23 Mar 2018
Event

ตัวจริงเรื่องภาพ ! ยลโฉม Panasonic OLED TV FZ1000 ส่งตรงจากมาเลย์ก่อนเข้าไทย


  • lcdtvthailand

สวัสดีมิตรรักแฟนเว็บทุกท่าน นายโรมันหน้ามนคนเดิม กลับมารายงานตัวอีกครั้ง คราวนี้ผมพาทุกท่านบินลัดฟ้าไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อมางานเปิดตัว Panasonic OLED TV FZ1000 รุ่นท็อปตัวใหม่ประจำปี 2018 หลังจากปีที่ผ่านมารุ่น EZ1000 ได้สร้างตำนานบทใหม่ในเรื่อง “คุณภาพของภาพระดับ Reference” กล่าวคือ สีสันถูกต้องแม่นยำมาก เทียบเคียงจอสตูดิโอมอนิเตอร์อ้างอิงที่ใช้ผลิตภาพยนตร์จริง แกะกล่องยกเปิดเครื่องภาพก็เข้าขั้นเพอร์เฟต์เลยตั้งแต่ต้น ตามหลักแล้ว EZ1000 คือ OLED TV เกรด Consumer ที่ให้ภาพดีที่สุดจนต้องตั้งเกรดใหม่ให้เป็น Prosumer ฉะนั้นในปีนี้หลายท่านจึงแอบตั้งความหวังไว้สูงถึงการรักษามาตรฐานของทายาทรุ่นถัดไปอย่างเจ้า FZ1000 ที่ผมกำลังจะได้ยลโฉมในวันนี้…..

งานจัดขึ้นที่บริษัท Panasonic สำนักงานประเทศมาเลเซีย เป็นโอกาสฉลองครบรอบ 100 ปี แบรนด์ Panasonic ซะด้วย จึงทำให้การมาเยือนครั้งนี้มีความพิเศษเหนือครั้งอื่นใด เอาหละตามผมมาเบิ่ง OLED TV รุ่นใหม่พร้อมไลน์อัพ 4K LED TV ทุกรุ่นประจำปี 2018 กันเลย  !!!

เริ่มที่ Panasonic TH-65FZ1000T OLED TV ตัวท็อปรุ่นใหม่ ที่ใช้รหัส F ต่อ E ในปีที่ผ่านมา
มีขนาดเดียวที่เข้าไทยคือ 65″ ดูภาพจริงซะก่อน ชัดแค่ไหน ?? ถามใจเธอดู !!!
ส่วนอีกรุ่นด้านซ้ายมือคือ TH-55FZ950T เป็น OLED TV รุ่นรองท็อป และมีขนาดเดียวคือ 55″
ซึ่งเป็นขนาดขายดีที่สุดของ OLED TV ในตลาดบ้านเรา ซึ่งในที่สุด Panasonic ก็มีขนาด 55″ ให้เลือกซื้อแล้วเสียที
สำหรับความแตกต่างคือ FZ950 = ไม่มี Soundbar // FZ1000 = มี Soundbar ส่วนด้านภาพเหมือนกันทุกประการ
ทางทีม Panasonic ได้ทำการเปรียบเทียบ OLED TV รุ่นเก่าและใหม่แบบตัวต่อตัวให้ชมกันด้วย
สิ่งที่เห็นคือรายละเอียดในที่สว่างดูชัดแจ้งกว่าสำหรับรุ่นใหม่อย่าง FZ1000

สเป็คด้านภาพคร่าวๆคือความละเอียด 4K Ultra HD ใช้ชิพประมวลผลสีตัวเก่งอย่าง Hexa Chroma Drive Pro ผสานกับ Studio Master Panel ผ่านการไฟน์จูนสีจาก Panasonic Hollywood Lab ทำให้สีสันมีความเที่ยงตรงสูง เทียบเคียงกับจอสตูดิโอมอนิเตอร์ระดับอ้างอิง ส่วน HDR ก็รองรับทั้งมาตรฐานใหม่อย่าง HDR10+ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานขั้นท็อป กล่าวคือการรับ-ส่งชุดข้อมูลภาพ HDR เป็นแบบ Dynamic Metadata ซึ่งมีรายละเอียดและความยืดหยุ่นที่มากกว่ามาตรฐาน HDR10 ทั่วไป สามารถปรับระดับความมืด-สว่างให้สมจริงได้แบบซีนต่อซีน ซึ่งมาตรฐาน HDR10+ ทาง Panasonic ก็ได้ลงนามเข้าร่วมก๊วนเป็นพันธมิตรกับ Samsung และค่ายหนังอย่าง 20th Century Fox เพื่อร่วมด้วยช่วยผลักดันให้มาตรฐานนี้เกิดอย่างแพร่หลายในตลาดผู้ใช้งานจริง

หลังจากดูภาพเปรียบเทียบกับ EZ1000 คร่าวๆจะสังเกตได้ว่า FZ1000 รุ่นใหม่ จะให้รายละเอียดในที่สว่างออกมาได้ค่อนข้างดี เช่นฉากก้อนเมฆสีขาวตัดสลับกับท้องฟ้าสว่างสีฟ้าเข้ม ความเป็นก้อนของเมฆและลายเส้นส่วนโค้งเว้าจะมีความชัดแจ้งกว่า ส่วนหากเทียบกับ LED TV แบบทั่วไป OLED TV รุ่น FZ1000 จะกินทั้งเรื่องระดับความดำ สีสันและรายละเอียดในที่มืดแบบค่อนข้างขาดลอย เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมได้ตัวจริงมาทดสอบในแบบฉบับของ LCDTVTHAILAND แล้วจะรายงานให้ทราบถึงคุณภาพของภาพแบบลึกซึ้งอีกที

อีกจุดที่มีการอัพเกรดให้ดีขึ้นคือลำโพง Dynamic Blade Speaker
ที่มีขนาดของดอก Woofer ใหญ่ขึ้นถึง 75% และ มีขนาดตัวตู้ที่ใหญ่ขึ้น 
ซึ่งข้อดีคือจะให้สเกลเสียงที่ทรงพลังยิ่งขึ้นนั่นเอง
แกะหน้ากากให้เห็นชัดๆกับลำโพงดีไซน์ทรงมีดดาบ 
ซึ่งมีแนวเสียงที่ชัดเจน ฉะฉาน ดูหนังตึงตังมันส์ได้อรรถรส
กำลังขับสูงสุดอยู่ที่ 80 Watts สูงกว่าทีวีที่มี Soundbar ติดทีวีของค่ายอื่นทั้งหมด
มาดูไลน์อัพ 4K LED TV กันบ้าง รุ่นใหม่-ดีไซน์ใหม่ออกมาเพียบในปีนี้
เริ่มจาก “ทายาทอสูร” รุ่น FX800 ซึ่งมาแทน EX750 รุ่นยอดฮิตปีที่ผ่านมา
ดีไซน์มีการเปลี่ยนแปลงใช้เป็นขาตั้งทรงสี่เหลี่ยม พร้อมขอบจอที่บางฉียบ !!
หากนำมาตั้งในห้องที่มีดีไซน์มินิมอลเช่นในรูป ก็สวยเรียบเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเยี่ยงนี้
FX800 มีดีไซน์ที่เรียกว่า Art & Interior Glass คือมีแผ่นกระจกใสประกบแผงพาแนลอีกที
อีกรุ่นรองลงมาคือ FX700 ความพิเศษอยู่ที่ขาตั้งทรงกิ่งไม้เป็นแบบ “เสียบเข้าล็อค” โดยไม่ต้องไขน็อตแม้แต่ตัวเดียว
สามารถเลือกปรับขาตั้งได้ 2 แบบ 1) แคบ – แบบในรูปนี้ 2) กว้าง – เช่นรูปด้านบน
ด้านหลังก็จะเน้นความเรียบ พร้อมช่อง+ฝาซ่อนสายให้เรียบร้อยสวยงาม ไม่พันกันอีรุงตุงนัง
มีการเปรียบเทียบภาพ LED TV รุ่น FX800 / FX700 / FX600 กับ LED TV รุ่นทั่วไปในระดับราคาใกล้เคียงกัน
ซึ่งคุณภาพของภาพของ Panasonic LED TV ทั้ง 3 รุ่น
ก็จะทำได้ดีกว่า LED TV รุ่นเทียบเคียง ทั้งเรื่องความสว่าง สีสัน และมุมมองการรับชม
ถัดมาขอย้ายมาดูโซน Audio และ Blu-ray Player กันบ้าง
พระเอกของงานคือ Urban Audio หรือ UA90 ตัวนี้ มีขนาดใหญ่ยักษ์แต่ก็มีดีไซน์ดูทันสมัยล้ำๆแนวอวกาศได้
 มีความสามารถเ่ล่นได้แทบทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็น Bluetooth / CD / USB / Karaoke / mp3
4K Blu-ray Player รุ่นใหม่คือ UB320 ราคาเปิดตัวไม่น่าจะเกินหนึ่งหมื่นบาท 
ดูภาพที่เขาเปิดสาธิตกับ OLED TV TH-55FZ950T แล้วถือว่าดีใช้ได้ทั้งสีสันที่อิ่มเข้มและระดับความสว่างที่ซูซ่า
ที่สำคัญรองรับมาตรฐาน Ultra HD Premium ซะด้วย ไฮโซไหมหละ ?
ลำโพง Soundbar ขนาด Compact รุ่น HTB250 
สามารถ “สอดไว้ใต้ทีวีทุกรุ่นที่ใช้ขาตั้งทรงกิ่งไม้” ได้เลย
มินิคอมโป้ยักษ์ใหญ่ก็มี เห็นบอกว่าตลาดต่างจังหวัดชอบแบบนี้ รูปลักษณ์ใหญ่โตพร้อมเสียงตึ่มตึ้ม !!!
ไมโครคอมโป้ดีไซน์บางเฉียบ แขวนผนังได้เยี่ยงกรอบรูป 
แมตช์กับการตกแต่งเรียบหรูภายในบ้าน รองรับการเล่นผ่าน Bluetooth / CD / USB / AUX In
Headphone หลากสีก็มี
หูฟังบลูทูธสำหรับสายสปอร์ตก็มา !!!
ปิดท้ายด้วยภาพ Milestone ประวัติศาสตร์ “ครบรอบ 100 ปีแบรนด์ Panasonic”
ตั้งแต่ผลิตทีวีรุ่นแรกจอขาวดำเมื่อปี 1952 จวบจนเป็น OLED TV ซึ่งเป็นนวัตกรรมจอทีวีล่าสุดในปี 2017 ที่ผ่านมา
Mr.Konosuke Matsushita, Founder of Panasonic 1894-1989

ครบ 100 ปี Panasonic

จุดเริ่มต้นของบริษัท Panasonic คือบริษัท Matsushita Electric ซึ่งเป็นชื่อดั้งเดิม ก่อตั้งเมื่อปี 1918 โดย Mr.Konosuke Matsushita ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งท่านถูกยกย่องให้เป็นบิดาแห่งวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุตสาหการ มีบริษัทในเครื่อมากมายที่เราคุ้นเคยกันดีไม่ว่าจะเป็น JVC, Technics, Victor, National ทางทีมงาน LCDTVTHAILAND จักขอสดุดีในผลงานของท่านที่มีส่วนพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทั้งโลกมา ณ ที่นี้ หากไม่มีทีวีจอแก้วขนาดจิ๋วเมื่อ 66 กว่าปีที่แล้วในวันนั้น ก็คงไม่มี OLED TV ชิ้นงามให้เราเสพภาพในวันนี้ !

บทสรุป

สำหรับ OLED TV Flagship รุ่น FZ1000 ยังคงคอนเซ็ปต์ Hollywood to Your Home ยกโรงหนังฮอลลีวูดมาไว้ที่บ้าน เพราะให้ความสำคัญกับ “คุณภาพของภาพ” เป็นแก่นหลัก ภาพถูกไฟน์จูนแสงสีมาโดย Panasonic Hollywood Lab ซึ่งทำงานใกล้ชิดกับสตูดิโอผลิตหนังฮอลลีวูดชื่อดังมากมาย อย่างหนังเรื่อง Wonder Woman ของค่าย DC ผู้ผลิตและนักปรับแต่งสีก็ได้ใช้ OLED TV ของ Panasonic เป็นจอมอนิเตอร์อ้างอิง ฉะนั้นจะเรียกได้ว่าแค่แกะกล่องยกทีวีออกมาตั้ง เราก็จะได้ภาพใกล้เคียงที่สุดกับที่ผู้ผลิตภาพยนตร์ต้องการถ่ายทอดออกมาให้เราได้เห็นในทันที ส่วนอีกจุดที่ขาดไม่ได้คือ Soundbar ที่มีการปรับปรุงให้ใหญ่ขึ้นทั้งดอกลำโพงและตัวตู้เพื่อให้เสียงทรงพลังยิ่งขึ้น

ส่วนท่านที่กำลังตัดสินใจกับ LED TV รุ่นยอดฮิตในปีที่ผ่านมาอย่าง EX750 ปีนี้มีเรื่องให้ปวดกบาลอีกระลอก เพราะ FX800 และ FX700 นั้นก็ทำออกมาได้ดีในอีกมุม โดยเฉพาะคือดีไซน์ที่ดูเรียบหรูขึ้น ด้านภาพก็ใช้หน้าจอแบบ IPS SUper Bright Panel Plus พร้อมชิพ Hexa Chroma Drive Pro เฉกเช่นตัวท็อป ที่สำคัญกำลังรองรับมาตรฐาน HDR10+ ในเร็วๆนี้ โดยขนาดที่มีวางจำหน่ายก็เป็นขนาดยอดฮิตทั้งนั้น 49″ 55″ 65″ บอกได้คำเดียว “รักพี่เสียดายน้อง” ไม่รู้จะเล่นรุ่นเก่าหรือใหม่ดีก็งานนี้นี่แหละ !

ส่วนระบบ Smart TV แบบ My Home Screen 3.0 ก็มีการปรับหน้าเมนูให้ใช้งานง่ายขึ้นอีก รวมถึงแอพอย่าง YouTube ก็สามารถ Resume เล่นคลิปที่ค้างอยู่ได้หากเราแว๊บไปใช้งานทีวีในโหมดอื่นแล้วกลับมาที่ YouTube ใหม่อีกรอบ

วางขายเมื่อไหร่ ?

สำหรับทีวี Panasonic รุ่นใหม่จะเริ่มเปิดตัวช่วงประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมการรับประกันถึง 3 ปีเต็มในทุกรุ่น เพียงแค่ลงทะเบียนใน Club Panasonic ฉะนั้นแฟนพานาโปรดจับตาทุกความเคลื่อนไหวให้ดี สำหรับคราวหน้าจะพาไปตะลุยทัวร์สินค้าอะไร ??? โปรดติดตามตอนต่อไป สำหรับวันนี้นายโรมันขอลาไปก่อน สวัสดีครับ !!!