27 May 2020
Article

ต่อ PS4 เข้ากับเครื่องเสียงอย่างไร? ตั้งค่ายังไงให้ออกมาเสียงดีที่สุด ?


  • TopZaKo
รับชมรูปแบบวีดีโอที่คลิปนี้ได้เลยจ้า !!!

หลายคนที่เป็นเจ้าของเครื่องเล่นเกมคอนโซลยอดนิยมอย่าง Play Station 4 หรือ PS4 ไม่ว่าจะเป็นรุ่น PS4 ธรรมดา, PS4 Slim หรือ PS4 Pro หากได้เล่นเกมที่ชื่นชอบกับลำโพง Soundbar หรือชุดเครื่องเสียง Home Theater คงจะช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี แต่หลายคนคงมีคำถามว่าจะเชื่อมต่อเสียงจาก PS4 ไปที่เครื่องเสียงอย่างไรและต้องตั้งค่าอย่างไรให้เสียงดีที่สุด ตามผมมาหาคำตอบกัน

ด้านหลังตัวเครื่อง PS4 รุ่นธรรมดา
ด้านหลังตัวเครื่อง PS4 Slim (บน) และ PS4 Pro (ล่าง)

การเชื่อมต่อเสียงจาก PS4 มาที่เครื่องเสียงหรือลำโพง Soundbar ทำได้ 2 วิธี คือ เชื่อมต่อผ่าน HDMI หรือ เชื่อมต่อผ่าน Optical ยกเว้น PS4 รุ่น Slim นั้นจะมีเฉพาะช่องต่อแบบ HDMI ไม่มีช่องต่อ Optical มาให้

HDMI

การเชื่อมต่อแบบ HDMI นั้นจะรองรับการส่งสัญญาณเสียงได้ครอบคลุมทุกรูปที่ PS4 รองรับเลย ไม่ว่าจะเสียง 5.1 Ch อย่าง Dolby Digital, DTS รวมถึง LPCM ที่เป็นสัญญาณเสียงแบบไม่มีการบีบอัดของสัญญาณแต่อย่างใด 

โดยระบบเสียงแบบ Dolby Digital กับ DTS จะรองรับเสียงในรูปแบบ 5.1 Ch ส่วน LPCM จะรองรับระบบเสียงได้ทั้งแบบ 5.1 Ch ปกติ และ 7.1 Ch ที่เป็นระบบเสียงสูงสุดของ PS4 ได้ด้วย

Optical

การเชื่อมต่อแบบ Optical จะรองรับการส่งสัญญาณในรูปแบบ Dolby Digital, DTS และ PCM 2 Ch แบบปกติ ซึ่งจะรองรับการส่งสัญญาณเสียงได้สูงสุดที่ 5.1 Ch เท่านั้น จะไม่รองรับเสียงแบบ 7.1 Ch

การตั้งค่าเสียงใน PS4 นั้นมีตัวเลือกต่างๆ มากมาย ที่หลายคนอาจสับสน เดี๋ยวผมจะไล่เรียงแต่ละส่วนที่สำคัญให้ดูกันครับ

หน้าแรกของการตั้งค่าเสียง Output จะมีทั้้งหมด 2 หัวข้อคือ พอร์ตเอาต์พุตหลัก และ รูปแบบเสียง
เมื่อเข้ามาในหัวข้อ พอร์ตเอาต์พุตหลัก ระบบจะให้เราเลือกว่าเราใช้การเชื่อมต่อแบบไหน ระหว่าง HDMI และ Optical
ในกรณีเลือกการเชื่อมต่อแบบ HDMI ตัวเครื่องจะตั้งค่าเริ่มต้นให้ส่งสัญญาณเสียงในแบบที่ดีที่สุด เป็น LPCM 7.1 Ch แต่ในกรณีที่เครื่องเสียงของคุณไม่รองรับสัญญาณเสียงแบบ 7.1 Ch ก็สามารถตั้งค่าให้ตัวเครื่องส่งสัญาณเสียงเป็นแบบ LPCM 5.1 Ch ปกติก็ได้เช่นเดียวกัน
ส่วนกรณีการเชื่อมต่อแบบ Optical ขั้นแรก ระบบจะให้เราเลือกรูปแบบสัญญาณเสียงต่างๆ ที่เครื่องเสียงของเรารองรับ แต่ถ้าหากคุณไม่แน่ใจหรือไม่ทราบตรงจุดนี้ ก็สามารถเลือกทุกหัวข้อไว้ก่อนได้ เพราะจะมีขั้นตอนเลือกส่งท้ายในภายหลังอีกอยู่ดี
เมื่อเราตั้งค่าในแต่ละส่วนเรียบร้อยแล้ว ตัวระบบจะพาเรากลับมาที่หน้าหลักของการตั้งค่าเสียงอีกครั้ง โดยทีนี้ให้เราเข้าไปที่หัวข้อรูปแบบเสียง
การตั้งค่ารูปแบบเสียง หรือ การเลือกรูปแบบเสียงที่ต้องการให้ตัวเครื่อง PS4 ส่งออกไปที่เครื่องเสียง จะมีตัวเลือกทั้งหมด 2 รูปแบบ แบ่งเป็น

– Linear PCM (LPCM) เป็นเสียงรูปแบบที่ไม่มีการเข้ารหัส บีบอัด ลดทอนสัญญาณเสียงแต่อย่างใด หรือที่เรียกกันว่ารูปแบบเสียงแบบ Uncompressed โดยรูปแบบนี้บนเครื่อง PS4 จะรองรับระบบเสียงทั้งแบบ 7.1 Ch และ 5.1 Ch

– Bitstream (Dolby) และ Bitstream (DTS) เป็นเสียงรููปแบบที่มีการเข้ารหัส บีบอัด แบบมีการศูนย์เสีย หรือที่เรียกกันว่าแบบ Lossy แต่คุณภาพเสียงโดยรวมถือว่าเพียงพอต่อการรับฟังทั่วไปอย่างดี โดยเมื่อเราเลือกรูปแบบนี้ตัวเครื่อง PS4 จะทำการส่งเสียงแบบ Dolby Digital และ DTS ไปให้เครื่องเสียง AVR หรือ ลำโพง Soundbar เป็นตัวถอดสัญญาณเสียงเอง หรือที่เรียกว่าแบบ Bitstream ตามหัวข้อนั่นเอง

เพิ่มเติม

สำหรับการรับชมภาพยนตร์ผ่านแผ่น Blu-ray บนเครื่อง PS4 นั้นจะไม่ได้ใช้การตั้งค่าเสียงแบบเดียวกับที่ผมได้สอนไปทางด้านบน โดยค่าที่ตัวเครื่องตั้งค่าไว้ จากที่ผมได้ทดสอบกับการใช้งานผ่านสาย HDMI อยู่ ตัวเครื่องจะส่งสัญญาณเสียงแบบ Bitstream ตามระบบเสียงในแผ่นนั้น เช่น หนังเป็นระบบเสียง Dolby Atmos ตัวเครื่องก็จะส่งเสียงแบบ Dolby Atmos ให้เลยโดยอัตโนมัติครับ

ส่วนการรับชมแอปสตรีมมิ่งอย่าง Netflix ตัวเครื่อง PS4 อ้างอิงการตั้งค่าเสียงแบบเดียวกับที่ผมได้สอนตั้งค่าไว้ด้านต้นเลยครับ

สรุป

ใครที่ใช้เครื่องเสียง AVR หรือ ลำโพง Soundbar รุ่นที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ HDMI ก็แนะนำให้เลือกใช้ HDMI เพราะสามารถส่งสัญญาณเสียงสูงสุดของ PS4 อย่าง LPCM 7.1 Ch รวมถึงระบบเสียงอื่นๆ อย่าง Dolby Digital และ DTS ได้แบบครบครัน ส่วนใครที่ใช้เครื่องเสียงหรือลำโพง Soundbar รุ่นเก่าๆ ที่ไม่มีช่อง HDMI ก็สามารถใช้ Optical แทนได้ 

ในส่วนของการตั้งค่า ผมแนะนำให้ดูสเปกเครื่องเสียงของคุณว่ารองรับระบบเสียงแบบไหนได้บ้าง ซึ่งหากเครื่องเสียงของคุณรองรับระบบเสียงในทุกรูปแบบที่กล่าวไปก็แนะนำให้เลือกใช้เป็น LPCM 7.1 Ch ที่จะให้เสียงออกมาได้ดีที่สุด แต่ถ้าหากเครื่องเสียงของคุณไม่รองรับ ก็ให้เลือกเป็น Dolby Digital กับ DTS ที่ให้เสียงในแบบ 5.1 แทนได้ ส่วนตัวเลือกแบบ PCM 2 Ch ถือเป็นตัวสุดท้ายที่เราจะเลือกกันหากเครื่องเสียงของคุณไม่รองรับระบบเสียงอื่นแล้วจริงๆ ครับ สุดท้ายนี้ผมขอให้ทุกคนสนุกกับการเล่นเกมที่ชอบบนเครื่องเสียงเครื่องโปรดของคุณ ให้สนุกสนานเต็มอรรถรสกันเลยนะครับ สวัสดีครับ

บทความโดย TopZaKo

18 พฤษภาคม 2020