มีงานเปิดตัวสินค้าที่ใด พบกับผมนาย Dear Sir ได้ที่นั่น และในวันนี้ผมจะพาไปพบกับงานเปิดตัว Home Video Projector ของ BenQ ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นคือ W1070+ และ W1080ST+ การจัดงานครั้งนี้มีขึ้นทั้งวันเลยครับ รอบแรกเป็นรอบของสื่อมวลชน ส่วนรอบหลังนั้นเป็นของชาวร๊อคเกอร์ เอ้ย! บล็อคเกอร์ นอกจากนี้ ทาง BenQ ยังได้ให้เกียรติทาง LCDTVTHAILAND ขึ้นไปแนะนำข้อดีของโปรเจกเตอร์รุ่นใหม่ทั้งสองรุ่น และแนะนำวิธีการปรับภาพโปรเจกเตอร์อีกด้วย
นายพัทธกร พรศิริธิเวช ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์นวัตกรรมดิจิตอลไลฟ์สไตล์ ที่จะนำความเพลิดเพลิน และคุณภาพมาสู่ชีวิต ด้วยปรัชญา “Because It’s Matters” เปิดเผยว่า ในปีนี้ถือได้ว่าเป็นปีทองของเบ็นคิวอีกปี โดยเฉพาะตลาดโปรเจคเตอร์ในไทย ที่มีอัตราการเติบโตไม่หยุด ในฐานะที่ “เบ็นคิว” เป็นหนึ่งในผู้นำตลาด Home Video Projector อยู่ในขณะนี้ หวังมุ่งสร้าง และยกระดับคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้น เบ็นคิว จึงได้จัดกิจกรรม “เบ็นคิว เปลี่ยนห้องนั่งเล่นของคุณให้เป็นโรงหนัง” พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะมาเปลี่ยน concept ของห้องนั่งเล่นภายในบ้านของคุณให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์ขนาดย่อมๆ คือโปรเจคเตอร์ รุ่น W1070+ และ W1080ST+ ด้วยความคมชัดระดับ 1080p*
แต่ผู้ที่จะมาให้ข้อมูลในเบื้องลึกของทั้งสองรุ่นคงหนีไม่พ้นนาย อนุสรณ์ ไชยอินทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ ของบริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) โดยทั้ง W1070+ และ W1080+ สามารถให้สีได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน มีวงล้อหกสี RGBRGB ช่วยให้สามารถแสดงภาพได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น แถมทั้งคู่ยังมีค่าความสว่างถึง 2200 ANSI lumen ซึ่งจัดว่าให้ความสว่างค่อนข้างมาก ถ้าเทียบโปรเจกเตอร์ในกลุ่ม Home Video Projector ด้วยกัน นอกจากนี้แล้วยังรองรับการฉายภาพแบบ 3D อีกด้วย
นอกจากนี้แล้วจุดเด่นของทั้งสองยังอยู่ที่สามารถฉายภาพได้ในระยะสั้น อย่างรุ่น W1080ST+ สามารถฉายภาพขนาด 100″ ได้ในระยะฉาย 1.5เมตร ส่วนรุ่น W1070+ สามารถฉายภาพขนาด 100″ ได้ในระยะ 2.5เมตร ทั้งคู่ยังมี 2D Keystone ซึ่งถือว่ามีประโยชน์มากๆ ในการจัดวาง เพราะเราสามารถวางโปรเจกเตอร์แบบเอียงๆ ได้ด้วย
ตามปกติแล้วงานแถลงข่าวส่วนใหญ่จะเป็นเพียงแค่บอกคุณสมบัติคร่าวๆ ของสินค้า ให้กับผู้ที่เข้าร่วมงานแล้วก็จบ ทว่างานครั้งนี้ผมเองต้องบอกว่าน่าประทับใจมากครับ เพราะทาง BenQ มีการจัดห้องเอาไว้แสดงภาพจากโปรเจกเตอร์เพื่อให้เข้าร่วมงานได้เห็นภาพกันจะๆ รับรู้ถึงความสามารถของโปรเจกเตอร์ทั้ง W1070+ กับ W1080ST+ ได้จริงๆ
พอมาถึงรอบบล็อกเกอร์ก็ถึงคิวของคุณ Roman และคุณชานม ขึ้นมาสาธิตจุดเด่นของ W1070+ กับ W1080ST+ พร้อมกับให้คำแนะนำในการดูภาพของโปรเจอกเตอร์ แถมยังให้คำแนะนำความสำคัญในการปรับภาพโปรเจกเตอร์เบื้องต้นให้เป็นความรู้กันอีกด้วย
โดยมืออาชีพจาก Imaging Science Foundation (ISF)
ก่อนจบบรรยากาศงานเปิดตัวครั้งนี้ผมก็ขอบอกถึงราคาขายปลีกของโปรเจกเตอร์ทั้งสองรุ่นทิ้งท้ายเอาไว้ โดย รุ่น W1070+ ราคา 43,900บาท ส่วน W1080St+ ราคา 46,900บาท สำหรับคนที่สนใจโปรเจกเตอร์ระยะฉายสั้น คุณภาพสวย ภาพดี แนะนำว่าให้ไปลองครับ สุดท้ายนี้ผมก็ขอลาไปด้วยภาพนี้ สวัสดีครับ
