09 Jun 2016
Event

รุ่นใหม่มาแล้ว !! พาชม Sony 4K HDR TV 2016 ก่อนใคร สดจากสิงคโปร์


  • lcdtvthailand

หลังจากปี 2015 ที่ผ่านมา Sony ได้สร้างปรากฏการณ์ Android TV Fever ด้วยการผนวกระบบปฏิบัติการ Android OS เข้าไปแทนที่ระบบ Internet / Smart TV แบบเดิม ซึ่งเจ้า Android TV นี่แหละก็มาแรงแซงโค้ง Smart TV เจ้าอื่นไปโดยปริยายทั้งเรื่องคุณภาพและปริมาณของแอพส์ มาในปี 2016 นี้ Sony ได้กลับมาโฟกัสที่ “หัวใจของทีวี” นั่นก็คือ “คุณภาพของภาพ” อีกครั้ง ซึ่งเทคโนโลยีภาพที่จะมาเป็นกระแสในปีนี้ก็คือ HDR หรือ High Dynamic Range นั่นเอง HDR กำลังเข้ามาเป็น “มาตรฐานใหม่” ของจอแสดงผลและคอนเทนต์

โดย HDR คือการขยายขอบเขตของคอนทราสต์หรือส่วนที่สว่างที่สุดและระดับความดำที่ดำที่สุดให้มีขอบเขตที่กว้างขึ้น รวมถึงระดับสีสันที่จะไปไกลสุดขอบยิ่งขึ้น มิติภาพจึงดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ใกล้เคียงที่สุดกับภาพที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าจริงและต้นฉบับภาพที่บันทึกจากกล้องวีดีโอระดับโปรเฟสชั่นแนล ซึ่งทีวีทั่วไปจะไม่สามารถแสดงลักษณะแสงและสีข้างต้นได้ ทว่าทีวีรุ่นใหม่ที่รองรับ HDR ก็จะสามารถแสดงผลคอนเทนต์แบบนี้ได้ แล้วถามว่า HDR นั้นสำคัญอย่างไร ? ก็ขอตอบว่าในตอนนี้ก็คือหนังแผ่น 4K Blu-ray Disc ที่มี HDR ได้เริ่มวางจำหน่ายจริงแล้วที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ส่วนบ้านเราก็น่าจะเริ่มในอีกไม่กี่เดือนนี้เช่นกัน นั่นหมายความว่า HDR จะไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป หากท่านต้องการเสพภาพที่ดีที่สุดที่ถูกจัดให้เป็นมาตรฐานใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้ ทีวีของท่านก็ต้องเป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องมีความละเอียดระดับ 4K และต้องรองรับ HDR ถึงจะครบสูตรทั้งต้นน้ำยันปลายน้ำ !

อ่านบทความ HDR อย่างละเอียดได้ที่นี่

ชมคลิป : แอบส่อง Sony 4K HDR TV รุ่นใหม่ล่าสุด
Credit : ป๋าเอก แห่งเว็บ TechXcite ที่ช่วยถ่ายวีดีโอคลิปให้ครับ ^ ^
Sony BRAVIA 4K HDR TV รุ่น X9300D  (55″ & 65″) ตัวท็อปรุ่นใหม่ประจำปี 2016
แผ่นหนัง 4K Blu-ray Discs วางขายจริงแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกา
สังเกตได้ว่ามีสติ๊กเกอร์ HDR ติดกำกับไว้ด้วย ฉะนั้นทีวีจะต้องรองรับ HDR ด้วยนะจ๊ะถึงจะดูได้ !
Credit: ขอบคุณภาพจากแฟนเพจ ThaiBDFan
จำหน้าตาโลโก้ 4K HDR ไว้ให้ดี เพราะมันไม่ใช่แค่หนึ่งในฟีเจอร์ แต่มันคือ “มาตรฐานใหม่” ของภาพ

ด้วยเหตุนี้ทาง บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด จึงได้เชิญคณะสื่อมวลชนไทยบิดลัดฟ้าไปร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว 2016 New Sony BRAVIA 4K HDR TV ถึงประเทศสิงคโปร์ในระหว่างวันที่ 2-3 มีนาคม 2016 โดยงานจัดขึ้น ณ โรงแรม Marina Bay Sands หรือตึกแฝด 3 ที่มีสระว่ายน้ำรูปทรงเรือค่อมยาวระหว่างตึก (อลังการดี) เป็นโอกาสอันดีที่ นายโรมัน จะได้นำไฮไลท์ของทีวีรุ่นใหม่ล่าสุดมาฝากทุกท่านที่มีใจรักเทคโนโลยีด้านภาพก่อนใคร อีกทั้งจะช่วยวิเคราะห์วิจารณ์แบบพอเป็นกระษัยกับประสบการณ์ที่ได้ลองรับชมภาพแบบ HDR VS Non-HDR ถือว่าเป็นการอุ่นเครื่องก่อนที่จะมีงานแถลงข่าวเปิดตัวจริงในประเทศไทยเร็วๆนี้

งานจัดขึ้นที่โรงแรม Marina Bay Sands ซึ่งเป็นสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์
ส่วนรูปนี้ผมถ่ายจากสะพาน Helix ที่มีการดีไซน์แบบตีเกลียวดูสวยงาม
พลพรรคสื่อมวลชนไทยจากทั้งนิตยสารชื่อดังและเว็บไซต์ชั้นนำในวงการภาพ & เสียง และเทคโนโลยี
ผมเองมักตื่นเต้นกับเทคโนโลยีใหม่เรื่องภาพเสมอ มาครั้งนี้ก็เช่นเดิมครับ อยากรู้ อยากเห็น อยากลองเช่นเคย
กล่าวเปิดงานโดย Mr.Naoki Sekiguchi, Managing Director, Sony South East Asia
สื่อมวลชนที่เข้าร่วมส่วนใหญ่มาจากภูมิภาพ AEC ของเรานี่แหละ
เปิดตัวแล้ว !!! Sony BRAVIA 4K HDR TV รุ่นท็อปประจำปี 2016 
ชื่อรุ่นก็คือ X9300D (Series 9) จะมาในขนาด 55″& 65″
ราคาเปิดตัวในไทยยังไม่สรุป แต่ก็คาดการณ์ว่าก็จะประมาณ Series 9 ของปีที่ผ่านมา
รูปหน้าตรง X9300D
มุมมองจากด้านบน จะเข้าใจคำว่า Slice มากยิ่งขึ้น

มาเริ่มดูดีไซน์และสเป็คคร่าวๆของ Sony X9300D กันก่อน คอนเซ็ปต์การดีไซน์ถูกให้คำจำกัดความว่า “Slice of Living ซึ่งอาจแปลว่า “อีกเสี้ยวแห่งการใช้ชีวิต” ด้วยหลักปรัชญาของผู้ออกแบบชาวญี่ปุ่น Mr.Tako และ Mr.Yokota ที่ต้องการให้ตัวเครื่องทีวีนั้นดูเรียบหรูในห้องนั่งเล่น ไม่ดูล้นหรือเยอะเกิน ด้วยชิ้นส่วนทรงสี่เหลี่ยมอันบางเฉียบ (Slice) เมื่อ Mix & Match เข้ากับอุปกรณ์อื่นๆภายในบ้านก็จะดูสวยเรียบอย่างลงตัว ด้านภาพมีความละเอียดแบบ 4K Ultra HD (3840 x 2160 พิกเซล) พร้อมรองรับมาตรฐาน HDR 10 ภาพถูกขับเคลื่อนด้วยชิพตัวเก่งอย่าง X1 4K Processor ผสานกับชิพ 4K X-Reality Pro อีกหนึ่งเทคโนโลยีเอกสิทธิ์อย่าง Triluminos Display ที่จะมาช่วยขยายขอบเขตการแสดงเฉดสีให้กว้างขึ้น สีสวยสมจริงมากยิ่งขึ้น สุดท้ายคือเทคโนโลยีส่วนเสริมอย่าง X-Tended Dynamic Range Pro (Local Dimming) ที่จะช่วยบูสท์ระดับความสว่างสูงสุดให้สว่างขึ้น และยังช่วยให้จุดที่มืดยิ่งดำสนิทยิ่งขึ้น ส่วนระบบปฏิบัติการก็ยังใช้ Android 5.0 ซึ่งมีแอพพลิเคชั่นที่สามารถแสดงผลบนจอทีวีได้อย่างสมบูรณ์ไว้ให้เลือกใช้มากมาย จัดได้ว่ามีเทคโนโลยีที่รองรับทั้งปัจจุบันและอนาคตไว้ครบถ้วนที่สุดตัวหนึ่งสำหรับทีวีปี 2016 นี้

Sony X9300D (55″ & 65″)

– Resolution 4K Ultra HD

– HDR Support (HDR 10)

– X1 4K Processor

– 4K X-Reality Pro

– Triluminos Display

– Slim Backlight Drive

– X-Tended Dynamic Range

– Bass Reflex Speaker

– Clear Audio+

– Android TV

– Google Play

– Google cast

– Price ยังไม่เผย Baht

รับชมใกล้ๆก็ถือว่าภาพสวย ระดับสีดำทำได้ดีขึ้นจากรุ่นปีก่อน ส่วนน้องพริตตี้ก็น่ารักไม่แพ้ทีวี ^ ^
ระดับความบาง
โครงสร้างแบบหลอด LED แบบใหม่ มีชื่อเรียกว่า Slim Backlight Drive
ที่สามารถทำให้ตัวเครื่องนั้นบางเฉียบโดย “ไม่กระทบ” ต่อคุณภาพการทำงานของแผง LED Backlight

ส่วนระดับความบางก็ทำได้ดีเนื่องด้วยโครงสร้างหลอดแบ็คไลท์แบบใหม่เรียกว่า Slim Backlight Drive (หรือชื่อสามัญคือ Grid Array Backlight) ซึ่งเป็นโครงสร้าง Edge LED ซ้อนกัน 2 ชั้นเพื่อยกระดับการทำ Local Dimming หรือการเปิด-ปิด-หรี่ หลอดไฟเป็นโซนๆตามระดับความมืด-ความสว่างของฉาก ให้ดีขึ้นเพื่อการแสดงสีดำที่สงัดยิ่งขึ้น ปัญหาเรื่องระดับความบางของตัวเครื่องทีวีที่ “บางเกินไป” มักส่งผลต่อระดับความสว่างและประสิทธิภาพในการทำ Local Dimming ที่ด้อยลง ปัญหาจึงถูกแก้ไขในปีนี้ ที่น่าทึ่งก็คือส่วนที่บางที่สุดก็บางประมาณนิ้วชี้เท่านั้น จากการทดสอบรับชมคร่าวๆก็ยอมรับว่ามันดีขึ้นกว่ารุ่นปีก่อนอย่างรุ่น X9000C ที่บางเฉียบเกินไปทำให้ความสม่ำเสมอในการฉายแสงจากหลอดแบ็คไลท์ทำได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร

มาดูไฮไลท์ในห้องแสดงสินค้าบ้างดีกว่า
มาดูด้านหลังกันบ้าง มีดีไซน์ที่เรียบง่ายและสะอาดตา โดยฝาด้านหลังตรงโลโก้ Sony สามารถเปิดได้ 
เพื่อซ่อนและจัดระเบียบสายสัญญาณไม่ให้รกรุงรัง (ฺBest For Cable Management)
มีผู้เชี่ยวชาญเรื่องทีวีของ Sony เป็นคนพาทัวร์ในครั้งนี้ 
ส่วนทีวีที่จัดแสดงโชว์ก็มาครบไลน์ตั้งแต่ Series 9 , 8 , 7 , 6
HDR VS SDR
ชมคลิป : ภาพ HDR VS SDR
ส่วนอีกโซนเป็นการเปรียบเทียบเรื่องสีสันว่า Triluminos Display (Quantum Dot) ของ Sony 
ช่วยขยายขอบเขตสีให้กว้างขึ้น แสดงขอบเขตสีได้สุดและสมจริงกว่าทีวีของเจ้าอื่นที่ใช้เทคโนโลยี Quantum Dot เหมือนกัน

เริ่มจากการเปรียบเทียบภาพกันแบบตัวต่อตัวระหว่าง HDR – High Dynamic Range VS SDR – Standard Dynamic Range จากที่ผมลองรับชมคอนเทนต์สาธิตของ Sony เอง ที่โชว์รูปตึกราบ้านช่องในช่วงกลางคืน ท้องฟ้าจะเป็นสีดำสนิท ตัดสลับกับแสงไฟจากตัวตึกและท้องถนน ยอมรับว่าระดับความสว่าง ความดำ สีสัน และมิติภาพของ HDR “ทิ้งขาด” ทีวีที่ไม่มี HDR ไปหลายช่วงตัว ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมายดั่งบัญญัติของ ISF หรือ Imaging Science Foundation สถาบันมาตรฐานภาพระดับโลกได้บัญญัติไว้ว่า Resolution ก็สำคัญนะ แต่ Dynamic Range สำคัญกว่า ! (ที่จริง Dynamic Range หรือบ้านเราเรียกว่าคอนทราสต์สำคัญที่สุดเลยแหละ)  ซึ่งการเปรียบเทียบภาพ HDR VS SDR นั้นสามารถแสดงระดับความแตกต่างได้มากกว่าการเปรียบเทียบภาพภาพระหว่าง 4K VS Full HD หลายเท่านัก

หมายเหตุ : ทีวี Sony รองรับ HDR มาตรฐาน HDR10  ซึ่งจะเป็นมาตรฐานหลักของแผ่นหนัง 4K Blu-ray Disc โดย BDA หรือ Blu-ray Disc Association

หลังจากนั้นก็มีการสาธิตการรับชม Netflix แบบ 4K แท้ๆบนแพลทฟอร์ม Android ของ Sony
 มีหนังดังหลายเรื่องสตรีมเป็น 4K แล้วนะจะบอกให้ !
บรรดาสื่อมวลชนให้ความสนใจการสาธิต Android TV
Smart TV ทั่วไป VS Sony Android TV

มีการเปรียบเทียบระบบปฏิบัติการ Smart TV ของค่ายอื่น VS Android OS ของ Sony ซะด้วย ในปีที่ผ่านมาทีมงาน LCDTVTHAILAND ฟันธงให้ว่า Sony Android TV คือ Smart TV ที่ดีที่สุด ได้รับรางวัล Best Smart TV Award ไปครองอย่างเอกฉันท์ โดดเด่นทั้งเรื่องคุณภาพและปริมาณของแอพพลิเคชั่น รวมถึงการเชื่อมต่อจอยเกมส์ PS4 ไร้สายเล่นเกมส์ที่ดาวน์โหลดไว้ได้ทันที ในปีนี้คือการปรับปรุงของเดิมให้มีความเสถียรยิ่งขึ้น รวมถึงจำนวนแอพส์ใหม่ๆที่เริ่มถูกผนวกให้มีความหลากหลายขึ้นอีกระดับ  อย่างไรก็ตามส่วนที่ผมชอบที่สุดก็คงหนีไม่พ้นการรับชมหนังและวีดีโอคอนเทนต์แบบ 4K แท้ๆผ่านแอพ Netflix และ YouTube นี่แหละ ไม่ต้องไปลงไปรอเครื่องเล่น 4K Blu-ray Player ที่ขยับหลอกเรามานานหลายปี

รางวัล Best Smart TV Award ในปีที่ผ่านมาตกเป็นของ Sony Android TV
Click : อ่านประกาศรางวัลที่นี่
ปิดท้ายด้วยรูปหมู่ของชาวคณะเชิญยิ้ม ^ ^

จบการทัวร์ครั้งนี้ผมถือว่าประทับใจกับ Sony 4K HDR TV รุ่นใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Our Most Beautiful Picture Ever” หรือ “ภาพอันสวยที่สุดเท่าที่เคยรังสรรค์…จากเรา” ยิ่งเห็นภาพเปรียบเทียบระหว่าง HDR VS SDR แล้วก็ยิ่งตระหนักความสำคัญของการรองรับ HDR ของทีวี แล้วยิ่งมาผนึกกำลังกับความละเอียดภาพแบบ 4K เข้าด้วยแล้ว ขอบอกเลยว่าได้ 2 เด้งทั้งเรื่องมิติภาพและความคมชัด อย่างที่ผมบอกข้างต้นว่า HDR มิใช่เป็นเพียงแค่อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ ทว่ามันคือ “มาตรฐานใหม่” ของภาพความละเอียดแบบ 4K ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพของภาพทั้งเรื่องแสงและสีให้สูงขึ้นอีกระดับจากมาตรฐานภาพแบบเดิม นั่นหมายถึงทั้งความสมจริงอันนำพาซึ่งอรรถรสการรับชมที่สูงขึ้นตาม

ถึงแม้ว่าตอนนี้มาตรฐาน HDR ยังไม่ค่อยนิ่ง มีหลายบริษัทมาร่วมวงไพบูลย์ในการกำหนดมาตรฐานของตนเอง แต่มาตรฐานหลักที่สำคัญที่สุดและได้รับการยอมรับมากที่สุดก็ได้แก่มาตรฐาน HDR 10 ซึ่ง Blu-ray Disc Association หรือ BDA นำไปใช้กับหนังเรื่องดังที่ทำออกมาเป็นแผ่น 4K Blu-ray Disc ที่เริ่มวางจัดจำหน่ายจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Hitman : Agent 47, Martian, Kingsman, Fantastic 4 และอื่นๆ ยังรวมถึงผู้ให้บริการวีดีโอสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่อย่าง Netflix และ Amazon ก็ใช้มาตรฐานนี้ จึงไม่แปลกที่ Sony ก็ล้อไปตามมาตรฐานนี้เช่นกัน ข่าวดีอีกอย่างคือตัวทีวี Sony รองรับการเล่นคอนเทนต์ 4K HDR ผ่านทั้งช่องต่ออย่าง HDMI และ USB

เอาเป็นว่าปี 2016 นี้เป็นฤกษ์งามยามดีในการเริ่มต้นยุค 4K HDR Era อย่างแท้จริง คอนเทนต์ก็เริ่มพร้อมแล้ว Sony เองก็พร้อมเจ้าแรกเลยที่จะปล่อยจอแสดงผลรองรับมาตรฐานใหม่ให้แฟนๆได้ยลภาพกัน ก็อดใจรอทีมงาน Sony ส่งทีวีมาให้ทางทีมงานทดสอบกันในเร็ววันนี้ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ที่จัดทริปพาสื่อจากแดนไทยไปร่วมสัมผัสนวัตกรรมใหม่แห่งจอทีวีกันถึงประเทศสิงคโปร์ เชื่อว่าคงถูกใจแฟนเว็บผู้รักเทคโนโลยีด้านภาพและเสียงมิใช่น้อย พบกันใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ // Roman