19 Oct 2017
Review

รีวิว Acer V9800 โปรเจ็คเตอร์ 4K HDR รุ่นใหญ่ ในราคาต่ำกว่าทีวีตัวท็อป 65 นิ้ว !!


  • ชานม

Hi-End Home Theater Projector

Acer V9800

โปรเจ็คเตอร์ 4K HDR รุ่นใหญ่
ในราคาต่ำกว่าทีวีตัวท็อป 65 นิ้ว !!

เมื่อความละเอียด 4K กลายเป็นมาตรฐานของคอนเทนต์ภาพยนตร์ในปัจจุบัน เราจึงสามารถหามารับชมได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับท่านที่ต้องการรับชมในอารมณ์เดียวกับโรงภาพยนตร์บนจอฉายขนาดใหญ่ผ่านโปรเจ็คเตอร์ที่ให้ความละเอียดสูงระดับ 4K นั้น กลับยังดูห่างไกลสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปเพราะราคายังสูงอยู่มาก โอกาสจะได้ภาพที่ดีระดับ รุ่นท็อป ยิ่งเป็นไปได้ยาก แต่เมื่อเทคโนโลยี 4K มาอยู่ในมือของ Acer อะไรก็ดูจะง่ายขึ้น…

Acer ผู้ผลิตสินค้าไอทียักษ์ใหญ่แห่งไต้หวันทำตลาดโปรเจ็คเตอร์มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในหมวดโปรเจ็คเตอร์เพื่อการศึกษาและใช้ในสำนักงาน ส่วนโฮมเธียเตอร์โปรเจ็คเตอร์นั้น เริ่มบุกตลาดจริงจังเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง แต่ต้องถือว่าเป็นหน้าใหม่ที่มาแรงแซงทางโค้งมากๆ เพราะปัจจุบัน Acer กลายเป็นแบรนด์ลำดับต้นๆ ที่พร้อมเปิดตัวโฮมเธียเตอร์โปรเจ็คเตอร์ที่รองรับเทคโนโลยีการแสดงผล 4K HDR เป็นที่เรียบร้อย!

แน่นอนด้วยความสามารถที่กล่าวมาทั้งความละเอียด 4K และการแสดงผลแบบ HDR ส่งให้โฮมเธียเตอร์โปรเจ็คเตอร์เครื่องนี้กลายเป็น “ตัวท็อป” (ล่าสุดมีรุ่น VL-7860 4K Laser Projector ราคาสูงกว่าออกมาแล้ว) ของ Acer ภายใต้ชื่อรุ่น V9800 ที่สำคัญราคาค่าตัวไม่สูงมากด้วยครับ (ใบ้ให้ว่าราคาต่ำกว่า 4K HDR TV ขนาด 65 นิ้ว บางรุ่นเสียอีก)…

เห็นแล้วพี่อึ้ง ฉายใกล้ จอใหญ่ 120นิ้ว ในงบ 30,000บาท ด้วย Acer Home Theater Projector (งานบรรยายประจำปี 2558)

ก่อนจะพูดถึง Acer V9800 4K HDR Projector รุ่นล่าสุด ขอย้อนความกันสักนิด หากยังจำกันได้ ทีมงาน LCDTVTHAILAND เคยร่วมกับทาง Acer จัดงานเปิดตัว H7550ST โฮมเธียเตอร์โปรเจ็คเตอร์เครื่องแรกที่ทาง Acer ทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2558 สามารถอ่านรายละเอียดและรับชมคลิปบรรยากาศภายในงานได้ที่ลิงค์ด้านบนเลยครับ

ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ Acer ลงคุณสมบัติของรุ่นนี้ไว้เพียงคร่าวๆ อย่างไรก็ดีเมื่อดูจากโหงวเฮ้ง V9800 แล้วไม่ธรรมดา โครงสร้างดูใหญ่โต แน่นหนา สมกับดีกรีโฮมเธียเตอร์โปรเจ็คเตอร์รุ่นเรือธง
สำหรับท่านที่สงสัยว่า V9800 เป็น 4K Projector ที่ใช้เทคโนโลยีการแสดงผลแบบใด? ถึงแม้ Acer ไม่ได้ลงข้อมูลชัดเจนมากนัก แต่พอจะคาดเดาได้ว่าใช้เทคโนโลยี DLP (Digital Light Processing) จาก Texas Instrument โดยอาศัย Single DMD (Digital Micromirror Device) Chip ที่มีจำนวน micromirrors ทั้งสิ้น 2716 x 1528 หรือเท่ากับ 4.15 ล้านพิกเซล ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีการแสดงผลแบบ XPR โดยอาศัย Optical Actuator ที่ทำงานรวดเร็วมากจนสามารถสร้างเป็นภาพนิ่ง (frame) ที่มีรายละเอียดจำนวนพิกเซลเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หรือรวมกันทั้งสิ้นเท่ากับ 8.3 ล้านพิกเซล ตรงตามมาตรฐาน 4K (UHD) จากการรับรองของ Consumer Technology Association หรือ CTA

ดีไซน์

ตัวเครื่อง V9800 มีขนาดค่อนข้างใหญ่ รูปลักษณ์ภายนอกมองเผินๆ อาจดูละม้ายคล้ายโปรเจ็คเตอร์อีกแบรนด์หนึ่งที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ แต่ทว่าก็มีจุดแตกต่างพอให้สังเกตได้ชัดเจนเช่นเดียวกัน

จัดวางตำแหน่งเลนส์ฉายภาพไว้กึ่งกลางตามแบบฉบับรุ่นท็อปเพื่อให้ง่ายในการอ้างอิงจุดติดตั้งโปรเจ็คเตอร์โดยเฉพาะเมื่อยึดเข้ากับขาแขวนเพดาน และทำการวางระบบถ่ายเทความร้อนไว้ด้านหน้าตัวเครื่อง

ด้านบนส่วนหน้า เป็นตำแหน่งของไฟ LED บอกสถานะการทำงาน (เมื่อเปิดใช้งานโปรเจ็คเตอร์ ตามปกติไฟจะติดสว่างแค่ Power ดวงเดียว)
ฝาครอบเล็กๆ ที่ด้านบนส่วนหน้า ภายในซ่อนปุ่มหมุนสำหรับปรับตำแหน่ง Lens Shift เอาไว้ ตรงนี้ผมว่าดีกว่าแบบเปิดโล่งเห็นปุ่มหมุนชัดๆ เพราะมันล่อตาล่อใจ เสี่ยงต่อการโดนหมุนเล่นมากๆ เลย ฮา

ปุ่มหมุน Lens Shift ทั้ง 2 ชุด ชุดหนึ่งสำหรับปรับแนวตั้ง (Vertical) อีกชุดสำหรับแนวนอน (Horizontal)

จุดเชื่อมต่อสายสัญญาณต่างๆ ถูกจัดวางไว้ด้านข้าง จะได้ไม่มีปัญหาเชื่อมต่อสายกรณีที่จำเป็นต้องติดตั้งโปรเจ็คเตอร์ชิดผนังด้านหลัง อย่างไรก็ดีการเก็บซ่อนสายอาจทำได้ลำบากสักหน่อย เพราะไม่มีช่องหรือฝาครอบสำหรับบังร้อยสาย แต่จุดนี้มิได้เป็นปัญหาใหญ่แต่อย่างใด

แผงควบคุม สามารถเลื่อนฝาปิดได้เมื่อมิได้ใช้งาน ซึ่งดูลงตัวดี
ฝาครอบด้านหลังเป็นจุดเปลี่ยนหลอดไฟ (lamp) ซึ่งซ่อนเอาไว้ได้อย่างกลมกลืน รุ่นนี้ใช้หลอดชนิด UHP 240 วัตต์ ความสว่างตามสเป็กที่ 2200 lumen อายุการใช้งาน 3,000 (Normal) – 6,000 (Extreme Eco) ชม.
V9800 ติดตั้งเซ็นเซอร์รับสัญญาณรีโมตทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้รับสัญญาณได้ครอบคลุม ส่วนตัวรีโมตคอนโทรลเองมี Back-lit สีฟ้า สว่างเห็นชัดทุกปุ่มแม้ใช้งานในห้องมืด