ไม่ต้องรอกันแล้ว เพราะ นายโรมัน พาชม Sony OLED TV A9F รุ่นใหม่ ส่งตรงจากนิวยอร์ค ภายใต้ชื่อใหม่แกะกล่องว่า Master Series กับคอนเซปต์ Lens to Living Room จาก “เลนส์ถ่ายภาพยนตร์” สู่ “ห้องนั่งเล่นภายในบ้าน” ใช้ชิพประมวลผลตัวท็อปสูงสุดอย่าง X1 Ultimate !!!!
อัพเกรดภาพจาก Consumer สู่ระดับ Professional
คุณภาพของภาพ ได้พัฒนาร่วมกับทาง Sony Picture ผู้ผลิตภาพยนตร์ โดยเฉพาะแผนก Post Production ในการออกแบบให้เป็นจอที่สามารถถ่ายทอดภาพได้ตามอุดมคติของผู้ผลิต โดยอ้างอิงจาก Studio Reference Monitor รุ่น BVM-X300 ราคาหลักล้านบาท (โดย Sony เคลมว่าภาพจากทีวีสามารถทำได้ใกล้เคียงจอมอนิเตอร์อ้างอิงสุดๆ) โดยมีจุดเด่นดังนี้
– X1 Ultimate ชิพใหม่ขั้นท็อป ช่วยเรื่อง “มิติภาพ” (Depth) และ “รายละเอียด” (Resolution) เป็นอีกขั้นที่เหนือกว่า X1 Extreme ในรุ่น A8F และ A1E
– Netflix Calibrated Mode มีโหมดปรับภาพเพื่อ Netflix โดยเฉพาะ ซึ่งหลักๆจะเน้นไปที่ HDR ตัวอย่างอย่างเรื่อง Stranger Things จะได้เห็นความพวยพุ่งของแสงสีในโลกด้านกลับได้เหมือนกับที่ผู้ผลิตหนังต้องการถ่ายทอดให้เห็น
– ร่วมกับ Potrait Display และ Calman มีโหมดสำหรับการปรับภาพเบื้องลึก และ รองรับ Autocal ฟีเจอร์ปรับภาพอัตโนมัติ ซึ่งต้องใช้ Software และเครื่องมือเฉพาะทาง เป็นแบบเดียวกับที่ LCDTVTHAILAND ใช้อยู่
– Joel Silver ปรมาจารย์ด้านภาพแห่งสถาบัน ISF เป็นที่ปรึกษาวิทยาศาสตร์ด้านภาพ ช่วยทำให้โหมดภาพสำเร็จรูปมีความถูกต้องแม่นยำตั้งแต่แกะกล่อง ตลอดจนผนวกโหมดปรับภาพอย่างละเอียดซึ่งปรับ CMS แม่สีหลักและรองได้แล้ว
ลำโพงใหม่…ไฉไลกว่าเดิม
– ลำโพง Acoustic Surface+ แบบ 3.2 แชนแนล ที่เพิ่มขึ้นมาคือ Actuator อีกชุดที่ตำแหน่ง “กลางจอ” จากเดิมมีแค่ซ้ายและขวา ยิ่งไปกว่านั้นดันใช้เป็นลำโพง Center จริงๆได้ด้วยเมื่อใช้ร่วมกับเอวีรีซีฟเวอร์ หรือชุดโฮมเธียเตอร์ มีช่องให้เสียบสายลำโพงด้านหลังเครื่องเลยจ้า โดยกำลังขับอัพเกรดมาเป็น 98 วัตต์ จากเดิมอยู่ที่ 50 วัตต์ โหดมาก
ประเมินภาพเบื้องต้น
เมื่อเทียบกับ A1E, ภาพของ A9F สีมีความสดเด้งขึ้นอีกสเต็ป แต่ยังคงความสุภาพเป็นธรรมชาติสไตล์ Sony เอาไว้ ไม่ใช่สดทะลุทะลวงจนเกินความจริง มีการจำแนกวัตถุที่ช่วยเสริมมิติให้ดูลึกดูตื้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ผมมีโอกาสได้ดูภาพจากหนังเรื่อง The Revenant, IT, Crouching Tiger Hidden Dragon และ The Greatest Showman เปรียบเทียบกับมอนิเตอร์อ้างอิง Sony BVM-X300 ก็จัดว่าเจ้า A9F ทำได้ใกล้เคียงมากๆ ทั้งโทนสีผิวของคนทีดูเป็นธรรมชาติ ไม่ติดอมแดง อมน้ำเงิน ตลอดจนรายละเอียดในที่มืดที่เปิดเผยได้ดี ไม่ได้ดำจมหายไปในความมืดสงัดแต่อย่างใด !
Z9F : LED TV ระดับ Master !
ส่วน Z9F ก็ใช้ชิพ X1 Ultimate เช่นกัน และใช้หลอดไฟ Full Array LED เช่นเคย มาครั้งนี้เคลมว่าให้ “มุมมองการรับชม” ที่ “กว้างขึ้น” ซึ่งมุมมองการรับชมที่จำกัดก็มักเป็นปัญหาของ LED LCD TV มาแต่ไหนแต่ไร ประมาณว่ามองเฉียงสีก็ซีดซะแล้ว แต่มาครั้งนี้ปรับปรุงขึ้นเยอะ ผมทดสอบรับชมกับคอนเทนต์สาธิตแล้วว่ามันกว้างขึ้นจริง มองเฉียงๆสีซีดน้อยมาก รวมถึงให้ฟีเจอร์ X-Motion Clarity ใหม่ล่าสุด ที่ช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวลื่นปรี๊ด เดี๋ยวจะฟันธงคุณภาพให้อีกทีเมื่อได้ทดสอบเข้มข้น !
สรุป
ดาหน้าเปิดตัวด้วยรุ่นใหม่ + ภาพใหม่ + ฟีเจอร์ใหม่ แบบไม่ค่อยเกรงใจใคร ผมว่าปีนี้ Sony สปริงบอร์ดถีบตัวเองได้โคตรแรงและต่อเนื่อง พร้อมหนีบพันธมิตรตัวเอ้ในอุตสาหกรรมวีดีโอและภาพยนตร์ ทั้ง Sony Picture, Netflix, Calman ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำมามีส่วนร่วมในการ “เคาะเรื่องภาพ” ให้เป็นไปตามอุดมคติของผู้สร้างคอนเทนต์มากยิ่งขึ้นสำหรับ Master Series รุ่นใหม่นี้ ส่วนคุณภาพเบื้องลึกทั้งภาพและเสียง ผมขอยังไม่ฟันธงใดๆ รอได้เครื่องทดสอบตัวจริงก่อน ส่วนราคาเปิดตัวยังไม่เผย แต่คาดว่าสูงกว่า A8F แน่นอน เดือนตุลาคม นี้เข้าไทยแล้วเจอกันจ้า !!!
นายโรมัน รายงานสดจาก New York , USA