พูดถึงแบรนด์ Midea (ไมเดีย) ในบ้านเราหลายคนคงไม่คุ้นหูคุ้นตาเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นที่ประเทศจีน แบรนด์นี้มียอดขายติดท็อป 1 ใน 3 และถ้าได้รู้จักกับประวัติของแบรนด์นี้ จะรู้เลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ
Midea เพิ่งจะมีอายุครบรอบอายุ 50ปี เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลาที่นับตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงทุกวันนี้ Midea ได้เข้าซื้อกิจการชั้นนำหลายแห่ง อาทิ KUKA บริษัทแขนกลหุ่นยนต์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมหนัก, Toshiba ในหมวด Home Appliance, Little Swan อีกหนึ่งบริษัทที่ทำ Home Appliance เป็นต้น และยังมีการร่วมมือการทำงานกับบริษัทชั้นนำมากมาย ด้วยจุดแข็งเหล่านี้ทำให้ Midea มีรายได้จากการบริหารธุรกิจทั่วโลก มากกว่า 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 7.26 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งน่ายินดีเป็นอย่างมากที่บริษัทที่มีรากฐาน ส่วนการผลิตที่แข็งแกร่งแบบนี้จะมาทำตลาดเครื่องปรับอากาศในบ้านเรา
โรงงานเครื่องปรับอากาศที่ทาง Midea ได้เชิญสื่อมวลชนจากประเทศไทยไปเยี่ยมชมไกลถึงประเทศจีนนั้นมีพื้นที่ใหญ่ถึง 170,000 ตารางเมตร ภายในโรงงานบางส่วนไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปเก็บมาฝากทุกคน ดังนั้นจึงได้แต่อาศัยข้อความบอกเล่า ดังนั้นตามผมไปดูความยิ่งใหญ่ของโรงงานนี้กันได้เลยครับ
ภายในพื้นที่ 170,000 ตารางเมตร ได้มีการแบ่งสัดส่วนเป็นอย่างดี ส่วนแรกคือออฟฟิศสำนักงานที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลส่วนต่างๆ ภายในโรงงาน พร้อมทั้งมีจอแสดงผลขนาดใหญ่ไว้คอยมอนิเตอร์ไลน์การผลิตงานต่างๆ เช่น หุ่นยนต์ทำงานเป็นปกติหรือไม่ สายการผลิตไหนหยุดทำงานหรือเปล่า? เดือนนี้ผลิตเครื่องปรับอากาศไปแล้วกี่เครื่อง เป็นต้น
โรงงานแห่งนี้ผลิตชิ้นส่วนทุกอย่างของเครื่องปรับอากาศ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นรูปกรอบเครื่องปรับอากาศ ผลิตมอเตอร์ ใบพัด คอยล์ร้อน คอยล์เย็น ฯลฯ ดังนั้นโรงงานนี้จึงเป็นที่ผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ ยันปลายน้ำ และเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่สูงที่สุด การผลิตส่วนใหญ่จะใช้หุ่นยนต์ในการทำงาน ระบบการขนย้ายชิ้นส่วนต่างๆ ล้วนเป็นออโตเมชั่นทั้งหมด คนงานส่วนใหญ่จะใช้ในการตรวจเช็คความเรียบร้อย และหาข้อผิดพลาดของสินค้า รวมไปถึงวางแผนในการแก้ไขปัญหาหากเกิดข้อผิดพลาดเป็นหลัก
สำหรับประเทศไทย Midea ตั้งเป้ากินส่วนแบ่งการตลาดอันดับสาม หรือให้ดีกว่านั้นคือติดอันดับ 3 ภายใน 5 ปี ซึ่งตรงจุดนี้ คุณเฮนรี เฉิน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศประจำภูมิภาคอาเซียน บริษัท ไมเดีย เรซิเดนท์เชียล แอร์ คอนดิชันเนอร์ โอเวอร์ซี เซลส์ คอมพานี ประเทศจีน ได้เปิเผยข้อมูลว่า สินค้าเครื่องปรับอากาศ ไมเดีย กรุ๊ป ถือว่าเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่สุดของโลก ซึ่งมีมาร์เก็ตแชร์ของกลุ่มเครื่องปรับอากาศใช้ภายในบ้าน (Residential Air Conditioner หรือ RAC) สูงถึง 28% เป็นอันดับสองในตลาดจีน และส่งออก 24% นับเป็นผู้ส่งออกอันดับหนึ่ง ส่วนเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ (Commercial Air Conditioner หรือ CAC) ที่ใช้ในออฟฟิศ อาคารสำนักงาน โรงแรม โรงพยาบาล หรือทาวน์โฮม ไมเดีย กรุ๊ปก็ยังครองส่วนแบ่ง 11.5% ในตลาดจีน และส่งออกมากเป็นอันดับหนึ่งด้วยสัดส่วน 20%
นอกจากนี้ คุณโทนี่ หลิว ผู้จัดการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ ประจำประเทศไทย ยังได้ขึ้นมาบอกถึงจุดแข็งของเครื่องปรับอากาศของไมเดียว่า “แอร์ไมเดีย มี Flash Cooling สามารถทำให้ห้องเย็นได้อย่างรวดเร็วภายใน 30 วินาที มีเทคโนโลยี Air MagicTM ที่ช่วยดูแลสุขภาพที่ดีด้วยการยับยั้งแบคทีเรียและฝุ่นละอองในอากาศ และมีระบบกรองอากาศ Dual Filtration ช่วยดักจับฝุ่นขนาดใหญ่และป้องกันอนุภาคขนาดเล็ก ดังนั้นเรื่องฝุ่นพิษ PM 2.5 ก็ลืมไปได้เลย ภายในมีชุดพัดลมแบบ High Static Pressure และท่อระบายความร้อนแบบพิเศษ ทำให้การหมุนเวียนและระบายความร้อนดีขึ้น ส่งผลให้ประหยัดพลังงานได้มากถึง 30% นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ฟังก์ชั่น I-ECO ที่ช่วยลดอัตราการใช้พลังงานอย่างเห็นได้ชัดใน 8 ชั่วโมงที่ใช้งาน”
ในปีนี้ทางไมเดียจะเปิตตัวไลน์อัพเครื่องปรับอากาศภายในบ้านและเชิงพาณิชย์ กว่า 20 รุ่น พร้อมทั้งเปิดช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้น รวมไปถึงศูนย์บริการในประเทศไทย ที่พร้อมให้คำปรึกษา และดูแลหลังงานขาย ดังนั้น ผู้บริโภคจึงมั่นใจ และวางใจได้เลยว่าเครื่องปรับอากาศไมเดีย ที่เราจะได้เห็นกันต่อไปนี้มากขึ้น ไม่ใช่แบรนด์ที่ไม่มีที่มา แต่เป็นแบรนด์ที่มีประวัติยาวนาน แถมเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งระดับโลก ที่พร้อมจะรุกตลาดบ้านเราเต็มกำลัง!!
แล้วพบกับ Midea ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ!!