06 Dec 2022
Award

ประกาศผล Best of The Best TV Award ทีวีที่ดีที่สุดประจำปี 2022-2023


  • lcdtvthailand

LCDTVTHAILAND ของเราดำเนินการตัดสินรางวัล Best of The Best TV Award มาอย่างต่อเนื่องเพื่อค้นหาว่า ทีวีที่ทีมงานได้ทดสอบไป รุ่นไหน แบรนด์ใด มีความเหมาะสมกับการได้รับรางวัลในแต่ละสาขามากที่สุด โดยอิงจากผลการทดสอบอันเข้มข้นตามมาตรฐานอุตสาหกรรมภาพและเสียง ผ่านเครื่องมือตรวจวัดระดับมืออาชีพ ผสมผสานกับผลลัพธ์จากการใช้งานจริงแบบผู้ใช้งานทั่วไป… หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลการประกาศรางวัลนี้ จะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ที่ช่วยให้ผู้อ่านทุกท่านได้ทีวีที่ตรงกับที่ใจต้องการอย่างแท้จริง

1. Best of The Best TV Award : LG OLED evo G2
มอบถ้วยรางวัล Best of The Best TV Award ให้กับ
มิสเตอร์ เดวิด ลี ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอนเตอร์เทนเมนต์
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

รางวัลทีวีที่ดีที่สุดแห่งปีหรือ Best of The Best TV ตกเป็นของ LG OLED evo G2 | ด้วยพาแนล OLED evo เจนฯ ใหม่ เพิ่มโครงสร้างเลเยอร์เรืองแสงผสานกับการติดตั้ง Heatsink ช่วยระบายความร้อน ยกระดับให้ G2 แสดงความสว่างสูงเป็นพิเศษ ค่า Peak Brightness ในโหมดภาพที่สีตรงที่สุดอย่าง Filmmaker ทำได้เกิน 900 nits (สว่างที่สุดที่ทีมงานได้รีวิว OLED TV ในปีนี้) พร้อมจอแบบ Glossy มันเงา ขับภาพ HDR ออกมาได้อย่างสวยเจิดจรัส พร้อมสีดำที่ดำสนิท 100% จึงได้ทั้งความโดดเด้ง และความลึกของภาพซึ่งก่อให้เกิดมิติภาพในแบบที่ LED TV ให้ไม่ได้ รองรับ Dolby Vision IQ ด้วย และมี HDMI 2.1 x 4 ช่อง รับสัญญาณ 4K 120Hz FreeSync & G-Sync VRR ทุกช่อง ครบจบด้านเกมมิ่ง โดยรวมคือสเปกด้านภาพขั้นท็อปที่สุด และคุณภาพของภาพ “โดดเด่นที่สุด” ในปีนี้

อีกจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้ คือดีไซน์พิเศษที่ทำออกมาเพื่อแขวนผนังเหมือนกรอบรูปศิลปะ ไร้ช่องว่างด้านหลังดูกลมกลืนไปกับผนัง หรือหากจะตั้งพื้นก็สามารถซื้อ Gallery Stand 3 แฉกเสริมได้ (ใช้ได้กับขนาด 55 นิ้ว และ 65 นิ้ว) มาพร้อม webOS 22 เวอร์ชั่นล่าสุดที่อัปเดทให้มีแอปอย่าง Disney+ Hotstar แล้ว ใช้เคียงคู่กับ Magic Remote ตัวเก่ง ควบคุมสะดวก รับคำสั่งเสียงได้ ทีมงานขอยกให้ LG OLED evo G2 คือ “ที่สุดของทีวี” ในปีนี้

LG OLED evo G2 : ขนาด 77 นิ้ว, 65 นิ้ว, 55 นิ้ว


2. Editor’s Choice Award : LG OLED evo C2
มอบถ้วยรางวัล Editor’s Choice Award ให้กับ
คุณอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

จริงอยู่ว่ารุ่น G2 คือ The Best ที่สุด ทว่าหากให้ทีมงานเลือกซื้อใช้เอง เราขอเลือก LG OLED evo C2 เป็นที่หนึ่งในใจของพวกเรา เหตุผล คือ ตัวที่ให้คุณภาพ “ดีเลิศ” ในราคาที่อยู่ในเกณฑ์ “สมเหตุสมผลกว่า” เป็น “ตัวจบ” ที่สำนักรีวิว และนักเล่นทั่วโลกต่างให้การยอมรับ OLED C2 ปีนี้อัปเกรดจากรุ่นปีที่ผานมาในเรื่องความสว่าง ใช้พาแนล OLED evo ให้ความสว่างได้สูงเกิน 800 nits (Vivid/Filmmaker) อาจจะเพลากว่าซีรีส์ G เล็กน้อย แต่พลังภาพโดยรวมยังจัดว่าเกินพอ เหนือชั้นกว่า OLED ทั่วไป ตั้งประชันตัวต่อตัวแล้วเห็นความต่างอย่างมีนัยยะ สีสันสดอิ่มทุกมุมมอง พร้อมได้จอ Glossy มันเงามาช่วยอุ้มชูเรื่องความเจิดจรัสอีกต่อ Dolby Vision IQ & Dolby Atmos ก็มาครบ และปีนี้คลอดไซส์ใหญ่พิเศษ 83 นิ้ว ตอบโจทย์คอภาพยนตร์จอยักษ์ และไซส์เล็กพิเศษ 42 นิ้ว เพื่อเหล่าฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ สามารถประยุกต์ใช้เป็นจอมอนิเตอร์เกมมิ่งได้ทันที มี HDMI 2.1 x 4 FreeSync และ G-Sync VRR พร้อม Game Optimizer สามารถโชว์ข้อมูลภาพและเฟรมเรทแบบเรียลไทม์ ครบจบทั้งสายดูหนัง และเกมมิ่งแบบดีเลิศในราคาที่พอดิบพอดี จึงขอยกรางวัล Editor’s Choice ให้ LG OLED evo C2 ไปครอง

LG OLED evo C2 : ขนาด 42 นิ้ว, 48 นิ้ว, 55 นิ้ว, 65 นิ้ว, 77 นิ้ว, 83 นิ้ว


3. Best 8K LED TV Award : Samsung Neo QLED QN900B
คุณนันทพล ผู้สันติ ผู้จัดการสินค้ากลุ่มภาพและเสียง
กับถ้วยรางวัล Best 8K LED TV Award

มาดูฝั่ง LED TV กันบ้าง รางวัลทีวี 8K LED ที่ดีที่สุดตกเป็นของ Samsung Neo QLED 8K QN900B ถือว่าเป็นเจนฯ ที่ 2 ของ Samsung ที่ใช้ Mini LED Backlight ที่มีขนาดเล็กกว่าหลอดไฟ LED Backlight ปกติมาก เป็นหัวใจในการกำเนิดแสง สามารถดิมไฟจากจุดที่มืดที่สุดไปถึงจุดที่สว่างที่สุดได้ละเอียดยิบถึง 14 bits หรือ 16,384 สเต็ป แถมดิมเก็บขอบวัตถุทั้งทรงเหลี่ยม ทรงโค้งได้เนียนอย่างน่าทึ่ง สร้างระดับความดำได้อย่างดีที่สุดในบรรดาทีวีที่ใช้ Mini LED TV ทั้งหมด ไปจนถึง Full-array LED TV ทั้งมวล

นอกจากนี้ยังให้ระดับความสว่าง Peak Brightness สูงสุดได้เกิน 4400 nits (Dynamic) ! เกินกว่าค่ามาตรฐาน Ultra HD Premium ไปถึง 4 เท่า สู้แสงแดดอันเจิดจ้าของเมืองไทยที่ทะลุผ่านบานหน้าต่างเข้ามาในห้องได้ ซึ่งจุดนี้ไม่มีทางที่ OLED TV เครื่องใดจะเทียบได้ สามารถขับภาพต้นฉบับ HDR ที่มาสเตอร์ระดับความสว่างมาสูงได้อย่างหมดจด หากจะดูหนังให้สบายตาในห้องคุมแสงสามารถปรับลดระดับความสว่างลง หรือเลือกใช้โหมดภาพอย่าง Filmmaker ได้ ความละเอียดภาพ 8K 33 ล้านพิกเซล คมชัดจริงโดยเฉพาะเมื่อรับชมจอใหญ่ระดับ 85 นิ้ว ทว่าข้อจำกัด คือ เรายังต้องรอคอนเทนต์ 8K สุกงอมกว่านี้เพื่อเติมเต็มระบบนิเวศให้สมบูรณ์ รุ่นนี้มี Wi-Fi 6 ล่าสุดเพื่อรองรับการสตรีมมิ่งที่ลื่นไหล ส่วนจุดเด่นอื่นๆ คือ หน้าจอ “ไร้ขอบ” อย่างแท้จริง หากแขวนทีวีแนบผนังจะสวยเหมือนภาพลอยอยู่บนอากาศ และพอร์ท HDMI 2.1 ทั้ง 4 ช่อง รองรับความละเอียดสูงสุดที่ 8K 60Hz และ 4K 120Hz FreeSync VRR จัดว่าเป็นตัวสุดของ 8K Mini LED TV สำหรับ QN900B

Samsung Neo QLED QN900B : ขนาด 85 นิ้ว, 75 นิ้ว, 65 นิ้ว


4. Best 4K LED TV Award : Samsung Neo QLED QN90B
คุณชานมมอบถ้วยรางวัล Best 4K LED TV Award
ให้กับคุณนันทพล ผู้สันติ ผู้จัดการสินค้ากลุ่มภาพและเสียง
บริษัท ซัมซุง (ประเทศไทย) จำกัด

QN90B คือ 4K Neo QLED TV ระดับบนของ Samsung ใช้ Mini LED Backlight เวอร์ชั่นใหม่หลอดมีขนาดเล็กดิมไฟได้ละเมียดที่สุดตัวหนึ่งในวงการ คุมความดำได้ดี พร้อมให้ระดับความสว่างสูงสุดได้สูงเกินมาตรฐาน Ultra HD Premium ในปีนี้มีการแบ่งกลุ่ม และสเปกของรุ่น QN90B 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่

  1. กลุ่มขนาดเล็ก จอภาพ 43 นิ้ว และ 50 นิ้ว ให้ความสว่างราว 1300 nits (Dynamic)
  2. กลุ่มขนาดใหญ่ตั้งแต่ 55 นิ้ว ไปจนถึง 85 นิ้ว ความสว่างสูงกว่า 3000 nits (Dynamic)

ในกลุ่มที่ 1 ขนาดพอเหมาะใช้เป็นเกมมิ่งมอนิเตอร์นั่งระยะใกล้ได้ แถมรองรับ 4K 144Hz เป็นครั้งแรกของจอทีวี ! รองรับเกมมิ่งพีซีเฟรมเรทสูงจากได้เลย ส่วนในกลุ่มที่ 2 นับว่า “ยืนหัวแถว” ในบรรดาทีวี 4K ขนาดกลางและใหญ่ในปีนี้ จุดประสงค์เพื่อถ่ายทอดภาพ HDR ได้ถึงอกถึงใจในระยะนั่งรับชมปกติในห้องรับแขกนั่นเอง พร้อม HDMI 2.1 ทั้ง 4 ช่อง รองรับ 4K 120Hz FreeSync VRR สำหรับสายเกม QN90B จึงเป็น 4K LED TV ที่ให้ความสมบูรณ์ครบเครื่องสำหรับสายดูหนังและเกมมิ่ง

หมายเหตุ : รุ่นท็อป QN95B จะมีสเป็คที่ใกล้เคียงกับ QN90B ทว่าจะมีขนาดหน้าจอให้เลือกน้อยกว่า แต่จะได้กล่อง One Connect Box แยกออกมา ช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการเชื่อมต่อสายและเก็บซ่อนสายสัญญาณต่าง ๆ ให้เรียบร้อยขึ้น

Samsung Neo QLED QN90B : ขนาด 43 นิ้ว, 50 นิ้ว, 55 นิ้ว, 65 นิ้ว, 75 นิ้ว, 85 นิ้ว


5. Best Midrange 4K LED TV Award : Sony X90K
คุณโรมันและคุณชานม มอบถ้วยรางวัล Best Midrange 4K LED TV Award ให้กับ
คุณ Shinpei Nishikawa ผู้จัดการทั่วไปแผนกการตลาด บริษัท โซนี่ ไทย

ชาวอารยธรรมจะเลือกตัวนี้ !!! Sony X90K คือ 4K LED TV คุณภาพสูง ขวัญใจเหล่า Sony Lovers เหตุผลคือ “ความครบเครื่องในราคาที่คุ้มค่า” ใช้เทคโนโลยีระดับพรีเมี่ยมรอบด้าน ทั้ง Full Array LED Backlight ชิปประมวลผล Cognitive Processor XR ตัวท็อป ถ่ายทอด DNA มาจากสตูดิโอมอนิเตอร์ที่ใช้อ้างอิงในการผลิตภาพยนตร์ แนวภาพมีความกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดูหนังแล้วได้อารมณ์เดียวกับผู้กำกับ โดดเด่นด้วยความสว่างสูงสุดเกิน 1000 nits (Vivid/Custom) พร้อม HDMI 2.1 x 2 ช่อง รองรับการเล่นเกมส์ PlayStation 5 อย่างสมบูรณ์ ระบบ Google TV ติดตั้งแอปฯ ได้เยอะที่สุด แต่ทีเด็ด คือ BRAVIA Core รับชมภาพยนตร์ในเครือของ Sony กว่า 150 เรื่อง แบบ 4K IMAX Enhanced บิทเรทสูง รองรับการสั่งงานด้วยเสียงไทยด้วย จึงครบเครื่องทั้งความสามารถฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ในตัว ในราคาที่ไม่ได้โดดสูงเกินไป ทีมงานขอมอบรางวัลทีวี 4K ระดับกลางที่ดีที่สุดแห่งปี ให้ Sony X90K เครื่องนี้

Sony X90K : ขนาด 55 นิ้ว, 65 นิ้ว, 75 นิ้ว, 85 นิ้ว


6. Best Value 4K LED TV : Hisense U7H (จอ ADS) & Toshiba M550L (จอ VA)

ปีนี้ทีมงานให้รางวัลทีวี 4K รุ่นคุ้มค่าที่สุด แก่ 2 แบรนด์ดัง คือ Hisense U7H และ Toshiba M550L ทั้งคู่ใช้หลอดไฟประสิทธิภาพสูงอย่าง Full Array LED Backlight แบ่งโซนดิมแสง คุมระดับความดำ และให้ความสว่างได้ดีกว่า LED TV ระดับเดียวกันที่มักใช้ Edge LED หรือ Direct LED Backlight เพื่อประหยัดต้นทุน

คุณโรมันมอบรางวัล Best Value 4K LED TV Award
ให้กับคุณฉันท์ชาย พันธุฟัก ผู้อำนวยการส่วนขายการและการตลาด
บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
  • Hisense U7H : ซีรีส์ 7 ที่ต่อยอดความสำเร็จ 4K ULED TV มา 2-3 ปี ต่อเนื่อง เหตุผลหลัก คือ จัดเต็มเรื่องสเปก แต่ขายในราคาน่ารัก ใช้ Full Array LED Backlight รองรับ Dolby Vision/Atmos พอร์ท HDMI 2.1 x 2 ช่อง เล่นเกมส์ 4K 120Hz ได้ จอภาพเป็น ADS เน้นมุมมองรับชมกว้าง พร้อม VIDAA OS แม้จำนวนแอปฯ ไม่หลากหลายเท่าระบบอื่น แต่ก็มีแอปฯ สตรีมมิ่งใหม่ ๆ เพิ่มเติมต่อเนื่อง อาทิ WeTV และ iQiYi สุดท้ายคือรองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน VIDAA Voice ด้วย จึงเป็นรุ่นที่สเปกสูงในราคาที่คุ้มค่า

    Hisense U7H : ขนาด 55 นิ้ว, 65 นิ้ว, 75 นิ้ว, 85 นิ้ว
คุณโรมัน และคุณชานม มอบถ้วยรางวัล Best Value 4K LED TV Award
ให้กับคุณหลวน เมิงเฉวี่ย ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ทีวี (คนที่สองจากด้านซ้าย) และ
คุณคุณพงษ์เทพ ศิริสกุลเวโรจน์ ผู้จัดการอาวุโสแผนกขายผลิตภัณฑ์ทีวี
บริษัท TVS REGZA Corporation Thailand Office
  • Toshiba M550L : รุ่นนี้ใช้ Full Array LED Backlight เช่นกัน แต่พาแนลเป็นแบบ VA ได้ความสดสว่าง รองรับ HDR ขั้นท็อปอย่าง Dolby Vision มีลำโพง แยกวูฟเฟอร์มาอีก 1 ชุด ด้านหลัง ให้พลังเสียงกระหึ่มหนักแน่น ดูหนัง และคอนเสิร์ตได้อรรถรส หากไม่อยากเสริม Soundbar ก็ได้ ถึงแม้จะยังไม่รองรับ 4K 120Hz เหมือน Hisense U7H แต่ก็ได้ Google TV เข้ามา ด้วยแอปที่หลากหลาย พร้อมลูกเล่นการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant ที่แฟนซีกว่า

    Toshiba M550L : ขนาด 50 นิ้ว, 55 นิ้ว, 65 นิ้ว

2 รุ่นนี้ “มีดีกันคนหละหมัด” หากเทียบเทคโนโลยีต่อราคา = ให้ความคุ้มค่าสูงทั้งคู่ เลือกตามลักษณะการใช้งานของเราได้


7. Best Budget 4K LED TV : Samsung QLED Q65B
คุณโรมันมอบถ้วยรางวัล Best Budget 4K LED TV Award
ให้กับคุณ นันทพล ผู้สันติ ผู้จัดการสินค้ากลุ่มภาพและเสียง
บริษัท ซัมซุง (ประเทศไทย) จำกัด

ราคาสูสีกับ LED TV แต่ได้เป็น QLED TV ที่ภาพดีกว่า ! Q65B คือ 4K HDR QLED TV รุ่นเริ่มต้นจาก Samsung ราคาประหยัดสบายกระเป๋าแต่คุณภาพของภาพไม่ธรรมดา ใช้เทคโนโลยีสำคัญ 2 อย่าง ที่รุ่นเริ่มต้นอื่นไม่มี คือ Quantum Dot บูสท์อัพสีสันให้สดอิ่ม กับ Backlight แบบ Dual LED หรือ Edge LED ที่ใช้หลอดไฟ 2 ชุด ให้แสงโทนเย็นและโทนอุ่น เพื่อให้แมตช์กับอุณหภูมิสีที่ต้องการ ผลลัพธ์คือ “ค่าสมดุลสี” ที่แม่นยำกว่า จนได้รับ Pantone Validated และ Pantone SkinTone Validated การันตีแสงสีเที่ยงตรงทั้งวัตถุ และผิวคน นำไปใช้อ้างอิงทำสื่อสิ่งพิมพ์ได้ หรือใช้ดูหนังได้ทันทีโดยไม่ต้องปรับแต่งค่าเพิ่มเติมอะไรมากมายในโหมด Filmmaker ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ LED TV รุ่นเริ่มต้นส่วนใหญ่ ไม่สามารถทำได้ เรียกว่าให้ภาพดีกว่าแต่ราคายังคงจับต้องได้ง่ายนั่นเอง

Samsung QLED Q65B : ขนาด 43 นิ้ว, 50 นิ้ว, 55 นิ้ว, 65 นิ้ว, 75 นิ้ว, 85 นิ้ว


8. Best Smart TV Award : Sony OLED A80K
คุณโรมันและคุณชานม มอบถ้วยรางวัล Best Smart TV Award ให้กับ
คุณสุวัฒน์ชัย จารุวิทยานนท์ ผู้จัดการแผนกการตลาดผลิตภัณฑ์ทีวี บริษัท โซนี่ ไทย

Google TV จาก Sony ยังคงครองแชมป์ระบบ Smart TV ยอดเยี่ยมแห่งปี ครั้งนี้มี “ของเล่นใหม่” ที่ทำให้การตัดสินนั้นเด็ดขาดยิ่งกว่าเดิม นอกเหนือจากแอปฯ บน PlayStore ที่มีจำนวนเยอะที่สุดคือเหยียบหลักหมื่นแอปฯ แล้ว ยังได้แอปฯ เอ็กคลูซีฟ อย่าง BRAVIA CORE ที่เปรียบดั่ง “บิดาแห่งแอปฯ สตรีมมิ่งดูหนัง” เข้ามาเสริมทัพ สามารถรับชมหนังในเครือ Sony Pictures กว่า 150 เรื่อง ในรูปแบบ 4K IMAX Enhanced ให้บิทเรทได้สูงถึง 80 Mbps เกือบเทียบเท่าแผ่นหนัง 4K Ultra HD Blu-ray แน่นอนว่าสูงกว่าบริการสตรีมมิ่งด้วยกัน อย่าง Apple TV, Netflix ฯลฯ ให้คุณภาพของภาพโดดเด่นที่สุด ซึ่งสามารถใช้งานฟรีสำหรับผู้ใช้ทีวีซีรีส์ BRAVIA XR รุ่นตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่างกล้องอัจฉริยะ “BRAVIA CAM” ใช้พูดคุยวีดีโอคอลล์ได้ ขณะเดียวกันก็ตรวจจับตำแหน่งผู้ชม และปรับภาพ-เสียงให้เหมาะสมกับทิศทางการนั่งแบบอัตโนมัติ อีกทั้งเป็น Google TV / Android TV เจ้าเดียวที่สามารถเล่นแอปฯ VIU ซีรีส์เกาหลีได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ติดลิขสิทธิ์เหมือนเจ้าอื่น รองรับการสั่งงานด้วยเสียงแบบแฮนด์ฟรี พูดกับทีวีโดยตรงได้ สปีดการใช้งานโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมานี้ รวมกับที่เป็น OLED TV จึงให้ผลลัพธ์ภาพ เสียง และลูกเล่นที่ยอดเยี่ยมแบบลงตัวที่สุด !

Sony A80K : ขนาด 55 นิ้ว 65 นิ้ว 77 นิ้ว


9. Best Design Award : Philips OLED706

“สวยวิบวับ เจิดจรัส เปล่งประกาย” คือนิยามที่ทีมงานยกให้ Philips OLED706 โดยรุ่นนี้มี Ambilight เทคโนโลยีหลอดไฟ LED 3 สี กำเนิดแสงสีที่ด้านหลังของจอทีวีสัมพันธ์กับภาพบนจอ ให้เอฟเฟกต์เติมเต็มบรรยากาศภายในห้องระหว่างดูฟุตบอล ชมภาพยนตร์ หรือดูการ์ตูน ในมิติที่แตกต่างแบบสีสันทะลุจอ เวลารับชม HDR Content ยังทำหน้าที่ปรับความเปรียบต่างของแสงให้สมูทดูสบายตาขึ้นด้วย โดยเฉพาะเมื่อดิมไฟในห้องให้มืดลง หรือจะกำหนดแสงสีแบบ Fixed สีเดียวตลอดเวลาก็ได้ หรือจะปิดไฟ Ambilight ไปเลยก็ได้เช่นกัน เมื่อเข้าคู่กับจอ OLED TV ที่มีดีไซน์บางเหมือนกระจกแผ่นเดียว จึงดูสวยทั้งภายในและแสงรอบกายภายนอก เป็นความต่างด้านดีไซน์ที่สวยแหวกแนว โดดเด่นที่สุดแห่งปี

Philips OLED706 : ขนาด 55 นิ้ว, 65 นิ้ว


10. Best Gaming TV Award : LG OLED evo C2
มอบถ้วยรางวัล Best Gaming TV Award ให้กับ
คุณวิภาพร เพ็ญสันติ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอนเตอร์เทนเมนต์
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

รางวัลทีวีสายเกมมิ่งที่ดีที่สุดแห่งปี ได้แก่ LG OLED evo C2 ที่เพิ่มขนาดเล็กพิเศษอย่าง 42 นิ้ว เข้ามา จึงประยุกต์ทำเป็น PC Gaming Monitor ได้ คุณภาพของภาพอยู่ในเกณฑ์ดีเลิศตามสไตล์ OLED สีสันสดอิ่มชัดเจนทุกมุมมอง ขับภาพกราฟิกจากเกมออกมาได้โดดเด้ง พร้อม HDMI 2.1 ถึง 4 ช่อง รองรับ 4K 120Hz Freesync & GSync VRR ครบแบบไม่กั๊ก และยังรองรับ Dolby Vision Gaming เมื่อเชื่อมต่อกับคอนโซลอย่าง XBOX ด้วย มีโหมด Game Optimizer สำหรับปรับแต่งภาพ และตรวจสอบสถานะระหว่างเล่นเกมส์ ปรับลดค่า Input lag ต่ำที่สุดแบบอัตโนมัติ ส่วนใครชอบเล่นเกมแบบอลังการจอใหญ่บิ๊กเบิ้มเต็มตา ก็มีขนาด 83 นิ้ว ให้เลือก นับว่าจัดเต็มสำหรับการเล่นเกมในทุกมิติ

LG OLED evo C2 : ขนาด 42 นิ้ว, 48 นิ้ว, 55 นิ้ว, 65 นิ้ว, 77 นิ้ว, 83 นิ้ว