จากบทความ YouTube แหล่งคอนเทนท์ 4K ที่อยู่ใกล้ตัว ทุกคนคงรู้แล้วว่าบางวิดีโอบน YouTube จะสามารถเลือกความละเอียดแบบ 2160p ได้ แถมล่าสุดในตอนนี้วิดีโอบางวิดีโอยังเป็น 4K แบบ HFR ที่สูงถึง 60fps อีกด้วย ทว่าการที่จะดูวิดีโอ 4K ความละเอียดสูงแบบนี้ผ่านการสตรีมมิ่งตลอดเวลาก็ไม่ค่อยสะดวกนัก ดังนั้นวันนี้ผมจึงมาแนะโปรแกรมดีๆ ฟรีๆ พร้อมกับวิธีการที่เราจะสามารถดึงเอาวิดีโอความละเอียด 4K ที่อยู่บน YouTube มาเก็บไว้แล้วสามารถนำไปใช้เปิดทดสอบกับทีวีความละเอียด 4K ในภายหลังได้
แนะนำโปรแกรม freemaker Video Downloader ที่ยอดเยี่ยมกว่า
1.การดาวน์โหลดวิดีโอความละเอียดสูงบน YouTube เราจะดาวน์โหลดแบบตรงๆ เลยไม่ได้ ต้องอาศัยโปรแกรมช่วย โดยโปรแกรมที่จะมาแนะนำให้ใช้ก็คือ 4K Video Downloader หลังจากที่ดาวน์โหลดโปรแกรมมาแล้วก็ให้ติดตั้งลงบนเครื่องให้เรียบร้อยครับ (ในปัจจุบันโปรแกรมดังกล่าวเปิดให้ใช้และดาวน์โหลดกันได้แบบฟรีๆ)
2.หลังจากที่ได้ติดตั้งโปรแกรม 4K Video Downloader บนเครื่องเรียบร้อยแล้ว ก็ไปเลยครับ! เข้าเว็บไซต์ YouTube แล้วไปค้นหาวิดีโอความละเอียด 4K ที่ต้องการ
3.เมื่อเจอวิดีโอที่ต้องการแล้วก็ให้ Copy URL ของวิดีโอนั้นๆ ไว้
4.เปิดโปรแกรม 4K Video Downloader แล้วให้กดปุ่ม Paste URL เมื่อกดแล้วโปรแกรมก็จะเด้งหน้าต่างคลิปวิดีโอที่เราได้ Copy URL เอาไว้ขึ้นมา โดยจะมีความละเอียดให้เลือกหลากหลาย ในกรณีนี้ให้เลือกความละเอียด 4K ที่เป็นความละเอียดสูงสุดไว้ได้เลย โดยไฟล์ที่เก็บไว้ในเครื่องจะเป็นนามสกุล mp4 หรือ mkv ได้ และบริเวณด้านล่างจะมีช่องสำหรับเปลี่ยนชื่อไฟล์ พร้อมกับเปลี่ยนแหล่งเก็บไฟล์ใหม่ได้
6.เมื่อกำหนดค่าต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ให้กดปุ่ม Downloader ได้เลยครับ โดยระยะเวลาในการดาวน์โหลดก็จะขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย เช่น ความเร็วอินเทอร์เน็ต, ขนาดไฟล์ หรือทราฟฟิคอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการในขณะนั้น หลังจากดาวน์โหลดเสร็จก็สามารถนำไฟล์ไปเปิดบน UHD TV หรือทีวีความละเอียด 4K ของทุกท่านได้เลย!!
ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะครับวิธีการดึงไฟล์ความละเอียด 4K จาก YouTube มาทดสอบกับทีวีเครื่องโปรดของเรา แต่อย่างไรก็ตามไฟล์ที่เราได้มาจะมีคุณภาพต่ำกว่าต้นฉบับเล็กน้อย ดังนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเปิดแล้วภาพดูไม่คมชัดเท่ากับตอนที่อยู่บน YouTube ทั้งนี้หากใครชื่นชอบการใช้งานโปรแกรม 4K Video Downloader ก็สามารถซื้อไลเซนส์โปรแกรมเพื่อสนับสนุนผู้พัฒนา เพื่อที่ทางทีมงานจะได้พัฒนาเวอร์ชั่นใหม่ๆ และปรับปรุงให้โปรแกรมมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น แน่นอนถ้าท่านไม่ซื้อก็ไม่มีใครว่า เพียงแต่จะถูกจำกัดการดาวน์โหลดคลิปวิดีโอเท่านั้น แต่จากเท่าที่ผมดูราคาเต็มในการซื้อไลเซนส์พบว่าราคาไม่เกิน 20$ คูณเป็นเงินไทยก็ราวๆ 700บาท ซึ่งไม่ถือว่าแพงเลยเพราะนี่เป็นไลเซนส์แบบ Lifetime แถมยังใช้ได้ถึง 3 เครื่อง เฉลี่ยแล้วตกเครื่องละไม่เกิน 240บาท น่าใช้งานมากครับ!!
