16 Jul 2020
Review

รีวิว Samsung QLED TV ขนาด 55 นิ้ว รุ่น Q60T ทีวีระดับกลางสุดคุ้ม ได้ Dual LED มี eARC แล้ว!


  • Dear_Sir

ถ้าใครติดตาม Samsung ตั้งแต่เปิดตัวไลน์อัพ QLED TV เป็นต้นมา ก็จะพบว่าแต่ละปีมีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่อง และปีนี้ก็เพิ่มความโดดเด่นยกความสามารถจากรุ่นก่อนมากขึ้น ขนาดรุ่นเริ่มต้นอย่าง Q60T และ Q65T ที่เอามารีวิวในคราวนี้ไม่ว่าจะเรื่องภาพ หรือฟีเจอร์ รวมไปถึงราคาก็ถูกอก ถูกใจสุดๆ เชื่อได้เลยว่าถ้าใครได้อ่านรีวิวนี้ต้องอยากไปสอย Q60T/Q65T มาไว้ในบ้านอย่างแน่นอน

Samsung Q60T/Q65T สเปคเบื้องต้น

-ความละเอียด 4K (3840 x 2160)

-รองรับ HDR10, HDR10+, HLG

-รองรับ HDMI eARC

-เทคโนโลยีใหม่ Dual LED

-HDMI x 3

-USB x 2

-Wi-Fi Built-in, Ethernet

-มี eARC

-ราคาเปิดตัว 26,990 บาท

ดีไซน์

ในปีนี้ QLED TV มีรหัสเริ่มต้นคือ Q60T และ Q65T ทั้งสองจะมีเสปคเดียวกัน ตำแหน่งช่องต่อ ปุ่มฮาร์ดคีย์ หรือแม้แต่การดีไซน์ก็จะเหมือนกันทั้งหมด แต่จะแตกต่างในเรื่องของสีตัวเครื่องภายนอก โดยตัว Q60T เป็นสีดำด้าน ส่วนตัว Q65T เป็นสีเงินไทเทเนี่ยม ซึ่งสาเหตุที่ทำมาสองสีก็เพื่อเปิดทางเลือกให้กับผู้บริโภคตัดสินว่าชอบสีแบบไหนมากกว่ากัน

Samsung Q60T
Samsung Q65T
ด้านล่างใต้โลโก้จะมีปุ่มฮาร์ดคีย์ควบคุมเครื่อง
ขาตั้งทรงกิ่งไม้เสียบเข้ากับตัวเครื่องได้เลย ไม่ต้องใช้น็อต
ภาพตัวเครื่องด้านข้างของทั้ง Q60T และ Q65T

กลุ่มช่องต่อของ Samsung Q60T/Q65T แบ่งออกเป็นสองส่วนจัดอยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่อง ส่วนแรกคือช่องต่อด้านข้างอย่าง HDMI และ USB ที่จำเป็นต้องมีการเสียบใช้งานบ่อยๆ ส่วนที่สองคือพวก Optical, LAN และ AV เป็นต้น เป็นประเภทช่องต่อที่มักจะเสียบคาไว้ตลอด ถึงปีนี้จะได้ HDMI ลดน้อยลงกว่าเดิม 1 ช่อง แต่ก็ได้ eARC มาแทน 

กลุ่มช่องต่อด้านข้าง
กลุ่มช่องต่อด้านหลัง

ช่องต่อทั้งหมดของ Samsung 55Q60T/Q65T

– HMDI x 3 (1 eARC)

– USB x 2

– Optical Digital

– Antenna

– AV In

– Ethernet

– Wi-Fi Built-in

* ภายในถุงคู่มือรุ่นนี้จะให้ตัวล็อกสายสัญญาณมาให้ด้วยสองตัว สามารถนำไปติดตั้งลงบนขาตั้งด้านหลังของตัวเครื่องเพื่อใช้จัดการสายสัญญาณต่างๆ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ 

กิ๊บล็อกสายสัญญาณ
เก็บสายได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

รีโมทคอนโทรลให้มาด้วยกันถึงสองแบบ แบบแรกคือรีโมทคอนโทรลธรรมดา มีปุ่มควบคุมสั่งการอยู่มากมาย แบบที่สองคือวันรีโมท (One Remote) ที่มีปุ่มควบคุมน้อยกว่าแต่ก็สามารถใช้สั่งงานได้ครบครัน แถมยังมีความสามารถควบคุมอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ที่เชื่อมต่อเข้ากับทีวีได้ด้วย เช่น เครื่องเล่น Blu-ray Player เป็นต้น

One Remote รีโมทเดียวคุมได้ทุกอย่าง!
ตัวอย่างการใช้ One Remote ในการคุม 4K Blu-ray Player