04 Nov 2022
News

10 ปีที่ผ่านมากับการพัฒนา ULED ของ Hisense ?


  • lcdtvthailand

“อย่าทำในสิ่งที่คุณไม่อยากทำ”

จากงานเปิดตัว Hisense ULED X ที่ใช้เทคโนโลยีหน้าจอแบบใหม่ รวมถึงทีวีรุ่นยอดนิยมอย่าง U8H และ UX รองประธานอาวุโสของ ไฮเซ่นส์ กรุ๊ป ได้ออกมาพูดถึงความพยายามและความมุ่งมั่นของบริษัทในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้วย

แม้จะเป็นเส้นทางที่ท้าทาย ไฮเซ่นส์ จะพยายามอย่างไม่หยุดยั้ง

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ULED สามารถมอบประสบการ์ณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าของเรา ด้วยเทคโนโลยีการควบคุมหลอดไฟ (Dynamic Backlight) ที่ใส่มาในทีวี LCD With LED Blacklight ของเราในระดับกลางถึง High-end เพื่อเป็นการยืนยันว่าไฮเซ่นส์ก็ทำได้เช่นกัน

ULED หรือ อัลตร้า แอลอีดี (Ultra LED) เปรียบเสมือนอุลตร้าแมนที่มีพลังเหลือล้น ซึ่งสามารถให้ความสว่างของภาพได้สูงสุดในช่วง 10 ปีที่ผ่าน และยังเป็นเหมือนการเติมพลังให้ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำให้กับอุตสาหกรรม LCD อีกด้วย

1. อะไรทำให้เราเริ่มพัฒนา ULED?

โชคชะตามักจะอยู่ข้างผู้กล้าเสมอ ซึ่ง ULED ก็เปรียบเสมือนรางวัลของผู้กล้า

LCM เป็นจุดเริ่มต้นให้กับ ULED

หลังจากที่ทีวีจอแก้วแบบเก่าได้หมดยุคลงไปเมื่อประมาณปี 2005 ที่ผ่านมา ตลาดของ LCD TV ก็เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าส่วนใหญ่ที่วางขายในตลาดมักจะเป็นของผู้ผลิตเจ้าใหญ่ๆ จาก เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นกว่า 15% ของการประกอบของทีวีหลักๆ อีกด้วย ทำให้ Mr. Zhou Houjian ประธานของไฮเซ่นส์ในขณะนั้น เล็งเห็นว่าวิธีเดียวที่จะควบคุมการผลิตจากนอกประเทศได้ คือต้องผลิตจากในประเทศซะเอง

ในช่วงเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 2007 ไฮเซ่นส์ สามารถผลิตและประกอบ LCD TV ได้เองโดยไม่ต้องพึ่งการผลิตจากต่างชาติเป็นแห่งแรกของจีน ทำให้ไฮเซ่นส์ขึ้นมาเป็นผู้นำในวงการอุตสาหกรรมทีวีจอแบน และได้รับการส่งเสริมจากทางภาครัฐ รวมถึงบริษัททีวีทั่วประเทศจีนก็เริ่มสร้างสายการผลิตและประกอบทีวี LCD เพิ่มขึ้นจนเรียกได้ว่า บริษัททีวีทั้งหมดในจีนสามารถควบคุมกระบวนการผลิตทีวีได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำเลยทีเดียว

หากไม่หยุดกำลังผลิตจากต่างชาติ ULED ก็ไม่เกิด ?

2 ปีต่อมา ในวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 2009 ณ การประชุมประจำปีของคณะกรรมาธิการไฟฟ้าระหว่างประเทศ IEC/TC110 (คณะกรรมการเทคโนโลยีจอแบน) ที่จัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ทาง Hisense ก็ได้เป็นบริษัทแรกที่เป็นผู้นำในการกำหนดมาตรฐานสากลสำหรับ LED Backlight อีกด้วย

และเมื่อมาถึงปี ค.ศ. 2012 เมื่อทีวี OLED และทีวีหน้าจอขนาดใหญ่ได้ถือกำเนิดขึ้น ไฮเซ่นส์ ก็ได้พัฒนาเทคโนโลยีด้านภาพรวมถึงความสว่างเพื่อสร้างทีวี OLED และ ULED ออกมานั่นเอง

2. การอัปเดท

การได้พูดคุยกับผู้ใช้งานจริงทำให้เราสามารถพัฒนาเทคโนโลยีทีวีได้อย่างก้าวกระโดด

ULED TV ที่แสดงผลภาพที่ดี อัตราส่วนคอนทราสต์สูง มีขอบเขตสีที่กว้าง และมีอัตราตอบสนองที่รวดเร็วฉับไว

ด้วยเทคโนโลยี ULED ทำให้ LCD TV With LED Blacklight มีการพัฒนาหลายๆ ด้านอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเรื่องของความสว่าง คอนทราสต์ มิติของภาพ รายละเอียดในทีมืด สีสันที่สมจริง การเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล และการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจ รวมถึงมีเทคโนโลยีการควบคุมหลอดไฟ Blacklight หรือ Dimming ที่สามารถแบ่งเป็นโซนต่างๆ ได้อย่างอิสระทำให้สามารถควบคุมระดับความดำได้อย่างแม่นยำกว่าเดิม และทำให้ได้ภาพที่มีความสว่างสดใสเมื่อเทียบกับ LED TV แบบปกติ

จากผลการศึกษาเปรียบเทียบทีวีระดับไฮเอนด์จากศูนย์วิจัยเทคโนโลยีด้านจอแสดงผลของมหาวิทยาลัยตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เห็นได้ว่า ULED TV ของ Hisense มีความเหนือกว่า SUHD และ OLED ในแง่ของคุณภาพของภาพ ซึ่งเป็นการก้าวข้ามด้านนวัตกรรมที่บริษัทจีนได้กำหนดมาตรฐานใหม่ ให้กับวงการทีวีโลก

“แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยไปแต่เรายังจำตอนที่เปิดตัว ULED TV รุ่นแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้เสมอ” เมื่อวันที่ 20 เดือนกันยายน ค.ศ. 2022 ที่ผ่านมา Yu Zhi Tao ได้กล่าวในงานแถลงข่าวว่า หลังจากที่เราทดสอบผลิตภัณฑ์มาแล้วถึง 6 ครั้ง รวมถึงมีการผลักดันจากทางบริษัทอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทีวี Hisense ได้กลายเป็นนวัตกรรมสำหรับลูกค้าทั่วโลกและได้รับรางวัล “Global Annual Display Technology Gold Award” เป็นครั้งที่สอง อีกด้วย

ในวันสุดท้ายของการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ไฮเซ่นส์ ได้เปิดตัว ULED TV ระดับเรือธงรุ่นแรกของโลกที่มีคอนทราสต์สูงถึง 100,000:1

ในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 ไฮเซ่นส์ได้เปิดตัวทีวีที่ใช้เทคโนโลยี Stacked Screen เครื่องแรกของโลกที่เป็นเหมือนอีกขั้นของเทคโนโลยี LCD TV

ทางบริษัทได้มีการนำเทคโนโลยี Stacked Screen และชิปประมวลผลภาพที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ ชื่อว่า Xinxin และได้เปิดตัวทีวีที่สามารถควบคุมระดับแสงสว่างหรือ Dimming ได้กว่าล้านระดับออกมา ในวันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 2020 ทำให้ Hisense กลายเป็นผู้นำตลาดและเป็นบริษัทแห่งแรกที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจอภาพระดับประเทศเลยทีเดียว และต่อมาในปี ค.ศ. 2021 ไฮเซ่นส์ ได้ทำการเปิดตัว ULED XDR TV เครื่องแรกของโลก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เคยใช้กับหน้าจอของอุปกรณ์ต่างๆ จาก Apple ที่ทางบริษัทได้นำมาปรับใช้พัฒนาเป็นทีวี XDR ออกมาเป็นรายแรก ที่ให้ภาพที่สมจริง มีมิติที่ดี มีรายละเอียด มีความสว่างสดใส เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานขั้นสูงของทีวี 4K เลยทีเดียว

3. ULED ประสบความสำเร็จได้อย่างไร?

ต้องใช้เวลาลับดาบกว่า 10 ปี กว่าดาบเล่มนี้จะคม”

เมื่อวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2022 ที่ผ่านมา ไฮเซ่นส์ได้เปิดตัว ULED X TV อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีการแสดงผลยุคใหม่ รวมถึงเปิดตัว TV รุ่น U8H และ UX ที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ด้วยเช่นกัน

นี่คือผลของการทุ่มเทให้กับเทคโนโลยี ULED ของไฮเซ่นส์ ที่พัฒนาซ้ำๆ อย่างไม่หยุดยั้งกว่าหลาย 10 ปี จึงทำให้สามารถเอาชนะความคิดแบบเดิมๆ ได้

ทางไฮเซ่นส์ยังได้คิดถึงทิศทางในอนาคตของ ULED อีกว่า ถ้าหากการพัฒนาของเราไม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานในปัจจุบัน อะไรที่จะเป็นสิ่งที่ควรผลักดันในการปรับปรุงคุณภาพของภาพ ?

ซึ่งทางไฮเซ่นส์เอง มีความเชื่ออย่างยิ่งว่าคุณภาพของภาพที่ดีไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ในห้องแลปเท่านั้น คุณภาพของภาพที่ดี จะต้องเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับผู้ใช้งานจริงด้วย

จากแนวคิดนี้ ไฮเซ่นส์ จึงได้เปิดตัวโครงการวิจัยและพัฒนาระดับสูงสุดและเป็นความลับสุดยอดของบริษัทที่มีโค้ดเนม ว่า “630” เพื่อเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบให้มีคุณภาพของภาพที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานจริง

ซึ่งโครงการนี้ต้องใช้วิศวกรของไฮเซ่นส์ มากกว่า 500 ชีวิต จากศูนย์วิจัยและพัฒนาในประเทศจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และหลายๆ ประเทศในยุโรป ใช้เวลากว่า 580 วัน ด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละ รวมไปถึงทำการทดสอบแบบพิเศษมากกว่า 460 รอบ เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์ม ULED X ให้สำเร็จขึ้นมา

ULED X เป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ได้ผสมผสานนวัตกรรมของไฮเซ่นส์ทั้งในเรื่องเทคโนโลยีการประมวลผลและแสดงผลภาพ ที่พัฒนาจากปัญหาด้านเทคนิคกว่า 127 ข้อ ให้กำเนิด 7 ทิศทางหลักของเทคโนโลยี และได้ 13 เทคโนโลยีชั้นนำจากอุตสหกรรมทีวีมาด้วย

ยกตัวอย่างจากรุ่นระดับเรือธงจาก ไฮเซ่นส์ อย่าง U8H ที่ใช้ระบบการควบคุมหลอดไฟแบบ 16 บิตที่ทำงานได้สูงสุดถึง 4096 × 16 เลยทีเดียว ที่นอกจากจะทำให้ภาพดูดำลึกดีขึ้นในห้องมืดแล้ว ยังได้นำการวิจัยจากสภาพแวดล้อมแบบใช้งานในบ้านจริงกว่าหลายหมื่นคนมาร่วมพัฒนาด้วย ซึ่งทำให้ตัวทีวีสามารถเรียนรู้และปรับแสงสีต่างๆ ให้แสดงผลออกมาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ทั้งภาพของดวงอาทิตย์ในที่สว่างหรือภาพดอกไม้ไฟในที่มืดก็ยังคงชัดเจน และทีวีรุ่นนี้ยังมีความสว่างสูงสุดมากกว่า OLED TV ทั่วไป ถึง 3 เท่าอีกด้วย

Ouyang Zhongcan นักวิชาการของ Chinese Academy of Sciences ได้ยกย่องนวัตกรรมเทคโนโลยีการแสดงผลของ ULED X จาก ไฮเซ่นส์ ไว้ด้วยว่า “เป็นที่วีที่ให้ภาพเหนือกว่า OLED TV และถือเป็น LCD TV ฉบับปรับปรุงที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน”

4. ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและตลาดต่างประเทศ

ยอดขายในตลาด จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเห็นได้ว่าลูกค้าพอใจ สนใจที่จะซื้อสินค้าของเราหรือไม่

ด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยมของ ULED ทำให้ ไฮเซ่นส์ ชนะใจลูกค้าหลายร้อยล้านคนได้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

จากข้อมูลของ Ovi แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เปิดตัว ULED TV รุ่นแรกในปี 2013 ส่วนแบ่งในตลาดสินค้าไฮเอนด์กว่า 10,000 แห่ง ไฮเซ่นส์ได้กินส่วนแบ่งจากแค่ 6.9% ในปี 2013 เพิ่มมาเป็น 26.2% ในปี 2022 ซึ่งเป็นการเติบโตที่ก้าวกระโดดอย่างน่าเหลือเชื่อ

ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ULED TV ของไฮเซ่นส์ ได้ออกวางจำหน่ายทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ในตลาดสำคัญๆ เช่น อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และแอฟริกาใต้ แถมในไตรมาสที่สองของปีนี้ ก็ยังได้ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในส่วนแบ่งการจัดส่งทีวีจากทั่วโลก และยังติดอันดับหนึ่งในสองอันดับแรกของโลกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกด้วย

การที่จะผลิตสินค้าออกมาวางจำหน่ายจริงได้ เป็นสิงที่ต้องใช้เวลา และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเริ่มทำในสิ่งที่แตกต่าง แต่สิ่งที่ยากจริงๆ นั้น คือการที่เราต้องทำสิ่งเดิมซ้ำๆ หลายพันครั้งจนกว่ามันจะออกมาดี

ในด้านของผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมและการพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีนั้น จะต้องแยกพันธมิตรกับเรื่องของความสำเร็จออกจากกันอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่ในส่วนของต้นน้ำจนถึงปลายน้ำในห่วงโซ่ของอุตสาหกรรม

LatePost ได้บอกว่า เราต้องการบริษัทและวัสดุชิ้นส่วนในการผลิตที่ดีที่สุด เพื่อนำมาผลิตให้ได้ในปริมาณมากๆ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าในการผลิต ซึ่งบริษัทเหล่านั้นก็จะต้องให้ความร่วมมือที่ดีในการทำงานร่วมกันอีกด้วย

เช่นเดียวกับ ULED TV “ในส่วนของเทคโนโลยี ULED X นั้นเราต้องขอบคุณเหล่าพันธมิตรของเราที่มีส่วนร่วมในนวัตกรรมนี้” ช่วงสุดท้ายของงานแถลงข่าวในวันที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมา Mr. Yu Zhitao ได้กล่าวขอบคุณกับเหล่าพันธมิตรในวงการอุตสหกรรม เช่น BOE, AUO, Huayuan, Xianxin ที่ได้ร่วมในการพัฒนา ปรับปรุง ลงแรงสุดความสามารถ และร่วมงานกับเรามาตลอดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

และในวันนี้ ทศวรรษใหม่ของทีวี Hisense ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ด้วยการอัปเกรดแพลตฟอร์มเทคโนโลยีการแสดงผล ULED X และการเปิดตัว TV ใน ซีรีส์ U8 ใหม่ล่าสุด

ไฮเซ่นส์ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า เราจะมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพให้ออกมาดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคอนทราสต์ ขอบเขตสีที่สมจริง ความละเอียดภาพที่คมชัด HDR รวมถึงมุมมองการรับชมที่กว้างขึ้น เพื่อให้ได้สินค้าที่ดีที่สุดออกมาให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกัน

ทศวรรษใหม่ ที่โลกต้องใช้ ULED เป็นต้นแบบ

ที่มา : ข่าวประชาสัมพันธ์