11 Jul 2016
Review

รีวิวหนัง Finding Dory ผจญภัยดอรี่ขี้ลืม


  • lcdtvthailand

เรื่องย่อ : ปลาบลูแทงค์ขี้ลืมขวัญใจของทุกคนกลับมาอีกครั้ง ดอรี่ (ให้เสียงโดย เอเลน ดีเจเนอเรส) ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในประการังกับนีโม (ให้เสียงโดย เฮย์เดน โรเลนซ์) และมาร์ลิน (ให้เสียงโดย อัลเบิร์ต บรูคส์) แต่อยู่ดีๆดอรี่ก็จำได้ว่าเธอมีครอบครัวที่อาจจะตามหาเธออยู่ที่ไหนซักแห่ง การผจญภัยเปลี่ยนชีวิตของทั้งสามจึงเริ่มขึ้น จากการเดินทางข้ามมหาสมุทรไปสู่สถาบันวิจัยทางทะเล ศูนย์พักฟื้นและอควาเรี่ยมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแคลิฟอร์เนีย ในการพยายามตามหาแม่ (ให้เสียงโดย ไดแอน คีตัน) และพ่อ (ให้เสียงโดย ยูจีน เลวี่)ของเธอ ดอรี่ได้รับการช่วยเหลือจาก 3 ผู้อยู่อาศัยสุดป่วนของสถาบันวัจัยฯซึ่งได้แก่ แฮงค์ (ให้เสียงโดย เอ็ด โอ’นีล) ปลาหมึกขี้หงุดหงิดที่ชอบแกล้งเหล่าพนักงานให้ลื่นล้ม, เบลี่ย์ (ให้เสียงโดย ไทร์ เบอร์เรล) วาฬเบลูก้า ที่คิดว่าทักษะในการหาตำแหน่งด้วยเสียงเอคโค่ของเขาไม่ทำงาน และเดสทินี่ (ให้เสียงโดย เคทลิน โอลสัน) ฉลามวาฬสายตาสั้น จากการตะลอนผจญภัยในสถาบันวิจัยอันซับซ้อน ทำให้ดอรี่และผองเพื่อนได้ค้นพบความมหัศจรรย์ภายในข้อบกพร่อง, มิตรภาพ, และความเป็นครอบครัวของพวกเขา

บทวิจารณ์ : ต้องบอกก่อนเลยว่าเราเกือบจะพลาดหนังดีประจำเดือนไปซะแล้ว แต่สุดท้ายก็ได้ดูจนได้ Finding Dory นั้นเป็นภาพยนตร์ที่ดูได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ ขนาดเราเป็นวัยทำงานแล้วก็ยังรู้สึกประทับใจกับตัวหนังเรื่องนี้ ต้องขอขอบคุณจริงๆ ที่สร้างหนังดีๆ แบบนี้ออกมา แรกเริ่มเดิมทีเราว่าหนังเรื่องนี้น่าจะทำออกมาให้เด็กดู เพราะเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วมีเรื่อง Finding Nemo ออกมาจนเป็นกระแสอยู่พักใหญ่ แต่ตัวละครที่ชื่อว่า ดอรี่ (Dory) นั้นไม่ค่อยมีบทบาทสำคัญเท่าไหร่ แถมยังมีบุคลิกที่น่ารำคาญอีกด้วย แต่หนังภาคนี้กลับทำออกมาได้ดี และเปลี่ยนทัศนคติของเราไปเลยทีเดียว เพราะตอนที่นีโมกับมาร์ลีนมีปัญหา พวกเขาก็แก้ปัญหาด้วยวิธีแบบดอรี่ จนทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

ชื่อหนังเรื่องนี้ก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่าเจ้าดอรี่นี่ขี้ลืมเอามากๆ แต่ก็เป็นปลาที่มีความพยายาม เหมือนกับคนที่มีไฟในชีวิต ถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่สมบูรณ์และมีอุปสรรค แต่ก็ไม่ย่อท้อที่จะแก้ปัญหา ดอรี่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาหาพ่อแม่จนเจอ ถึงแม้ว่าใครหลายคนอาจจะบอกว่าชีวิตจริงมันไม่ได้มีตอนจบสวยหรูแบบในการ์ตูนหรอกนะ แต่ถ้าคุณไม่เริ่มลมมือทำ แล้วเมื่อไหร่ความสำเร็จจะมาถึง เหมือนคำที่เหล่า Startup รุ่นใหม่ชอบให้กำลังใจกันว่า

“ถ้าคุณเริ่มทำอะไรตอนที่ยังไม่พร้อม โอกาสสำเร็จมี 50% แต่ถ้าคุณไม่เริ่มทำอะไรสักอย่าง โอกาสสำเร็จจะกลายเป็น 0%”

หนังเรื่องนี้ทำให้เรานึกถึงคำพูดนี้ขึ้นมา ซึ่งดอรี่ก็ตอกย้ำว่าเธอพยายามตามหา และถามข้อมูลจากปลาทุกตัวที่เธอรู้จักและได้พบเจอ จนในที่สุดก็ได้ข้อมูล และออกเดินทางตามหาพ่อแม่ ดอรี่เรียนรู้ตลอดเวลา และเธอก็มีความกล้าอย่างไม่น่าเชื่อ เรามั่นใจว่าถ้าใครกำลังท้อแท้กับเรื่องอะไรอยู่ก็ตามแล้วได้มาดูหนังเรื่องนี้ น่าจะมีกำลังใจขึ้นอีกเยอะ ในส่วนของกราฟฟิกมีอไม่ได้ตกลงไป เพียงแต่ไม่ค่อยเห็นเทคนิคอะไรใหม่ๆ เท่าใดนัก ข้อดีอีกอย่างที่พบคือภาพคมชัดมากขึ้น และสีดูละมุนตามากกว่าเดิม โดยส่วนตัวชอบเพลงที่ใช้ประกอบระหว่างเดินเรื่อง เสียงเพลงคลอในระดับที่กำลังดี และช่วยทำให้เรื่องดูน่าติดตามมากขึ้น ตอนนี้หนังยังไม่ออกจากโรง ใครสนใจลองไปดูได้เลย รับรองไม่เสียดายเงินแน่นอน

สรุป : Finding Dory ภาพยนตร์การ์ตูนที่ให้แง่คิดกับผู้ใหญ่ และให้ความสนุกสนานแก่เด็กเรื่องนี้ ควรแค่แก่การเข้าชมเป็นอย่างยิ่ง สุดท้ายอยากจะบอกทุกคนว่า “ถ้าเราไม่สิ้นหวัง หนทางข้างหน้าก็ยังมี” เราเชื่อว่าพรุ่งนี้เช้าพระอาทิตย์ก็ยังต้องขึ้น ก็เหมือนกับโอกาสใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตของพวกเราทุกคน และอย่าลืมว่าลอง “คิดแบบดอรี่” ดูสักที แล้วคุณจะสู้ต่อไปได้อีกไกล

คะแนน : 8.5/10