17 Dec 2019
Award

ตัดสินแล้ว !!! 10 รางวัลทีวีที่ดีที่สุดประจำปี 2019-2020


  • lcdtvthailand

นอกจากทีวีแล้ว ในปีนี้ทางเว็บเราก็ได้รีวิว Projector, Soundbar และ Blu-ray Player ด้วยกันหลายเครื่อง และจากการคัดสรรบรรดารุ่นทั้งหมดที่เคยรีวิว ก็ออกมาเป็นตารางสามหมวดใหญ่ที่ทุกท่านได้เห็นกันด้านล่าง ดังนั้นใครจะพิจารณาซื้อ Projector หรือ Soundbar หรือ Blu-ray Player รางวัลเหล่านี้คือเครื่องการันตีชั้นดีว่าซื้อไปแล้วคุ้มค่า คุณภาพสมอย่างที่หวัง

ประกาศผลรางวัลโปรเจคเตอร์ ที่ดีที่สสุดแห่งปี 2019-2020

>> คลิกอ่านประกาศรางวัล Best of The Best TV Award ในแต่ละสาขา

>> คลิกอ่านเกณฑ์ในการตัดสินรางวัล และขั้นตอนการทดสอบ

1) Best of The Best 4K Projector Award : Hisense 100LN60D Laser TV

คลิกที่รูปเพื่ออ่านรีวิว Hisense 100LN60D Laser TV
มอบรางวัล Best of The Best Projector Award
ให้กับคุณฉันท์ชาย พันธุฟัก ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด

ที่ผ่านมาโปรเจ็คเตอร์แม้ให้ขนาดภาพที่ใหญ่เต็มตา แต่ความสว่างยังเป็นรองทีวีอยู่มาก เวลารับชม HDR content ผ่านโปรเจ็คเตอร์จึงดูทึมๆ ไม่เจิดจรัสเท่าใดนัก แต่ Hisense Laser TV เครื่องนี้ออกมาเพื่อลบภาพลักษณ์ดังกล่าว โดยเป็นโปรเจ็คเตอร์แบบ Ultra Short Throw ที่ให้ความสว่างแบบ HDR Peak Brightness สูงเกือบๆ 300 nits! เมื่อเสริมกับจอรับภาพพิเศษสามารถตัดแสงรบกวนออกแบบใช้งานร่วมกันให้รูปลักษณ์ที่มองแล้วเหมือนทีวี การรับชมในห้องนั่งเล่นไม่ใช่ห้องมืดก็ทำได้เหนือกว่าโปรเจ็คเตอร์ปกติ ตอกย้ำด้วยความอเนกประสงค์จากลูกเล่นความบันเทิงตามแบบ Smart TV ต่อเน็ตเล่น Netflix, YouTube ต่อเสาอากาศดูดิจิตอลทีวี (DVB-T2) ดาวเทียม (DVB-S2) และ USB 3.0/2.0 เล่นไฟล์ได้ในตัวเชื่อมต่อคีย์บอร์ด-เมาส์ได้ พร้อมระบบเสียงดีเทียบเท่า Soundbar 2.1 ทั้งหมดที่กล่าวมา คงไม่มีโปรเจ็คเตอร์อื่นใดในปี 2019 ที่ให้ได้เหนือกว่านี้อีกแล้ว


2) Best Midrange 4K Projector Award : BenQ W5700

คลิกที่รูปเพื่อดูรีวิว BenQ W5700
ผู้รับมอบรางวัลได้แก่คุณวัชรพงษ์ วงษ์มา ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด
และคุณปุญญาณี ถึงอินทร์ ฝ่ายการตลาดของบริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด

ดูแค่โหงวเฮ้งภายนอกก็พอจะเดาประสิทธิภาพของ BenQ W5700 เครื่องนี้ได้ ตัวเครื่องอาจดูใหญ่สักหน่อยหากเทียบกับรุ่นน้อง W2700 แต่ก็ใช้ยืนยันได้ว่าเนื้อที่ภายในติดตั้งอุปกรณ์ได้แบบเดียวกับรุ่น Pro อย่างเลนส์ฉายคุณภาพสูง ระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ เสียงเงียบ ในแง่ประสิทธิภาพนั้นก็ทำได้น้องๆ W11000H ในแง่ความเที่ยงตรงของสีสัน ขอบเขตสีก็ทำได้กว้างครอบคลุม 97.1% DCI-P3 ตอบรับมาตรฐาน HDR ได้เต็มที่มากยิ่งขึ้น หากเป็นเมื่อก่อนจะได้โฮมเธียเตอร์โปรเจ็คเตอร์คุณภาพระดับนี้ต้องมีไม่ต่ำกว่า 1 แสน ทว่าค่าตัวของ W5700 69,900 บาท จะหาตัวเปรียบเทียบในระดับราคานี้ไม่ง่ายเลย


3) Best Value 4K Projector Award : BenQ W2700

คลิกที่รูปเพื่ออ่านรีวิว BenQ W2700
ผู้รับมอบรางวัลได้แก่คุณวัชรพงษ์ วงษ์มา ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด
และคุณปุญญาณี ถึงอินทร์ ฝ่ายการตลาดของบริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด

แม้ราคาจะสูงกว่า TK800 4K HDR Projector รุ่นเล็กสุดของ BenQ อยู่ระดับหนึ่ง แต่การเพิ่มงบมาคบกับ W2700 ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า คุณภาพของภาพเหนือกว่าด้วยกงล้อสี RGBRGB รองรับมาตรฐาน ISFccc ถ่ายทอดสีสันได้เที่ยงตรงยิ่งขึ้น จุดที่ต่างจาก W5700 รุ่นพี่ คือ ขนาด W2700 เล็กกะทัดรัดกว่า ระยะฉายแบบ Medium-Short Throw ไม่ต้องวางห่างก็สามารถฉายภาพบนจอขนาดใหญ่ได้ จะใช้งานในห้องเล็กที่ทางจำกัดก็ติดตั้งสะดวก ยกเคลื่อนย้ายเปลี่ยนที่ได้ไม่ลำบาก มีลำโพงในตัวเพิ่มการใช้งานอเนกประสงค์ยืดหยุ่นกว่า ในขณะที่แหล่งกำเนิดแสง UHP สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 10,000/15,000 ชม. (ในโหมด Eco/Smart Eco) จึงได้รางวัลเรื่องของความคุ้มค่าไปครอง


1) Best Of The Best Soundbar Award : Samsung HW-Q90R

คลิกที่รูปเพื่ออ่านรีวิว Samsung HW-Q90R
มอบรางวัล Best of The Best Soundbar Award  มีผู้รับมอบรางวัลคือคุณเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ
และคุณชารียา เข็มทอง ผู้จัดการผลิตภัณฑ์

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าซาวด์บาร์ที่ควรค่าแก่รางวัลสุดยอดซาวด์บาร์ประจำปีนี้คงหนีไม่พ้น Samsung HW-Q90R จากกระแสปากต่อปากถึงความคุ้มค่าในการใช้งาน จนกระทั่งมาถึงมือทีมงานและได้ทำการทดสอบอย่างเข้มข้น จนสามารถยืนยันได้ว่าซาวด์บาร์รุ่นนี้เหมาะสมที่จะคว้ารางวัลสุดยอดซาวด์บาร์ที่สุดแล้ว เนื่องด้วยจุดเด่นหลายๆ อย่าง จุดแรกเลยคือคุณภาพเสียง สามารถให้ระบบเสียงเซอร์ราวด์แบบ 7.1.4 แชนแนลได้อย่างแท้จริง เพราะภายในชุดแพ็คเกจ ไม่ได้มีแค่ตัวลำโพงซาวด์บาร์และซับวูฟเฟอร์แบบทั่วๆไป แต่เพิ่มเติมลำโพงเซอร์ราวด์มาให้ในชุด เพื่อสร้างมิติเสียงที่ชัดเจนได้มากกว่าการจำลองเซอร์ราวด์ ยังเพิ่มลำโพง Dolby Atmos Enabled Speaker (Upward Firing) ไว้ที่ด้านบนลำโพงซาวด์บาร์และเซอร์ราวด์ด้วย สำหรับยิงเสียงขึ้นสะท้อนเพดานสร้างมิติด้านสูง เรียกได้ว่าเต็มระบบไม่แพ้ชุดโฮมเธียเตอร์จริงๆ แถมยังติดตั้งง่าย พร้อมใช้งานได้ทันทีไม่เสียเวลาลากสายลำโพง

จุดเด่นถัดมาคือการเชื่อมต่อที่ทันสมัย รองรับการใช้งานในระยะยาว มาพร้อมการรองรับ HDMI eARC รับสัญญาณเสียง Dolby Atmos จากแอพสตรีมมิ่งต่างๆ อย่าง Netflix ฯลฯ อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อ Bluetooth และ WiFi ซึ่งอย่างหลังนี้เพิ่มความพิเศษเข้ามาตรงที่สามารถใช้งานร่วมกับผู้ช่วยอัจฉริยะ Amazon Alexa และใช้งานผ่านแอพ SmartThings เพิ่มความสะดวกอีกเท่าตัว สุดท้าย อันเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาซื้อคือเรื่องราคา หากเทียบกับลูกเล่นต่างๆ แล้ว นับว่าคุ้มค่ามาก ได้เต็มระบบเซอร์ราวด์พร้อมพ่วงด้วยฟีเจอร์มากมายในราคาจับต้องได้ ต้องยกรางวัล Best Of The Best Soundbar ประจำปีนี้จากเราไปเลย


2) Best Mid-Range Soundbar Award : Klipsch Bar 40

คลิกที่รูปเพื่ออ่านรีวิว Klipsch Bar 40
มอบรางวัล Best Midrange Soundbar Award
ให้กับคุณกฤศนุ งามประเสริฐพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซาวด์ รีพับลิค จํากัด

รางวัลสุดยอดซาวด์บาร์ในรุ่นระดับกลางประจำนี้ได้แก่ Klipsch Bar 40 ขึ้นชื่อว่า Klipsch หลายท่านคงคุ้นกับกิตติศัพท์ด้านพลังเสียงของแบรนด์นี้อย่างแน่นอน มาถึงซาวด์บาร์รุ่นนี้ก็ยังคงรักษาชื่อเสียงได้อย่างเหนียวแน่น เป็นซาวด์บาร์ที่มาในระบบ 2.1 แชนแนล กำลังขับรวมสูงสุดที่ 320W โดยสามารถขับเสียงที่หนักแน่นแต่ยังมีความนุ่มนวลกลมกล่อม ซึ่งซับวูฟเฟอร์ของชุดนี้ให้เสียงเบสที่มีมวลหนาใหญ่ ได้ความกระแทกกระทั้นและความแผ่นสะเทือนจากเสียงย่านต่ำได้เป็นอย่างดี อันมีผลต่อการเพิ่มอรรถรสให้ใกล้เคียงกับโรงภาพยนตร์

แต่ถ้ายังรู้สึกไม่เต็มอิ่มหรือไม่สะใจกับเสียงเบสมากพอ Bar 40 สามารถอัพเกรดซับวูฟเฟอร์เพิ่มขึ้นมาอีก 1 เครื่อง เซ็ตอัพในระบบ 2.2 แชนแนล นอกจากนี้ยังมีระบบจำลองเสียงเซอร์ราวด์ ทำให้ซาวด์บาร์รุ่นนี้มีเวทีเสียงที่กว้าง ได้ความโปร่งจากการขยายมุมเสียงที่กว้างขึ้น ไม่คับแคบชวนให้อึดอัด และจากการทดสอบแล้ว Klipsch Bar 40 รองรับการถอดรหัสเสียงที่ครอบคลุมพอตัวเลย ทั้งฝั่ง DTS และ Dolby จะนำไปต่อกับเครื่องเล่น Blu-ray หรือถอดรหัสเสียงจาการสตรีมมิ่งก็ทำได้ไม่มีปัญหา เพิ่มความสนุกสนานและอรรถรสได้มากกว่าลำโพงทีวีหลายเท่าตัว ในระดับราคาที่เอื้อมถึง พร้อมคุณภาพเสียงที่คุ้มราคา


3) Best Value Soundbar Award : JBL Bar Studio

มอบรางวัล Best Value Sound Bar Award 
ให้กับคุณจิรภัทร พัฒนวรรณ ผู้จัดการฝ่ายขาย แผนกเครื่องเสียงภายในบ้าน
และคุณอภัสรา วันทะมาศ ฝ่ายการตลาด และการประชาสัมพันธ์
บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จํากัด ด้วยตัวเอง

ผู้ที่คว้ารางวัลสุดยอดซาวด์บาร์รุ่นคุ้มราคาประจำปีนี้ก็คือ JBL Bar Studio เป็นซาวด์บาร์ที่ให้ความประหยัดในทุกด้าน ยกเว้นด้านคุณภาพและความคุ้มค่าที่ให้มาเกินตัวแบบไม่มีกั๊ก จุดเด่นของซาวด์บาร์รุ่นนี้อยู่ที่ขนาดตัวที่กะทัดรัดมากๆ มีหน้ากว้างเพียง 24.2 นิ้วเท่านั้น ทำให้สามารถติดตั้งกับทีวีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางได้อย่างลงตัว และแม้จะมีขนาดตัวที่เล็กเช่นนี้ แถมยังไม่ในรูปแบบซาวด์บาร์เครื่องเดียวเดี่ยวๆ แต่สามารถให้สุ้มเสียงที่มีความหนักแน่นได้ เพราะภายในได้ออกแบบโครงสร้างให้ช่วยขยายมวลเสียงเบส ขับเสียงต่ำผ่านดอกลำโพงวูฟเฟอร์ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 ดอก ตอบสนองย่านเสียงต่ำได้อย่างน่าพึงพอใจโดยไม่ต้องมีซับวูฟเฟอร์

ช่องเชื่อมต่อต่างๆ มีมาให้ครบครัน ทั้ง AUX, Optical, HDMI ARC และ Bluetooth ได้ความหลากหลายในการเชื่อมต่อมากกว่าซาวด์บาร์รุ่นเริ่มตั้นทั่วไป ยังมีโหมดเสียงสำเร็จรูปให้เลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม โดยรวมแล้วนับว่าเป็นซาวด์บาร์รุ่นเริ่มต้นที่มีความสามารถรอบด้าน ควรค่าแก่รางวัลสุดยอดซาวด์บาร์รุ่นคุ้มค่าเลยจริงๆ


1) Best of The Best 4K Blu-ray Player Award : Pioneer UDP-LX800

คลิกที่รูปเพื่ออ่านรีวิว Pioneer UDP-LX800
มอบรางวัลให้กับคุณสิงขร หวังศิริเจริญ General Manager (คนขวา) 
และคุณ ธนวัฒน์ วะละลิตร์ Department Manager (คนกลาง) บริษัท พาวเวอร์บาย จำกัด

ถึงแม้ Pioneer จะวางจำหน่าย UDP-LX800 มาสักพักใหญ่ๆ แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มี 4K Blu-ray Player เครื่องใดให้คุณภาพเหนือกว่า โดยเฉพาะเมื่อ Oppo เลิกผลิต UDP-205 ไป ก็ยิ่งไม่มีตัวเปรียบเทียบ การเอาใจใส่แม้ในจุดเล็กๆ ทั้งโครงสร้างที่แน่นหนามั่นคง กับการชีลด์ป้องกันสัญญาณรบกวนอย่างเต็มที่ มีส่วนช่วยส่งเสริมให้การถ่ายทอดคุณภาพของภาพและเสียงสมบูรณ์แบบใกล้เคียงอุดมคติมากยิ่งขึ้น ฟังก์ชั่น Pure Digital Transport Mode ร่วมกับ Dual HDMI Output ตอกย้ำการส่งผ่านคุณภาพของภาพ-เสียงดิจิตอลที่สมบูรณ์เหนือ 4K Blu-ray Player อื่นใดในปี 2019


2) Best 4K Blu-ray Player Award : Pioneer UDP-LX500

คลิกที่รูปเพื่ออ่านรีวิว Pioneer UDP-LX500
มอบรางวัลให้กับคุณสิงขร หวังศิริเจริญ General Manager (คนกลาง) 
และคุณ ธนวัฒน์ วะละลิตร์ Department Manager (คนขวา) บริษัท พาวเวอร์บาย จำกัด

หากงบไม่ถึง LX800 หันมามองรุ่นน้องอย่าง LX500 ก็เป็นตัวเลือก 4K Blu-ray Player ที่คุ้มค่า การให้ความสำคัญในรายละเอียดฮาร์ดแวร์ปลีกย่อยอาจไม่จัดเต็มเท่า แต่คุณภาพของภาพและเสียงจากการใช้งานจริงก็ย่อหย่อนลงเพียงเล็กน้อย ด้านคุณสมบัติหลักๆ อย่างการรองรับแผ่นดิสก์หลากหลาย ทั้ง 4K UHD Blu-ray, Blu-ray 2D/3D, DVD-V ไปจนถึง SACD, DVD-A, CD-A และ Hi-res Files ทำได้เหมือนกัน โครงสร้างบึกบึนแน่นหนา การันตีคุณภาพโดย Pioneer ผู้คร่ำหวอดกับเครื่องเล่นฟอร์แม็ตแผ่นดิสก์คุณภาพสูงมาช้านาน

>> คลิกอ่านเกณฑ์ในการตัดสินรางวัล และขั้นตอนการทดสอบ <<