ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่แต่ละปีที่ทุกท่านมีโอกาสได้เป็นส่วนร่วมคัดเลือกสุดยอดทีวีตัวท็อปจากทุกแบรนด์ เพื่อเฟ้นหา “ทีวีที่ดีที่สุด” ในงาน Best of The Best TV Shootout 2017 จัดโดยเว็บ LCDTVTHAILAND โดยปีนี้จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 25 พ.ย. 2017 ณ โรงแรมอนันตราสยาม ซึ่งผลการเปรียบเทียบคุณภาพทีวีภายในงานนี้จะถูกนำไปประเมินตัดสินรางวัล VIDEOPHILE LCDTVTHAILAND AWARDS หรือรางวัลทีวีที่ดีสุดประจำปี 2017 ในแต่ละสาขาอีกด้วย
ชื่องาน : Best of The Best TV Shootout 2017
สถานที่ : โรงแรมอนันตราสยาม (BTS ราชดำริ)
วัน : เสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2560
เวลา : 12.30 – 17.00
ผู้นำบรรยาย : คุณโรมัน คุณชานม และทีมงาน LCDTVTHAILAND
ดำเนินรายการโดย “คุณโรมัน” วีรเกียรติ จิรัฐการุณธ์ เจ้าของเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND กับ “คุณชานม” ชานนท์ จุทัยรัศม์ บรรณาธิการอำนวยการเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND พร้อมด้วยวิทยาการจากทั้ง 5 แบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น LG, Panasonic, Sony, Samsung และ TCL ในการนำเสนอจุดเด่นทีวีด้วยตนเอง ให้กับแฟนๆผู้สนใจอย่างลึกซึ้ง รวมถึงช่วงไฮไลท์ของงานซึ่งก็คือการเปรียบเทียบคุณภาพของภาพและเสียงอย่างเข้มข้น เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้ใช้ประกอบการพิจารณาโหวตทีวีรุ่นที่คิดว่าดีที่สุด
ประเด็นที่ใช้ในการพิจารณาว่าทีวีเครื่องไหนคู่ควรกับรางวัล “ทีวีที่ดีที่สุดประจำปี” ได้แก่
1. ภาพ : ทดสอบศักยภาพกับภาพความละเอียด 4K HDR แท้ๆ รวมไปถึงการรับชมคอนเทนต์มาตรฐาน SDR ที่ยังแพร่หลายในปัจจุบัน 2. เสียง : จริงอยู่ว่าลำโพงทีวีคงสู้โฮมเธียเตอร์เต็มระบบไม่ได้ แต่หากทีวีตอบสนองจุดนี้ได้ดีก็ถือเป็นกำไรของผู้บริโภค3. การออกแบบ : ความสวยงามใครว่าไม่สำคัญกับทีวีระดับนี้ การส่งเสริมภาพลักษณ์และการออกแบบที่เอื้อประโยชน์ใช้สอยสำคัญมาก
4. ลูกเล่นการใช้งาน : ฟีเจอร์เสริมที่ส่งผลให้การใช้งานทีวีเข้ากับยุคสมัย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
5. ราคา : หากประสิทธิภาพไม่ด้อยกว่ากัน ราคาก็เป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาถึงความคุ้มค่า
กำหนดการ
12.00 ลงทะเบียน + รับประทานของว่าง
13.00 แนะนำกติกาการประชัน
13.15 การนำเสนอสินค้าโดยวิทยากร 5 ท่านจาก 5 แบรนด์ ท่านละ 15 นาที
15.00 พักเบรคทานของว่าง
15.15 ทดสอบเปรียบเทียบคุณภาพของ “ภาพ”
– ความดำ,ความสว่าง, สีสัน, เบิร์นอิน
– หนัง 4K HDR & 1080p Blu-ray
– เกม 4K Gaming
16.15 ทดสอบเปรียบเทียบคุณภาพของ “เสียง”
16.30 ร่วมโหวตทีวีที่ดีที่สุดประจำปี (1 ท่าน = 1 โหวต)
16.45 คอมเมนท์โดยกรรมการรับเชิญพิเศษ
17.00 ประกาศผลทีวีที่ดีที่สุดประจำปี + มอบถ้วยรางวัล
“ครึ่งแรก” ของงาน จะเป็นการนำเสนอจุดเด่นของทีวีโดยวิทยากรของแต่ละแบรนด์ และเพื่อความเป็นธรรม ตัวแทนแต่ละแบรนด์จะทำการ จับฉลากเพื่อกำหนดลำดับการพรีเซนต์ โดยให้มาลุ้นกันหน้างาน ผลเป็นดังนี้ 1.) Samsung, 2.) TCL, 3.) Panasonic, 4.) LG, 5.) Sony โดยหลังจากพรีเซนต์ครบทั้งหมดแล้ว ทีมงานจะให้โอกาสแบรนด์ลำดับที่ 1 และ 2 ได้กลับมาพรีเซนต์อีกครั้งเพื่อแก้ต่างในเวลาสั้นๆ ป้องกันการเสียเปรียบเรื่องลำดับก่อนหลังครับ
รายชื่อกรรมการรับเชิญ (จากซ้ายไปขวา)
1. คุณพงศ์ทิพจักร เชื่อเจ็ดองค์ (คุณหมอเอก)
– THX & ISF Certified Calibrator และนักเขียนนิตยสาร Audiophile-Videophile ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่อง “ภาพ”
2. คุณณัฐพล แสดงทรัพย์ (คุณนัท)
– THX & ISF Certified Calibrator และเจ้าของ Cinemania ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่อง “ภาพ”
3. คุณทวีศักดิ์ ภู่วิภาดาวรรธน์ (คุณอี๊ด)
– THX & ISF Certified Calibrator และเจ้าของ Theater Solution ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่อง“ภาพ”
4. คุณธรรมนูญ ประทีบจินดา (ป๋านูญ)
– นักเขียนบทความดิจิทัลออดิโอ นิตยสาร Audiophile Videophile ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่อง “เสียง”
5. คุณพิศาล ถ้ำอมร (นายบอส)
– กูรูด้านไอที สมาร์ทโฟน แก็ดเจ็ต ผู้จัดรายการวิทยุ Techno For Life FM 99.0 ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่อง “สมาร์ททีวี”
รวมถึงอธิบาย “กติกา” ให้วิทยากรแต่ละแบรนด์ทราบโดยหลักๆคือ
1) แต่ละท่านมีเวลาพรีเซนต์ 15 นาที
2) สามารถพรีเซนต์เชิงเปรียบเทียบคู่แข่งแบบปากเปล่าได้
3) สามารถสั่งให้ทีมงานเปิด-ปิดไฟห้องเพื่อนำเสนอภาพได้
4) สามารถใช้อุปกรณ์เสริมเช่น รีโมทแบบพิเศษ, Smart Phone อุปกรณ์การแขวนและขาตั้งทีวี ประกอบการบรรยายได้
พร้อมแล้วเริ่มการพรีเซนต์สินค้าจากแบรนด์แรก นั่นก็คือ Samsung !!!
Samsung QLED TV – Q9F ยังคงความโดดเด่นเรื่องของดีไซน์ นอกจากสวยงามแล้วยังตอบสนองการใช้งานได้ลงตัว ทั้ง One Connect รูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนมาใช้สาย Fiber-optic ขนาดเล็ก จึงสามารถเก็บซ่อนสายได้ง่าย แต่ยังสามารถส่งผ่านข้อมูลภาพและเสียงจำนวนมากได้อย่างไร้ที่ติ (ความยาวมาตรฐาน 5 ม. เพิ่มได้ถึง 15 ม.) การตั้งวางบนขาตั้งก็สวย หรือจะแขวนผนังก็งามด้วย “No Gap Wall Mount” นอกจากนี้ระบบ Smart TV จากระบบปฏิบัติการ Tizen ยังคำนึงถึงผลการใช้งานจริง เข้าถึงง่ายดายเหมาะกับผู้ใช้งานทุกกลุ่ม
ถัดมา TCL พูดถึงจุดเด่นของ 65X3CUS 4K UHD QLED TV กับดีไซน์จอโค้งเพียงหนึ่งเดียวในครั้งนี้ พร้อมระบบเสียงไม่ธรรมดาจาก harman/kardon ซึ่งถึงแม้ภาพจะเป็นรองแบรนด์อื่น แต่ระดับราคาก็ต่ำกว่าแบรนด์อื่นๆ ถึง 3 เท่าด้วยกัน!! แถมยังเป็นผู้ผลิตทีวีที่ครองอันดับหนึ่งในประเทศจีนแบรนด์นี้มีพัฒนาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ปัจจุบันพิสูจน์ตนเองด้วยความคุ้มค่าที่แสดงให้ทุกท่านในงานได้ประจักษ์ โดยเฉพาะระยะเวลารับประกันยาวนานถึง 5 ปีเต็ม
มาถึง Panasonic 65EZ1000T 4K UHD OLED TV อีกหนึ่งตัวเก็งประจำปีนี้ที่พกความมั่นใจมาด้วยคุณภาพอ้างอิงระดับผู้ผลิตภาพยนตร์จาก Hollywood สิ่งที่ทำให้แตกต่างจาก OLED TV แบรนด์อื่น คือ ชิพประมวลผล กับการรับรองมาตรฐานจากสถาบันด้านภาพครบทั้ง “THX” และ “ISF” ยืนยันความเที่ยงตรงด้านสีสันและการแสดงผล
LG นำ 65W7T 4K UHD OLED TV รุ่นท็อปสุดจากซีรี่ส์ Wallpaper มาประชันในงานนี้อย่างทันควัน หลังจากที่เพิ่งจัดงานเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ เรียกว่าจอยังอุ่นๆ อยู่เลย วิทยากรเรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมากเมื่อถอดจอจากที่แขวน ซึ่งยึดด้วยแม่เหล็ก ออกมาแล้วยกให้ดูแบบนี้ เพื่อให้เห็นความบางเฉียบของพาเนลในขณะที่ยังเปิดภาพอยู่ เป็นการตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำนวัตกรรม OLED Panel เพียงหนึ่งเดียวเหนือกว่ายี่ห้ออื่น ที่ยังคงใช้พาเนลรุ่นเก่าของ LG งอไม่ได้ นอกจากนี้ W7T ยังมาพร้อมระบบเสียง “Dolby Atmos Soundbar” รองรับระบบภาพ “Dolby Vision HDR” เท่าทันตามยุคสมัย เช่นเดียวกับระบบสมาร์ททีวีจาก WebOS ผ่านการควบคุมด้วย Magic Remote ที่สะดวกเหมือนเดิม
สุดท้ายกับ Sony KD-65A1 4K OLED TV ที่มาขอทวงคืนตำแหน่งผู้ผลิต Consumer OLED TV หลังจากห่างหายจากวงการมานานเกือบ 10 ปี มาคราวนี้ถึงแม้จะใช้พาเนลของคนอื่น แต่ก็จัดเต็มกับนวัตกรรมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงแบบ One Slate ดูดีแบบไร้ขารองรับด้านล่าง และชิพประมวลผล X1 Extreme ศักยภาพสูง แต่เหนืออื่นใด คือ ระบบเสียง “Acoustic Surface” ที่แหวกแนว ให้มิติเสียงออกจากตัวพาเนลโดยตรง
วิทยากรทั้ง 5 ท่าน ใช้เทคนิคการนำเสนอจุดเด่นของทีวีแบรนด์ตัวเองได้อย่างน่าติดตาม มีหยิกแกมหยอกกันเล็กน้อยเรียกเสียงฮือฮาได้เป็นระลอก สนุกสนานมาก “ครึ่งแรก” จึงจบไปอย่างมีสีสัน แต่ “ของจริง” ในแง่การเปรียบเทียบคุณภาพใช้งานจริงทั้งภาพและเสียง จะเริ่มต้นใน “ครึ่งหลัง” นับจากนี้ครับ…
แต่ก่อนอื่นเพื่อไม่ให้เสียเวลาพักครึ่ง ระหว่างที่ทุกท่านรับประทานอาหารว่าง ก็เริ่มทดสอบเรื่อง Burn-in กันเลย โดยเปิดแพทเทิร์นภาพนิ่งแบบ SDR ค้างไว้ ซึ่งผลการทดสอบด้วยคอนเทนต์ SDR คือ แทบจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาเลยแม้แต่น้อย ส่วนหากเป็นแพทเทิร์น HDR แบบโหดเหี้ยมที่สุดที่รวมแสงแรงจ้าไว้ที่จุดเดียว เช่นกล่องสี่เหลี่ยมสีขาวบนพื้นหลังสีดำสนิท หากเปิดทิ้งเป็นระยะเวลานาน ก็จะโชว์รอยรอยปรากฏขึ้นมาบ้าง แต่เมื่อเปิดภาพอื่นทิ้งไว้ซักพักอาการเบิร์นชั่วคราวก็จะหายไปเองอัตโนมัติ สรุปหลังจากการทดสอบแบบเข้มข้นแล้วจึงขอชี้ชัดว่าหากเป็นการใช้งานแบบปกติอย่างเช่น ดูหนัง ดูรายการทีวี ดูซีรีส์ ก็แทบจะไม่ส่งผลออะไร ฉะนั้นสบายใจหายห่วงได้
เอาหละแล้วการทดสอบเปรียบเทียบภาพและเสียงในช่วงครึ่งหลังจะเป็อย่างไร ???
แบรนด์ไหนจะได้เป็นที่ 1 ??? รีบตามไปอ่านหน้า 2 กัน