หลังจาก Netflix ได้สตรีมเรื่อง The Gray Man มาได้สักพัก ก็ได้รับเสียงตอบรับจากเหล่าบรรดาแฟนๆ หนังเป็นอย่างดี โดยหนังเรื่องนี้มีจุดเด่นตรงที่ต้นทุนการผลิตที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีภาพยนตร์เรื่องใดเคยทุ่มทุนสร้างมาจนถึงปัจจุบันของบริษัท ที่ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทางค่ายเพิ่งจะมาประกาศว่า มีแผนที่จะทำให้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวเป็นหนังเฟรนไชร์ภาคต่อ เทียบชั้นกับหนังดังอย่าง Star Wars และ Harry Potter ซึ่งจะดึงดาราดังอย่าง Ryan Gosling มาร่วมงาน และให้ Joe กับ Anthony Russo กลับมาช่วยกำกับภาพยนตร์ให้ แต่ทาง Netflix ยังไม่ได้ระบุว่าจะเริ่มถ่ายทำเมื่อไหร่ งานนี้ยังได้นักเขียนบทมือดีจาก Zombieland จาก Deadpool อย่าง Paul Wernick และ Rhett Reese มาช่วยงานด้วย ซึ่งทาง Netflix จะนำเสนอมุมมองที่แตกต่างให้กับจักรวาล The Gray Man universe ที่ดูเหมือนเราต้องรอรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคตต่อไป
การที่มงลง The Gray Man ได้กลายเป็นจักรวาลแห่งภาพยนตร์เครือใหม่ขึ้นมาได้ เพราะได้รับคะแนนรีวิวจากผู้ชมสูงมากถึง 91 เปอร์เซ็นต์บน Rotten Tomatoes และเป็นหนังเปิดตัวอันดับหนึ่งของ Netflix ใน 92 ประเทศทั่วโลกเมื่อวันที่ปล่อยครั้งแรกแล้ว และอีก 2 วันต่อมา ก็มีจำนวนชั่วโมงที่ผู้คนชมหนังเรื่องนี้ผ่านสตรีมมากถึง 88.55 ล้านชั่วโมงเลยทีเดียว
งานนี้ Netflix ทุ่มสุดให้กับ The Gray Man เหมือนอย่างที่เคยทุ่มสร้างภาคต่อให้กับ A Stranger Things, Squid Game, Bridgerton และ The Witcher มาแล้ว เรียกได้ว่าผู้นำผลงานหนังในกระแสที่โดนใจผู้คนยุคใหม่ได้เต็มหัวใจ ก็ต้องยกตำแหน่งนี้ให้ Netflix เขาล่ะ แต่มันก็น่าแปลกใจ ว่าทำไมยอดผู้สมัครสมาชิกของ Netflix ถึงได้ลดลงมาก สวนทางกับความนิยมและคุณภาพของหนังดีๆ ที่ทางค่าย Netflix ได้ผลิตออกมาอย่างน่าประหลาดใจ
ที่มา : engadget
