
ถ้าจะพูดกันจริงๆ แล้ว ตอนนี้เทรนด์การจดโน้ตลงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเด็กรุ่นใหม่นั้นค่อนข้างมาแรง ไม่ว่าจะเรียนออนไลน์หรือออฟไลน์ คนรุ่นใหม่ก็ชอบจดลงบนอุปกรณ์ส่วนตัวมากกว่า เพราะขนย้ายสะดวก อัพขึ้นคลาวด์ทีเดียวก็สบายใจ ไม่ต้องกลัวหายหรือเปียกน้ำ ดึงข้อมูลมาใช้ได้ตลอดเวลา เพียงแค่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่สำคัญยังช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่า เพราะการเก็บข้อมูลไว้ในมือถือหรือแทปเล็ตนั้นทำให้ใช้กระดาษน้อยลงมาก ถึงอาจารย์จะเขียนบนกระดาน หรือขึ้นสไลด์ให้ดู แต่เด็กยุคใหม่เลือกที่จะถ่ายรูปเก็บไว้ หรือไม่อย่างนั้นก็แคปหน้าจอ มีน้อยคนมากที่จะนำรูปเหล่านั้นไปพริ้นท์ หรือจดตามใหม่อีกรอบ ส่วนใหญ่ก็เก็บไว้ในเครื่อง แล้วแยกไฟล์ไว้ตามโฟลเดอร์แต่ละวิชา หากใครพอมีสตางค์หน่อย ก็อาจจะนำปากกาอัจฉริยะมาเขียนโน้ตทับลงไปเพิ่ม แต่ราคาสินค้าเหล่านี้ราคาก็สูงพอใช้ได้ อย่าง Apple Pencil นี่มีราคาหลัก 3-4 พันบาท หรือจะเป็นแอนดรอย์ในตระกูลกาแล็คซี่ที่แถมปากกาสไตลัสมาให้ฟรี แต่ราคาค่าเครื่องมือถือหรือแทปเล็ท ก็ขึ้นหลักหมื่นกันเลยทีเดียว ทำให้มีเด็กๆ หลายคนไม่สามารถหาอุปกรณ์ดีๆ มาใช้เสริมระหว่างการเรียนออนไลน์ได้ หรือสไตลัสที่ขายแยกกันทั่วไปที่ราคาไม่สูงมาก ก็มีคุณภาพไม่ค่อยสู้ดีนัก หลักๆ คือเรื่องการเขียนที่ไม่ลื่นไหล อาจจะมีแลค มีดีเลย์บ้าง แต่ที่เป็นปัญหาหลักๆ คือ ใช้งานไม่นานก็พัง แบตเสื่อม ชาร์จไม่เข้า หรือแบตหมดเร็วจนเกินไป

งานนี้ทาง Logitech เขาเห็นถึงปัญหาในจุดนี้ ว่าคนหามาจดบนอุปกรณ์ไอทีกันมากขึ้น และยังมีพื้นที่ว่างให้กับสินค้าใหม่ๆ เข้ามาขอส่วนแบ่งทางการตลาด ทาง Logitech ผู้ช่ำชองในวงการฮาร์ดแวร์คุณภาพสูงมาอย่างยาวนาน จึงเปิดตัวปากกาสไตลัสของตัวเองออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ เหล่านักเรียน นิสิต นักศึกษา เพราะจำเป็นต้องจด ต้องเขียนค่อนข้างมาก ส่วนกลุ่มคนวัยทำงาน ที่ต้องเข้าประชุมบ่อยๆ ต้องจด ขีดๆ เขียนๆ บ่อยๆ ก็ยังสามารถใช้อุปกรณ์ตัวนี้ได้ด้วยเช่นกัน โดยปากกาสไตลัสตัวนี้นั้น มีขื่อว่า Universal Stylus Initiative (USI) เป็นปากกาไตลัสรุ่นมาตรฐานธรรมดาๆ แต่ใช้งานได้แบบครอบจักรวาลเลยทีเดียว ที่สำคัญก็คือ มันถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานกับเจ้า Chromebook ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์มีหน้าตาคล้ายกับลูกครึ่ง ที่มีส่วนผสมระหว่างโน้ตบุ๊คและแทปเล็ตรวมเข้าด้วยกัน เพื่อหวังว่าเด็กๆ จะสามารถนำอุปกรณ์ไปใช้ในห้องเรียนได้จริง เนื่องจากปากกาตัวนี้หาสายชาร์จได้ง่าย ด้วยหัวชาร์จแบบ USB-C และทีเด็ดสุดๆ คงหนีไม่พ้นแบตเตอรี่สุดอึด ที่ชาร์จเต็ม 1 ทีนี่พี่เขาเล่นใช้กันอันไปยาวๆ ถึง 15 วัน โดยค่าเฉลี่ยของการใช้ในแต่ละวัน เขาคำนวณมาว่า อยู่ที่ราวๆ 2.5 ชั่วโมง มาพร้อมกับฟีเจอร์ sleep และ wake ภายในตัว ช่วยทำให้ประหยัดการใช้งานของแบตเตอรี่ ทำให้ใช้งานได้ยาวนาน ลดปัญหาแบตเสื่อมเร็ว และทีขาดไม่ได้เลยก็คือ หากแบตหมอกระทันทัน คุณสามารถชาร์จด่วนใน 30 วินาที แต่สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 30 นาทีอีกด้วย โดยระหว่างที่ชาร์จอยู่ ก็ยังสามารถใช้งานปากกาตัวนี้ได้ตามปกติ
คุณสบบัติเป๊ะเวอร์ขนาดนี้ บอกได้คำเดียวว่า ของมันต้องมีแล้วล่ะ จริงมั้ย? งานนี้เขาจะเริ่มจัดส่งสินค้ากันในเดือนเมษายน 2565 ที่จะถึงนี้แล้ว สนนราคาอยู่ที่ 64.99 ดอลลาร์ต่อ 1 แท่ง หรือประมาณ 2 พันบาทเท่านั้น แต่เงื่อนไขในการซื้อ คือเขาไม่ขายปลีกทีละแท่งล่ะ ถ้าอยากได้ต้องสั่งจองรวมกันเป็นออเดอร์ขนาดใหญ่แทน
ที่มา : theverge.com