หลังจาก Sony ได้จับมือกับ Google ในการร่วมกันพัฒนา Android TV แท้ๆขึ้นมาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแสของทีวีแบรนด์นี้ก็ยิ่งกลับแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเพราะระบบปฏิบัติการ Android นั้นคือ “ของจริง” แห่งระบบ Smart TV ทั้งหมดทั้งมวล ทั้งคุณภาพและปริมาณของตัวแอพส์ ประจวบเหมาะกับเทคโนโลยีด้านภาพอย่าง 4K HDR ที่เติบโตเต็มที่จากวัยขบเผาะมาเข้าสู่ยุค 4K Era อย่างแท้จริง ก็จัดว่าช่วยตีคู่กันมาทำให้ความคึกคักกลับมาสู่แบรนด์ทีวีจากแดนปลาดิบแบรนด์นี้อีกครั้ง
ทีวีที่ผมได้มาทดสอบคือ Sony 55X9000E เป็น 4K HDR LED TV ขนาด 55″ จัดว่าเป็น Series 9 รุ่นรองท็อปจาก X9300E ซึ่งหลายท่านให้ความสนใจพอสมควร ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 56,990 บาท ในขณะที่ขนาดใหญ่ 65″ ราคาจะกระโดดไปอยู่ที่ 91,990 บาท
Sony KD-55X9000E
– 4K Ultra HD
– HDR10
– 4K HDR X1 Video Processor
– Direct LED with Local Dimming
– Silver Edition Design
– HDMI x 4
– USB x 2
– Android TV 7.0 Nougat
ขนาดและน้ำหนัก
ขนาดไม่รวมขาตั้ง 1228x707x60 ซม.
ขนาดรวมขาตั้ง 1228x772x259 ซม.
น้ำหนักรวมขาตั้ง 18.1 ก.ก.
ราคาเปิดตัว 56,990 บาท
ดีไซน์
ดีไซน์ของ Sony KD-55X9000E ยังคงคอนเซปต์ “Slice of Living” แบบเรียบแต่หรูโดยอ้างอิง “รูปทรงเรขาคณิต” ไม่ว่าจะเป็นทรงสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม เมื่อติดตั้งไว้ในห้องนั่งเล่นก็จะดูกลมกลืนไปกับเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของกระจุ๊กกระจิ๊กทันที ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ กรอบรูป หนังสือ ชั้นวาง และอื่นๆ ที่ประดับอยู่ในห้อง ตัวกรอบและฐานตั้งมีดีไซน์สีเงินแบบใหม่ มีชื่อเรียกเก๋ๆว่า “Silver Edition” หากเจอแสงอาทิตย์ตกกระทบจะเปลี่ยนเป็นสีทองอ่อน (ดูไฮโซไม่เบา) ซึ่งฉีกหนีจากแนวกรอบดำเดิมๆไปพอสมควร ตัวเครื่องด้านข้างก็จัดว่าบางกำลังดี ไอ้ประเภทบางเฉียบจนเกินไปนี่บอกตามตรงว่าเวลายกประกอบนี่เสียวหักกลางทุกที สุดท้ายคือรีโมทคอนโทรลทรงเดิมอนุรักษ์นิยมสุดๆ พร้อมปุ่มรูปไมโครโฟนสำหรับฟังก์ชั่นค้นหาด้วยเสียง Voice Search และปุ่มลัดอย่างพวก Netflix เพื่อให้เข้าสู่แอพยอดฮิตได้อย่างรวดเร็ว
ช่องต่อ
ช่องต่อของ Sony KD-55X9000E ให้มาครบถ้วนเหมาะกับการเป็นทีวีซีรีส์ระดับบน อย่างช่อง HDMI ก็จัดเต็มมา 4 ช่อง, USB 2 ช่อง, ช่องต่อ Antenna สำหรับดิจิตอลทีวี, และช่องต่อ Optical Out สำหรับชุดเครื่องเสียงภายนอกเพิ่มเติม (หรือจะใช้ HDMI ARC ช่อง 3 ก็ได้เช่นกัน) รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทั้งแบบมีสายและไร้สาย รองรับการเชื่อมต่อเมาส์และคีย์บอร์ดไร้สายผ่าน Bluetooth และล่าสุดนี้ก็รองรับการเชื่อมต่อหูฟัง Bluetooth พร้อมส่งเสียงจากทีวีมาเล่นบนหูฟังแบบส่วนตั๊วส่วนตัวไม่กวนใคร !
– HDMI x 4
– USB x 2
– AV x 1 (ใช้ร่วมกับ Component)
– Component x 1 (ใช้ร่วมกับ AV)
– Antenna in x 1
– Optical Out x 1
– LAN x 1
– รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สาย
หมายเหตุ
หากจะเชื่อมต่อเครื่อง 4K Ultra HD Player เพื่อให้รองรับภาพความละเอียดสูงสุด 4K/60Hz 10 Bit ต้องไปเปิด Enhanced Format ให้ HDMI ช่องที่ 2 และ 3 ก่อนโดยไปที่ External Input=> HDMI Signal Format => แล้วเลือก Enhanced Format เท่านี้ทีวีของท่านก็พร้อมที่จะรองรับสัญญาณ 4K แรงๆเป็นที่เรียบร้อย