01 Jan 2014
Article

คลายทุกข้อสงสัย !!! HD Player คืออะไร ข้อดี ข้อแตกต่าง ทำไมถึงต้องใช้ ??


  • lcdtvthailand

ในปัจจุบันนี้หลายๆท่านคงรู้จักกับ HD Player กันไปบ้างแล้ว แต่สำหรับ “มือใหม่” ที่เพิ่งจะเคยได้ยินคำนี้ อาจจะยังไม่รู้จักว่าจริงๆแล้ว HD Player คืออะไร ? มันมีข้อดีอย่างไรบ้าง ทำไมคนถึงหันมาใช้ HD Player กันมากขึ้น ซึ่งวันนี้ผมจะพาไปทำความรู้จักกับ HD Player อย่างละเอียดกันครับ 

HD Player แบรนด์ Egreat
HD Player แบรนด์ Play On
สามารถใส่ HDD ได้
แบบพกพาก็มี


HD Player ย่อมาจาก High Definition Player 
( ไม่ใช่ Harddisk Player อย่างที่เข้าใจกัน )ซึ่งหมายความถึงเครื่องเล่นที่มีความสามารถในการเล่น “ไฟล์ระดับ High Definition” ตลอดจนไฟล์มัลติมีเดียอื่นๆอาทิเช่นไฟล์ เพลง หรือรูปภาพนิ่งต่างๆ ผ่าน “ฮาร์ดดิสก์” ประเภท SATA ซึ่งมีความจุเยอะกว่าแผ่น Blu-ray / DVD / VCD หลายเท่า และในปัจจุบันนี้ฮาร์ดดิสก์ที่เป็นที่นิยมก็มีขนาดความจุตั้งแต่ 500GB ไปจนถึง 3TB เลยทีเดียว จึงมีความสามารถจุหนังระดับไฮเดฟฟินิทชั่นได้หลักสิบไปจนถึงหลักร้อยเรื่อง ขึ้นอยู่กับขนาดของไฟล์หนังเรื่องนั้นๆด้วย โดยปกติแล้วจะอยู่ที่ 20GB ขึ้นไป หากให้เปรียบเทียบกับแผ่น Blu-ray ที่มีความจุเพียงแค่ 25GB ( แบบ Single Layer ) และ 50GB ( Double Layer ) จะจุหนังได้เพียงแค่ 1 เรื่องเท่านั้นเอง การเชื่อมต่อก็สามารถเชื่อมต่อ HD Player เข้ากับ LCD TV / Plasma TV โดยตรงผ่านสาย HDMI หรือจะต่อผ่าน AV Receiver เพื่อจะได้ระบบเสียง Surround 5.1 / 7.1 Channel ก็ได้เช่นกันครับ ส่วนใหญ่นั้นนักเล่น HD Player จะเล่นไฟล์วีดีโอต่างๆผ่านฮาร์ดดิสก์ขนาด 3.5” ซึ่งตัวเครื่อง HD Player ก็จะมีช่องไว้ให้เราใส่ฮาร์ดดิสก์ไว้ตัวเครื่อง HD Player เลยครับ  แต่ก็มี HD Player บางรุ่นที่ไม่มีช่องใส่ฮาร์ดดิสก์ในตัวเครื่อง ก็สามารถต่อผ่านช่อง USB โดยใช้ External Harddisk ขนาด 2.5″ ได้เช่นกัน

หมายเหตุ หน่วยความจำที่ใช้อ้างอิง :
1 Byte (ไบต์) = 1 ตัวอักษร 
1 KB (กิโลไบต์) = 1024 Byte
1 MB (เมกกะไบต์) = 1024 KB 
1 GB (กิกะไบต์) = 1024 MB 
1 TB (เทราไบต์)= 1024 GB

ข้อดีของเครื่องเล่น HD Player 

– จุไฟล์หนังได้เยอะกว่าพวกแผ่น Blu-ray เรียกได้ว่าใช้ “ฮาร์ดดิสก์” แค่ลูกเดียวเล่นหนังได้กว่า 40 เรื่องขึ้นไป
– สามารถเล่นไฟล์หนัง High Definition ความละเอียดสูงได้แทบทุกฟอร์แมต อาทิเช่น .m2ts, .mkv, .tp , .ts, iso, avi, divx, mpg และอื่นๆอีกมากมาย 
– คุณภาพของภาพคมชัดระดับเดียวกับ Blu-ray Player (1080p)
– รองรับการส่งผ่านเสียง (Bitstream) เสียง High Definition อย่าง Dolby TrueHD และ DTS-HD Master Audio
– นอกจากการเชื่อมต่อกับ Hard Disk 3.5” แบบ SATA โดยตรงแล้ว ยังรองรับ External Hard disk หรือพวก USB Flash Drive โดยใช้ช่องต่อ USB ภายนอกได้อีก
– รองรับการเล่นไฟล์เสียงอย่าง mp3, wav , Lossless และไฟล์รูปภาพนิ่งอย่าง Jpeg 
– บางรุ่นรองรับการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเพื่อดูหนัง ฟังเพลงออนไลน์ หรือ Social Network ได้เช่นกัน
– มีการใช้งานที่ง่ายดาย เหมาะสำหรับมือใหม่
– ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก
– ราคาไม่แพง จึงเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว

เทียบความคมชัดระหว่าง SD VS HD

ข้อแตกต่างระหว่าง HD Player กับเครื่องเล่น Blu-ray Player และ DVD ?

ชนิดของสื่อที่เล่น :: HD Player เล่นไฟล์จาก Hard Disk ส่วน Blu-ray Player / DVD Player เล่นไฟล์จาก แผ่น Blu-ray Disc และแผ่น DVD
ความจุ :: Harddisk มีความจุตั้งแต่ 1 TB / 1.5 TB / 2 TB ซึ่งถือว่าเยอะมาก รองรับไฟล์หนังไฮเดฟได้หลายสิบเรื่องส่วนแผ่น Blu-ray Disc มีความจุเพียงแค่ 25-50 GB เท่านั้น ส่วน แผ่น DVD มีความจุเพียง 4.7 GB และ 8.5 GB เท่านั้น 
ความหลากหลายของไฟล์ที่รองรับ :: HD Player รองรับไฟล์วีดีโอไฮเดฟฟินิทชั่นแทบทุกไฟล์ ส่วน Blu-ray Player และ DVD Player จะรองรับแค่บางไฟล์เท่านั้น (เพราะจะเน้นเล่นจากแผ่นมากกว่า)

คุณสมบัติHD PlayerBlu-ray PlayerDVD Player
สื่อที่เล่นHarddiskแผ่น Blu-rayแผ่น DVD
ความจุของสื่อที่เล่น1-3 TB25-50 GB4.7-8.5 GB
จำนวนหนังที่จุได้ ของสื่อที่เล่น จำนวน 30 -40
เรื่องขึ้นไป
1 เรื่องเท่านั้น1 เรื่องเท่านั้น
ความละเอียดของภาพ1080p1080p576p
ระบบเสียง ที่รองรับDolby TrueHD DTS-HD Master AudioDolby TrueHD DTS-HD Master AudioDolby Digital DTS
ประเภทของ ไฟล์วีดีโอที่รองรับรองรับไฟล์ แทบทุกรูปแบบรองรับไฟล์ HD บางไฟล์เท่านั้นรองรับไฟล์ ความละเอียดต่ำเท่านั้น
ราคาตัวเครื่อง2,500 – 20,000 บาท3000 – 30,000 บาท500-3,000 บาท

ทำไมต้องซื้อ HD Player ?

1. หากมีฮาร์ดดิสก์ความจุซัก 1 TB ก็จะจุหนังได้กว่า 40 เรื่องแล้ว ซึ่งเท่ากับการทดแทนแผ่นหนัง Blu-ray ไปตั้ง 40 แผ่น จึงสะดวก รวดเร็วและประหยัดกว่าพวกเครื่อง Blu-ray Player และ DVD Player
2. เล่นมันแทบทุกไฟล์วีดีโอที่มีอยู่บนโลกใบนี้ เป็นเครื่องที่ครอบคลุมการใช้งานได้มาก
3. ภาพคมชัดระดับ Blu-ray Player ได้สูงสุดถึง 1080p
4. เป็นเครื่องเล่นที่จะมาเติมเต็มศักยภาพการใช้งาน LCD TV / Plasma TV ของท่านได้อย่างเต็มที่
5. ราคาไม่แพงมากเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนซื้อเครื่อง Blu-ray Player และ Blu-ray Disc ซึ่งในปัจจุบันมี HD Player บางรุ่นสามารถอ่านแผ่น Blu-Ray ได้ด้วย

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จะทำให้ท่านได้รับประสบการ์การรบชมหนังความคมชัดระดับไฮเดฟฟินิทชั่นอย่างสมบูรณ์ สะดวก รวดเร็ว ที่สำคัญประหยัดเงินในกระเป๋ากว่าเป็นไหนไหนครับ


Sigma หรือ Realtek เลือกอันไหนเหมาะกับตัวคุณ ?

ถ้าพูดถึง HD Player แล้วในปัจจุบันจะมีชิพเซ็ทที่ใช้ประมวลผลอยู่ 2 ชนิดหลักๆ ก็คือ Realtek และ Sigma ซึ่งเราจะพบได้ว่าในรุ่นล่างไปจนถึงรุ่นระดับปานกลางจะใช้ชิพ Realtek และในรุ่นสูงขึ้นมา ( รวมถึงราคา ) จะใช้ชิพ Sigma ซึ่งมือใหม่หลายท่านอาจจะยังงงว่า แล้วเราจะเลือกใช้อันไหนดีล่ะ ราคาก็ต่าง คุณภาพมันต่างกันไหม แล้วความเร็วล่ะ ? เรามาดูกันครับ
 
Sigma สามารถแสดงเมนู “แท้ๆ” เหมือนเล่นจากแผ่น Blu ray ได้ หรือพูดง่ายๆก็คือใช้เมนูที่มากับหนังอันนั้น โดยส่วนมากจะเป็นไฟล์ Full RIP นะครับ อธิบายไปอาจจะไม่เท่าเห็นภาพ เราลองมาดูกันเลยครับ


ความรวดเร็วในการใช้งาน ถ้ามองกันตามตรงแล้ว Sigma จะแรงกว่าและเร็วกว่าในด้านการใช้งานการประมวลผล รวมไปถึงความเสถียรของตัวเครื่องด้วย แต่จากการใช้งานจริงๆ องค์ประกอบอื่นๆก็สำคัญเช่นกัน เช่นความเสถียรของตัวเฟิร์มแวร์ของ HD Player ตัวนั้นด้วย 

ระบบเสียง HD ทั้ง Dolby TrueHD และ DTS-HD Master Audio ถ้าเป็น Realtek จะทำได้เพียงส่งสัญญาณไปให้ตัว AV Reciever ถอดรหัสอีกที แต่ Sigma นั้นมักจะสามารถถอดรหัสเสียง HD ได้ในตัว 

Dolby TrueHD

ราคาและความคุ้มค่า ในจุดนี้จริงๆแล้วมันขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งด้านราคา HD Player ที่ใช้ชิพ Realtek จะมีราคาถูกกว่า HD Player ที่ใช้ชิพ Sigma จึงเป็นข้อดีที่มิอาจมองข้ามได้เลย ถ้าต้องการใช้งานโดยทั่วไป ดูหนัง HD ทั่วไป ไม่เน้นด้านเมนูตัวเครื่อง งบประมาณจำกัด ก็แนะนำให้หา HD Player ที่ใช้ชิพ Realtek มาใช้งาน รับรองคุ้มค่าเงินทุกบาททุกสตางค์แน่นอน (ซึ่งเครื่องเล่น HD Player ที่ใช้ชิพ Realtek มียอดขายเหนือกว่ามาก) แต่ถ้าท่านใดที่ต้องการใช้งานแบบเต็มที่ เน้นประสิทธิภาพ จัดเต็มทั้งเสียง ภาพ ช่องต่อ ลูกเล่น งบประมาณสูงขึ้นมาหน่อย การมองหา HD Player ที่ใช้ชิพ Sigma ก็ดูเป็นการลงทุนที่สมน้ำสมเนื้อกับประสิทธิภาพที่ได้อย่างแน่นอน !!!

หากจะให้สรุปสั้นๆง่ายๆ ชิพ Realtek = เน้นความคุ้มค่า (มาก) , ส่วนชิพ Sigma = เน้นประสิทธิภาพ ครับ ขอให้เลือกซื้อ HD Player ให้เหมาะสมกับ System และงบประมาณของท่านแล้วกันนะครับ !!!