05 Apr 2018
Review

รีวิวหนัง Ready Player One สงครามเกมคนอัจฉริยะ ฉบับสาวๆ


  • lcdtvthailand

เรื่องย่อ : ภาพยนตร์เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2045 ช่วงที่โลกเต็มไปด้วยความวุ่นวายและการล่มสลาย แต่ผู้คนพบทางรอดชีวิตที่ดิ โอเอซิส ซึ่งเป็นจักรวาลเสมือนจริงอันกว้างใหญ่ที่เราสามารถไปที่ไหนก็ได้ ทำอะไรก็ได้ เป็นใครก็ได้ ดิ โอเอซิสสร้างขึ้นโดย เจมส์ ฮัลลิเดย์ (มาร์ค ไรแลนซ์) เมื่อฮัลลิเดย์เสียชีวิตลง เขาได้ทิ้งทรัพย์สมบัติมหาศาลและอำนาจในการควบคุมดิ โอเอซิสทั้งหมดให้กับคนแรกที่ได้กุญแจทั้ง 3 ดอก เพื่อเปิดประตูสู่ไข่อีสเตอร์ดิจิตอลที่เขาซ่อนไว้ในสถานที่ ความท้าทายของเขาทำให้เกิดเกมที่มีการแข่งขันขึ้นทั่วโลก  แต่เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปีกระดานคะแนนกลับยังว่างเปล่า… จนถึงบัดนี้

จนกระทั่งฮีโร่หนุ่มม้ามืดอย่าง เวด วัตส์ (ไท เชอริแดน) ภายใต้ชื่ออวตารอย่าง พาร์ไซวัล เอาชนะการแข่งขันได้เป็นคนแรก เขากลายเป็นผู้มีชื่อเสียง…และตกเป็นเป้าหมาย ผู้มีอำนาจที่โหดเหี้ยมอย่าง โนแลน ซอร์เรนโต (เบ็น เมนเดลซอห์น) ได้พิสูจน์ว่าเขาจะทำทุกทางเพื่อเอาชนะเวดและควบคุมดิ โอเอซิส จนการเดิมพันยิ่งใหญ่เกินจริง เขาพบว่าตัวเองไม่สามารถเอาชนะได้เพียงลำพัง เวดต้องร่วมมือกับเพื่อนๆ ของเขาในนามเดอะ ไฮไฟว์ (เชอริแดน, โอลิเวีย คูก, ลีนา เวธ, ฟิลลิป เซา, วิน โมริซากิ) พวกเขาต้องร่วมมือกันในการล่าสมบัติผ่านโลกแห่งการค้นพบสุดมหัศจรรย์และอันตรายเพื่อปกป้องดิ โอเอซิส

บทวิจารณ์ : ตอนแรกเราดูตัวอย่างหนังมาแล้ว ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าภาพยนตร์เรื่อง Ready Player One สงครามเกมคนอัจฉริยะ จะสนุกสักเท่าไหร่ เพราะเป็นเรื่องราวของโลกในอนาคต แต่มีวิธีการเล่าเรื่องแบบเชยๆ คล้ายๆ Star Wars ซึ่งเราก็เริ่มเอะใจตั้งแต่วันที่ซื้อตั๋วแล้ว ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่น่าจะธรรมดา เพราะโรงหนังอันแสนห่างไกลผู้คนที่เราไป กลับมีผู้คนจับจองที่นั่งกันอย่างหนาแน่นอีกเช่นเคย ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ามันเป็นช่วงปิดเทอม แต่คิดดูดีๆ แล้ว ในเวลาดังกล่าวก็ไม่น่าจะมีคนเข้ามาดูเยอะมากถึงขนาดนี้ เราก็เลยรีเซ็ทความคิดให้หัวใหม่ และเปิดใจให้กับ Ready Player One สงครามเกมคนอัจฉริยะ มากขึ้น

ในตอนต้นเรื่อง เราค่อนข้างที่จะไม่ประทับใจฉากเปิดตัวสักเท่าไหร่ เพราะมันให้ความรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย ถึงแม้จะรู้ดีว่ามันเป็นปม ที่จะปูพื้นไปสู่เรื่องต่างๆ ในตอนต่อไป แต่เรารู้สึกว่าเรื่องราวมันดูเข้าเรื่องเร็วเกินไปหน่อย ต่างจากหนังเรื่องอื่นๆ ที่มีเรื่องราวบางอย่างมาดึงดูดความสนใจเอาไว้ก่อน แล้วค่อยไปเฉลยปมในตอนท้าย แต่ Ready Player One สงครามเกมคนอัจฉริยะ กลับต่างออกไป เพราะหนังเรื่องนี้เดินเรื่องตามไทม์ไลน์แบบเรียบๆ ตลอดทั้งเรื่อง โดยมีไม้เด้ดคือจินตนาการของผู้ประพันธ์ ที่สามารถเนรมิตเรื่องราวให้น่าสนใจได้อย่างน่าทึ่ง ในส่วนของ CG นั้นทำได้ดีประมาณนึง แสงสีต่างๆ ดูตุ่นเหมือนภาพในเครื่องเล่นวิดีโอเกมรุ่นเก่า ซึ่งน่าจะเป็นความตั้งใจของผู้สร้าง แต่เราคิดว่ามันไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

สิ่งที่เป็นไฮไลต์ของเรื่องอยู่ที่พล๊อต ซึ่งสอดประสานระหว่างเทคโนโลยี ความชอบ และกระแสสังคมในปัจจุบัน ให้กลายเป็นอนาคตที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นจริงได้ในอนาคตในเปอร์เซ็นต์ที่สูงมากจนน่าตกใจ เพราะอย่างในตอนนี้ พวกเราก็เสพย์ติดการใช้สมาร์ทโฟนกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่แคร์ว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวจะเริ่มเลวร้ายมากขึ้นเพียงใด คนจนและคนรวยมีฐานะต่างกันมากขึ้น และบริษัทต่างๆ เริ่มใช้งานคนไม่ต่างจากเครื่องจักร ประกอบกับเทคโนโลยีโลกเสมือนอย่าง VR กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อชีวิต อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปมากเพียงใด คนเราก็ต้องการเงิน เพื่อที่จะใช้ในการดำรงชีวิต นี่ยิ่งทำให้พล๊อตของเรื่องดูเข้มแข็งมากขึ้น และมีแรงบันดาลใจในการเอาชนะเกมให้ได้ ซึ่งในจุดนี้ ในปี ค.ศ. 2020 เราเองก็จะเห็นการแข่งขันเกมออนไลน์ในกีฬาโอลิมปิกด้วยเช่นกัน และไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็นธุรกิจใหม่ที่มาแรงของโลกก็เป็นได้

สรุป : Ready Player One สงครามเกมคนอัจฉริยะ นั้นเป็นภาพยนตร์ที่น่าทึ่ง ในบางฉากนี่เราลุ้นจนนั่งหลังไม่ติดเก้าอี้เลยทีเดียว เพราะเอาใจลุ้นพระเอกของเรื่อง ตัวเรื่องมีการพลิกสถานการณ์บ้างเล็กน้อย ถึงจะทำแบบง่ายๆ แต่ก็มีความลงตัวอยู่เช่นกัน นอกจากนี้ยังแฝงเรื่องราวของความรักและความห่วงใยคนรอบข้างลงไปอีก ทำให้เราตระหนักได้ว่าโลกเสมือนนั้นดีไม่เทียบเท่ากับโลกที่แท้จริงหรอก การมีใครสักคนอยู่ข้างกาย ยังไงมันก็ได้กว่าการหลงมนต์สเน่ห์ของโลกดิจิตอลอยู่แล้ว

คะแนน : 9.5 /10