22 Jun 2013
Review

รีวิว Samsung UA55F8000 Full HD 3D Smart LED TV [2013]


  • ชานม

Full HD 3D LED Smart TV Samsung UA55F8000

So smart and vivid, its TV reinvented !!

เมื่อมองย้อนกลับไป ต้องยอมรับว่าผู้ที่จุดกระแสให้คำว่า “Smart TV” โดดเด่น และมีความหมายชัดเจนขึ้นในสายตาผู้บริโภค คงไม่มีใครทำได้เกิน Samsung และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2012 ที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวสำคัญเรียกว่าก้าวกระโดดที่พลิกโฉมนวัตกรรมการควบคุมทีวี โดยไม่จำเป็นต้องพึงอุปกรณ์อื่นใด แต่อาศัยเพียงตัวผู้ใช้เอง ไม่ว่าจะเป็นท่าทาง เสียง หรือใบหน้า ที่เรียกว่า Smart Interaction ได้เป็นเจ้าแรก และก็ทำได้ดีเกินคาด ถึงแม้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น มีอีกหลายอย่างที่ต้องปรับปรุง แต่ถือเป็นการริเริ่มที่น่าสนใจมาก 


Smart TV in action !


มาถึงปี 2013 ทาง Samsung ได้สานต่อแนวคิด Smart TV ในรูปแบบของตนเองเอาไว้เช่นเดิม แต่พัฒนาให้ดีขึ้น และเสริมสิ่งใหม่ที่สนับสนุนให้การใช้งานให้สะดวกมากขึ้น มาดูกันว่า ผ่านรุ่นท็อปของ Full HD 3D Smart LED TV ในปีนี้ คือ F8000  Series 

ดีไซน์

เริ่มกันด้วยดีไซน์ ซึ่งเป็นจุดที่สังเกตการเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายที่สุด ซึ่งปีนี้ Samsung ดูจะจัดหนักกับลูกเล่นของฐานเยอะเป็นพิเศษ เรียกว่า จัดหนักกว่าปีก่อน เพราะลามไปถึงซี่รี่ส์ระดับรองๆ ลงมาด้วย โดยดีไซน์ฐานได้หวือหวา เรียกว่าแทบจะไม่ซ้ำกันในแต่ละซีรี่ส์ (บางทีซีรี่ส์เดียวกันแต่คนละรุ่น ดีไซน์ฐานยังไม่เหมือนกันเลย) ซึ่งก็ดูหลากหลายดี แต่ด้วยความที่เยอะแบบจัด ก็ทำเอาสับสนพอสมควรกับการแยกแยะซีรี่ส์ และบางทีดีไซน์รุ่นเล็กกลับดูสวยกว่าซีรี่ส์ใหญ่กว่าซะงั้น

สำหรับ F8000 ซึ่งถือเป็นรุ่นสูงสุดสำหรับ Full HD LED TV ณ ปัจจุบัน เชื่อขนมยายกินได้ว่าความงดงามของรูปลักษณ์ย่อมไม่ธรรมดา และแน่นอนว่าฐานตั้งโลหะชุบโครเมียมเงาวับ ทรงโค้งมน ยังเป็นจุดที่โดดเด่นเตะตามากที่สุดเช่นเคย เมื่อผนวกกับจอภาพที่บางเฉียบยิ่งขึ้น ทั้งความหนาโดยรวม และกรอบจอ เชื่อว่าตั้งที่ไหนก็คงเรียกความสนใจได้เสมอ

ผมพยายามค้นรายละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดการออกแบบรูปทรงของรุ่น F8000 แล้ว แต่ไม่เจอ กระนั้นเพียงแค่เห็น เชื่อว่าจะทำให้หลายท่านหลงใหลได้ง่ายๆ แล้วแหละ
การปรับปรุงลงรายละเอียดปลีกย่อย อย่างการติดตั้งกล้องเว็บแคมฝังมากับตัวทีวี ทำได้กลมกลืน ลงตัวกว่าเดิม และในรุ่นใหม่ยังสามารถหดพับเก็บได้ด้วย ซึ่งจะเป็นการปิดใช้งาน Motion Control ไปโดยอัตโนมัติ
โลโก้ Samsung เรืองแสงได้ ที่บริเวณกึ่งกลางด้านล่างของจอภาพอันคุ้นเคยกันดีจาก ES8000 ปีที่แล้ว พอมาเป็น F8000 ก็ยังมีอยู่เช่นเดิม ทว่าขนาดโลโก้เล็กลงไปมาก หากตั้งคู่กันระหว่างรุ่นเก่า กับรุ่นใหม่ จึงดูว่าความโดดเด่น ชัดเจนของคำว่า Samsung จะน้อยกว่ารุ่น ES8000 อยู่พอสมควร แต่เชื่อว่าแค่เห็นดีไซน์ ไม่มองชื่อแบรนด์ ก็คงจดจำเอกลักษณ์ของ Samsung กันได้แล้วแหละ (แต่พักหลังก็เห็นมีทีวียี่ห้ออื่นเลียนแบบดีไซน์คล้ายกันไปมาเยอะเหมือนกันนะ)
มาดูด้านหลังกันบ้าง ต้องบอกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าด้านหน้าเสียอีก! ปีนี้ Samsung ให้ความสำคัญกับด้านหลังมากเป็นพิเศษ หากจะตั้งหันหลังโชว์ก็ยังได้เลยเนี่ย ทั้งวัสดุบนแผ่นหลังที่ดูหรูหรา (ออกกึ่งเงา) และลักษณะรูปทรงของฐาน ที่รับกับการออกแบบจุดยึดเข้ากับตัวทีวี ดูสอดคล้องกลมกลืนดีมากทีเดียว
เมื่อนำฝาออก จะเห็นช่องต่อต่างๆ ดังรูปนี้ ซึ่งฝาปิดที่ว่า ยึดกับตัวทีวีด้วยแรงแม่เหล็กอ่อนๆ จึงสามารถดึงออก หรือแปะกลับเข้าไปใหม่ได้ง่ายๆ ซึ่งเมื่อเสียบสายต่างๆ แล้ว ฝาก็ยังปิดได้ครับ ไม่ได้ติดขัดอะไร
สวิทช์เพาเวอร์ ปุ่มเพียงปุ่มเดียวบนทีวีเครื่องนี้ โดยทำหน้าเปิด-ปิดการทำงาน และใช้ควบคุมเป็นปุ่มทิศทางเลื่อนลำดับตัวเลือก เปลี่ยนช่อง เปลี่ยนอินพุต ปรับระดับวอลลุ่ม กดเรียกเมนู ฯลฯ ได้ในตัว ด้วยโครงสร้างแบบจอยสติ๊ก ดังที่คุ้นเคยกันดีจากรุ่นก่อน (ES8000) แต่จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ปุ่มไปสักนิด โดยปุ่มเปลี่ยนเป็นสี่เหลี่ยมแทนวงกลมเดิม
รีโมตคอนโทรลพื้นฐานแบบ IR หน้าตาเดิมๆ ที่คุ้นเคย
ในรุ่นก่อน (ES8000) ทาง Samsung ได้ติดตั้งภาครับสัญญาณ Bluetooth เอาไว้ภายในตัวทีวี แน่นอนเมื่อเป็น F8000 ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม อานิสงส์สำคัญอย่างแรก ของมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายนี้ คือ การใช้งานร่วมกับ Touch Pad Remote (มีให้มาในกล่อง) อันเป็นตัวช่วยให้การใช้งาน Smart TV สะดวกกว่ารีโมตปกติ

การเลื่อนเลื่อนเคอร์เซอร์จะได้ง่ายกว่า อีกทั้งยังมีไมค์รับเสียงสำหรับใช้งานฟังก์ชั่น Voice Control อีกด้วย พูดผ่านรีโมตได้ ไม่ต้องแหกปากตะโกนใส่ทีวีอย่างเดียวนะ อิ อิ หรือแม้แต่ใช้งานฟังก์ชั่นปกติ เช่น เพิ่ม-ลดเสียง เปลี่ยนอินพุต เข้าเมนูปรับภาพ Smart Hub ฯลฯ ก็ทำได้ ซึ่งด้วยการส่งสัญญาณวิทยุแบบ Bluetooth จะนั่งมุมไหน ท่าอะไรก็สั่งได้ ไม่จำเป็นต้องหันรีโมตตรงไปที่ทีวีเหมือนรีโมต IR

หมายเหตุ: ก่อนใช้งาน Touch Pad Remote ต้องทำการ Paring รีโมตกับทีวีก่อน โดยเปิดสวิทช์ทีวี ถอดฝาช่องใส่แบ็ตเตอรี่ด้านหลังของรีโมตออก จะเห็นปุ่ม Pair ให้กดปุ่มซะ จากนั้นทีวีจะซิงค์สัญญาณกับรีโมตเองโดยอัตโนมัติ

3D Active Glasses รูปทรงคุ้นเคยเหมือนเดิมอีกเช่นกัน เทียบกับแว่นแอ็คทีฟของยี่ห้ออื่นๆ แล้ว พูดได้เลยว่าของ Samsung ดูกะทัดรัด ไม่เทอะทะ แม้รวมน้ำหนักแบ็ตฯ แล้ว ก็ยังเบามาก ตำแหน่งช่องใส่แบ็ตฯ อยู่กึ่งกลาง มีสวิทช์เพาเวอร์อยู่ด้านบน