เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วกับ iPhone 15 Pro กับ iPhone 15 Pro Max ไปในค่ำคืนที่ผ่านมา ซึ่งก็มีอะไรอัปเกรดมาหลายอย่างเลยทีเดียว โพสต์นี้จะมาสรุปจุดเด่นแบบคร่าวๆ ให้ดูกันครับ
เปลี่ยนวัสดุตัวเครื่องเป็นไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้สร้างยานอวกาศที่มีความแข็งแรงต่อน้ำหนักมาที่สุดในโลหะทั้งหมด ทำให้น้ำหนักเบาขึ้น และเบาสุดในรุ่น Pro ที่ผ่านมา
ใช้ CPU ตัวใหม่สุดแรงอย่าง A17 Pro ที่มาพร้อม CPU 6 Core กับ GPU 6 Core รวมถึงมาพร้อมฟีเจอร์ เรย์เทรซซิ่ง ที่สามารถคำนวนแสงสีต่างๆ เวลาเล่นเกมให้สมจริงมากยิ่งขึ้นเทียบเท่ากับระดับเกมคอนโซลเลยทีเดียว
กล้องก็อัปเดตมาแบบจัดเต็ม พร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ ที่สามารถใช้กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซลคุณภาพสูงถ่ายได้ถึง 3 ระยะ 24 มม., 28 มม., และ 35 มม. มาพร้อมเลนส์ มีความสามารถใหม่ Photonic Engine รวมพิกเซลได้ถึง 24 ล้านพิกเซล พร้อมมีการปรับปรุงให้ถ่ายภาพในที่มืดได้ดีขึ้น ถ่ายภาพแบบบุคคลได้ดีขึ้นด้วย รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 3 มิติ สำหรับใช้ร่วมกับ Apple Vision Pro ได้ และในรุ่น Pro Max จะได้เลนส์ซูมที่มีระยะไกลใหม่ถึง 5 เท่า
มีการเปลี่ยนช่องต่อเป็น USB-C แล้ว โดยจะรองรับความเร็วสูงถึง 10Gb/s ซึ่งจะทำให้สามารถใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ง่ายขึ้น รองรับการชาร์จ 50% ในเวลาประมาณ 30 นาที ด้วยอะแดปเตอร์ ขนาด 20 วัตต์
ปรับเปลี่ยนปุ่มเปิดสั่นให้เป็นปุ่ม Action ที่สามารถเลือกเป็นปุ่มลัดได้ตามใจชอบ เช่น เปิด/ปิด เสียงแบบเดิม, เปิดไฟฉาย, เปิดกล้อง หรือเปิดโหมด Focus
จอภาพเป็น Super Retina XDR พร้อม ProMotion 120Hz ที่ปรับเปลี่ยนอัตรารีเฟชรเรทเพื่อประหยัดพลังงานได้ มีฟีเจอร์ Always On พร้อม Standby Mode ที่เมื่อเราวางตัวเครื่องไวในแนวนอนตอนชาร์จกับแท่นจะสามารถแสดงข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ได้
แบตเตอรี่ใช้ได้นานขึ้น หากเทียบกับการเล่นวีดีโอใช้ได้นาน 23 ชม. บน iPhone 15 Pro และ 29 ชม. บน iPhone 15 Pro Max
ในส่วนของความจุ ตัว Pro ปกติจะเริ่มที่ 128 GB ตัว Pro Max จะเริ่มที่ 256 GB และมีความจุสูงสุดที่ 1TB ทั้ง 2 รุ่น
สำหรับราคา iPhone 15 Pro เริ่มต้นที่ ฿41,900 ส่วน iPhone 15 Pro Max เริ่มต้นที่ ฿48,900 โดยจะเริ่มเปิดจองในวันศุกร์ที่ 15 กันยายนนี้ เริ่มวางขายจริง 22 กันยายนนี้ครับ
