06 May 2018
Event

สรุปข้อมูล LG OLED TV รุ่นใหม่ปี 2018 ภาพดี อัจฉริยะขึ้น จากงาน Innofest


  • lcdtvthailand

งาน LG InnoFest ย่อมาจาก Innovation Festival เป็นงานแสดงนวัตกรรมสินค้ารุ่นใหม่ของ LG ซึ่งจัดขึ้นทุกปีที่ประเทศเกาหลีใต้ ปีนี้ผมก็มีโอกาสบินลัดฟ้าได้ไปยลโฉมทีวีรุ่นใหม่ก่อนใคร โดยงานจัดขึ้นที่ LG Science Park กรุงโซล เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา จึงขอสรุปรายละเอียดทีวีรุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในบ้านเรา ว่าแล้วไปรับชมรูปและคลิปวีดีโอไฮไลท์กันเลย

ห้องแถลงข่าวขนาดใหญ่ใน LG Science Park

OLED TV รุ่นใหม่….ไฉไลกว่าเดิม !

OLED TV ปีนี้ตัวเลขซีรีส์ก็เดินหน้าไปถึงเลข 8 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นำทัพโดย W8 ซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 77″ พร้อมดีไซน์บางเฉียบแบบ Wallpaper และยังมีรุ่นพระรองสมทบอย่าง E8 ที่บางเฉียบในคอนเซ็ปต์ Picture On Glass มีแผ่นกระจกใสประกบกับตัวพาแนลอีกที และ C8 กับ B8 ที่ระดับราคาจะค่อนข้างเอื้อมถึงเฉกเช่นในปีที่ผ่านมา โดยขนาดที่มีขายก็คือ 55″ และ 65″

W Series รุ่นใหม่ จอใหญ่ 77″ บางเฉียบดั่งแผ่น Wallpaper
LG B8 / C8 / E8 พี่น้องสามใบเถา

ชิพประมวลผลภาพ Alpha 9 !

เชื่อเหลือเกินผู้ใช้งาน LG TV แต่ไหนแต่ไร ก็คงไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าทีวีที่เราใช้อยู่เนี่ย มันใช้ชิพประมวลผลแบบแบบไหน ? มีชื่อว่าอะไร ? นั่นเป็นเพราะทาง LG เขาไม่ค่อยจะโปรโมตซักเท่าไหร่นักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในปีนี้ได้จึงทำการสังคายนาใหม่หมด เปิดตัวชิพ Alpha 9 ตัวท็อป (หรือย่อว่า A9) ที่ช่วยในเรื่องการลดสัญญาณรบกวน ความสดอิ่มของสี และความคมชัดของภาพ จะสถิตย์อยู่ใน OLED TV ระดับพรีเมี่ยม ส่วนรุ่นรองลงมาจะใช้ชิพ Alpha 7 ซึงจะมีความสามารถรองลงมานิดหน่อย จากภาพที่เขาทำการสาธิตเปรียบเทียบกับ OLED TV รุ่นปีที่ผ่านมาปะทะกับรุ่นใหม่ที่ใช้ชิพ Alpha 9 ก็เห็นความแตกต่างได้ไม่ยากนัก รุ่นที่ใช้ Alpha 9 มันดูดีกว่าจริง

ชิพ Alpha 9 ให้คำจำกัดความว่า Intelligent Processor หน่วยประมวลผลอัจฉริยะ
ทั้งช่วยลดสัญญาณรบกวน เพิ่มความคมชัดและมิติของภาพ
ตลอดจนยกระดับความเอิบอิ่มของสี
ซึ่งดูจากภาพที่เปรียบเทียบรุ่นใหม่ด้านบนที่ใช้ชิพ Alpha 9 และรุ่นเก่า 
ในโหมดภาพสำเร็จรูปเดียวกันก็จับความต่างได้ไม่ยาก
Alpha 9 ช่วยเรื่องความสดของสี ถูกปรับปรุงให้ดูอิ่มขึ้น

HFR : High Frame Rate ลื่นขึ้น 2 เท่า !

หาก HDR คือ “ปัจจุบัน” , HFR ก็ย่อมคือ “อนาคต” ! HFR ย่อมาจาก High Frame Rate ทีวีสามารถแสดงผลภาพสูงสุด 120 เฟรมภาพต่อวินาทีแท้ๆ มิใช่การจำลงแทรกเฟรมภาพแบบฟีเจอร์ TruMotion 120Hz แต่อย่างใด นั่นหมายถึงจะต้องมีคอนเทนต์แบบ 120Hz แท้ๆมาเล่นด้วยกัน ในตอนนี้ข่าวล่ามาเร็วคือเครื่องเล่นเกมส์ยอดฮิตอย่าง XBOX One X ก็เตรียมปล่อยเฟิร์มแวร์ให้เครื่อง Output 120 Hz ได้แล้ว ในเบื้องต้นก็น่าจะเป็น 1080p/120Hz ก่อน ซึ่งทีวี LG OLED TV รุ่นใหม่ก็จะรองรับการแสดงผลนั่นเอง

ประโยชน์ของ HFR จะช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวลื่นไหลไร้การสะดุดมากยิ่งขึ้น จากเดิมคือ 60 เฟรมภาพต่อวินาทีก็กลายเป็น 120 เฟรมภาพต่อวินาที ฉากที่เขาทดสอบให้ดูก็พวกฉากแพนกล้องโหดๆทั้งแนวนอนและแนวทะแยง กับฉากลูกเทนนิสเด้งกระดอนพื้นขึ้นลง ซึ่ง HFR 120Hz ก็ทำได้เนียนนิ้งกว่าจริง

รองรับ 4K HFR 120Hz เลยนะเนี่ย น่าจะเป็นเจ้าแรกๆเลย
ทดสอบภาพเคลื่อนไหว HDR 120Hz แท้ VS 60Hz ปกติ
ก็ยอมรับว่าพวกตัวอักษรที่เคลื่อนจากขวาไปซ้ายมันก็ดูลื่นและคมกว่าจริง (หากได้เครื่องจริงมาจะขอทดสอบแบบเข้มข้นอีกที)

ThinQ AI มากกว่าคำว่าฉลาดคืออัจฉริยะ !

ระบบ Smart TV ที่อัพเกรดให้อัจฉริยะขึ้นด้วย ThinQ AI คำว่า ThinQ ย่อมาจาก Think of You แปลว่า “คำนึงถึงคุณ” ซึ่งก็คือ “ผู้ใช้งาน” เป็นหลักปรัชญาในการออกแบบในมุมมองของ “ผู้ใช้งานจริง” ที่ต้องการให้ทีวีที่มีสารพัดลูกเล่นสุดล้ำ แต่ทว่าต้องใช้งานง่ายด้วยนะ (ซึ่งในทางปฏิบัติยากที่จะทำ) ผสานกับคำว่า AI หรือ Artificial Intelligent ระบบอัจฉริยะที่จะมาช่วย“สนอง” หลักปรัชญาข้างต้นให้ “เกิดขึ้นได้จริง” ซึ่ง ThinQ AI มี Google Assistant Built-In จึงสามารถรองรับคำสั่งเสียงแบบลึกซึ้ง แต่เริ่มเดิมทีใน webOS เวอร์ชั่นก่อนก็จะแค่รองรับการค้นหาคลิปวีดีโอแบบพื้นฐานทั่วไปได้เพียงอย่างเดียว แต่มาคราวนี้สามารถสั่งให้ทีวีเพิ่มลด Volume ได้, ถามพยากรณ์อากาศ, เปลี่ยนโหมดภาพ, หรือแม้กระทั่งสั่งให้ค้นหาร้านอาหารพร้อมเส้นทางก็ทำได้หมด !

วิทยากรนำเสนอ ThinQ AI ที่ใช้ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า LG ภายในบ้าน สั่งงานด้วยเสียงแบบลึกๆได้เลย
สาวกิมจิสุดสวยนางนี้ก็กำลังถามพยากรณ์อากาศของกรุงโซล

C8 และ E8 OLED TV ดีไซน์อาจจะไม่ฉีกจากเดิมมากนักแต่พลังภาพและระบบ Smart TV ที่อัพเกรดด้านในนี่จัดว่าชุดใหญ่ไฟกระพริบ

OLED TV ของ LG ก็ได้รางวัลการันตีคุณภาพ
ในงาน CES 2018 ต้นปีที่ผ่านมาจากสื่อต่างๆมากมาย

Super UHD TV ใช้หลอดไฟ Full LED แล้ว !

Super UHD TV คือ LED TV รุ่นท็อปของ LG ที่ใช้เทคโนโลยี Nano Cell มาอัพเกรดคุณภาพโดยเฉพาะเรื่องสีสันให้มีความสดอิ่มขึ้น มาในปีนี้มีการเปลี่ยนโครงสร้างหลอดไฟจาก Edge LED Backlight เป็น Full LED Backlight ซึ่งจะทำ Local Dimming หรือดิมไฟเป็นโซนๆได้อย่างละเอียด ช่วยเสริมระดับความดำให้ดำสนิทมากยิ่งขึ้น แต่คงมิอาจเทียบชั้นจ้าวแห่งความดำอย่าง OLED TV แต่ก็ย่อมดีกว่า Edge LED ทั่วไปค่อนข้างขาดลอยแน่นอน และที่สำคัญด้วยแผงหน้าจอแบบ IPS ก็ยังให้มุมมองการรับชมที่กว้างกว่าจอแบบทั่วไป ซึ่งเป็นจุดเด่นที่อยู่ยงคงกระพันกับจอ IPS มาอย่างช้านาน

ไลน์อัพ Super UHD TV ในปีนี้
75″ จอใหญ่ Series 8
Full Array Local Dimming VS Edge LED Local Dimming
หลอดไฟ Full LED Backlight สามารถทำ Local Dimming ได้เป็นโซนๆละเอียดขึ้น
รวมถึงมุมมองการรับชมของจอ IPS ที่กว้างกว่า 178 องศา
มองข้างๆแล้วสีเพี้ยนน้อยมากหากเทียบกับจอแบบทั่วไป
ปิดท้ายด้วย OLED TV รุ่นท็อป W8 Seires หรูหราไฮโซที่สุด
แล้วพบกันใหม่ในงาน InnoFest ปี 2019 ครับ

ทีวีทั้งหมดจะเริ่มเปิดตัวและขายในไทยในช่วงประมาณเดือนมิถุนายนนี้ แฟนพันธุ์แท้ที่กำลังมองหาทีวีรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ OLED ก็ขอให้เฝ้าจับตาให้ดี แน่นอนว่าทาง LCDTVTHAILAND ก็จะนำมารีวิวให้ทุกท่านรับทราบถึงข้อมูลกันแบบลึกซึ้ง เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อเช่นเดิม นายโรมันขอจบการรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้กันเพียงเท่านี้ พบกันใหม่ในงาน LG InnoFest ปี 2019 สวัสดีครับ !