินเสียงกระเดื่องกลองละเอียดเป็นลูกๆดีขึ้น แลกมากับกำลังที่น้อยกว่า ต้องเร่งเยอะกว่า  และเบสลึกๆแผ่ๆโหมๆ ไม่มีเลย



สรุป
ส่วนตัวผมเป็นคนชอบบริโภคเบส ถ้าถามผมว่าชอบแบบไหน ผมตอบแบบไม่ลังเลว่าผมชอบทั้งสองแบบ เหมือนเรากินอาหาร คนเราไม่จำเป็นต้องกินซ้ำซากแบบเดียวกัน  คนเราชอบกินอาหารหลายอย่างได้
มันมีดีทั้งคู่ ตอนใช้ PB ผมชอบพลังเบสที่คลุม ทำให้ระบบผมดูหนา และหนักสุดๆ แต่แลกมากับรายละเอียดที่หายไปบ้าง เรื่องพละกำลังเบสไม่ใช่ปัญหาของ PB อีกเลย

พอถอด PB ออก ผมใจหาย เบสหายไปเยอะเลย ไม่มันเลย แต่ผมได้รายละเอียด ได้เบสต้นชัดๆมาแทน ฟังกลางแหลมชัดขึ้น คุมเบสได้ดีขึ้น เร็วขึ้น กระชับดีขึ้น

สรุป ดีทั้งคู่ครับ แต่ต่างสไตล์ ต่างแนว มันไม่เหมือนกัน เลือกให้เหมาะกับพฤติกรรมและแนวของคุณเอง แล้วจะได้ความคุ้มค่าที่สุด 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 21, 2018, 05:36:15 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #707 เมื่อ: มกราคม 19, 2015, 10:25:19 pm »
Review Klipsch Reference Theater Pack

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านบทความนี่เต็มๆได้ที่นี่: http://www.whatthatsound.com/article/416/review-klipsch-reference-theater-pack
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



วันนี้ได้ฤกษ์แกะกล่อง Klipsch Reference Theater Pack 5.1 เสียที
หลังจากเอามาดองไว้เป็นอาทิตย์ จนสงกรานต์ งานเริ่มซา คนเริ่มทยอยกันเดินทางกลับตจว. ส่วนหนึ่งก็ถึงเทศกาลที่คนไทยต่างพากันเดินทางไปญี่ปุุ่นโดนมิได้นัดหมาย เดินๆอยู่คงนึกว่าอยู่ต่างจังหวัด เอ๊ะทำไมคนไทยเยอะจัง เจอแต่คนไทย ฮาา
 
ไม่เสียเวลาเยอะ เริ่มกันเลย
แกะกล่องออกมาเจอลำโพง 5 ตัว โดยมี 4 ตัวเป็นลำโพงแซทเทิลไลท์ที่เหมือนกัน ใช้เป็นคู่หน้าและคู่หลัง
ส่วนอีกตัวเป็นเซ็นเตอร์ ทั้งหมดใช้ดอก 3.5 นิ้วและทวีตเตอร์ 1 นิ้ว ทั้งหมดเป็น passive speaker ต้องใช้ avr มาขับ ยกเว้นซับวูฟเฟอร์ที่ถ้าใครซื้อรุ่น 5.1 ตัวซับจะเป็น active ตามปกติสากลโลก และเป็น wireless มาให้สะดวกสบายไม่ต้องลากสายสัญญาณยาวๆ (แต่ต้องเสียบปลั๊กนะ)


 
ตัว woofer ของลำโพงเป็น copper spun ตัววูฟเฟอร์ตัวนี้ถูกประจำการอยู่ในลำโพง klipsch reference series ดังนั้นมั่นใจว่าแนวเสียงมันจะออกกลางๆหน่อย ไม่ได้เสียงเฟี้ยวจัดแบบ Reference Premier series คือฟังง่าย เบสหนา กลางกลมกล่อม ไม่พุ่งสดมากเกินไป
 
แกะออกมาลองต่อกับ Pre Anthem avm60 และ Emotiva power XPA5
และก็มั่นใจว่าด้วยยุทโธปกรณ์ที่เอามาต่อร่วมกันนี้ มันสามารถขุดเอาศัพยภาพของลำโพงชุดนี้ออกมาได้ครบทุกเม็ดแล้วละ
เพราะด้วย power Emo ที่เคยบอกเล่าไปแล้วว่า มัน match และเข้ากันกับ klipsch ได้ดีกว่ายี่ห้ออื่นมากๆ
ประมาณว่าเอา power ตัวนี้ไปต่อกับลำโพงอื่นอาจจะเพิ่มศัพยภาพของชุดได้สัก 20-50% แต่พอเอามาจับกับ klipsch กลับช่วยเสริมกันได้สัก 50-80%
ดังนั้นจึงมั่นใจว่าน้ำเสียงที่ได้ฟังจากการลองฟังครั้งนี้นั้น มันครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุดแล้ว
ในการลองซื้อไปใช้งานจริงๆก็ต้องบอกว่าใช้แค่ AVR ธรรมดาๆ ไม่ต้องรุ่นใหญ่อะไรก็พอแล้วล่ะครับ
 

 
 
ข้อดี
1. ขับง่าย ลำโพงตัวเล็ก แอมป์อะไรก็ขับได้หมด ติดตั้งง่ายสวยงาม น้ำหนักเบา ซ่อนได้ แขวนได้ ตั้งขาตั้งได้ วางหิ้งก็ได้
 
2. แนวเสียงไม่จัดจ้าน ฟังง่าย ติดโทนกลางๆ แนวเสียงรุ่น Reference Series เป็นไง ตัวนี้ก็ยังงั้นเลยครับ เพียงแต่ลด scale ลงมาตามขนาดลำโพง ดีเทลกำลังดี ไม่ได้ขุดดีเทลออกมามากมายนัก และสเกลเสียงก็พอเหมาะกับตัวมัน และเหมาะจะใช้กับห้องขนาดเล็ก ไปจนถึงกลางๆ ในคอนโด ในห้องนอนอะไรแบบนี้จะเหมาะมาก
 
3. ตัวลำโพง งานประกอบดี สวยงาม ดูภูมิฐาน น่าใช้งาน และดูเกินราคาไปไกลครับ
 
ข้อเสีย
1. ช่องต่อลำโพงมันไม่เหมาะกับขั้วต่อบานาน่าแบบปากฉลาม คือยัดขั้วปากฉลามไม่ได้ครับ เค้าออกแบบไว้เสียบสายแบบสดๆ ไม่ได้ออกแบบไว้เสียบบานาน่า ก็เข้าใจนะว่าเน้นประหยัดดี
 
2.แนวเสียงต่างจากรุ่น Quintet V พอสมควร โดยเฉพาะโทนเสียงที่ติดไปทางฟังง่ายขึ้น ไม่ได้เฟี้ยว สดเหมือนเก่า แต่โดยรวมเมื่อเทียบกับลำโพงแซทเทิลไลท์แบรนด์อื่นๆที่ขายกันอยู่ในท้องตลาดแล้วก็ยังถือว่าเสียงดุดัน และชัดเจนกว่ายี่ห้ออื่นอยู่ดีครับ เพียงแต่ถ้าเทียบกับมาตรฐานของ Klipsch อื่นๆที่รุ่นสูงกว่าแล้ว ก็ถือว่าเป็นลำโพงที่เสียงยังไม่ได้ดุมากมาย เหมาะกับครอบครัวและใช้เป็นลำโพงเพื่อสันทนาการ ฟังง่าย ฟังได้ทุกวัยโดยแท้ทรู
 
3. ตัวซับในชุด Theater pack อาจจะเล็กไปนิ้ด สำหรับคนที่ห้องใหญ่หรือคนที่ถวิลหาคลื่นความถี่ต่ำแน่นๆหนักๆ
ตอนลองต่อเราเอา SVS SB6 ultra มาลองสลับใช้ พบว่าบรรยากาศ ฐานเสียง ฐานเบสดีขึ้นเยอะมาก จากเสียงกลางๆกลายเป็นซิสเต็มเสียงดุจนน่ากลัวเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าใครใช้ลำโพงชุดนี้ แล้วได้ซับที่ใหญ่ขึ้น จะช่วยให้เสียงดีขึ้นไปอีกได้หลายเท่าเลยครับ อย่าลืมว่าเปลี่ยนซับดีๆสักตัว มันเปลี่ยนเสียงในซิสเต็มคุณไปได้เลยนะครับ
 


ก่อนเก็บเข้าลังผมได้ลองเอามาเปรียบเทียบกับเสียงของลำโพง Klipsch THX Ultra2
ซึ่งเอาจริงๆ... มันก็เทียบกับไม่ได้หรอกครับ ทั้งราคาและก็วัตถุประสงค์ของคนที่ซื้อลำโพงทั้งสองแบบนี้
แต่เวลาเราอ่านรีวิว เราก็อยากรู้ใช่มั๊ยครับว่า ของธรรมดาๆรุ่นถูกๆ มันเทียบกับของแพงๆรุ่นท๊อปแล้วมันจะต่างกันแค่ไหนเชียว (ว่ะ)
คล้ายๆนั่งดูรีวิว Altis เราก็อยากรู้ว่าเทียบกับ 320D แล้วสมรรถนะมันจะต่างกัน 3-4 เท่าเหมือนราคาหรือเปล่านั่นแหละ
 
ลำโพง Klipsch Theter pack ตัวลำโพงแซทเค้าราคาประมาณตัวละ 4000 บาท (19900 หาร 5) ซึ่งถ้าซื้อแยกราคาจะแพงกว่านี้ เอาเป็นว่าเราตีถ้วนๆกลมๆไปตัวละ 5000 บาท
ส่วน Klipch THX Ultra 2 KL650 นั้นตัวละ 65000 บาท
ต่างกัน 13 เท่าครับ สำหรับราคาลำโพงสองรุ่นนี้
 
ตัวนึงเกิดมาเพื่อเป็นที่สุดของลำโพงดูหนังที่ให้เสียงสด รุกเร้า และสเกลเสียงใหญ่โตแบบลำโพง commercial ในโรงหนัง
ส่วนอีกตัวออกแบบมาเพื่อเป็นลำโพงแซทใช้ในครอบครัวห้องเล็กๆ ดูหนังฟังเพลงทั่วๆไป
 
ผมลองต่อลำโพง Klipsch Theater pack แล้วเปิดเพลงฟังแบบ 2 แชนแนล เสียงที่ได้จากลำโพง Theater pack ยังคงเป็นโทนเสียงแบบลำโพง klipsch อยู่ ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่ชัด forward เล็กน้อย และเบสที่ดีกว่าลำโพงแซทแบรนด์อื่นๆ
แต่เมื่อเทียบกับ KL650 แล้ว ก็เหมือนเอาแมวไปเทียบกับเสือ
ไม่ว่าจะเป็นสเกลเสียง ความอิ่มเข้ม ความพุ่ง ความสด พลังเบส ไดนามิค ต่างกันมากกกนะครับ ฟังเสียงพูดก็ต่างกันอย่างชัดเจน



แต่ๆความต่างถ้าประมาณออกมาเป็นตัวเลข ผมว่ามันน่าจะต่างกันสัก 4-5 เท่า ไม่ได้ห่างเป็น 13 เท่าเหมือนราคานะครับ
 
ดังนั้นมันจึงมองออกมาได้สองแบบคือ
1. สำหรับคนที่ถวิลหาความคุ้มค่า งบน้อย ห้องเล็ก ตัวลำโพง Klipsch Reference Theater Pack ก็ให้ความคุ้มค่ามากๆแล้ว นับแค่ตัวลำโพงที่ถูกกว่า 13 เท่า และยังไม่นับต้นทุนที่ต้องหาปรีโปร เพาเว่อร์ดีๆมาขับลำโพง THX อีกนะ ถ้าใจคิดจะจบ ชุดแค่ Theeater pack ก็จบได้ครับ
 
2. Klipsch THX Ultra2 มันคือของแพง ราคาก็ไปไกล แต่คุณภาพก็ดีสมราคา สำหรับคนที่เน้นดูหนัง เราบอกว่าเสียงไม่ทำให้ใครผิดหวังแน่นอน เพียงแต่คำว่าของแพง กับคำว่าคุ้มค่ามันต้องพิจารณาว่า แค่ไหนดี แค่ไหนคุ้มค่า
บางทีของแพงกว่าสิบเท่า แต่คุณภาพเพิ่มขึ้นได้สัก 3-5 เท่านี่ก็ดีมากแล้วครับ เพราะธรรมชาติของสินค้า ยิ่งแพงเท่าไร่ บางทีความต่างก็คืออะไรที่ทำได้ยาก และต่างกันนิดหน่อยนี่แหละครับ และความต่างนิดนึงตรงนี้เองไม่ใช่หรือ ที่เราตามหา และต้องการมัน
แต่ถ้าถามผม สำหรับคอดูหนังจริงจัง ผมว่ามันคุ้มราคาในตัวของมันครับ ไม่ได้แพง คุณภาพดี แต่คำว่าคุ้มของคุณมันต้องพิจารณาในหลายปัจจัยและหลายมิติ
 
และสุดท้ายอย่าลืมว่า เราเล่นเครื่องเสียง เรากำลังตามหาความคุ้มค่า หรือคุ้มเงิน หรือของถูกที่สุดหรือเปล่า เราเล่นเครื่องเสียงเราใช้อะไรในการตัดสินใจ เหตุผล หรืออารมณ์ความรู้สึก
มันเป็น Emotional product ใช่หรือเปล่า หรือแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่แปลงกำลังไฟออกมาเป็นเสียงเท่านั้น
 
แนวคิดที่ต่างกันและทุนทรัพย์นี่เองจะเป็นตัวบอกเองว่า มันคุ้มมั๊ย...... ขอให้มีความสุขในการเล่นเครื่องเสียงครับ....













'




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 21, 2018, 05:43:09 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #708 เมื่อ: มกราคม 20, 2015, 08:44:33 am »
SVS Prime Elevation ลำโพงที่เกิดมาเพื่อเก่งหลายทาง

-------------------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆได้ที่นี่: https://goo.gl/sr23H1
-------------------------------------------------------------------



SVS Prime Elevation คือลำโพงที่ถูกออกแบบและสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเป็นลำโพง Multi purpose สามารถใช้งานได้ถึง
3 วัตถุประสงค์

1. เพื่อเป็นลำโพงแขวนฝ้าในระบบ Dolby Atmos

2. หรือเป็นลำโพงแขวนผนังเพื่อเป็น Side surround หรือเป็น Surround Back

3. เพื่อวางหิ้ง หรือวางบนชั้นวางเพื่อเป็น LCR

ในกล่องให้ ceiling mount สำหรับแขวนแถมมาให้ด้วย สามารถเจาะแขวนผนัง แขวนฝ้าได้ง่าย ออกมาแบบให้ port หลังทาบปิดทับไปกับฝ้า หรือผนังได้ โดยให้เสียงที่ดี มีรางวัลการันตีในราคาย่อมเยาว์เข้าถึงง่ายอีกด้วยครับ






























« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 21, 2018, 05:47:38 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #709 เมื่อ: มกราคม 20, 2015, 12:33:55 pm »
 [ปลื่ม]

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #710 เมื่อ: มกราคม 20, 2015, 05:00:20 pm »
 [ปลื่ม]

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #711 เมื่อ: มกราคม 21, 2015, 10:40:02 am »
 [ปลื่ม]

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #712 เมื่อ: มกราคม 21, 2015, 01:06:14 pm »
 [ปลื่ม]

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #713 เมื่อ: มกราคม 21, 2015, 09:18:30 pm »
 [ปลื่ม]

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #714 เมื่อ: มกราคม 22, 2015, 10:43:56 am »
 [ปลื่ม]

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #715 เมื่อ: มกราคม 22, 2015, 01:30:41 pm »
 [ปลื่ม]

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #716 เมื่อ: มกราคม 22, 2015, 07:03:39 pm »
 [หื่น]

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #717 เมื่อ: มกราคม 23, 2015, 09:28:22 am »
 [หื่น]

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #718 เมื่อ: มกราคม 23, 2015, 01:51:10 pm »
 [ปลื่ม]

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #719 เมื่อ: มกราคม 23, 2015, 05:37:03 pm »
 [ปลื่ม]