สำหรับหลายๆ นั้นรู้สึกว่าการเลือกซื้อทีวีสักเครื่องนั้นเป็นสิ่งที่น่ากังวลและเต็มไปด้วยความเครียดมากๆ เพราะการเลือกซื้อทีวีนั้นเราจำเป็นต้องเลือกว่าทีวีรุ่นนั้นๆ โดนใจเราหรือไม่มีคุณภาพที่ดีพอกับเงินที่เราจ่ายไปหรือไม่
เนื่องด้วยการที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่อย่างเราๆ นั้นไม่ได้ทำการเปลี่ยนทีวีบ่อยๆ เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนทำให้การเลือกซื้อทีวีเครื่องหนึ่งนั้นจำเป้นต้องคุ้มค่าและใช้ได้อย่างยาวนานมากที่สุด ซึ่งในบทความนี้จากเว็บไซต์ The Verge ได้แนะนำการเลือกซื้อทีวีให้เหมาะสมกับคุณมากที่สุดเราจะต้องเลือกทีวีอย่างไรมาดูกันได้เลย!!!
ความละเอียดเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม?
สำหรับในปี 2019 นี้การเลือกซื้อทีวีสักเครื่องนั้นอย่างน้อยที่สุดความละเอียดของทีวีที่เราเลือกซื้อก็ควรจะเป็นความละเอียดระดับ 4K ได้แล้ว แม้ว่าจะมีใครหลายๆ คนที่บอกว่าเราไม่แทบจะไม่สามารถแยกแยะความละเอียดจาก 1080p กับ 4K ได้แต่แท้จริงแล้วเราสามารถแยกความละเอียดทั้งสองได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงว่าในปัจจุบันเราสามารถรับชมคอนเทนท์ที่มีความละเอียด 4K ได้อย่างง่ายดายตามบริการสตรีมมิ่งต่างๆ ดังนั้นเราควรเลือกทีวีความละเอียด 4K เป็นอย่างแรกเลย!!
แล้วควรเลือกไซส์เท่าไหร่ดี?
เป็นอีกคำถามที่ตอบว่าง่ายก็ง่ายจะบอกว่ายากก็ยาก แต่ตามที่พูดกันเสมอก็คือเลือกขนาดให้เหมาะสมกับขนาดของห้องและระยะรับชม อย่างเช่นจุดที่วางทีวีวางไว้ห่างกับจุดรับชมของคุณประมาณ 2 เมตรก็แนะนำว่าขนาด 43 นิ้วก็เป็นขนาดที่ไม่เล็กเกินไปแต่ถ้าจุดรับชมห่างกว่านั้นก็ควรเลือกขนาดที่ใหญ่กว่าเดิม แต่ถ้าหากจะให้ดูเหมือนว่าทีวีเต็มตาจะเลือกขนาดที่ใหญ่ตั้งแต่แรกก็ไม่เป็นปัญหานะ (แต่จะลำบากตอนติดตั้งหรือเปล่า?)
OLED, LED หรือ QLED ดีล่ะ?
มาถึงอีกจุดที่ตัดสินใจยากที่สุดอีกจุดหนึ่งแล้วสำหรับการเลือกประเภทของจอทีวี เราจะทำให้คุณเลือกง่ายๆ ว่าถ้าหากคุณมีงบประมาณไม่จำกัดและต้องการภาพที่มีความดำแบบดำสนิทและสีสันที่สดอิ่มให้ทำการเลือกจอแบบ OLED ไปได้เลย แต่ถ้ามีงบประมาณไม่จำกัดเช่นกันแต่อยากได้ภาพที่มีความสว่างมากกว่า OLED แล้วล่ะก็ QLED คือคำตอบของคุณเลยเพราะ QLED สามารถทำระดับความสว่างสูงสุดได้เหนือกว่า OLED แต่จะมีระความดำที่ไม่ดำสนิทเหมือน OLED เท่านั้นเอง และอย่างสุดท้ายคือ LED ซึ่งประเภทของจอทีวีส่วนใหญ่ (จริงๆ แล้ว QLED ก็คือจอ LED นั่นแหละ) ซึ่งจอแบบ LED นี้ก็มีให้เลือกกันหลากหลายแบรนด์และหลากหลายรุ่นตามแต่งบประมาณที่คุณๆ มีกันเลยแหละและในบางรุ่นก็มีฟีเจอร์พิเศษอย่าง Loacl Dimming ที่จะมาช่วยให้เพิ่มระดับความดำบนภาพบนหน้าจอได้มากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นการเลือกประเภทจอก็ลองเลือกตามความชอบและงบประมาณได้เลย
ระบบปฏิบัติการอะไรดี?
อีกหนึ่งส่วนสำคัญสำหรับทีวีในยุคปัจจุบันก็คือระบบปฏิบัติการ Smart TV นั่นเอง ซึ่งระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนั้นก็มีทั้ง Tizen OS จาก Samsung, WebOS จาก LG, Android TV จาก Google, Roku TV จาก Roku และ Fire TV จาก Amazon แล้วผู้ใช้อย่างเราเลือกอะไรดีล่ะ ตรงนี้ก็ขอตอบไว้เลยว่าเลือกตามที่เราชอบเลยแหละเพราะฟีเจอร์ต่างๆ ของ Smart TV ในแต่ละระบบปฏิบัติการมีความใกล้เคียงกันมากๆ อาจจะแตกต่างในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ดังนั้นคำตอบในข้อนี้คือ คุณต้องลองเล่นและลองใช้ระบบปฏิบัติการนั้นๆ ด้วยตัวเอง แต่ถ้าไม่ถูกใจจริงๆ ยังมีทางเลือกอย่าง Apple TV อยู่เหมือนกันนะ
HDR จำเป็นไหม?
บอกเลยว่าข้อนี้จำเป็นมากๆ เลยแหละเพราะคอนเทนท์ต่างๆ ในปัจจุบันสามารถแสดงผลแบบ HDR ได้แล้ว (HDR คือออะไรสามารถอ่านได้ที่นี่) และการเลือกซื้อทีวีในปี 2019 นี้เราควรจะเลือกซื้อทีวีที่รองรับการแสดงผลแบบ HDR ได้แล้ว แต่ทั้งนี้ HDR ก็มีหลากหลายประเภททั้ง HDR10 ที่เป็นพื้นฐานที่ทีวี 4K HDR รองรับอยู่แล้ว และ HDR แบบขั้นสูงอย่าง HDR10+ และ Dolby Vision ดังนั้นถ้าเลือกได้เราก็แนะนำให้เลือกทีวีที่รองรับ HDR ขั้นสูงอย่าง Dolby Vision หรือ HDR10+ ก็จะดีไม่น้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณของคุณนั่นแหละ
HDMI 2.1 จำเป็นหรือไม่?
ในปัจจุบันนั้นการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นแผ่น 4K UHD Blu-ray หรือเครื่องเล่นเกมอย่าง PlayStation 4, Xbox One ก็สามารถเชื่อมต่อกับ HDMI 2.0 ที่อยู่ในทีวี 4K HDR รุ่นปัจจุบันอยู่แล้ว แต่ถ้าหากคุณต้องการที่จะรองรับอนาคตด้วยล่ะก็มีทีวีในบางรุ่นที่รองรับ HDMI 2.1 ออกมาวางจำหน่ายในตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทั้งนี้ในปัจจุบันยังไม่มีอุปกรณ์ชิ้นไหนที่ใช้พอร์ตเชื่อมต่อ HDMI 2.1 ออกมาวางจำหน่ายนะ แต่ในอนาคตทั้ง Xbox Scarlett และ PlayStation 5 จะมาพร้อมกับพอร์ต HDMI 2.1 อย่างแน่นอนถ้าใครที่จะซื้อทีวีเผื่ออนาคตการพิจรณา HDMI 2.1 ก็ไม่เลวเหมือนกัน
จะต้องซื้อ Soundbar ดีมั้ย?
ด้วยการที่ปัจจุบันนั้นเครื่องเสียงอย่าง Soundbar มีราคาและลูกเล่นรวมไปถึงน้ำเสียงที่พัฒนาขึ้นมาอย่างมากแล้ว ดังนั้นการเลือกซื้อ Soundbar มาเป็นส่วนเติมเต็มในเรื่องของเสียงก็ไม่เลวเหมือนกันและทีวีในรุ่นใหม่ๆ หลายๆ รุ่นก็สามารถส่งผ่านระบบเสียง Dolby Atmos ผ่านช่อง HDMI-ARC ไปยัง Soundbar ได้แล้วดังนั้นถ้าอยากจะเติมเต็มการรับชมการเลือกซื้อ Soundbar ก็ดีไม่ใช่น้อยๆ
สรุป
แม้ว่าจะมีการแนะนำหลากๆ อย่างในการเลือกซื้อทีวีในปัจจุบันแต่ข้อที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือตัวคุณเอง ดังนั้นเราแนะนำข้อสุดท้ายก็คือเลือกงบประมาณที่เหมาะสม ลองอ่านหรือรับชมวีดีโอรีวิวดู และสุดท้ายไปทดลองดูและทดลองเล่นด้วยตัวเอง เท่านี้คุณก็จะได้รับคำตอบว่าทีวีแบบไหนที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด!!!
ที่มา: theverge
