24 Mar 2021
Award

ตัดสินแล้ว !!! 10 รางวัลทีวีที่ดีที่สุดประจำปี 2020-2021


  • lcdtvthailand

ในช่วงส่งท้ายปี ทาง LCDTVTHAILAND และ VIDEOPHILE & AUDIOPHILE ก็จะมาฟันธงให้ว่าปีนี้มีวีรุ่นไหน ? แบรนด์ใด ? ที่ได้รับตำแหน่งทีวีที่ดีที่สุดแห่งปี กับการประกาศรางวัล Best of The Best Awards 2020 – 2021 ซึ่งเราทำการแบ่งรางวัลตามสาขาและระดับราคาเพื่อให้ตรงกับความต้องการ ตรงกับงบประมาณของผู้ใช้แต่ละท่านด้วย สำหรับปีนี้เป็นปีที่ 10 ติดต่อกันแล้วที่เราจัดสรุป 10 ทีวีที่ดีที่สุดในลักษณะนี้ แต่ก็ดันเป็นปีที่มีวิกฤตไวรัสโควิดระบาดเกิดขึ้น บางแบรนด์จึงมีการเปิดตัวสินค้าช้าบ้าง หรือไม่นำบางรุ่นเข้ามาเลยก็มี แต่ก็ถือว่าเป็นปีที่สำคัญในการเปลี่ยนผ่านของตลาดทีวี เริ่มจากราคาของทีวี 4K ที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง จนสามารถ “ชน” กับ Full HD TV ได้แล้ว และผู้เล่นทีวี 8K ก็ทยอยเพิ่มเข้ามาในไลน์อัพท็อปสุด เป็นนิมิตรหมายว่ายุคต่อไปของทีวี คือ 8K แน่นอน 

สำหรับปัจจัยในการตัดสินรางวัล เรื่องคุณภาพของภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด รวมถึงระบบ Smart TV ก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะวิถีการรับชมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากแผ่นหนังและเคเบิ้ลทีวีสู่แอปพลิเคชั่นครบจบในตัวเครื่อง และปีนี้จะเน้นฟีเจอร์สำคัญในการเล่นเกมด้วย ตอบรับการเปิดตัวของทั้งเครื่องเล่นเกมคอนโซลยุคใหม่อย่าง PlayStation 5 และการ์ดจอพีซีรุ่นใหม่ที่สามารถส่งเฟรมเรทสูงๆ ได้


ดังนี้ทางทีมงานจึงคัดเลือกและตัดสินกันอย่างรอบคอบ อ้างอิงจากผลทดสอบวัดค่าภาพแบบ Lab Test (มีตารางสรุป) ควบคู่การใช้งานจริง ลอง-เล่น-จับ ในแบบฉบับของผู้ใช้งานจริงอย่างรอบด้าน ทั้งเรื่องดีไซน์, ภาพ, เสียง และระบบ Smart TV พร้อมประเมินควบคู่กับราคาขายในท้องตลาด ณ ขณะนั้น ผลการตัดสินรางวัลทีวีที่ดีที่สุดประจำปีนี้ หรือ Best of The Best Awards 2020 – 2021 โดย LCDTVTHAILAND จึงสามารถเป็น “ไกด์ไลน์” ในการเลือกซื้อทีวีให้กับทุกคน เรียงเป็นลำดับให้ตามงบประมาณ (ดูสัญลักษณ์ $ ในตาราง) นอกจากทีวีแล้วก็ยังมีรางวัลมอนิเตอร์ที่ดีที่สุด, โปรเจคเตอร์ที่ดีที่สุด และลำโพงซาวด์บาร์ที่ดีที่สุดประจำอีกด้วย ครบไลน์อัพภาพและเสียง เชิญรับชมผลการตัดสินได้

1) Best of The Best TV Award : LG OLED TV GX

คุณโรมันและคุณชานม มอบรางวัล Best of The Best Awards
ให้กับคุณบียองซุง คิม หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ โฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์
และคุณอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโส บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

LG OLED TV GX Series คว้ารางวัลทีวีที่ดีที่สุดประจำปีนี้ไปครองอย่างเป็นเอกฉันท์ เพราะเป็นทีวีที่มีนิยามว่า “สวยที่สุดทั้งภายในและภายนอก” แถม “รองรับอนาคตแบบเต็มสตรีม” ! ด้านภาพเป็นพาแนล 4K OLED แสดงสีดำซึ่งเป็นหัวใจที่สุดของภาพได้ดำสนิท ใช้ขิปประมวลผลตัวท็อป Alpha 9 Gen 3 ถ่ายทอดภาพออกมาได้อย่าง “ดีเลิศ” สีสันอิ่มเอิบเจิดจรัส รองรับ Dolby Vision และ Dolby Atmos ซึ่งเป็นมาตรฐาน HDR และระบบเสียงขั้นท็อปของค่าย Dolby มีโหมดภาพใหม่อย่าง Filmmaker Mode ที่ให้แสงสีเที่ยงตรงอย่างที่ผู้ผลิตหนังต้องการถ่ายทอดออกมา และโหมด ISF Expert สำหรับการปรับจูนภาพเบื้องลึก 


ดีไซน์ตัวเครื่องบางเฉียบเหมือนกรอบรูปในพิพิธภัณฑ์ (Gallery Design) แขวนแนบชิดติดผนังแบบไร้ช่องว่าง มาพร้อม HDMI 2.1 ถึง 4 ช่อง รองรับสัญญาณภาพ 4K 120Hz อย่างเต็มศักยภาพจากเครื่องเล่นเกมคอนโซล PS5 รวมถึงรองรับเทคโนโลยี Adaptive Sync จากการ์ดจอทั้ง 2 ค่ายใหญ่ Nvidia G-Sync และ AMD FreeSync ส่วนระบบ Smart TV เป็น webOS 5.0 พร้อม Magic Remote ที่ใช้งานง่าย มีปุ่มไมโครโฟนสำหรับสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย  อย่างไรก็ตาม GX Series ถูกออกแบบมาสำหรับ“แขวนผนัง” โดยเฉพาะ หากอยากวางโต๊ะต้องซื้อขาตั้งแยกต่างหาก เนื่องด้วยแบรนด์ OLED TV เจ้าอื่นไม่ได้นำรุ่นท็อปเข้ามาทำตลาดในไทยปีนี้ ทำให้ GX Series เข้าวินเป็นที่หนึ่งแบบไร้คู่แข่ง จึงขอยกให้เป็นทีวีที่ “สวย” และ “สุด”  ที่สุดประจำปี 2020 นี้

LG GX Series วางจำหน่ายในขนาด 77” และ 65”

2) Best 8K LED TV Award : Samsung QLED TV Q950TS

คุณโรมัน และคุณชานม มอบรางวัล Best 8K LED TV Award ให้กับ
Mr. Minho Gye Business Manager of Audio & Visual (คนที่สองจากขวา)
และ Mr. Ha Long Nguyen Head of Product and Trade Marketing Manager of Audio & Visual
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด

สำหรับทีวี 8K LED ที่ดีที่สุดในปีนี้ ขอยกให้ Samsung Q950TS ซึ่งต่อยอดมาจาก Q900R ในปีที่ผ่านมา มีจุดอัพเกรดยกระดับขึ้นมาหลายจุด ทั้งเรื่องดีไซน์ที่สามารถบอกว่า “ไร้ขอบ” ได้อย่างเต็มปาก ทำให้ภาพความละเอียดสูงระดับ 8K (7680 x 4320 = 33 ล้านพิกเซล) ที่ทีวีส่งออกมาราวกับว่าลอยอยู่บนอากาศปราศจากขอบมาขวางกั้น พ่วงด้วยระบบอัพสเกลพวกคอนเทนต์ 1080p หรือ 4K ให้ภาพคมขึ้นเมื่อไปแสดงผลบนจอ 8K ใช้หลอดไฟ Full Array LED ให้ระดับความสว่างสูงสุดได้ถึง 2750 nits พร้อมเทคโนโลยี Local Dimming ในการคุมแสงเป็นกลุ่มๆได้ถึง 480 โซน ส่วนคำว่า Q ที่อยู่หน้าเลขรหัสรุ่น ก็ย่อมาจาก Quantum Dot เทคโนโลยีในการบูสท์อัพสีสันให้สดอิ่มใกล้เคียงมาตรฐานโรงหนัง 


จุดเด่นที่สุดของจอ 8K คือ “ความคมชัด” ซึ่งมีจำนวนเม็ดพิกเซลมากว่า 4K ถึง 4 เท่า เหมาะกับทีวีขนาดใหญ่เกิน 65” 75” 85” ขึ้นไป  ส่วนขนาด 55” จะเห็นได้ชัดก็ต่อเมื่อเข้าสังเกตใกล้ๆ Q950TS ถือว่าเป็นทีวี 8K ตัวแรกๆ ที่สามารถเปิดวิดีโอ YouTube แบบความละเอียด 8K ได้เลยในตัว และแม้คอนเทนต์ 8K ส่วนใหญ่ในตอนนี้จะเป็นคอนเทนต์สาธิต แต่ภาพที่ได้ถือว่ามีความสวยงามคมชัดมาก เป็นการส่งสัญญาณให้ผู้ผลิตหนัง และรายการทีวีก้าวผ่านโปรดักชั่นจาก 4K ไปสู่ 8K ระบบเสียงปีนี้หันมาใช้ลำโพงแบบ 3 มิติยิงเสียงออกรอบด้านทั้งด้านบน ด้านข้าง และด้านหลัง แถมยังเชื่อมต่อกับ Soundbar ของ Samsung แล้วรวมพลังกันเปล่งเสียงออกมาได้ ส่วนช่องต่อก็มี HDMI 2.1 มาให้ที่ช่อง 4 รองรับสัญญาณภาพ 8K 60Hz และ 4K 120Hz สุดท้ายระบบ Smart TV Tizen OS มีแอปฯ ดูหนัง ซีรีส์ทั้งไทยและเทศ รวมถึง Apple TV / AirPlay ในการเชื่อมต่อกับ iPhone ถือว่ายกเอาเอาสเปกที่ดีที่สุดเท่าที่ Samsung จะให้ได้ เป็นนวัตกรรมจอภาพที่รองรับอนาคตที่สุดในตอนนี้


Samsung Q950TS Series วางจำหน่ายในขนาด 65″, 75″ และ 85″

3) Best 4K LED TV Award : Samsung QLED Q80T

คุณโรมัน และคุณชานม มอบรางวัล Best 4K LED TV Award ให้กับ
Mr. Minho Gye Business Manager of Audio & Visual (คนที่สองจากขวา)
และ Mr. Ha Long Nguyen Head of Product and Trade Marketing Manager of Audio & Visual
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด

สำหรับรางวัลทีวี 4K LED ที่ให้คุณภาพที่ดีที่สุด ทีมงานขอฟันธงให้ Samsung QLED TV Q80T คว้ารางวัลไปครอง ถึงแม้ไม่ใช่รุ่นที่ท็อปสุดในไลน์อัพ 4K QLED (Q95T เป็นตัวท็อปสุด) แต่คุณภาพของภาพและฟีเจอร์รองรับอนาคตก็ทำได้ดีเกินหน้าเกินตาคู่แข่งในระดับเดียวทั้งหมด ไมว่าจะเป็นด้านภาพซึ่งใช้จอ QLED สีสวย รายละเอียดเปิดสว่าง พร้อมหลอดไฟ Full Array LED ที่แม้จำนวนหลอดไฟจะน้อยกว่ารุ่นปีที่ผ่านมา แต่อัลกอริธึ่มการดิมไฟจริงกลับทำได้เนียนและสมูธกว่า รวมถึงการเพิ่มฟิลเตอร์ชั้นพิเศษที่ช่วยอัพเกรดมุมมองการรับชมให้กว้างขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านมา มองเฉียงๆ สีก็ยังสดอยู่ 


โดยรวมถือว่าให้คุณภาพของภาพได้ดีเยี่ยมอย่างสมดุล ไฮไลท์คือมันผ่านมาตรฐาน Ultra HD Premium อันโหดเหี้ยมประจำวงการ บ่งบอกว่าทีวีเครื่องนี้มีศักยภาพในการถ่ายทอดภาพ 4K HDR ทั้งระดับความดำ ความสว่างและสีสัน ออกมาได้ดีดั่งที่ผู้ผลิตหนังต้องการสื่อให้เราเห็น และยังให้พอร์ต HDMI 2.1 มาให้ 1 ช่อง (HDMI 4) รองรับสัญญาณภาพ 4K 120Hz จากเครื่องเล่นเกมคอนโซลอย่าง PS5 ส่วนระบบ Smart TV ปีนี้ก็มีการเพิ่มแอปฯ ดูวีดีโอคอนเทนต์เข้ามาอีกจำนวนนึงทั้ง AIS Play, VIU, HBO GO เสริมทัพจากของเดิมอย่าง Netflix, Apple TV, YouTube จัดว่าเป็น “ตัวจบ” ทีวี 4K LED คุณภาพสูงสำหรับสายดูหนังและเล่นเกมในปีนี้


Samsung Q80T Series วางจำหน่ายในขนาด 55″ ,65″, 75″ และ 85″

4) Best Midrange 4K LED TV : Hisense ULED TV U800QF 

คุณโรมัน และคุณชานม มอบรางวัล Best Midrange 4K LED TV Award
ให้กับคุณฉันท์ชาย พันธุฟัก ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด และทีมงาน Hisense

รางวัลทีวี 4K ระดับกลางค่อนบนที่ดีที่สุดในปีนี้ได้แก่ Hisense U800 Series แม้จะเป็นรุ่นเกือบบนสุดของ Hisense ในปีนี้ แต่เขาก็ปรับราคาขายขยับลงมาชนกับรุ่นกลางบนของหลายแบรนด์ ทีมงานขอให้คำจำกัดความรุ่นนี้ว่า “เพชรในตม” เพราะให้คุณภาพของภาพที่ดีมาก ถึงขั้นผ่านมาตรฐาน Ultra HD Premium แต่ดันไม่ค่อยมีใครรู้จัก เพราะช่องทางการขายมีค่อนข้างจำกัด ด้านภาพรุ่นนี้ใช้หลอดไฟ Full Array LED ขั้นสูง หน้าจอแบบ VA และเสริมด้วยเทคโนโลยี Quantum Dot ทำให้ทั้งระดับความสว่างสูงสุดและขอบเขตสีผ่านมาตรฐาน Ultra HD Premium แสดงภาพออกมาดีเกินราคา สว่างสีสวย รองรับ Dolby Vision จากทั้ง HDMI และแอป Netflix 


ส่วนระบบเสียงให้มาเป็น Speaker Bar ของ JBL ให้เสียงที่กระหึ่มเลยแต่ต้น ไม่จำเป็นต้องอัพเกรดเป็นลำโพง Soundbar ก็ถือว่าเอาอยู่ วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะ ดูหรูพรีเมี่ยม ไม่แปลกที่ Hisense จะตีตลาดที่อเมริกาและออสเตรเลียแตกเป็นที่เรียบร้อย เพียงแต่ว่าบ้านเรายังจัดว่าเป็นแบรนด์ค่อนข้างใหม่ อาจจะต้องใช้เวลาอีกซักนิดในการเข้าไปนั่งในใจชาวไทย ข้อจำกัดเดียวคือระบบปฏิบัติการ Smart TV อย่าง VIDAA ที่จะเน้นให้แต่แอปพลิเคชั่นพื้นฐานอย่าง YouTube, Netflix, Amazon Prime และ Web Browser ฉะนั้นถ้าอยากได้แอปดูหนังและซีรีส์เพิ่มมากกว่านี้ ก็สามารถซื้อกล่อง Android Box ราคาพันกว่าบาทต่อเสริมเข้าไปได้ โดยรวมเป็นทีวี ULED ที่ให้คุณภาพทั้งภาพและเสียงในระดับสูงมาก คว้ารางวัลทีวีระดับมิดเร็นจ์ที่ดีที่สุดไปครอง
Hisense U800 Series วางจำหน่ายในขนาด 55″ และ 65″

5) Best Value 4K LED TV : Sony X8000H

คุณโรมัน และคุณชานมมอบรางวัล Best Value 4K LED TV Award ให้กับ
คุณมาโกโตะ ยามาดะ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ทีวี
และคุณสุวัฒน์ชัย จารุวิทยานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ทีวี และการตลาด 

สำหรับทีวี 4K คุ้มค่าที่สุดประจำปีนี้ ขอยกให้ Sony X8000H Android TV ทีวีระดับกลางที่รองรับ Dolby Vision และ Dolby Atmos หน้าจอเป็นแบบ PLS (คล้าย IPS) ให้มุมมองการรับชมกว้าง พร้อมเทคโนโลยี Triluminos ช่วยเรื่องสีสันให้สดอิ่มขึ้น ทำให้คุณภาพของภาพโดยรวมดีกว่า LED TV รุ่นเริ่มต้นไปหนึ่งช่วงใหญ่ ส่วนระบบเสียงมีความอิ่มชัด โดยเฉพาะเสียงกลางซึ่งเป็นเสียงสนทนา ระบบปฏิบัติการ Smart TV เป็น Android 9.0 มีแอปให้มาเยอะมากทั้งไทยและเทศ ซึ่ง Android TV ที่อยู่บนทีวี Sony ถือว่าเป็น Android TV ที่มีมีความเสถียรมากที่สุดเรียกได้ว่าเขียนโค๊ดปรับจูนเข้ากับตัวทีวีได้อย่างดี สปีดการทำงานไวขึ้นจากรุ่นปีที่ผ่านมา รวมถึงรองรับการสั่งงานทีวีด้วยเสียงผ่าน Google Assistant ด้วย เมื่อนำความเพียบพร้อมทั้งด้านภาพ-เสียง และลูกเล่น Android มาเทียบกับราคาขายที่เป็นมิตร ฟันธงว่าคุ้มที่สุดกับกับสิ่งที่ได้แน่นอน 

Sony X8000H Series วางจำหน่ายในขนาด 43″, 49″, 55″, 65″, 75″ และ 85

6) Best Budget 4K LED TV : Panasonic HX600 / Skyworth SUC7500

รางวัลทีวีราคาถูกสบายกระเป๋าที่ดีที่สุด ขอมอบให้ Panasonic HX600 ทีวีรุ่นนี้จัดเป็น 4K HDR TV ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android TV เวอร์ชัน 10.0 รุ่นแรกๆ ในตลาด มีแอปพลิเคชันให้ดาวน์โหลดมากกว่า 5,000 แอปฯ รองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant มีจุดเด่นเรื่องตำแหน่งขาตั้งที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ในการวางเยอะ สีสันของภาพมีการปรับจูนมาให้ค่อนข้างดีตั้งแต่โรงงาน ขอบเขตสีกว้าง ตัวจอใช้พาเนลแบบ IPS มีดีทุกมุมมอง ชวนเพื่อนพ้องมาดูรวมกันได้อย่างสบาย

Panasonic HX600 Series วางจำหน่ายในขนาด 55″ 65″ และ 75″

คุณโรมัน และคุณชานม มอบรางวัล Best Budget 4K LED TV Award ให้กับคุณ
มร.โคเซ ซาไร ผู้อำนวยการส่วนการขายและการตลาด ผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์ 
บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด 
และคุณนิติ จินดาโชติ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ทีวี 
บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

อีกหนึ่งรุ่นที่ได้รางวัลไปคู่กันคือ Skyworth SUC7500 รุ่นนี้ก็เป็น 4K HDR TV ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android TV เวอร์ชัน 10.0 เช่นกัน สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชัน 5,000 แอปฯ บน Play Store พร้อมรองรับคำสั่งงานด้วยเสียงผ่านรีโมทคอนโทรล เพียงแต่โดดเด่นกว่าในเรื่องของดีไซน์ จอเป็นแบบ Infinity Screen ขอบการแสดงผลแทบจะชนกรอบทีวีเลย ขาตั้งโฉบเฉี่ยวทันสมัย ตัวเครื่องใช้พาเนลแบบ IPS ไม่ว่าจะดูภาพมุมตรง มุมซ้ายหรือขวา ก็ยังได้ภาพที่ดีอยู่ 

Skyworth SUC7500 Series วางจำหน่ายในขนาด 50″ 55″ และ 65″

คุณโรมัน และคุณชานม มอบรางวัล Best Budget 4K LED TV Award ให้กับ
คุณ หลี่ เจิง (มาติน) กรรมการผู้จัดการ บริษัท สกายเวิร์ท (ไทยแลนด์) จำกัดว

7) Innovation of the Year : Samsung The Sero

คุณโรมัน และคุณชานม มอบรางวัล Innovation of the Year ให้กับ
Mr. Minho Gye Business Manager of Audio & Visual (คนที่สองจากขวา),
Mr. Ha Long Nguyen Head of Product and Trade Marketing Manager of Audio & Visual
และ Mr. Nunthapon Phusanti Product Manager of Audio & Visual (คนที่สองจากซ้าย)
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด

คำว่า Sero ชื่อของรุ่นนี้ มาจากภาษาเกาหลี 세로 แปลว่า “แนวตั้ง” เป็นนวัตกรรมทีวีที่แปลกใหม่ที่สุดในปีนี้ เพราะเป็นทีวีออกแบบมาให้แสดงผลในแนวตั้งเป็นหลัก โดย Samsung เล็งเห็นว่าผู้คนในยุคนี้ใช้งานโทรศัพท์มือถือในการดู และสร้างคลิปในแนวตั้งมากขึ้น แล้วจะดีกว่าไหมถ้าจะเห็นภาพแนวตั้งมุมมองเดียวกับมือถือบนหน้าจอทีวีขนาดใหญ่แทน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ The Sero ถือกำเนิด


The Sero เป็นทีวีที่เราสามารถปรับจอให้แสดงผลในแนวตั้ง หรือแนวนอนก็ได้ โดยเราสามารถสั่งการบนรีโมทคอนโทรลได้เลย ยิ่งถ้าเชื่อมต่อกับมือถือของ Samsung เอาไว้ เวลาทำการ Screen Mirroring หรือ Cast คลิปวิดีโอขึ้นไป จอแสดงผลของ The Sero ก็สามารถปรับหมุนจอภาพอัตโนมัติ (Auto Rotation) ทั้งแนวตั้งและแนวนอนตามลักษณะการพลิกหมุนมือถือในขณะนั้น และถ้าได้สังเกตคลิปบน Facebook, Tiktok และ YouTube ในปัจจุบันก็เริ่มมีคลิปแนวตั้งเยอะขึ้นมากทั้ง ไม่ว่าจะคลิปรีวิว, คลิปเต้น, คลิปไลฟ์สด หรือแม้กระทั่งมิวสิควีดีโอของวง Black Pink ก็ยังมีเวอร์ชั่น Mobile ด้วย 


นอจากนี้ตัวเครื่องสามารถกางขาแล้วตั้งพื้นได้ทันที พร้อมออปชันเสริมอย่างล้อเลื่อนในการเข็นเคลื่อนย้ายไปมา ด้านล่างตัวเครื่องมีลำโพงซ่อนเอาไว้ในผ้าบุผิว ส่วนจอภาพก็ให้เป็น QLED พร้อมระบบ Smart TV อย่าง Tizen OS จัดเต็มแอปเหมือนทีวีรุ่นปกติ เป็นการปฏิวัติวิถีการรับชมทีวีซึ่งปกติเราดูในแนวนอนกันมาทั้งชีวิต ทว่าในปีนี้เราสามารถดูแนวตั้งได้แล้ว จึงขอมอบรางวัลนวัตกรรมทีวีแห่งปีให้ The Sero ไปครอง
Samsung The Sero วางจำหน่ายในขนาด 43″

8) Best Gaming TV : LG OLED TV CX

คุณโรมันและคุณชานม มอบรางวัล Best Gaming TV Award
ให้กับคุณบียองซุง คิม หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ โฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์
และคุณอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโส บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ปี 2020 เป็นปีของชาวเกมเมอร์อย่างแท้จริง ทั้งการเปิดตัวเครื่องเล่นเกมคอนโซลเจนเนอเรชั่นใหม่ทั้ง PlayStation 5 และ XBox Series X รวมถึงการ์ดจอพีซีรุ่นใหม่อย่าง RTX 3080/3090 ซึ่งทั้งหมดนี้มีความสามารถในการส่งภาพความละเอียด 4K@120Hz ทีวีที่ถือว่าออกเติมเต็มเหล่าเกมเมอร์ และให้คุณภาพของภาพดีที่สุดในปีนี้ได้แก่ LG 4K OLED TV CX Series เมื่อขึ้นชื่อว่า OLED ก็การันตีเรื่องความดำที่ดำสนิท สีสัน และภาพ HDR ที่ให้แสงเงาสมจริง พร้อมแสงสีที่เจิดจรัส จุดที่ทีมงานฟันธงให้นอกเหนือจากด้านภาพ คือความสามารถในการรองรับอนาคต เพราะเจ้า CX ให้พอร์ต HDMI เวอร์ชั่น 2.1 รองรับสัญญาณภาพ 4K@120Hz มาถึง 4 ช่อง ใจป้ำสุดๆ ในขณะที่แบรนด์อื่นจะให้แค่ 1-2 ช่องเท่านั้น 


ตัวเครื่องยังรองรับเทคโนโลยี Adaptive Sync จากทั้ง 2 ค่าย NVIDIA G-Sync และ AMD FreeSync โดยทีวีสามารถปรับเฟรมเรทสูง-ต่ำแบบอัตโนมัติตามสัญญาณต้นทางเพื่อป้องกันเฟรมภาพขาด และคงให้ภาพมีความลื่นไหลอย่างต่อเนื่อง มีโหมดเกมที่ช่วยลดค่า Input Lag ให้เหลือประมาณ 13.1 ms (วัดที่สัญญาณ 4K 60Hz) มุมมองการรับชมกว้าง สีไม่ซีด นั่งเล่นเกมรายล้อมกันก็ชัดแทบทุกมุม ขนาดที่มีให้เลือกก็ทั้ง 65”, 55” และล่าสุดกับขนาด 48” ที่เพิ่งเปิดตัวออกมา ซึ่งเหมาะกับการกวาดสายตาหากนั่งระยะใกล้ จึงสามารถประยุกต์ใช้เป็นเกมมิ่งมอนิเตอร์ได้อีกต่อ สายดูหนังก็เหมาะมากเพราะรองรับทั้ง Dolby Vision และ Dolby Atmos จึงขอยกตำแหน่ง King of Gaming TV ให้ LG OLED CX Series ไปครองในปีนี้

LG CX Series วางจำหน่ายในขนาด 65″, 55″ และ 48″

9) Best Smart TV Award : Sony Android 9.0 (2020)

คุณโรมัน และคุณชานมมอบรางวัล Best Smart TV Award ให้กับ
คุณมาโกโตะ ยามาดะ Senior Product Manager TV Marketing Department Marketing Division
และคุณสุวัฒน์ชัย จารุวิทยานนท์ Assistant Manager TV Marketing Department Marketing Division

ปีนี้ทีมงานยกให้ Sony Android TV เป็น Smart TV of The Year ถึงแม้ยังใช้ Android เวอร์ชั่น 9.0 อยู่ ไม่ได้อัพเกรดไปเป็นเวอร์ชั่นใหม่ 10.0 เหมือนบางแบรนด์ แต่สิ่งที่ได้คือ “ความเสถียร” และ “ความรวดเร็ว” ที่ทำได้ดีเกินหน้าเกินตาชาวบ้าน แถมเป็น Android TV เจ้าเดียวที่รองรับ Airplay เชื่อมต่อกับ iPhone ไร้สายได้ รวมถึงล่าสุดกับการไปดีลเอาแอป Apple TV ลงมาสถิตย์อยู่บน Android TV ของตัวเองแบบเอ็กซ์คลูซีฟได้อย่างหน้าตาเฉย เพิ่มจำนวนแอปดูหนังและซีรีส์เกรดเอขึ้นมาให้เยอะที่สุดในบรรดา Smart TV ทั้งหมด ถือคติว่าช้า…แต่ชัวร์


Android เป็นระบบปฎิบัติการโดย Google มีแอปพลิเคชันให้ดาวน์โหลดมากกว่า 5,000 แอปฯ ใน PlayStore ซึ่งแอปฯ ดูหนัง-ซีรีส์ทั้งไทย และเทศ ฟุตบอลทุกลีกชั้นนำ มีทุกคอนเทนต์ยอดฮิตให้ครบจบในตัว แทบไม่ต้องซื้อกล่องมาต่อเพิ่ม ตัวแอปฯ ยอดนิยมก็ได้แก่ YouTube, Netflix, Amazon Prime, HBO GO, Google Play, Line TV, TrueID, VIU, WeTV, IQIYI, beIN Sports และล่าสุดก็ Apple TV ส่วนแอปฯ ไหนที่ขาด เช่น AIS PLAY ก็สามารถใช้วิธี Cast จากมือถือขึ้นไปแสดงบนจอทีวีได้  มีฟีเจอร์ผู้ช่วยอัจฉริยะ Google Assistant ที่รองรับคำสั่งเสียงทั้งภาษาไทย และอังกฤษ รับคำสั่งได้ค่อนข้างแม่นยำ อยากจะดูคลิปอะไร? ก็แค่ใช้เสียงพูดค้นหา ไม่ต้องมานั่งกดพิมพ์ให้เสียเวลา แถมยังใช้ทีวีเป็นศูนย์กลางควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า IoT ได้อีกด้วย สั่งทีวีให้เปิด-ปิดไฟหลอดไฟ IoT ต่างแบรนด์ก็ทำได้ ด้วยคุณภาพ และปริมาณของแอปบวกกับความฉลาดเป็นกรด ก็ต้องยกให้ Sony Android TV ยืนหนึ่งอีกครั้งในปีนี้ 

เหนือกว่า “ฉลาด” คือ “อัจฉริยะ” ใครจะไปคิดว่าวันนึงทีวีจะคุย ตอบสนองคำสั่งเราได้ นี่แหละทีวีที่ “ปรนิบัติ” เราอย่างแท้จริง Sony Android TV 2020-2021 : X8000H | X8500H | X9000H | X9500H | A8H | Z8H 

10) Best Design Award : Samsung The Serif

คุณโรมัน และคุณชานม มอบรางวัล Best Design Award ให้กับ
Mr. Minho Gye Business Manager of Audio & Visual (คนที่สองจากขวา),
Mr. Ha Long Nguyen Head of Product and Trade Marketing Manager of Audio & Visual
และ Mr. Nunthapon Phusanti Product Manager of Audio & Visual (คนที่สองจากซ้าย)
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด

The Serif คือทีวีดีไซน์สุดชิคจาก Samsung  ออกแบบโดยสองพี่น้องชาวฝรั่งเศส Ronan และ Erwin Bouroullec ซึ่งมีผลงานเฟอร์นิเจอร์สไตล์มินิมอลระดับโลกมากมาย ทั้งคู่ออกแบบให้ “ทีวี” ได้ร่วมเป็นหนึ่งใน “เฟอร์นิเจอร์” สำหรับตกแต่งบ้าน ตัวเครื่องจึงมีดีไซน์ที่สวยแปลกตา ถ้าเราสังเกตด้านข้างจะเป็นรูปตัวอักษร I แบบโรมัน ตัวกรอบเป็นสีขาวทั้งด้านหน้าและหลัง พร้อมขาตั้งทรงสูงที่ยกตัวทีวีขึ้นมา ทำให้จับตั้งกับพื้นได้เลยโดยไม่ต้องมีชั้นวาง ภายใต้แท่งขาตั้งสามารถซ่อนสายไฟให้ดูกลมกลืน ดีไซน์โดยรวมทั้งมีความเรียบหรูสวยเก๋ เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสวยที่เข้าได้กับการตกแต่งบ้านได้หลากรูปแบบ สามารถเชื่อมต่อกับมือถือผ่าน NFC แค่แตะมือถือบนตัวเครื่อง ก็แชร์เพลงไปเล่นบนจอทีวีได้ มี Ambient Mode ปรับเปลี่ยนลวดลายบนจอภาพให้กลมกลืนไปกับการตกแต่งภายในบ้าน กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสวยที่ดูมีชีวิต เสริมสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้สวยอย่างมีสไตล์ ถูกใจสายแต่งบ้าน ไม่เพียงเท่านี้ตัวหน้าจอยังใช้เทคโนโลยีภาพ QLED พร้อมระบบ Smart TV : Tizen OS เรียกได้ว่าสวยทั้งภายนอกและภายใน จึงขอยกตำแหน่งทีวีที่มีดีไซน์สวยมงลงที่สุดแห่งปีให้ Samsung The Serif ไปครอง
Samsung The Serif วางจำหน่ายในขนาด 55” และ 43”