09 Sep 2016
Review

รีวิวหนัง Alice Through the Looking Glass – อลิซ ผจญมหัศจรรย์เมืองกระจก


  • lcdtvthailand

เรื่องย่อ : หนัง Alice Through the Looking Glass หรือชื่อไทยว่า อลิซ ผจญมหัศจรรย์เมืองกระจก อลิซ คิงส์ลีย์ (วาซิคอฟสกา) ใช้เวลา 2-3 ปีที่ผ่านมาเดินตามร้อยเท้าของพ่อออกเดินเรือไปสู่ทะเลกว้าง ระหว่างเดินทางกลับสู่ลอนดอนเธอได้พบกับกระจกมหัศจรรย์และได้กลับไปอาณาจักรมหัศจรรย์แห่งวันเดอร์แลนด์และเพื่อนของเธอ กระต่ายขาว (ชีน), แอ๊บโซเล็ม (ริคแมน), แมว เชสเชอร์ (ฟราย) และแมด แฮทเทอร์ (เดปป์) ที่ตอนนี้ไม่ได้เป็นตัวของเขาเอง แฮทเทอร์ได้สูญเสียลูกบ้าของเขา มิราน่า (แฮทธาเวย์) จึงส่งอลิซออกเดินทางเพื่อไปขอยืม โครโนสเพียร์ – เครื่องย้อนเวลา โลหะทรงกลมภายในหอนาฬิกากลาง ที่ให้พลังกับทุกเวลา การเดินทางย้อนเวลาทำให้เธอได้พบกับเพื่อน และศัตรู ในช่วงเวลาต่างๆของชีวิตพวกเขา และต้องแข่งกับเวลาเพื่อที่จะช่วยแฮทเทอร์ก่อนที่เวลาจะหมดลง

บทวิจารณ์ : ตอนแรกที่ดูตัวอย่างหนังก็ชั่งใจอยู่ว่าจะไปดูดีไหม ก็เพราะว่าหนังภาคแรกทำออกมาได้งงมากๆ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไปดู ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะอยากติดตามผลงานของจอนนี่ เดปป์ ระหว่างรอหนังภาคต่อไปของ Pirate of the Caribbean ซึ่งพี่แกก็แสดงบทบาทออกมาได้ดีมากๆ ลูกบ้ายังเหลือเฟือเหมือนเดิม  เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างโดยวอลต์ ดิสนีย์ เนื้อหาจึงออกแบบมาให้เด็กๆ สามารถดูได้ และมีแง่คิดสอนใจ สำหรับเราแล้วหนังเรื่องนี้วางโครงเรื่องได้ดี ถึงแม้ว่าในช่วงแรกๆ เหตุการณ์จะดูสับสนอลม่านไปอยู่สักนิด

แต่สุดท้ายเรื่องราวก็คลี่คลาย เพราะความกล้าหาญของอลิซ และการให้อภัยของราชินีโพธิ์แดง นอกจากนี้ยังช่วยสอนให้เด็กๆ ยอมรับความผิดในสิ่งที่ตนทำเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเรื่องเล็กน้อย ก็อาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้เช่นกัน สิ่งที่เราประทับใจมากที่สุด น่าจะเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของดารา ที่จัดเต็มกันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า โดยเฉพาะอลิซ งานนี้คงจะต้องยกความดีความชอบให้กับฝ่ายคอสตูม ที่สรรสร้างเสื้อผ้าได้ แปลก แหวก และต่าง สมกับเป็นโลกในจินตนาการอีกใบ นอกจากนี้เพลงประกอบละครก็ช่วยเร้าอารมณ์ได้ดีไม่น้อย แต่ตัวที่ทำให้หนังเรื่องนี้ออกมาสมบูรณ์มากที่สุด ก็ต้องยกให้ฝ่ายกราฟฟิกและสเปเชียลเอฟเฟค ที่ทำออกมาได้เนียน และน่าติดตาม ดูแล้วมีเสน่ห์ ทำให้อยากดูใหม่อีกสักรอบสองรอบ

สรุป : ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูสนุก แถมยังทำให้ความสงสัยที่ติดค้างจากหนังภาคแรกหมดลง เรียกได้ว่าดูจบแล้วสบายใจ ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดี ส่วนใครที่อยากดูเอาเพลินก็ถือว่าคุ้มค่าในระดับหนึ่ง เพราะเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละครจัดเต็มจริงๆ ทั้งคอมพิวเตอร์กราฟฟิกและสเปเชียลเอฟฟคก็ทำออกมาได้ตื่นตาตื่นใจ ใครที่ชอบหนังแนวแฟตาซีไม่ควรพลาด

คะแนน : 7.5/10