24 May 2019
Article

5 เหตุผลที่ Disney Plus สามารถเอาชนะ Netflix ได้ (และอีก 5 เหตุผลว่าทำไม Disney Plus ถึงเอาชนะ Netflix ไม่ได้)


  • tormoo

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าจับตามองมากๆ ในตอนนี้ของวงการสตรีมมิ่งนั่นก็คือการเข้ามาร่วมวงของ Disney ในการแย่งส่วนแบ่งลูกค้าจาก Netflix ยักษ์ใหญ่ที่ครองความเป็นเจ้าแห่งสตรีมมิ่งกันมาสักพักใหญ่

ซึ่งแน่นอนว่าในแต่ละบริการย่อมีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป เราเลยทำการรวบรวม 5 เหตุผลว่าทำไม Disney+ จะสามารถเอาชนะ Netflix ได้ และอีก 5 เหตุผลว่าทำไม Disney+ จะเอาชนะ Netflix ไม่ได้ เหตุผลที่ว่าจะมีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย

1.เหตุผลที่ Disney+ เอาชนะ Netflix ไม่ได้ : เพราะ Netflix อยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่เริ่มยังไงล่ะ

ก็ต้องบอกเลยว่า Netflix นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ยุกเบิกการให้บริการสตรีมมิ่งอย่างแท้จริง และเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่ทำให้พฤติกรรมการบริโภคซีรีส์หรือภาพยนตร์ของผู้คนในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก ซึ่งเหตุผลนี้ทำให้ Netflix มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ซึ่ง Disney+ เข้ามาทีหลังก็ต้องเหนื่อยหน่อยแหละ

2.เหตุผลที่ Disney+ เอาชนะ Netflix ได้: Disney+ ถูกกว่า!!!!

สิ่งที่ได้เปรียบของ Disney+ อย่างเห็นได้ชัดในตอนนี้เลยก็คือค่าบริการที่เปิดตัวมาได้ถูกกว่า Netflix นั่นเอง โดยค่าบริการของ Disney+ นั้นอยู่ที่เดือนละ $6.99 และสำหรับรายปีอยู่ที่ $69.99 เท่านั้นซึ่งรายปีนั้นจะถูกกว่ารายเดือนไปอีก $13.89 ซะด้วย ในขณะที่ Netflix แพ็คเกจเริ่มต้นก็ปาเข้าไปที่ $9 แล้วเรียกได้ว่างานนี้ Netflix แพงกว่าเต็มๆ 

3.เหตุผลที่ Disney+ เอาชนะ Netflix ไม่ได้ : ผู้ใช้ส่วนใหญ่เขาสมัคร Netflix กันไปหมดแล้ว!!

แน่นอนว่าอยู่มาก่อนย่อมได้เปรียบซึ่ง Netflix นั้นมีฐานลูกค้าอยู่ในมืออยู่แล้วแม้การมาของ Disney+ จะมีจุดดึงดูดใจด้วยราคาและคอนเทนท์แต่ ซึ่งผู้ที่เป็นสมาชิก Netflix อยู่แล้วก็อาจจะพิจรณาในการสมัคร Disney+ เพิ่มนั่นเอง

4.เหตุผลที่ Disney+ เอาชนะ Netflix ได้: Disney+ มีแต่หนังดีๆ น่ะสิ

สำหรับ Disney+ นั้นมีจุดแข็งก็คือคอนเทนท์ภาพยนตร์ระดับ Block Buster แบบแน่นตึ๊บด้วยจำนวนแฟรนไชส์ชั้นนำทั้ง MCU (Marvel), Star Wars, Pixar และ Disney เองที่บอกเลยว่าแน่นไปด้วยคุณภาพสุดๆ 

5.เหตุผลที่ Disney+ เอาชนะ Netflix ไม่ได้ : ก็ Disney มีแต่ของสำหรับเด็กๆ เท่านั้นแหละ

เป็นภาพติดตาสำหรับใครหลายๆ คนแน่นอนว่า Disney นั้นอุดมไปด้วยคอนเทนท์ที่เหมาะสำหรับเด็กๆ เท่านั้น ซึ่งก็คงไม่ผิดนักเพราะว่า Disney+ นั้นไม่มีคอนเทนท์ที่มีเนื้อหารุนแรงหนักหน่วงแบบ Narcos หรือ Black Mirror อย่างแน่นอน

6.เหตุผลที่ Disney+ เอาชนะ Netflix ได้ : คอนเทนท์ของ Disney+ น่าสนใจมากๆ

Disney+ จะมีซีรีส์จากแฟรนไชส์แจ๋วๆ จากทั้ง Star Wars และ MCU ที่พร้อมที่จะขยายจักรวาลภาพยนตร์และซีรีส์ไปพร้อมๆ กัน รวมไปถึงยังมีอนิเมชั่นของ Disney เองด้วยที่รับรองได้ว่าไม่มีใครเหมือนแน่นอน

7.เหตุผลที่ Disney+ เอาชนะ Netflix ได้ : เพราะ Disney นั้นรวยยังไงล่ะ!!!

เหตุผลง่ายๆ แต่ชัวร์มากๆ แม้ว่าเงินทุนอาจจะไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่งแต่สิ่งที่ Disney มีอยู่ในมือนั้นพอที่จะทำให้นำเงินเหล่านั้นมาพัฒนาคอนเทนท์ของตัวเองให้มีความน่าดึงดูดสำหรับผู้ชมได้ไม่น้อยก็มากก็น้อย ซึ่ง Disney ยังมีจุดแข็งที่ว่านั้นอยู่

8.เหตุผลที่ Disney+ เอาชนะ Netflix ไม่ได้ : Disney+ มีคอนเทนท์น้อยกว่า

ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลหนึ่งที่ Disney นั้นหนีไม่ออกจาก Netflix นอกจากการที่มาก่อนแล้ว Netflix ยังมีจำนวนคอนเทนท์ในมือที่อยู่ในระดับมหาศาลก็ว่าได้ แต่ทั้งนี้จำนวนนั้นไม่ได้เท่ากับคุณภาพอย่างแน่นอนอีกอย่างของแบบนี้มันตั้งใจเวลา แต่ในระยะเริ่มแรกนั้น Netflix นั้นได้เปรียบเรื่องจำนวนคอนเทนท์แบบเต็มๆ เลยแหละ

9.เหตุผลที่ Disney+ เอาชนะ Netflix ได้ : Disney ก็คือ Disney นั่นแหละ

ก็เพราะเหตุผลง่ายๆ ที่ว่านั่นก็คือ Disney ซึ่งที่ผ่านมา Disney แทบจะไม่เคยตัดสินใจอะไรผิดพลาดเลยไม่ว่าจะเป็นการเข้าซื้อ Marvel ตามมาด้วย Star Wars ตามมาด้วย 20th Century Fox ตอนนี้ Disney ครอบครองแทบจะทุกสิ่งในวงการภาพยนตร์แล้วก็ว่าได้ และด้วยสิ่งที่ Disney ซื้อมานั้นทำกำไรให้ Disney อย่างงามชนิดที่ชาตินี้ใช้ยังไงก็ไม่หมด ดังนั้นเมื่อ Disney เปิดตัว Disney+ แล้วพวกเขาย่อมตัดสินใจไม่พลาดแน่นอน ต่อให้พลาด Disney ก็อาจจะแก้ตัวด้วยการซื้อ Netflix ซะเลยก็เป็นได้นะ

10.เหตุผลที่ Disney+ เอาชนะ Netflix ไม่ได้ : ก็เพราะการที่จะพยายามเอาขนะ Netflix นั่นเองแหละ

อย่าเอาชนะคนอื่นด้วยสิ่งที่เราไม่ได้เป็นนี่น่าจะเป็นสิ่งที่อธิบายเหตุผลข้อนี้ได้ดีที่สุด เราจะเอาชนะคนอื่นด้วยสิ่งที่เราถนัดนั่นแหละดีที่สุด Disney ไม่จำเป็นต้องเอาชนะในสิ่งที่เป็นจุดแข็งของ Netflix พวกเขาต้องเอาชนะ Netflix ด้วยจุดแข็งที่ Disney มี Amazon, Hulu นั้นก็ต่างรู้จุดแข็งของตัวเองเพื่อต่อกร Netflix ในจุดที่พวกเขาถนัดดังนั้น Disney ก็ควรจะทำแบบนั่นเช่นกัน 

ที่มา : screenrant.com