03 May 2016
Article

อ่านให้รู้ โปรเจคเตอร์มีกี่ประเภท จุดเด่น จุดด้อย ต่างกันอย่างไร?


  • lcdtvthailand

เชื่อว่าหลายๆ คน โดยเฉพาะท่านที่สนใจเครื่องเสียง และระบบ Home Theater คงฝันอยากมีห้องดูหนัง และโรงหนังส่วนตัวในบ้าน เพื่อสร้างความบันเทิง และความสนุกสนานจากการดูภาพยนต์กับทุกคนในครอบครัว เมื่อมีโอกาสและความพร้อมก็ต้องจัดหาเครื่องฉายมาใช้ดูหนังให้ชื่นใจซักเครื่องแล้ว Projector แบบไหน ประเภทไหนที่เราควรเลือกซื้อให้เหมาะกับการใช้งาน และนำมาใช้กับห้องดูหนังของเราแต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

ในปัจจุบันเราจะเห็น Projector ที่วางขายในท้องตลาดมีให้เลือกใช้ และเลือกซื้อกันมากมายทั้งในส่วนของการนำเสนอผลงาน Presentation และการนำมาใช้งานในระบบ Home Theater เรามาทำความรู้จักกันว่า Projector ประเภท ที่นิยมใช้งานกันทั่วไปมีกี่ประเภท และอะไรบ้าง โดยเราจะแยกประเภทของ Projector ตามลักษณะของการแสดงภาพออกเป็นแต่ละประเภทดังนี้

LCD (Liquid Crystal Display) Projector

ตัวอย่าง LCD Projector จาก Epson

เป็นที่นิยมกันมากทั้งการใช้งาน Presentation และการนำมาใช้งานในระบบ Home Theater การแสดงภาพของ LCD Projector จะใช้แสงยิงผ่าน Panel สี 3 ชุด (Red, Green, Blue) ส่งไปรวมกันเป็นภาพที่แผง LCD Panel และส่องผ่านชุดเลนส์ส่งเป็นภาพไปฉายที่จอรับภาพ LCD Projector ยี่ห้อที่นิยมใช้กัน เช่น Panasonic , Epson , Sanyo

ข้อดี

1.ให้ภาพที่สว่าง และมีสีสัน สดใส สวยงาม เสียงพัดลมเงียบ

ข้อเสีย

1.Pixel แต่ละ Pixel มีความห่างกันมากกว่า Projector ชนิดอื่น

2.ความคมของภาพ และความดำของภาพ ยังสู้เครื่องฉายระบบอื่นไม่ได้

3.แผง Panel ของภาพเกิดการเหลื่อมของสีได้ง่ายกว่าระบบอื่น สังเกตง่ายๆ ด้วยการเปิด pattern สีขาว 100% จะเห็นว่าแสดงสีขาวไม่ขาวทั่วกันทั้งจอ

DLP (Digital Light Processing) Projector

เป็น Projector อีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด กับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการใช้งาน Presentation และการนำมาใช้งานในระบบ Home Theater การแสดงภาพใช้แสงยิงผ่านวงล้อสี Color Wheel ส่งภาพไปยังชิปแสดงภาพ DMD (Digital Micromirror Device) ซึ่งประกอบไปด้วยกระจกสะท้อนแสงชิ้นเล็กๆจำนวนมาก ส่งภาพต่อไปยังชุดเลนส์ส่งเป็นภาพฉายไปที่จอรับภาพ DLP Projector ยี่ห้อที่นิยมใช้กัน เช่น Infocus , BenQ , Vivitek , Optoma

ตัวอย่าง DLP Projector จาก BenQ

ข้อดี 

1.ราคาไม่แพง แสงสว่างดีมาก 

2.ให้ภาพและการเคลื่อนไหวที่ดี สีอิ่ม และสวยงามดูเป็นธรรมชาติ

3.มี Pixel ที่ใกล้กันมากกว่าระบบ LCD ภาพจึงมีความคมชัด

ข้อเสีย 

1.ความดำของภาพยังไม่ดำมาก 

2.เนื่องจากต้องยิงแสงผ่านวงล้อสี จึงทำให้เห็นแสงรุ้ง (Rainbow Effect) ได้ง่ายแต่ DLP Projector รุ่นใหญ่ๆแก้ไข ด้วยการเพิ่ม Speed ของ Color Wheel ให้สูงขึ้นถึง 6X จึงไม่มีปัญหานี้ 

3.บางรุ่นมีความร้อนสูงพัดลมจึงทำงานเสียงดัง

LCOS (Liquid Crytal On Silicon) Projector

เป็น Projector ที่มีการรวมเอาข้อดีจากทั้งสองระบบคือ LCD และ DLP มารวมไว้ด้วยกัน แสดงภาพโดยการใช้การสะท้อนแสงของสีทั้ง 3 Panel (Red, Green, Blue) โดยใช้การสะท้อนแผ่น Liquid Crystal แทนการสะท้อนกระจกเงาบนชิป DMD ซึ่งแผ่น Liquid Crystal จะประกอบด้วยเซลภาพจำนวนมาก จึงให้ภาพที่มีคุณภาพสูงกว่าทั้ง LCD และ DLP และเป็นที่นิยมมากในการนำมาใช้ในระบบ Home Theater LCOS Projector ที่นิยมใช้กัน (มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป) JVC เรียก DILA) ส่วน SONY เรียก SXRD

ข้อดี

1.มี Pixel ที่ชิดกันมากจึงมองไม่เห็น Screen Door หรือช่องว่างระหว่าง Pixel 

2.ให้ภาพที่สวยงาม และสีสันสดใส โดยเฉพาะคอนทราสท์และความดำของภาพที่ดีมากกว่าระบบ LCD และ DLP อย่างชัดเจน

3.การทำงานของเครื่องที่เงียบมากๆ

ข้อเสีย

1.ราคาสูงเมื่อเทียบกับระบบอื่น มีโอกาสเกิดการเหลื่อมของสีเพราะประกอบด้วย Panel 3 ชุดไม่เหมือนระบบ DLP ที่เป็น Single Chip 

2.แสงสว่างน้อยเมื่อเทียบกับบระบบอื่น จึงไม่เหมาะกับการใช้งานในห้องที่มีแสงรบกวน หรือการใช้ร่วมกับจอรับภาพที่มีขนาดใหญ่มากๆ

นอกจากนี้ในปัจจุบันเริ่มมีการหันมาใช้ LED Projector และ LASER Projector กันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เท่า LCD, DLP และ LCOS ซึ่งเป็นที่นิยมและแพร่หลายมากกว่าระบบ Dual Laser ของ EPSON

Laser Projector

ระบบ Blue Lasers ของ JVC

เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Projector ที่มีการนำ Laser มาใช้เป็นแหล่งกำเนิดแสง แทนหลอดภาพที่ใช้ใน Projector ทั่วไป จึงทำให้มีความสว่างที่ดี และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดภาพแบบทั่วไปเป็นอย่างมาก ซึ่งการใช้ Laser เองก็ยังแบ่งป็น 2 ระบบ ระบบแรกจากทางค่าย EPSON เป็นการต่อยอดมาจากระบบ LCD ของ EPSON เองโดยใช้แหล่งกำเนิดแสงแบบ Dual Laser Light Source คือมีการใช้ Blue Laser Diode แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกจะยิงแสงสีน้ำเงินส่งไปที่ Blue LCD Panel โดยตรง ในขณะที่แสงสีน้ำเงินจาก Blue Laser Diode ชุดที่สอง จะยิงผ่านแผ่นสะท้อน (Yellow Phosphor) ออกมามาเป็นแสงสีเหลือง ซึ่งแสงสีเหลืองนี้ก็จะถูกกรอง และแยกออกเป็นแสงสีแดง และแสงสีเขียว ก่อนจะส่งไปรวมยัง Red และ Green LCD Panel แล้วส่งเป็นภาพผ่านเลนส์ไปฉายที่จอรับภาพ

DLA-VS2500ZG ของ JVC

ส่วนอีกระบบจากทางค่าย JVC เป็นการนำเอาเทคโนโลยี DILA มาพัฒนาต่อเช่นกัน โดยหลักการยิงแสงจะคล้ายกับของ ระบบจากทางค่าย EPSON คือ จะใช้เป็น Blue Lasers ยิงแสงสีฟ้าไปที่กระจกสะท้อนแสง และยิงแสงอีกส่วนหนึ่งส่งมาที่วงล้อ Phospor ให้ออกมาเป็นแสงสีเหลือง เพื่อเปลี่ยนเป็นสีเขียวและสีแดงส่งต่อไปยังแผง DILA Panel และสร้างเป็นภาพส่งผ่านเลนส์ไปฉายยังจอรับภาพ การนำ Laser มาใช้ทำให้ Projector สามารถแสดงสีสันที่สดใสและสวยงามมากขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก รองรับกับ Gamut ของสีที่กว้างมากขึ้น ได้ Contrast ที่ดีขึ้นกว่าเดิม และความดำของภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย สำหรับระบบ Home Theater เพิ่งเริ่มมีการนำ Laser มาใช้ และยังคงมีการพัฒนาต่อไป เมื่อทุกอย่างลงตัวเราคงได้เห็นการใช้งานที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้น

ข้อดี

1.มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

2.สีสันดีกว่าระบบอื่น 

3.Contrast และ Black Level ดีกว่าระบบอื่น

4.การทำงานของเครื่องเงียบ และประหยัดพลังงาน

ข้อเสีย

1.ราคาของเครื่องยังสูงมากเมื่อเทียบกับเครื่องฉายระบบอื่น