18 Apr 2018
Article

รีวิวโรงภาพยนตร์ Samsung Cinema LED แห่งแรกใน SEA!


  • Dear_Sir

ตามปกติแล้วโรงภาพยนตร์ที่เราดูกันอยู่ทุกวันนี้ใช้ระบบฉายภาพจากเครื่องโปรเจ็กเตอร์ แต่ตอนนี้ได้มีโรงภาพยนตร์แบบใหม่มาให้เราได้ไปลองชมดูแล้ว โรงภาพยนตร์ที่ว่านั่นก็คือ Samsung Cinema LED ชื่อโรงภาพยนตร์ก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น LED ไม่ใช่โปรเจ็กเตอร์ นับว่าโรงนี้ เป็นโรงภาพยนตร์แห่งแรกใน South East Asia ที่เปิดให้บริการ

Samsung Cinema LED เป็นโรงภาพยนตร์ที่ใช้จอ LED ของ Samsung แต่! ไม่ได้ใช้หลอด LED เช่นเดียวกับ LED TV ที่วางขายกันอยู่ในปัจจุบันนะครับ หลอด LED ที่อยู่บน Samsung Cinema LED Screen จะมีขนาดเล็กกว่ากันมากๆ (> สามารถอ่านรายละเอียดโครงสร้างของ Cinema LED ได้ที่นี่ <) ซึ่งจอใหญ่ๆ ที่เราเห็นกันในโรงไม่ได้เป็นจอใหญ่จอเดียวแต่เกิดจากจอเล็กๆ มาวางต่อกัน

ขนาดจอจริงๆ ของ Samsung Cinema Screen

มาถึงตรงนี้หลายคนคงมีคำถามว่าแบบนี้มันก็เห็นรอยต่อน่ะสิ ขอบอกด้วยตัวเองเลยว่า ไม่เห็นรอยต่อเลยครับ ยิ่งกว่าคำโฆษณา ไร้รอยต่อ ทอเต็มผืน หลับเต็มตื่น ด้วยชุดเครื่องนอนโตโต้เสียอีก ขนาดผมลองเข้าไปดูใกล้ๆ ยังแทบจะไม่เห็นรอยต่อเลย รวมไปถึงหลอด LED เองก็มีขนาดเล็กมาก เมื่อเราถอยออกไปในระยะรับชมทุกอย่างก็เพอร์เฟกต์ลงตัว

จอ Samsung Cinema LED แต่ละเครื่องจะมีความกว้าง 10.3เมตร สูง 5.4เมตร ความละเอียด 4K (4096 x 2160) รองรับ HDR เป็นจอที่ไร้ขอบจริงๆ หากจัดวางในแนวนอนจะได้อัตราส่วน 2.39 : 1 สามารถนำมาประกอบกันให้ได้อัตราส่วนทั้ง 2.39 : 1 และ 1.85 : 1 ได้

ระบบภาพและเสียงในโรง Samsung Cinema LED Screen เป็นยังไง?

รอบที่ทางทีมงาน LCDTVTHAILAND ได้เข้าไปชมเป็นรอบที่ค่อนข้าง Exclusive เพราะทาง Paragon Cineplex ยังไม่ได้เซทอัพอะไรๆ ได้ลงตัวนัก สำเร็จเรียบร้อยประมาณ 80% โรงภาพยนตร์ที่ใช้ทำเป็นโรงฉายเป็นโรงภาพยนตร์ที่ 6 ซึ่งเคยเป็นโรงที่มีระบบเสียงแบบ Atmos แต่พอเอามาทำเป็นโรง Samsung Cinema LED จะเอาระบบเสียง Atmos ออกไป เปลี่ยนเป็นระบบเสียง JBL Sculpted Surround 7.1 เซทอัพโดยทีมงาน JBL by Harman/Kardon

โดยจุดวางลำโพงเซ็นเตอร์จะวางอยู่เหนือจอทำมุมองศายิงเสียงลงมาหาผู้ชม เนื่องจากการติดตั้งลำโพงเซ็นเตอร์ที่หลังจอฉายแบบเดิม ไม่สามารถให้เสียงทะลุผ่านจอออกมาได้ ส่วนเซอร์ราวด์รอบข้างออกแบบให้จุดฟังที่ดีที่สุดหรือ Sweet Spot มีความกว้างครอบคลุมมากขึ้น ไม่ทิ้งน้ำหนักไปทางด้านใดด้านหนึ่ง ให้อารมณ์คล้ายกับโรง IMAX ส่วนที่ว่าทำไมถึงต้องเป็น JBL by Harman/Kardon นั่นก็เพราะ Samsung เป็นเจ้าของกิจการนั่นเอง และระบบเสียงของโรงนี้ ไม่ได้มีไว้เพื่อการรับชมภาพยนตร์อย่างเดียว ยังรองรับต่อการจัดอีเวนท์อื่นๆ หรือคอนเสิร์ตด้วย

ขนาดจอในโรง Samsung Cinema LED Screen ถูกวางเป็นอัตราส่วน 1.85 : 1 ภาพรวมมีขนาดเล็กกว่าจอฉายแบบโรงโปรเจ็กเตอร์ ประมาณ 3/4 ทำให้ในเรื่องของความเต็มตาเต็มใจจะดูเป็นรองโรงฉายปกติ สไตล์ภาพจะออกแนว LED TV จ๋า ได้อารมณ์ Cinematic เล็กน้อย และต่อไปนี้ผมจะบอกถึงข้อดี และข้อเสียของโรง Samsung Cinema LED Screen ให้พิจารณากัน

ข้อดีของ Cinema LED Screen

  • สีสันสดอิ่มกว่า
  • ระดับสีดำดีกว่า เพราะเม็ดพิกเซลเปล่งแสงได้เอง ฉากดำ ดำสนิท
  • ภาพเคลื่อนไหวดูดีกว่าโปรเจ็กเตอร์
  • รองรับ HDR
  • จอภาพตั้งตรง ไม่เหมือนในโรงโปรเจ็กเตอร์ที่จะวางเฉียงเหมือนสี่เหลี่ยมคางหมู
  • จอสู้แสงได้ดีมาก แม้เปิดไฟในโรงจนเต็มก็สามารภให้ภาพได้คมชัด สีสดใส (บางคนเหมาโรงภาพยนตร์จัดงานสัมนา ก็เหมาะมาก)
  • เนื้อเสียงของลำโพงดี และยังได้รับการเซทอัพจากทีมงานมหาจักร ทีมงานที่เชียวชาญระบบเสียง JBL Sculpted Surround

ข้อเสียของ Cinema LED Screen

  • ขนาดจอเล็กกว่า
  • อัตราส่วนของจอทำมาเป็น 1.85 : 1 ไม่ได้เป็น 2.39 : 1 ควรทราบว่าภาพยนตร์ที่ฉายในโรงจะใช้อัตราส่วน 2.39 : 1 เป็นหลัก
  • ความสว่างถูกกด ด้วยความที่ตอนนี้แสงเปล่งจากจอโดยตรง ไม่ได้สะท้อนผ่านจอฉายเหมือนโปรเจ็กเตอร์ ทำให้ถ้าเปิดระดับความสว่างมากเกินไป จะทำให้ผู้ชมไม่สบายตาได้ เนื่องจากในโรงต้องปิดไฟมืดสนิท
  • เสียงจาก Center ไม่ได้มาจากกลางจอแล้ว (โรงที่ใช้เครื่องโปรเจ็กเตอร์จะวางลำโพงไว้หลังจอฉาย) แต่มาจากด้านบนทำให้เสียงพูด หรือเสียงอะไรที่ควรมาจาก Center ก็จะลอยมาจากด้านบนแทน

สรุป! โรงภาพยนตร์ Samsung Cinema LED Screen ถือว่าเป็นโรงภาพยนตร์แบบใหม่ที่จะมาเปิดประสบการณ์การรับชมภาพในอีกมุมมองหนึ่ง โดยส่วนตัวผมแล้วแม้จอมันจะเล็กไปบ้าง แต่เรื่องสีสัน ความคมชัด ระดับความดำ ภาพเคลื่อนไหวเหนือกว่าโรงภาพยนตร์ระบบฉายโปรเจ็กเตอร์แบบเห็นได้ด้วยตาเปล่า สไตล์ภาพไม่เชิงแนว LED TV ปิดไฟดู ยังได้อารมณ์ของโปรเจ็กเตอร์อยู่บ้าง ด้านระบบเสียง JBL Sculpted Surround 7.1 ที่ผ่านการปรับเสียงมาจากมือเซทของทีมงานมหาจักรมาแล้วจึงไว้ใจได้ เนื้อเสียงของลำโพงดี เพียงแต่พวกเสียงย่านกลางที่มาจากลำโพง Center จะลอยมาจากด้านบน ฟังครั้งแรกอาจจะดูแปลกๆ ไปบ้าง แต่เมื่อฟังไปสักพักเราก็จะเริ่มชิน อ่านกันมาขนาดนี้แล้วผมก็อยากให้ทุกคนไปลองดูด้วยตากันสักครั้ง แล้วจะพบว่าเหมือนเราได้ดูภาพในอีกขั้นหนึ่งในโรงภาพยนตร์