03 Jun 2018
Review

รีวิว Hisense 55A6501UW มิดเอ็นด์ตัวเอ้ราคาคุ้มค่า ภาพดีจากโรงงานพร้อม 4K HDR เช่นเคย


  • tormoo

ยังคงเดินหน้าทำตลาดในไทยอยู่เรื่อย ๆ สำหรับ Hisense หลังจากปีก่อนหน้าได้เปิดตัวทีวีหลายรุ่นลงตลาดประเทศไทย เพื่อแย่งส่วนแบ่งจากแบรนด์ดัง และเข้ามาเป้นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจให้กับผู้บริโภค

สำหรับทีวีที่เราจะมารีวิวครั้งนี้คือรุ่น 55A6501UW ซึ่งมาพร้อมความละเอียดแบบ 4K HDR อันเป็นมาตรฐานหลักในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังพกเอาฟีเจอร์การรับชมออนไลน์คอนเทนต์อย่าง Netflix และ YouTube มาให้ภายในตัว ทั้งหมดนี้อยู่ที่ราคา 22,990 บาท 

สเปคคร่าว ๆ ของ Hisense 55A6501UW

– 4K UHD TV ความละเอียด 4K ขนาด 55 นิ้ว

– ภาพสวยสมจริง มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรู

– มีฟีเจอร์ Smart TV ที่รองรับการใช้งาน Cast YouTube และ Anyview Cast

– รองรับการแสดงผลคอนเทนต์แบบ HDR

– รองรับการใช้งานคู่กับแอปฯ Netflix และ YouTube แบบ 4K HDR

ขนาด 55 นิ้ว ราคาวางจำหน่าย 22,990 บาท

ขนาด 65 นิ้ว ราคาวางจำหน่าย 33,990 บาท

ขนาด 50 นิ้ว ราคาวางจำหน่าย 19,990 บาท

ขนาด 43 นิ้ว ราคาวางจำหน่าย 15,990 บาท

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่ Facebook Fan Page Hisense Thailand กันได้เลย

ดีไซน์

Hisense เลือกใช้สีเงินมาเป็นแม่สีหลักในการออกแบบดีไซน์ทีวีตัวนี้ โดยจะสังเหตุเห็นว่ากรอบทีวีรวมถึงขาตั้งก็จะมีลักษณะสีที่คล้ายกัน นอกจากสีสันแล้วขอบจอก็ถูกดีไซน์ออกมาให้มีความบางตามกระแสนิยม ดูแล้วโฉบเฉี่ยวทันสมัย

จับวางบนชั้นทีวีประจำบริษัท ดูเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งได้ฉากหลังสีอ่อนด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ความมันวาว ของขอบจอถูกขับออกมาให้ดูเด่นขึ้นแบบเห็นได้ชัด
มุมล่างขวาเป็นปุ่มเปิดปิดที่ดูแล้วน่าจะเอาไปวางไว้หลังจอ จะช่วยทำให้ดูกลมกลืนกว่า
มุมล่างขวาเป็นปุ่มเปิดปิดที่ดูแล้วน่าจะเอาไปวางไว้หลังจอ จะช่วยทำให้ดูกลมกลืนกว่า
นอกจากตัวขอบจอจะบางแล้ว ตัวเครื่องเองก็เพรียวลมไม่ใช่น้อย
ด้านหลังก็ดูเรียบร้อยไม่มีลายยุ่งเหยิงกวนใจ พร้อมช่องระบายความร้อนตรงกลาง มุมล่างซ้ายเป็นช่องเสียบสายไฟ ส่วนมุมล่างขวาเป็นแหล่งรวมช่องเสียบสายสัญญาณทั้งบริเวณข้างเครื่องและหลังเครื่อง
รีโมทหน้าตาคุ้นเคยตามกระแสนิยมทรงเดียวกับรุ่นใหญ่อย่าง U7A

ช่องต่อ

ช่องต่อหลัก ๆ ถูกวางไว้บริเวณด้านข้างเครื่องซึ่งได้ถูกเลือกสรรมาแล้วว่าเป็นช่องที่ส่วนใหญ่ใช้งานกันบ่อย ๆ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ช่อง HDMI 1 และ 2 ซึ่งรองรับการแสดงผลภาพแบบ 4K@60Hz ใครตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเสียบเครื่องเล่นบลูเรย์ในตำนานอย่าง OPPO หรือเกมคอนโซลยอดฮิตอย่าง Xbox One หรือ PS4 ไว้ตรงไหนดี ก็ให้มองหาสองช่องนี้ไว้เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ก่อนเลยครับ

รายชื่อช่องต่อบริเวณด้านข้างเครื่อง

• ANT (ANTENNA) x1

• Digital Audio OUT (Optical) x1

• USB 2.0 x1

• USB 3.0 x1

• HDMI 4K@60Hz x2, HDMI 4K@30Hz x1

รายชื่อช่องต่อบริเวณด้านหลังเครื่อง

• LAN x1

• HDMI 4K@30Hz x1

• AV IN x1