05 May 2021
News

Bang & Olufsen ขอแนะนำ Beoplay HX อีกหนึ่งชิ้นงานอันเหนือชั้น


  • Advertisor

Bang & Olufsen ได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Beoplay HX หูฟังที่ให้เสียงทรงพลังและให้เสียงสมจริง พร้อมฟังก์ชั่นดิจิทัล ANC ใช้ฟังเพลงได้นานถึง 35 ชั่วโมง อีกทั้งให้ความสบายในการสวมใส่ และยังคงไว้ซึ่งความเชี่ยวชาญเฉพาะของ Bang & Olufsen ในเรื่องของสุนทรียภาพทางเสียง ดีไซน์ และงานฝีมืออันปราณีต

“เราทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อสร้างสรรค์ชิ้นงานด้านเสียงชั้นเยี่ยม ซึ่งนั่นก็คือ Beoplay HX ที่มาพร้อมประสบการณ์ด้านเสียงที่แม่นยำและโดดเด่น ให้ความสบายในการสวมใส่ และการออกแบบส่วนควบคุมให้สอดคล้องผู้ใช้งาน ทั้งด้านพฤติกรรมการใช้งาน ค่านิยม และความต้องการ และหูฟังรุ่นใหม่ของเรานี้ได้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ได้ ให้หลีกหนีจากเสียงรบกวนภายนอกในชีวิตประจำวัน และรวมถึงเป็นการปฏิวัติประสบการณ์การดูหนังฟังเพลง ทั้งระหว่างการทำงานที่บ้าน และเดินทางเพื่อไปทำงานหรือท่องเที่ยว” Christoffer Poulsen ตำแหน่ง SVP ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen กล่าว

เสียงที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร

Beoplay HX ให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์การฟังเพลงอันทรงพลังผ่านไดร์เวอร์ลำโพงที่คัดสรรเพื่อเสียงที่เป็นเลิศขนาด 40 มม. จำนวน 2 ตัว ซึ่งผลิตจากแม่เหล็กแท้คุณภาพสูงและเบสพอร์ตที่ให้พลังเสียงเบสหนักแน่น ไมโครโฟนจำนวน 4 ตัวที่ใช้เทคโนโลยี  Advance Beamforming ที่จับเสียงสนทนาให้คุณภาพเสียงการโทรที่แจ่มชัด ขณะที่ตัวแบตเตอรี่มีความทนทาน ใช้ ฟังเพลงได้ยาวนานถึง 35 ชั่วโมง เปรียบเสมือนการใช้ทำงานได้ถึง 5 วันทำการได้โดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่

พลังเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bang & Olufsen นั้นโดดเด่นมากขึ้นจากพัฒนาระบบเสียงแบบสนทนา รวมถึงมอบประสบการณ์การฟังเพลงที่ละเอียดขึ้นและประทับใจมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Digital Adaptive Active Noise Cancellation ที่จะตัดเสียงรบกวนต่าง ๆ ออกไป แต่คุณภาพเสียงยังคงความยอดเยี่ยมเช่นเดิม  หลีกหนีจากเสียงรอบข้างในแต่ละวันด้วยคุณภาพเสียงชั้นยอดจาก Beoplay HX ที่มอบประสบการณ์การฟังเพลงเสมือนหนึ่งนั่งอยู่กลางห้องแสดงคอนเสิร์ตด้วยเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม และด้วยแอปพลิเคชั่น Bang & Olufsen ผู้ใช้จะสามารถปรับตั้งเสียงเพลงได้ตามความชอบ ปรักการค่าตั้งของ ANC ได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านแอปพลิเคชั่นหรือผ่านทางหูฟังได้โดยตรง

ที่สุดของความสะดวกสบาย

ความสบายเป็นส่วนที่สำคัญเมื่อสวมใส่หูฟัง Beoplay HX ได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้ การออกแบบที่คำนึงถึงหลักสรีระศาสตร์ โดยน้ำหนักของหูฟังที่เบาและความทนทานในการใช้งาน เพื่อรองรับการสวมหูฟังตลอดทั้งวันโดยยังคงความสบายสูงสุดไม่ว่าจะมีรูปศีรษะแตกต่างกันเพียงใดก็ตาม เพราะหูฟังรุ่นนี้มีปรับการออกแบบแถบคาดศีรษะให้รองรับแรงกดเมื่อต้องการสวมใส่ติดต่อกันเป็นเวลานาน

Ear cup ผลิตจากเมมโมรี่โฟมหุ้มด้วยหนังแกะแท้ เมื่อใส่แล้วปรับให้เข้ากับรูปทรงและความโค้งของใบหู ที่ช่วยให้เกิดความสบายสูงสุด แถบคาดศีรษะด้านบนทำมาจากหนังคาวไฮด์เนื้อละเอียด ขณะที่แถบด้านล่างคลุมด้วยผ้าถัก Beoplay HX มาในเคสแบบอ่อนทำจากผ้าเข้ารูปทรง เพื่อปกป้องหูฟังและอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ขณะที่พกพา

เทคโนโลยีอีกระดับขั้นความก้าวหน้า

Beoplay HX คือหูฟังที่พัฒนาขึ้นอีกขั้นเพื่อให้เปิดใช้งานได้นานถึง 35 ชั่วโมง จนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุดในตลาด หูฟังรุ่นนี้มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรผ่าน Bluetooth 5.1, Microsoft Swift Pair, Google Fast Pair และ Made for iPhone (MFi) การเชื่อมต่อหูฟังสะดวก รวดเร็วกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบ Android และอุปกรณ์ของ Apple ทำให้การใช้งานราบรื่น ไม่สะดุด

งานฝีมือที่เหนือขั้น

เป็นที่ยอมรับถึงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นด้านดีไซน์และความปราณีตจากแถบสแกนดิเนเวีย Bang & Olufsen ใช้วัสดุที่ดีที่สุดกับหูฟัง Beoplay HX เพื่อความหรูหราอย่างที่สุด ก่อนผสมผสานเข้ากับหนังเนื้อนุ่มและอลูมิเนียมขัด เพื่อสื่อถึงความงดงามอย่างแท้จริง พร้อมกับผสานความสบายในการสวมใส่ เสียงคมชัด และความทนทาน ก้านหูฟังที่เลื่อนปรับความสั้นยาวนั้นทำมาจากอะโนไดซ์อลูมิเนียมรีไซเคิลพ่นทราย  ด้านนอกของหูฟังทำจากอลูมิเนียมขัดด้วยหัวเพชร ที่ถูกวางอยู่ด้านในวัสดุโพลีเมอร์รีไซเคิล ซึ่งความแตกต่างที่โดดเด่นระหว่างความเรียบกับความด้าน ทำให้หูฟังมีความพิเศษยิ่งขึ้น   

หูฟัง Beoplay HX มีให้เลือกทั้งในแบบ Black Anthracite, Sand และ Timber ให้การรับประกันทั่วโลกรวม 3 ปีสำหรับลูกค้า เมื่อซื้อหูฟัง Bang & Olufsen และลงทะเบียน

ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย

Beoplay HX ราคาขายปลีกที่แนะนำ  23,900 บาท จะวางจำหน่ายในร้าน Bang & Olufsen เกสรวิลเลจ, Crystal Veranda, BeTrend Siam Paragon และ ร้านค้าปลีกที่ได้รับอนุญาต Dotlife, Studio7, iStudio by Copperwired, iStudio by SPVI, iBeat by Copperwired, MunkongGadget, Beyond d Box, Power Buy, Power Mall, Banana IT, Discovery Retail/ Digital Lab, AV Value และร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ Mercular.com, 425 Degree, His.in.th, Central Online, JD.co.th, Lazada, Shopee และ Gadgetthai.net และร้านค้าปลีกอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดตามเราผ่านทาง @bangolufsen บน Instagram, Facebook, Twitter และ YouTube โดยใช้แฮชแท็ก #BeoplayHX

เกี่ยวกับ BANG & OLUFSEN

Bang & Olufsen เจ้าของแบรนด์ไลฟ์สไตล์สุดหรูที่เป็นที่นิยมในทั่วโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2468 ในเมือง Struer ประเทศเดนมาร์ก โดย Peter Bang และ Svend Olufsen ที่ทั้งความทุ่มเทและวิสัยทัศน์ของทั้งคู่ยังคงเป็นรากฐานของบริษัทสืบต่อมา สิ่งที่ถ่ายทอดมาคือความมุ่งมั่นที่จะผลิตสินค้าเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับเทคโนโลยีด้านเสียง ช่วยให้บริษัทยังยืนอยู่แถวหน้าในเรื่องนวัตกรรมด้านเสียง ปัจจุบัน สินค้าทั้งหมดของ Bang & Olufsen ยังคงได้ชื่อว่าเป็นส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวระหว่างเสียงที่เต็มอิ่มสมจริง งานออกแบบที่เข้ากับทุกยุคทุกสมัย และงานฝีมืออันโดดเด่นเหนือใคร บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านเสียงชั้นเยี่ยมอันนำสมัยทั่วโลกจากภายในร้านโมโนแบรนด์ของ Bang & Olufsen รวมถึงจำหน่ายแบบออนไลน์ และในร้านชั้นนำอีกมากมาย  บริษัทมีพนักงานประมาณ 900 คน และดำเนินกิจการในกว่า 70 ตลาดทั่วโลก หุ้นของบริษัท Bang & Olufsen จดทะเบียนใน NAS DAQ Copenhagen A/S

เกี่ยวกับ Design Collection

Design Collection Denmark (เดิมคือ MJ Group) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2549 ในประเทศสิงคโปร์ เมื่อบริษัทเข้ามาดูแลงานบริหารและการค้าปลีกของแฟล็กชิพสโตร์ของ Bang & Olufsen ที่ประจำอยู่ใน Grand Hyatt Singapore และนับจากนั้น บริษัทได้ขยายช่องทางจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกเพิ่มเติม พร้อมจัดการและดำเนินการด้านเครือข่ายจัดจำหน่ายที่ขยายครอบคลุมใน 3 ทวีปและอีกกว่า 30 ตลาดทั่วโลก โดย Design Collection Denmark (DCD) ยังคงมีสถานะเป็นบริษัทเอกชนและดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ที่ต้องการนำพาแบรนด์ดีไซน์สัญชาติเดนมาร์กสู่ตลาดโลก เครือข่ายค้าปลีกที่ครอบคลุมและคอนแทร็คมาร์เก็ตทั่วโลกของ DCD ได้รับการสนับสนุนในเชิงกลยุทธ์จากสำนักงานที่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ เดนมาร์กและออสเตรเลีย สินค้าภายใต้แบรนด์ของ DCD รวมถึง Bang & Olufsen, Georg Jensen, Ro Collection, Silkeborg Uldspinderi, By Lassen, Menu, Lemus และ ONE A

ที่มา : ข่าวประชาสัมพันธ์