28 Apr 2020
Article

มาเล่นเกมระบบเสียง Dolby Atmos กัน พร้อมวิธีตั้งค่า… บอกเลยบรรยากาศเสียงแจ่มมาก !!


  • lcdtvthailand

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า “เกม” ก็มีระบบเสียง Dolby Atmos ซึ่งการถ่ายทอดเสียงรอบทิศทางในแบบ Immersive Audio ไม่แพ้ภาพยนตร์ เผลอๆ จะเหนือกว่าในแง่การดึงอารมณ์ร่วมของเกมเมอร์เสมือนว่าอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์จริง ในบทความนี้จะนำเสนอวิธีการตั้งค่าใช้งานระบบเสียง Dolby Atmos ร่วมกับเกม ไว้ใช้เล่นแก้เบื่อในช่วงเก็บตัวจากสถานการณ์ Covid-19 กันครับ

– สารบัญ –

(ลิงค์ยังใช้งานไม่ได้)

หน้า 1 – Dolby Atmos คืออะไร?, ทำความรู้จัก Dolby MAT, เปรียบเทียบรูปแบบการถอดรหัสเสียง

หน้า 2 – จะเล่นเกมระบบเสียง Dolby Atmos ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง?

หน้า 3 – การตั้งค่าระบบเสียง Dolby Atmos กับ PC และ Game Console พร้อมรายงานผล

Dolby Atmos คืออะไร?

Dolby Atmos คือ ระบบเสียงเพื่อความบันเทิงล่าสุดของ Dolby Laboratories สามารถให้เสียงโอบล้อมรอบทิศทางในแบบ Immersive Audio ครอบคลุมไปถึงทิศทางจากด้านบน เหนือศีรษะผู้ฟัง (Top Surround)

หัวใจสำคัญของระบบเสียง Dolby Atmos คือ กระบวนการบันทึกเสียงแบบ Object-based Audio ที่มีความยืดหยุ่นโดยเฉพาะในขั้นตอนเล่นกลับ (Playback) รองรับจำนวนแชนเนลลำโพงหลากหลาย เริ่มตั้งแต่โฮมเธียเตอร์เล็กๆ แบบ 2.1.2 แชนเนล ไปจนถึงโรงภาพยนตร์ขนาดย่อม จำนวนลำโพงสูงสุด 24.1.10 แชนเนล ให้บรรยากาศโอบล้อมตำแหน่งนั่งฟังเป็นสามมิติใกล้เคียงอุดมคติมากยิ่งขึ้น

ทำความรู้จัก “Dolby MAT”… เกี่ยวอะไรกับการเล่นเกมระบบเสียง Dolby Atmos?

หลายคนคงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วว่า ระบบเสียงของสื่อบันเทิงอย่าง “ภาพยนตร์-คอนเสิร์ต-สารคดี” ที่เรารับชมร่วมกับระบบโฮมเธียเตอร์นั้น Dolby จะทำการเข้ารหัสข้อมูลเสียงแบบ “บีบอัด” ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกในการเผยแพร่ นอกจากประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บข้อมูลลงในแผ่น Blu-ray Disc แล้ว ยังช่วยให้การส่งผ่านข้อมูลในรูปแบบออนไลน์สตรีมมิ่งเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น เพราะบิตเรตที่ต่ำลงช่วยให้ไม่เปลืองแบนด์วิดธ์มาก

เดิมทีทาง Dolby จะใช้การเข้ารหัส (Encode) ข้อมูลเสียง Dolby Atmos 2 รูปแบบ แบบแรก จะใช้ Codec แบบ Dolby TrueHD เป็นการบีบอัดที่ไม่มีการสูญเสีย (Lossless Compression – Variable bit rate) สามารถรองรับรายละเอียดเสียงได้สูงถึงระดับ “Hi-res” ปัจจุบันพบได้กับสื่อแบบ “Blu-ray Disc” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ส่วนแบบที่ 2 ใช้ Codec แบบ Dolby Digital Plus ซึ่งในขั้นตอนบีบอัดจะสูญเสียข้อมูลไปบ้าง (Lossy Compression – Variable bit rate) แต่ด้วยบิตเรตที่ต่ำลง ข้อมูลจะมีขนาดเล็กกว่า สะดวกแก่การเผยแพร่แบบออนไลน์มากกว่า พบได้กับสื่อแบบ “Streaming”

ปัจจุบันสื่อบันเทิงอย่าง “เกม” ทยอยรองรับระบบเสียง Dolby Atmos เช่นกัน แต่ด้วยลักษณะการนำเสนอที่แตกต่างไปจากฟอร์แม็ตภาพยนตร์… เกมต้องอาศัย การประมวลผลภาพกราฟิกและให้ตำแหน่งทิศทางเสียงเอฟเฟ็กต์แบบเรียลไทม์ ทาง Dolby จึงหาแนวทางลดขั้นตอนเข้ารหัสข้อมูลเสียง Dolby Atmos สำหรับเกมเสียใหม่ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดภาระของหน่วยประมวลผลลง…

หลักการคือ จะไม่ทำการ Re-encode บีบอัดข้อมูลเสียงในแบบ Dolby TrueHD หรือ Dolby Digital Plus แต่เปลี่ยนมาใช้รูปแบบ Dolby MAT (Metadata-enhanced Audio Transmission) แทน ซึ่งเป็นกระบวนการส่งข้อมูลเสียงรอบทิศทางแบบตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อน ไม่ต้องการสเป็คฮาร์ดแวร์สูง

ผลลัพธ์ – เกมเมอร์จะได้สัมผัสเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง โดยไม่ต้องพึ่งการประมวลผลของฮาร์ดแวร์ซับซ้อน และที่สำคัญ กระบวนการดังกล่าวมี “Latency ต่ำ” ตัดปัญหาเสียงดีเลย์ ภาพที่ปรากฏบนจอกับทิศทางเสียงที่ได้ยินจะตอบสนองได้ต่อเนื่องสัมพันธ์กัน ซึ่งสำคัญมากสำหรับการเล่นเกม โดยแนวทางนี้จำเป็นต้องใช้ “ตัวกลาง” ในการแปลงระบบเสียงรอบทิศทางของเกม ให้เข้ากับมาตรฐานระบบเสียง Dolby Atmos คือ ซอฟต์แวร์ที่มีชื่อว่า Dolby Access

เปรียบเทียบรูปแบบการถอดรหัสเสียง Dolby Atmos โดย AV Receiver จากรูปแบบ audio codecs ทั้ง 3 แหล่งที่มา (Blu-ray, Streaming, Game)… ข้อสังเกตคือ Audio Info ของ Dolby Atmos แบบ Dolby MAT จะไม่โชว์ข้อมูลเสียงว่าเป็น Atmos ตรงๆ เนื่องจาก Dolby Access app ทำการ encode ข้อมูลเสียง Atmos แล้วส่งออกไปในฟอร์แม็ต Uncompressed Multi-channel PCM จากนั้นหน้าที่ของ AVR คือ mapping สัญญาณเสียงที่ได้รับมา แจกจ่ายไปยังลำโพงแต่ละแชนเนลที่ติดตั้งอยู่ในระบบ ซึ่งรวมถึงลำโพงเอฟเฟ็กต์ด้านสูงตามมาตรฐาน Dolby Atmos

ย้ำอีกทีว่า รูปแบบการเข้ารหัสเสียง Dolby Atmos แบบ Dolby MAT หากตรวจสอบการถอดรหัสเสียง (Audio Info) ของ AV Receiver จะแสดงข้อมูลเป็น Multi-channel PCM ไม่โชว์ว่าเป็น Atmos แต่ไม่ได้หมายความว่ามันเป็น “Atmos ปลอม” นะครับ !

วิธีแยกแยะความแตกต่างว่าเกมไหนรองรับระบบเสียง Dolby Atmos (Dolby MAT) จริงๆ หรือเป็นแค่ Multi-channel 5.1/7.1 (ยังไม่รองรับ Atmos) ทำได้โดยสังเกต Audio Info ของ AV Receiver ตามภาพ แต่วิธีการนี้จะเช็คได้กับเกมที่เล่นผ่าน PC เท่านั้น ไม่สามารถใช้อ้างอิงกับเครื่องคอนโซล Xbox One S/X (เป็นปัญหาของฟีเจอร์ Channel upmixer ของ Dolby Access app เวอร์ชั่น Xbox One… จะกล่าวถึงต่อไป)