18 Dec 2019
Article

Android TV vs Apple TV สองแพลตฟอร์มสมาร์ททีวีแบบไหนเหมาะสมกับคุณมากกว่ากัน!!


  • tormoo

ถ้าจะให้พูดถึงแพลตฟอร์มสมาร์ททีวีและกล่อง Set-top Box ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานในปัจจุบันก็คงจะหนีไม่พ้น Apple TV และ Android TV ซึ่งทั้งสองแบบต่างก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ทั้งในเรื่องของฟีเจอร์การแสดงผล, แอปต่างๆ รวมไปถึงส่วนเสริมอื่นๆ ที่น่าสนใจทั้งหลายเดี๋ยวเราจะมาดูกันว่าระหว่าง Apple TV และ Android TV มีความแตกต่างอะไรกันบ้างและแพลตฟอร์มไหนที่จะเหมาะกับการใช้งานของแต่ละคนมาดูกันได้เลย

Interface และ การใช้งาน

Android TV : หน้าต่างของการใช้งานเมนูของ Android TV มีความสวยงามโดยดีไซน์นั้นถ้าใครใช้แอป YouTube กันบ่อยๆ จะบอกว่าหน้าต่างหน้าแรกของ Android TV จะอ้างอีกวิธีการใช้งานทั้งในด้าน UI/UX มาจาก YouTube มันทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงทั้งเนื้อหาที่ Android TV มีการจัดเรียงไว้ให้รวมไปถึงเข้าแอปต่างๆ Android TV จะมีการปรับเพื่อเข้าใช้งานแอปได้อย่างง่ายดายรวมทั้ง ทั้งนี้เรายังสามารถใช้คำสั่งเสียงเพื่อใช้งานสมาร์ททีวีได้ด้วย

Apple TV: ในส่วนของการใช้งานและหน้าตาของ Apple TV จะมาในรูปแบบที่เรียบง่ายกว่า Android TV อยู่ซึ่งเป็นดีไซน์ UI/UX ที่มาจากการออกแบบของ Apple ที่จะแยกแอปและหนังเป็นสัดส่วน ถ้าใครที่ใช้งาน iPhone หรืออุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple แล้วล่ะก็แทบจะไม่ต้องปรับตัวกับการใช้งาน Apple TV เลยแหละรวมไปถึงเราก็สามารถใช้งานคำสั่งเสียงอย่าง Siri ในการสั่งงานได้ด้วยเหมือนกันนะ 

App และ Game 

Android TV : ถ้าหากพูดถึงเรื่องแอปและเกมบนแพลนฟอร์ม Android TV แล้วล่ะก็ตรงจุดนี้ถือว่า Android TV สามารถเอาชนะ Apple TV ไปได้อยู่หลายจุดไม่ว่าจะเป็นแอปสำหรับการสตรีมมิ่งหรือแอปที่เราจะเลือกมาติดตั้งเองแบบที่ไม่มีให้ดาวน์โหลดใน PlayStore ก็ทำได้แต่ยังมีข้อจำกัดบางอย่างอยู่เช่น Google Play Movies นั้นเองแม้ว่าในสหรัฐจะเปิดให้เช่า-ซื้อหนังแบบความละเอียด 4K แล้วก็ตามแต่ยังไม่ได้รองรับมาตรฐาน HDR ขั้นสูงอย่าง Dolby Vision 

Apple TV: ส่วนของ Apple TV นั้นก็มีจำนวนแอปและเกมที่ไม่ได้น้อยหน้า Android TV เสียเท่าไหร่เพราะว่าแอปหลักในการใช้งานก็มีมาให้อย่างครบถ้วนทั้ง Netflix, iTunes, Spotify รวมไปถึง Apple Music และ Apple Arcade แต่ Apple จะมีข้อจำกัดในการลงแอปภายนอกซึ่งทำให้จุดนี้หลายๆ คนอาจจะไม่ถูกใจเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามบริการเช่า-ซื้อหนังของ Apple อย่าง iTunes Movies นั้นก็มีราคาหนังที่ไม่แพงรวมไปถึงหนังยังรองรับความละเอียดได้แบบ 4K HDR Dolby Vision ซะด้วย

จุดเด่นอื่นๆ

Apple TV: ถ้าใครที่เป็นคนที่มีอุปกรณ์ของ Apple แล้วล่ะก็ Apple TV คือคำตอบสำหรับคุณเลยด้วย ecosystem ที่รองรับแทบทุกอย่างของ Apple ไม่ว่าจะเป็นการส่งภาพ,เพลง, วีดีโอขึ้นไปยัง Apple TV ผ่าน AirPlay หรือการใช้ iPhone, iPad ควบคุม Apple TV ได้เลยนับว่าสะดวกมากๆ 

Android TV : แต่ใครที่ใช้สมาร์ทโฟน Android ล่ะก็ Android TV จะมาพร้อมกับ Chromecast ทำให้เราสามารถ Cast หนัง, ภาพ, วีดีโอ หรือเพลงได้ผ่านสมาร์ทโฟนของคุณได้เลยซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่สะดวกสบายมากๆ รวมไปถึงสามารถ Cast หน้าจอจากเว็บเบราเซอร์อย่าง Google Chrome ได้อีกด้วยนะ 

สรุป

แพลตฟอร์มสมาร์ททีวีที่เหมาะสมกับการใช้งานต้องขอให้มองดูว่าการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนเป็นแบบไหนแรวมไปถึงอุปกรณ์ที่ประกอบเป็น ecosystem ของเราซึ่งจะเลือกแบบไหนก็ขอให้มีความสุขกับการใช้งานนะ 

ที่มา: gizmodo