พูดถึงทีวีแบรนด์ไทยแล้ว ชื่อแรกที่มักจะได้ยินกันมาก่อนใครเพื่อนเลยก็คือ “Aconatic” เพราะแบรนด์นี้พัฒนาสินค้าของตัวเองอย่างต่อเนื่อง อย่างล่าสุดรุ่นที่ผมจับนำมารีวิวให้ชมกันในคราวนี้ก็เป็น 4K UHD TV ขนาดใหญ่ถึง 65 นิ้วที่มีฟีเจอร์สมาร์ททีวีที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android แท้ๆ พร้อมพ่วงเอาแอพฯ ต่างๆ มาให้ใช้งานกันมากมาย แถมราคาก็ยังถูกอกถูกใจสุดๆ
สเปคเบื้องต้นของ Aconatic AN-65DU800SM
-หน้าจอ IPS 65 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD 3840 x 2160p
-ระบบปฏิบัติการ Android TV เวอร์ชั่น 5.1
-ลำโพงกำลังขับ 15W x 2
-การเชื่อมต่อ Wifi และ LAN
-Digital TV DVBT2 Built-in
-Refresh Rate: 60Hz
-Brightness 450cd/m2
-ช่องต่อ HDMI x 3, USB x 2, LAN และ Antenna in
ดีไซน์
การออกแบบของ Aconatic 65DU800SM ถือว่าทำได้ดูดีทีเดียว เพราะเลือกใช้สีที่ค่อนข้างพรีเมี่ยม ตัวกรอบจอเป็นสีเงินควันบุหรี่พื้นผิวโลหะขัดสีแชมเปญโกลด์ ไม่ดูเรียบๆ จนเกินไปทำให้ทีวีดูเด่นสง่ามากยิ่งขึ้น ตรงกลางจอด้านล่างมีโลโก้ Aconatic พร้อมไฟแสดงสถานะ ขาตั้งสีโครเมี่ยม เงางาม รูปทรงกิ่งไม้โดยวางจุดเสียบขาตั้งบริเวณริมซ้ายและขวาของเครื่อง ดังนั้นชั้นวางควรมีระยะสักหน่อยราวๆ 1.2 เมตร ถึงจะพอดิบพอดี
ด้านข้างออกแบบบางเฉียบวัดได้เพียง 9.8 มม.ช่วยให้ทีวีดูพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ยังได้ดีไซน์ช่องต่อการใช้งานต่างๆ ไว้ใช้งานด้วย ด้านหลังมีกรอบสีดำสนิท ราบเรียบ สะอาดตาที่ไม่ว่าจะตั้งมุมไหนภายในบ้านก็ดูสวยงามรอบด้านอย่างแน่นอน แถมยังมีรูน็อตสำหรับเอาไว้ยึดติดบนผนังบ้านอีกด้วย
สำหรับรีโมทคอนโทรลของเจ้า Aconatic AN-65DU800SM มีให้เลือกใช้งานกัน 2 อันด้วยกัน อันแรกรีโมทธรรมดาทั่วไป ขนาดใหญ่ยาวพอสมควร ค่อนข้างจับยากโดยเฉพาะคนมือเล็กๆ แต่มีข้อดีคือมีปุ่มลัดปรับโหมดภาพ/เสียง และการตั้งค่าต่างๆ มาให้ใช้งานด้วย อีกอันเป็นรีโมทแบบ Air Mouse ขนาดเล็กจิ๋วจับพอดีมือ มาพร้อมปุ่มลัดเลือกโหมดภาพ/เสียง และเล่นสื่อมิเดียจาก USB ด้วย
ช่องต่อ
ถัดมาดูในส่วนช่องต่อการใช้งานต่างๆ ของเจ้า Aconatic AN-65DU800SM กันบ้างครับ โดยส่วนใหญ่แล้วช่องต่อสำคัญๆ ต่างๆ จะถูกรวมเอาไว้ทางด้านหลังทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นช่อง LAN เอาไว้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต, USB x 2 แบ่งเป็นช่อง 3.0 หนึ่งช่องเอาไว้เชื่อมต่อกับเมาส์ คีย์บอร์ด และเล่นไฟล์ต่างๆ จากแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์, HDMI x3 แบ่งเป็นช่อง MHL หนึ่งช่องเอาไว้เชื่อมต่อกับเครื่องเล่นบลูเรย์ เครื่องเล่นดีวีดี หรือลำโพงซาวด์บาร์ สุดท้ายช่อง Antenna เอาไว้เชื่อมต่อกับสายเคเบิ้ลดิจิตอลทีวี
ส่วนช่องต่อด้านข้าง จะรวมเอาช่องต่อที่ไม่ค่อยนิยมใช้งานกันบ่อยๆ เอาไว้ โดยมีช่อง SPDIF, Earfhone Out, AV IN และ AV Out