หลายท่านคงสงสัยว่าเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND มีขั้นตอนการทดสอบทีวีและโปรเจกเตอร์อย่างไร ? รวมถึงวิธีการตัดสินรางวัล “ทีวีและโปรเจกเตอร์ที่ดีที่สุดประจำปี” อย่าง Best of The Best AWARDS (อ่านว่า เบสต์ ออฟ เดอะ เบสต์ อะวอร์ด) ซึ่งจะมอบให้กับทีวีและโปรเจกเตอร์ที่ดีที่สุดในแต่ละสาขาประจำปีนั้นๆ วันนี้ขออนุญาตไขข้อสงสัย พร้อมแจ้งหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินคุณภาพของสินค้าที่ส่งมาทดสอบกับทางเราครับ
ขอเริ่มจากสำหรับเกณฑ์การตัดสินรางวัลทีวีที่ดีที่สุดประจำปีกันก่อนทีวีทุกตัวจะต้องเปิดตัวและวางจำหน่ายภายในระหว่างวันที่ 1 มกราคม จนถึง 30 พฤศจิกายน ของปีนั้นๆ นอกจากนี้จะต้องเป็นทีวีที่ทีมงานได้ทำการรีวิวภายในห้องทดสอบหลักของ LCDTVTHAILAND เองหรือมีโอกาสทดสอบอย่างเข้มข้นนอกสถานที่ / นำไปทดสอบในงานบรรยาย และได้ทำการทดลองปรับแต่งเพื่อวัดประสิทธิภาพในการแสดงผลภาพตามหลักการของสถาบัน ISF หรือ Imaging Science Foundation, สถาบัน THX และล่าสุดกับสถาบัน Professional Video Alliance หรือ PVA แล้วเท่านั้น เพื่อความเป็นกลางในการตัดสินทั้งคะแนนและรางวัล
เกณฑฺ์ที่ทีมงานใช้ประเมิณคุณภาพของทีวี
1. | การออกแบบ (Design) | ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ อันเกี่ยวเนื่องถึงความงามทางรูปทรง วัสดุ เกรดของอุปกรณ์ภายใน งานประกอบ ไปจนถึงการสื่อสารเชิงปรัชญาในงานออกแบบ |
2. | คุณภาพของภาพ (Picture) | ประสิทธิภาพเชิงการตอบสนองในแง่การถ่ายทอดความเที่ยงตรง ความถูกต้องจากต้นฉบับจากแหล่งโปรแกรม (เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดและให้น้ำหนักมากที่สุด) |
3. | คุณภาพของเสียง (Sound) | ประสิทธิภาพเชิงการตอบสนองในแง่การให้อรรถรส ด้านเสียง |
4. | การเชื่อมต่อ (Connectivity) | ศักยภาพรองรับการเชื่อมต่อร่วมกับอุปกรณ์ต่อพ่วง |
5. | ลูกเล่นเพิ่มเติม (Extra Features) | คุณสมบัติพิเศษที่เติมเต็มความสมบูรณ์ในการใช้งาน |
6. | ราคา/ความคุ้มค่า (Value) | ความคุ้มค่าที่ได้ เมื่อประเมินจากจำนวนเงินที่ต้องจ่าย |
สำหรับวิธีการการทดสอบและตัดสินนั้น ทีมงานได้ทดสอบรับชมในสถานที่ที่สภาพแวดล้อมต่างกันได้แก่
1) ในห้องแล็บโฮมเธียเตอร์ที่คุมแสงได้ 100% ทดสอบทั้งโหมดภาพสำเร็จรูปจากโรงงานที่ใกล้เคียงค่าอ้างอิงมากที่สุดและตลอดจนภาพที่ผ่านการปรับภาพให้ถูกต้องแล้วด้วยอุปกรณ์ทั้งฮารด์แวร์และซอฟท์แวร์ที่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของ Dynamic Range, White Balance, Color Gamut เพื่อให้ได้ค่าแสงสีที่ถูกต้องที่สุดและเป็นการขับศักยภาพสูงสุดของทีวีตัวนั้นๆออกมาตามมาตรฐานของ Imaging Science Foundation (ISF) ,THX และ PVA ซึ่งเป็นสถาบันมาตรฐานภาพระดับโลก
2) ห้องนั่งเล่นปกติภายในบ้านจริง ทั้งสภาพแสงในช่วงกลางวันและกลางคืน ทดสอบเปิด/ปิดม่านบังแสง เพื่อให้ผลลัพธ์สอดคล้องกับลักษณะการใช้งานทีวี “ของคนไทย” มากที่สุด
อีกหนึ่งส่วนเสริมที่ขาดมิได้คือ “การจัดงานบรรยายเพื่อให้ความรู้เรื่องเทคโนโลยีจอภาพและเครื่องเสียง” ในงานแสดงเครื่องภาพและเสียงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย งาน TAV SHOW (Thailand Audio & Video Show) และ BAV SHOW (Bangkok Audio & Video Show) ที่จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งจะมีช่วงที่ทีมงานนำเอาทีวีตัวท็อปของแต่ละแบรนด์มา “เปรียบเทียบภาพกันตัวต่อตัว” โดยทำการปรับภาพ (Calibration) ให้ถูกต้องตามมาตรฐานทั้งหมดก่อน และหลังจากนั้นได้รับการตรวจสอบและอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ของแบรนด์ทีวีนั้นๆ ทุกแบรนด์ก่อนขึ้นประชัน
พร้อมให้ผู้เข้าชมงานบรรยายที่เป็นแฟนเว็บในฐานะ “สักขีพยาน” ร่วมด้วยช่วยดูและตรวจสอบด้วยตาตัวเองให้ประจักษ์ เพื่อให้เกิด “ความชอบธรรม” ในการตัดสินคะแนนและตัดสินรางวัลทีวีที่ดีที่สุดประจำปี หรือหากเป็นการบรรยายเฉพาะแบรนด์ก็จะมีการเปรียบเทียบภาพระหว่างซีรีส์ต่างๆ “รุ่นเล็ก VS รุ่นกลาง VS รุ่นใหญ่” เพื่อให้เห็นว่าแต่ละซีรีส์มีเด่นมีด้อยต่างกันอย่างไร พร้อมทั้งสาธิตฟีเจอร์ล่าสุดที่กำลังจะเป็นมาตรฐานใหม่ในอนาคต อาทิ ภาพ 4K, HDR, Local Dimming, Motion, Black Level และ Android/Smart TV เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้เห็นภาพและรับทราบถึงความสำคัญของฟีเจอร์เหล่านั้น หรือถ้าหากในปีนั้นๆแบรนด์ไม่สะดวกส่งทีวีเข้าร่วมประชัน จะต้องส่งทีวีให้ทีมงานทดสอบอย่างเข้มข้นพร้อมนำเสนอรีวิวในรูปแบบเขียน+วีดีโออย่างรอบด้าน เพื่อให้แฟนเว็บได้รับข้อมูลมากที่สุดในทุกรูปแบบ