« ตอบกลับ #704 เมื่อ: มกราคม 18, 2015, 02:38:11 pm »
Preview แกะกล่องลองยลโฉม Poweramp ใหม่จาก Emotiva - DR Series
---------------------------------------------------------------
อ่านบทความนี่้เต็มๆได้ที่นี่: https://goo.gl/w9ft9a
---------------------------------------------------------------
Emotiva ออก Power ไลน์ใหม่ออกมา ใช้ชื่อว่า DR (Differential Reference) โดยถูกวาง Position เอาไว้เป็นแอมป์ที่อยู่ภายใต้สายการผลิต Generation ที่ 3 แต่อยู่เหนือ XPA ขึ้นไปอีก โดยวางตัวเป็นแอมป์กำลังขับสูง คุณภาพสูง มีด้วยกันทั้งหมดสามรุ่น ได้แก่
DR1: Monoblock 1 ch
650 watts RMS into 8 Ohms at <0.1% THD.
1000 watts RMS into 4 Ohms at <0.1% THD.
DR2: 2 ch (550 watts * 2)
550 watts RMS, per channel, into 8 Ohms, at <0.1% THD.
800 watts RMS, per channel, into 4 Ohms, at <0.1% THD.
DR3: 3 ch (450 watts * 3)
450 watts RMS, per channel, into 8 Ohms, at <0.1% THD.
600 watts RMS, per channel, into 4 Ohms, at <0.1% THD.
ทุกรุ่นมาพร้อมกับสเปคค่า damping factor >500
และพกพาช่องต่อ RCA และ XLR พร้อม ฟังชั่นต่างๆก็เรียบง่ายๆตามประสา Poweramp ไม่มีอะไรแฟนตาซีมากมาย (ก็มันคือ Poweramp) ก็จะมี Main switch อันนึง มีฟิวส์ มีสวิทซ์เปลี่ยนการรับสัญญาณจาก RCA ไป XLR หรือ XLR ไป RCA แค่นี้ครับ ใช้ง่ายๆ ทนทาน ถึก ตามประสา power สไตล์อเมริกัน ใครใช้ Emo แล้วเสียได้ขอยกนิ้วให้เลย
รุ่นที่เราจะแกะมาทดลองวันนี้เป็น DR3 ให้กำลังขับสูงถึง 450 วัตต์ที่ 8 โอห์ม แยกแต่ละช่องกัน โดยให้มาทั้งหมดสามช่อง ก็แปลว่าสามารถต่อลำโพงได้สามแชนแนล ซึ่งก็แน่นอนครับ power แบบนี้ก็นิยมเอาไปต่อ LCR หรือลำโพงสามตัวหน้าที่เป็นคู่หน้า และเซ็นเตอร์อยู่แล้ว
ดังนั้น LCR เราจะโดนขับด้วย Power ที่มีกำลังมหาศาลถึง 450 วัตต์แต่ละช่องเลยทีเดียว ซิสเต็มที่เราเอามาต่อทดสอบก็เป็น Klipsch THX Ultra 2 KL650 และ Pre-Processcer Anthem AVM60
แกะกล่องออกมาก็เจอใบ Certificate มีลายเซ็นสดๆที่ไม่ใช่แบบถ่ายเอกสารของพนักงานฝ่ายประกอบ ฝ่าย QC อะไรทำนองนี้เพื่อการันตีว่าแอมป์ตัวนี้ถูกผลิตมาจากอเมริกา และใช้ Part จากอเมริกาแท้ๆ มีแจ้งเลข serial number พร้อมสรรพ
และก็มีกล่องอุปกรณ์ที่ประกอบด้วยสายไฟ (ให้สายไฟมาด้วย ต่างจาก Anthem ที่ไม่ให้สายไฟ)
และก็มีสติ๊กเกอร์เอาไว้ปิดบอกว่าแชนแนลไหนเราจะใช้ต่ออะไร ซึ่งเป็นกิมมิจที่จะแปะก็ได้ ไม่แปะก็ไม่เป็นอะไรครับ เอาไว้ขำๆ จริงๆผมแนะนำทาง emo นะว่าถ้าจะให้ดูดี ดูไฮขึ้นน่าจะแถมถุงมือผ้าสีดำมาอีกคู่นึงไปเลยฮะเพ่ จะได้ดูโปรกว่านี้ยิ่งขึ้นอีก อ่ะ หยอกๆๆ
หน้าตาของ DR3 ของเรานั้นแกะกล่องออกมาแล้ว ด้านหน้าก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจาก Emotiva Gen3 รุ่น XPA เลยครับ มีจุดนึงที่บอกว่า ตรูข้าเนี่ยคือ DR Series เหนือกว่าพวกแกเหล่า XPA นะเฟ้ย ก็ตรงป้ายเพลทบอกรุ่นที่แปะคำว่า DR-3 เอาไว้นั่นแหละครับ ด้านหน้ามีแค่นี้
พอพลิกมาด้านหลัง หน้าตาดูอลังการงานสร้างมาก เพราะ DR Series ให้ขั้วต่อลำโพงแบบใหญ่บึ้มมาเลย คือถ้าดูจากรูปแล้วจะไม่รู้สึกว่าใหญ่อะไรมาก แต่ถ้าดูตัวจริงจะตกใจ เป็นขั้วต่อลำโพงที่ดูไฮโซ ใหญ่ และหนามาก ดูน่าเกรงขามมากๆครับ และการจัดวางตำแหน่งของขั้วลำโพงก็จะวางสลับฟันปลาขึ้นลงกัน ต่างจากรุ่น XPA ปกติที่วางเรียงกันตรงๆ
ในเรื่องของหน้าตานั้นยอมรับว่าด้านหน้าอาจจะไม่มีอะไรหวือหวา แต่ด้านหลังยอมรับว่าเราชอบ มันดูยิ่งใหญ่ และดุดันดีครับ
ลองฟังเสียง
ในคำโปรยของ Emotiva เค้าโปรยไว้ว่า Power amp ตัวนี้เป็น high power audiophile to deliver musical crescendos and movie
เห็นโปรยแบบนี้ก็อย่าเพิ่งตกใจไปว่า แนวเสียงจะมาเน้นแนวฟังเพลง ละมุนนุ่มดั่งปุยเมฆแบบ Parasound เหรอ
เปล่าครับ ไอ้คำว่า music ของมะกันเค้า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า แนวเสียงฟังเพลงแบบคนอเมริกัน กับแนวเสียงฟังเพลงแบบคนเอเชียชาติไทย แถบๆฮ่องกง ญี่ปุ่น จีน ที่นิยมเปิดตามงานเครื่องเสียง ชุดละหลายล้านกรุ้งกริ้งๆ หรือเปิดเพลงร้องไทยเดิมแบบนั้น มันคนละแนวกัน ซึ่งผมลองต่อฟังแล้วก็ไม่แปลกใจที่มันกล้าใส่คำโปรยว่ามันทำได้ดีเรื่องฟังเพลง เพราะมันฟังดีจริงๆ อิมแพคดี ไดนามิคมา แต่มันฟังดีในแบบเพลงแนวอเมริกัน ไม่ใช่แบบที่เปิดเสียงฉาบ เสียงเคาะขิม เคาะแก้วอะไรแบบนั้นน่ะ ต้องทำความเข้าใจกันก่อนจะได้เดินไปถูกทาง
เราลองต่อฟังกันแบบคร่าวๆ ยังไม่พ้นเบิรน์ กับห้องเดิมๆ หนังเรื่องเดิมๆที่เราชอบ ที่เราคุ้นเคย ชินเสียง และจำเสียงได้ดีทุกเม็ดทุกฉาก ระหว่างรอห้องใหม่ในโชวรูมเราที่เป็น 9.1.6 (Immersive sound) กันไปพลางๆ
เทสด้วยหนังที่เราชอบเปิดเทสอย่าง Assasin Creed ฉากท้ายที่แหกคุกออกมา และเปิดไล่ดูหนังที่คุ้นเคยอีกหลายเรื่อง ดูเพลินไปเป็นชั่วโมงเลยครับ สิ่งที่ได้และรู้สึกชัดเจนคือ
1. เป็น Poweramp ที่ผมกล้าพูดว่า ในระดับ 2 แสนบาทลงมา มันเป็นแอมป์ที่โหด หนัก พั๊นซ์ และครบเครื่องในเรื่องบู๊แบบเอาตายที่สุดแล้ว เบสโหดมว๊ากกกกก โหดแบบกระแทกจุกลิ้นปี หนัก อัด สเกลเสียงโดยรวมหนาขึ้น ลดสดของลำโพง klipsch THX ให้อยู่ในระดับที่สมดุล ไม่ขึ้น ฟ.ฟัน หรือซ.โซ่ ในฉากเสียงแหลมจัดๆ เพราะแนวเสียง Klipsch THX นั้นเเด่นปลายแหลม รายละเอียดชัดสดอยู่แล้ว ได้ DR มาเสริม ทำให้สเกลเสียงหนาขึ้น ใหญ่โต อลังการ กลายเป็นลำโพงที่โทนเสียงยิ่งใหญ่ไปเลย เหมือนสองบริษัทนี้เค้าวิจัยมาเพื่อกันและกัน เข้ากันได้พอดี
ถ้าใครใช้ลำโพง Cinema ตัวอื่น โทนเสียงจะยิ่งหนาและใหญ่กว่านี้อีกครับ
ถ้าใครนึกไม่ออกว่าโทนเสียงแบบสเกลใหญ่ อลังการมันเป็นยังไง ให้นึกถึงโทนเสียงของ Pre-processor Anthem D2V ครับ หนาใหญ่ อลังแบบนั้นเลย
และถ้าเป็นลำโพงก็ให้เสียง หนา อลังการ สเกลใหญ่เหมือนๆลำโพง Procella P8 ทำนองนั้น ถ้าใครเคยฟังจะรู้ว่าสเกลมันใหญ่มาก ไดนามิคดี ส่วนตัวผมยังไม่ได้มีโอกาศลองเอา Emotiva DR3 ไปจับกับ Procella เลยไม่รู้ว่า ถ้าคู่นี้จับคู่กันขึ้นมาแล้ว มันจะยิ่งอลังการใหญ่โตไปได้อีกแค่ไหนครับ แต่แค่ Klispch THX ผมก็พอใจและคิดว่าสมดุลดีแล้ว
2. แนวเสียงของ DR แนวเสียงมาแนวหนา แต่ไม่ทึบ รายละเอียดเยอะมาก (มากจริงๆนะ รายละเอียดต่างๆมันขุดขึ้นมาหมดเลย) ซึ่งก็เข้าใจว่าเป็นแนวที่คนไทยชอบ
แนวเสียงจะต่างจาก XPA ตรงที่สเกลเสียงของ DR จะใหญ่โต อลัง และให้ความรู้สึกว่ายิ่งใหญ่กว่า เหมือนนั่งดูอยู่ในโรงหนังใหญ่ๆ ให้ความรู้สึกห้องกว้างขึ้น ไดนามิค สเกลเสียงใหญ่
แต่โทนเสียงค่อนข้างจะไปคล้ายโทนทางฝั่ง Anthem MCA Seires ที่เป็น Poweramp โทนอุ่นมากขึ้นอีกนิดนึง
แต่สิ่งนึงที่มั่นใจ และกล้าฟันธงเลยก็คือ รายละเอียด เสียงก้อกแก้กของ DR series นั้นให้ได้มากกว่าและชัดกว่า Anthem MCA อย่างทิ้งกันขาดลอย และทิ้งกันเป็นทุ่งด้วยครับ
เราลองเทียบสเกลเสียง ความหนาของเสียงที่ได้เป็นคะแนนออกมา
สมมติ MCA หนาประมาณ ระดับ8 ซึ่งขาฟังเพลง 2 channels และคนชอบแนวเปิดโปร่งมาฟังก็จะบอกว่าทึบไปเลย ซึ่งผมก็คิดว่ามันหนาจริง และเบสหนัก
ตัว DR Series จะหนาระดับ 6-7 คือหนามากกว่าเดิมเข้าใกล้ Anthem MCA ไปอีก แต่ในขณะที่ Emotiva DR รายละเอียดยังเยอะ และจุ๊กจิ๊ก นับใบไม้ นับเสียงลมหายใจได้ ซึ่งถ้าหนากว่านี้ รายละเอียดน่าจะหายไปบ้างแล้ว แบบนี้ดีแล้ว เชื่อเถอะ หนามากๆ ฟังสบายหูก็จริง แต่มันไม่เปิดรายละเอียดออกมา จะเอาหนาไปไหน ไม่เอาซับมาเปิดเป็น LCR ไปเลยละ นั่นหนาสุดละ อ่ะ หยอกๆๆๆๆ ล้อเล่น
ส่วนตัว XPA Gen3 จะหนาประมาณ 5-6 คือกลางๆ ติดไปทางสดนิดๆ ฟังดุดัน แต่รายละเอียดไม่มากเท่า DR และดันลำโพงได้ไม่ 100% เท่า DR
และ Gen1-2 จะหนาประมาณ 1-3 อันนี้คือตำนานความแห้ง และสด เฟี้ยวฟ้าวจนคนไทยค่อนขอดว่า แอมป์อะไรทำไมแห้งจัง สายฟังเพลงสองแชนแนล ที่ชอบหนาๆนุ่มๆมาฟังจะทนฟังได้ไม่เกิน 5 นาที
3. เสียงพูด เสียงกระซิบกระซาบใน dialog บทพูด เสียงลมหายใจ และเสียงจุ๊กจิ๊ก ก้อกแก๊กในหนังที่มาให้ได้ยินเพิ่มแบบชัดเจน ตรงนี้เข้าใจว่าเป็นผลพลอยได้มาจาก กำลังขับมหาศาลถึง 450 วัตต์ต่อแชนแนลของมัน ที่ขุดและดึงศักยภาพของลำโพง Klispch THX ออกมาได้แบบหมดจด รีดจนหมดหลอด ดึงกันจนถึงแก่นแท้ของ Klipsch THX อย่างแท้ทรู ส่วนเสียงพูดดูหนา มีพลัง และชัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องนั่งเพ่งแบบการเปลี่ยนสายสัญญาณ อ่ะ หยอกๆๆๆ
4. บรรยากาศ มิติของเสียงก็ดีขึ้นด้วย
เวลาสายละมุนที่ชอบฟังเสียงบรรยากาศ เสียงโอบล้อมในหนัง ชอบนั่งนับเสียงใบไม้ว่าหล่นกี่ใบ เสียงหายใจดังชัดลึกมั๊ย เป็นหอบหรือเปล่า แบบนั้นเค้ามักจะพูดกันเรื่องมิติเสียงว่า เนี่ยปรีตัวนี้ให้มิติเสียงในเชิงลึกได้ดีเยี่ยม และ Power ตัวนี้ให้มิติเสียงแยกกันได้เป็นชั้นๆ ชัดเจน สายดูหนังแนวกำลังอย่างเราก็จะงงว่า อะไรว้า เพราะปกติสายดูหนังก็จะเน้นโทนเสียง เบส ไดนามิค กันเสียมากกว่า พอเปลี่ยน Power มาลอง Emotiva DR แล้วก็เฮ้ย สงสัยเราจะพลาดอะไรไป ไอ้มิติที่เค้าบอกมันเป็นแบบนี้ใช่มั๊ย เหมือนคนเดินผ่านน้ำมนต์แล้วเบิกเนตร หุตาสว่างว่า อ้อ ไอ้มิติเสียงที่มันแยกแยะได้ชัดแจ้งมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
แบบนี้แหละที่สายละมุนเค้าบอกว่ามันอร่อย ไม่ใช่เอาแต่ฟาดเบสโครมๆ อัดจุกๆอย่างเดียว แต่ความสุขของการดูหนังมันต้องมีมิติเสียงที่ดี ถ้าเอามือไปคว้าก็สามารถระบุได้เลยว่าเสียงไหนเกิดขึ้นที่ตรงไหนของห้อง ความสูงเท่าไร่ อยู่หน้าหรือหลังเรา อะไรทำนองนี้
เขียนไปอ่านจะเว่อร์สักนิด แต่สรุปก็คือ มิติเสียงแยกแยะดีขึ้น ฉากเงียบสงัดดีขึ้น ฉากพีคก็คุมลำโพงได้ดี หนัก และแน่น เก็บตัวเร็ว คุมเบสได้ดี มิติเสียงก็พลอยดีตามไปด้วยครับ
ข้อดีของ Emo DR นอกจากเรื่องเสียงคือแอมป์ไม่ร้อนครับ ใช้ไปเลย มันไม่ร้อน และขั้วต่อลำโพงด้านหลังให้มาสะใจมาก ยิ่งใหญ่อลังการดาวล้านดวง
ในโลกใบนี้ DR ตัวนี้ไม่น่าจะมีลำโพงดูหนังตัวไหนที่มันขับไม่ออกแล้วนะครับ หรือถ้ามีก็คงไม่ใช่ลำโพงปกติที่คนทั่วไปใช้เล่นกัน ซึ่งผมก็เห็นว่าถ้าจะมีก็คงเป็นลำโพงฟังเพลง super hi-end ซึ่งแอมป์ตัวนี้มันก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของนักเล่นสองแชนแนลอยู่แล้วครับ
ข้อเสียก็คือ ถ้าคุณเป็นคนชอบเสียงแจ๊ดๆ เสียงแช่ะๆ ของเสียงแหลมให้มันเสียดแทงหู เหมือนแอมป์ Emo รุ่นเก่าๆอย่าง Gen1,2
รุ่นใหม่ DR Series นี้ไม่มีอีกแล้วนะครับ โบกมืออำลาได้เลยกับเสียงแว้ดๆ แห้งๆ หวีดๆแบบเดิมๆ ถ้าใครยังชอบแบบนั้น (ซึ่งผมคิดว่าต้องมีแหละ) ก็ให้เก็บแอมป์รุ่นเก่าของคุณเอาไว้ให้ดี มันไม่มีผลิตแล้ว เก็บไว้ฟังให้มีความสุขครับ
สรุป
ได้นั่งฟังมาสักพัก เรามั่นใจ และจะไม่ขอใช้คำพูดเดิมๆ ถนอมน้ำใจกันแบบประมาณว่า "Emotiva DR Series เป็นหนึ่งในแอมป์ที่ให้เสียงดุ หนัก บ้าพลังมากที่สุดในงบ 2 แสนบาทตัวหนึ่ง" อีกต่อไปแล้ว
แต่เรากล้าฟันธงว่า "ในงบ 2 แสนบาทลงมา ในเรื่องของการดูหนัง
นี่คือแอมป์ที่ให้เสียงได้โหดสุดๆ เบสหนัก บ้าพลัง ไดนามิคสุดๆ สเกลเสียงอลังการ ใหญ่โต ให้ฟีลการดูหนังในแบบของโรงภาพยนตร์ และให้รายละเอียด ดีเทล และรองรับฉากพีค มี headroom เหลือๆ ได้ดีที่สุดเท่านี้อีกแล้ว"
ไม่เชื่อมาทำ Blind test กันก็ได้ มาาาๆๆๆๆ
(ยกเว้นคุณไม่ชอบแนวดุ แต่ชอบแนวฟังสบาย พริ้วๆ อันนี้ก็อาจจะคนละทางกัน)
จบจ้า
พบกันเร็วๆนี้กับ Showroom 9.4.6 ที่จะทำให้โลกการดูหนังในระดับ Mid-end ของคุณเปลี่ยนไป ด้วยซิสเต็ม
Klipsch THX Ultra2 + Procella
ประมวลผลด้วย emotiva RMC-1 และ Emotiva DR-3, XPA6, XPA7 และระบบภาพ 4K จากค่าย JVC บนจอ AT ขนาด 140"
Soon จ้า........
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 21, 2018, 05:29:36 pm โดย keamglad »
บันทึกการเข้า