11 Apr 2022
News

Hisense U7H สานต่อทีวีระดับตำนาน เจ้าแห่งความคุ้มที่มาพร้อมคุณภาพ ตัวทำตลาดแตกในตระกูล ULED


  • Advertisor

ปัจจุบันแม้ว่าการแพร่ระบาดของโรคจะส่งผลกระทบต่อยอดขายในอุตสาหกรรมทีวีเป็นอย่างมาก แต่ก็เป็นโอกาสให้กับบริษัทได้ทบทวนทิศทางขององค์กรในอนาคต ด้วยการปรับจุดแข็งขององค์กรเพื่อความได้เปรียบในการแข่งขัน เมื่อสภาพแวดล้อมภายนอกเกิดความเปลี่ยนแปลง ยิ่งความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจลดลงมากเท่าไร ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของนวัตกรรมในองค์กรนั้นๆ ได้มากขึ้นเป็นเงาตามตัว ในช่วงต้นปี 2565 สุดยอดทีวีคุณภาพสูง ในซีรีส์ ULED รุ่น U7H ของไฮเซ่นส์ ได้ออกสู่ตลาด เป็นทีวีที่เน้นความคุ้มค่าจับกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการรับชมกีฬาหรือเล่นเกม เรามาดูกันว่าไฮเซ่นส์ U7H รุ่นนี้มีเทคโนโลยีที่แตกต่างจากทีวีทั่วไปอย่างไรบ้าง?

อย่างแรก: U7 ใช้เทคโนโลยี ULED สามารถควบคุมแสงจากหลอดไฟแบล็คไลท์ซึ่งอยู่หลังจอภาพให้หรี่หรือปิดเป็นกลุ่มๆ ได้หลายโซน เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยไฮเซ่นส์ ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมฯ มากกว่า 3 ปี

“U7 ใช้เทคโนโลยี ULED ควบคุมหลอดแสงไฟแบล็คไลท์ที่อยู่หลังจอภาพให้สามารถปิดหรือหรี่เป็นกลุ่มๆ ได้หลายโซน เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยไฮเซ่นส์ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมฯ มากกว่า 3 ปี  U7H เป็นทีวีรุ่นเดียวที่ใช้เทคโนโลยีนี้ในกลุ่มทีวีที่เน้นความคุ้มคาต่อราคา เมื่อเทียบกับคู่แข่งจะต้องเป็นทีวีระดับบนซึ่งมีระดับราคาสูงเท่านั้นถึงจะใช้เทคโนโลยีแบบนี้

ไฮเซ่นส์ U7 ใช้เทคโนโลยีหลอดไฟแบล็คไลท์ที่เรียกว่าฟูลอาเรย์สามารถควบคุมแสงบนหน้าจอได้หลายโซน แม้ว่าจะมีหลอดไฟกำเนิดแสงจำนวนมาก แต่ก็มีความเป็นอิสระต่อกันไม่ทำงานรบกวนกัน ในทีวีระดับไฮเอนด์จะสามารถจัดการหรี่หลอดไฟเหล่านี้เป็นกลุ่มๆส่งผลให้ภาพมีไดนามิกของแสงที่สูงมากขึ้น คุณภาพของภาพก็จะยิ่งดีมากยิ่งขึ้น มีสีที่สม่ำเสมอมากขึ้น มีคอนทราสต์หรือความเปรียบต่างส่วนสว่างและมืดมากขึ้น มีรายละเอียดชัดเจนมากยิ่งขึ้น ยิ่งความเปรียบต่างของแสงในส่วนที่สว่างที่สุดกับส่วนที่มืดที่สุดของหน้าจอทำได้สูงมากขึ้นเท่าไหร่จะส่งผลดี  หรือกล่าวให้เข้าใจง่ายๆ คือตำแหน่งใดของหน้าจอที่ควรสว่าง เทคโนโลยีนี้สามารถเพิ่มความสว่างขึ้นได้ ตำแหน่งใดของหน้าจอที่มืดเทคโนโลยีนี้ก็สามารถควบคุมความดำ และการแสดงรายละเอียดได้ดีมากยิ่งขึ้น

ไฮเซ่นส์ U7H มีการควบคุมแบล็คไลท์ที่แม่นยำ มีคอนทราสต์หรือความเปรียบต่างที่สูง โดยสามารถควบคุมหรี่แสงในระดับต่างๆ ได้มากถึง 4096 ด้วยการควบคุมแสงที่ละเอียดยิ่งขึ้น ส่งผลให้การไล่ระดับสีทำได้ดียิ่งขึ้นในขณะเดียวกันไฮเซ่นส์ U7H ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Cortex-A73 บนพื้นที่เก็บข้อมูล และหน่วยความจำขนาดใหญ่ Ram 3GB และ Rom 8GB ผู้ใช้จะสัมผัสถึงประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานทีวีจากการทำงานที่ลื่นไหลของระบบ

อย่างที่สอง : ทีวี ไฮเซ่นส์ U7H ใช้หน้าจอ 4K 120Hz รองรับ VRR และระบบแทรกเฟรมภาพ มาดูกันว่าจะสร้างความแตกต่างจากทีวีอื่นได้อย่างไร?

อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าในสมัยก่อนอัตราการรีเฟรชของจอทีวี 4K คือ 60Hz นั่นคือ 60ภาพต่อวินาที ในขณะที่จำนวนเฟรมของภาพยนตร์ส่วนมากคือ 24 เฟรม (24 ภาพต่อวินาที) เมื่อเล่นบนทีวี 60Hz อาจทำให้จำนวนเฟรมภาพไม่ลงล็อก (เนื่องจาก 60 หาร 24 ไม่ลงตัว) จึงทำให้เกิดปัญหาการกระจายภาพต่อวินาทีไม่พอดี ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของภาพไม่สม่ำเสมอจึงทำให้เกิดอาการ “เบลอ” ภาพยนตร์ที่เล่นบนจอทีวี 120Hz 4K จึงให้ภาพที่สมูทมากกว่า เนื่องจากจำนวนเฟรมภาพลงล็อกกับ 120Hz (เนื่องจาก 120 หาร 24 ลงตัว) ดังนั้นภาพเคลื่อนไหวจึงมีความเสถียรภาพมากขึ้น และจะไม่มีภาพเฟรมดร็อป หรือภาพเบลอเกิดขึ้น

ไฮเซ่นส์ U7H สามารถซิงค์เฟรมภาพระหว่างอุปกรณ์ต้นทางกับทีวีให้เท่ากันหรือที่รู้จักในชื่อว่า VRR และรองรับ 4K 120HZ เทคโนโลยีนี้สามารถแก้ปัญหาความหน่วงของหน้าจอ ลดการสั่นไหว ทำให้การซิงโครไนซ์ภาพและเสียงมีความราบรื่นมากยิ่งขึ้น ลดการเบลอหรือฉีกขาดของภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไฮเซ่นส์ U7 รองรับ 4K HDR และ 4K 120Hz อัตราการรีเฟรชสูง ในเวลาเดียวกัน รองรับเอาต์พุตสัญญาณ 4K 120Hz และโหมดเกม VRR ระดับมืออาชีพ และได้ดำเนินการร่วมมือกับแพลตฟอร์มเกมบนระบบคลาวด์ เช่น Tencent และ NetEase ที่ได้ชื่อว่ามีความหน่วงต่ำหรือ Ping ที่น้อยกว่า 8ms ผ่านเทคโนโลยีชั้นยอด ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความรวดเร็ว สะดวกสบาย และความเพลิดเพลินด้านภาพและเสียงขั้นสูงสุด

อย่างที่สาม : U7H มาพร้อมระบบปฏิบัติการ VIDAA AI แพลตฟอร์มระดับโลกจากไฮเซ่นส์

ในแง่ของระบบปฏิบัติการ U7 ยังมาพร้อมกับแพลตฟอร์มระดับโลกของไฮเซ่นส์ ระบบปฏิบัติการ VIDAA AI ได้ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับผู้ให้บริการวิดีโอชั้นนำของโลก เช่น Netflix, YouTube และ Amazon รวมถึงแอปพลิเคชันวิดีโอที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นเช่น Rakuten ในยุโรป VUDU ในอเมริกาเหนือ และ Hungama ในอินเดีย ครอบคลุม 183 ประเทศและมากกว่า 60 ภาษา ให้บริการแก่ผู้ใช้ในประเทศและต่างประเทศ

ไฮเซ่นส์ U7H ในฐานะผู้สนับสนุนฟุตบอลโลกปี 2022 อย่างเป็นทางการ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีแทรกเฟรมภาพ AI MEMC รุ่นที่สาม ซึ่งอ้างอิงการประมวลผล MEMC ตามวัตถุโดยเฉพาะ เช่น ลูกบอลขนาดเล็ก รถไฟความเร็วสูง เคอร์เซอร์ ฯลฯ ดำเนินการเรียนรู้และประมวลผล AI แบบเรียลไทม์ เพื่อให้ภาพเป็นธรรมชาติและรับชมสบายตามากยิ่งขึ้น

ไฮเซ่นส์ได้ทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีจอแสดงผล ULED มาเป็นเวลากว่า 6 ปี ด้วยข้อดีในการแสดงผลและความได้เปรียบด้านต้นทุนของเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเอง ไฮเซ่นส์ได้ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมทีวีทั่วโลก ด้วยโรงงานผลิตที่มีการแข่งขันกันอย่างอิสระ เทคโนโลยี ULED ยังคงถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และตำแหน่งของไฮเซ่นส์ในอุตสาหกรรมทีวีจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน

ที่มา : ข่าวประชาสัมพันธ์