17 Jun 2016
Review

รีวิว ASUS MX279H – ดีไซน์เรียบง่ายดุจดังนาฬิกาแดด คุณภาพทั้งภาพและเสียงไม่เป็นสองรองใคร !!


  • lcdtvthailand

รีวิว ASUS MX279H – ดีไซน์เรียบง่ายดุจดังนาฬิกาแดด คุณภาพทั้งภาพและเสียงไม่เป็นสองรองใคร

หลายครั้งหลายคราวที่แฟนๆ เว็บไซต์ LCDTVTHAILAND ได้ถามเรามาว่านอกจากจะรีวิว ทีวี แล้วไม่มีรีวิว “จอมอนิเตอร์” ให้ได้ชมกันบ้างเลยเหรอ? ทางเราจึงทนกระแสกดดันจากท่านผู้อ่านมิไหวประจวบเหมาะกับทาง บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดส่งจอมอนิเตอร์รุ่น MX279H ขนาด 27 นิ้วมาให้ทางเราได้รีวิวพอดีเลย

โดยกระผมนาย OatState ก็ได้รับมอบหมายให้จัดการชำแหละ และรีวิวเจ้า ASUS MX279H ในครั้งนี้ ซึ่งใน MX Series อย่างเจ้า MX279H ถือว่าเป็นตัวเรือธงของทาง ASUS เลยก็ว่าได้ และอาจจะกำลังเป็นที่หมายตาจากเหล่าเกมส์เมอร์ด้วยเช่นกัน

ASUS MX279H
ราคา 21,900 บาท

นอกจากนี้เจ้า ASUS MX279H ยังโดดเด่นด้วยหน้าจอ (Panel) แบบ AH-IPS ที่ให้สีสันสดใสและสมจริง แถมยังให้มุมมองที่กว้างมากถึง 178 องศา (แนวตั้ง-แนวนอน) ถึงแม้ว่าหน้าจอที่ให้มาจะใหญ่ถึง 27 นิ้ว แต่ก็ยังอัดแน่นด้วยความละเอียดระดับ 1080p ( Full HD) ที่ 1920 x 1080 พิกเซล “ซึ่งคุณภาพของภาพเบื่องต้นเรามิอาจจะการันตีอะไรได้คงต้องไปทดสอบกันในลำดับถัดไป”

ที่แน่ๆ เมื่อมองด้วยตาเปล่าคงจะเป็นเรื่องของดีไซน์ที่ต้องขอบอกว่าโดนใจจริงๆ “กระผมให้ผ่านจ้า อิอิ” จะพูดมากไปกว่านี้เดี๋ยวจะเสียเวลาเปล่าๆ และเพื่อไม่ให้เป็นการเวิ่นเว้อ กระผมขอเชิญทุกๆ ท่านพบกับรีวิว ASUS MX279H ได้ ณ บัด Now !!

มาเรียกน้ำย่อยก่อนจะไปรับชมรีวิว ด้วยสเปคของ ASUS MX279H เป็นออเดิร์ฟคร่าวๆ ไปก่อน

ดีไซน์

ก่อนอื่นกระผมต้องขอพาคุณผู้อ่านไปลงลึกยังส่วนของ “ดีไซน์ หรือ การออกแบบ” กันก่อน สำหรับเจ้า ASUS MX279H นั้นเป็นจอมอนิเตอร์ที่มีดีไซน์เรียบหรู สง่างาม และเพรียวบางได้ขนาดนี้ มันก็ต้องมีประวัติกันเล็กน้อยใช่ไหมล่ะ?

ของแถมและสายเชื่อมต่อที่ทาง ASUS ได้แถมมาให้ในกล่อง

อุปกรณ์ที่แถมมาให้พร้อมกับ ASUS MX279H มีดังนี้
   1. คู่มือการใช้งาน จำนวน 1 ชุด
   2. บัตรรับประกัน จำนวน 1 ใบ
   3. สายสัญญาณภาพแบบ RGB จำนวน 1 ชุด
   4. สายสัญญาณภาพแบบ DVI จำนวน 1 ชุด
   5. สายไฟ AC และอแดปเตอร์ จำนวน 1 ชุด

หมายเหตุอุปกรณ์ที่แถมมาให้ในชุดที่จำหน่ายจริงอาจจะมีมาให้มามากกว่าชุดที่ทีมงานนำมารีวิวทดสอบ

จ๊ะเอ๋!! พระเอกของเราออกมาแล้ว สิ่งแรกที่เตะตาและต้องร้องออกมาว่า “ยูเรก้า” นั้นก็ คือ ขอบจอ

โดยทาง ASUS ได้ออกแบบให้ขอบของหน้าจอมีความบางเพียงแค่ 0.8 มิลลิเมตรเท่านั้น ทำให้เมื่อเรานำไปใช้งานจริงจะรู้สึกว่าภาพที่แสดงออกมาดูมีมิติ ตื้น-ลึก และสมจริงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการที่ขอบจอมีลักษณะบางจึงทำให้ไม่รู้สึกว่าไปเกะกะสายตาของผู้ใช้งานนั่นเอง

ส่วนควบคุมการตั้งค่าต่างๆ ของจอมอนิเตอร์จะอยู่ที่แผงด้านล่างทางมุมขวา (เมื่อหันหน้าเข้าหาจอ)

ปุ่มควบคุมที่มีมาให้ประกอบด้วย (จากซ้ายไปขวา)
   1. ปุ่มสำหรับปรับ Grid บนหน้าจอมีให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Alignment Grid, Photo และ Document
   2. ปุ่ม OSD menu สามารถใช้เลือกเป็นคีย์ลัดในการเลือกโหมดภาพได้ และใช้เป็นปุ่มย้อนกลับ   
   3. ปุ่ม Volume hotkey, ใช้เป็นปุ่มเลื่อน ซ้าย/ลง
   4. ปุ่ม Menu หลัก
   5. ปุ่ม Brightness hotkey, ใช้เป็นปุ่มเลื่อน ขวา/ขึ้น
   6. ปุ่มสำหรับเลือก Input
   7. ปุ่ม Power


สำหรับที่ขอบจอด้านล่าง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่ค่อนข้างเตะตาผู้พบเห็นเลยก็ว่าได้ ซึ่งเมื่อสังเกตใกล้ๆ จะพบว่ามีความมันวาว เพราะเป็นพลาสติกที่เคลือบด้วยสีเงินขัดลาย และยังแอบแฝงไปด้วยความเรียบง่าย

ถัดมาต่อกันที่มุมซ้ายจะมีสกรีนคำว่า IPS, HDMI และเทคโนโลยีเสียง SonicMaster ที่ทาง ASUS ได้ ทำการพัฒนาร่วมกับทีม Bang & Olufsen รวมถึง Audio by Bang & Olufsen ICEpower ด้วยเช่นกัน
ที่กึ่งกลางขอบจอด้านล่างจะสังเกตเห็น Logo ASUS แบบ 3 มิติที่มีลักษณะนูนขึ้นมา

อีกจุดเด่นสำคัญที่ทำให้เจ้า ASUS MX279H มีดีไซน์ออกมาอย่างที่เราได้เห็นกันนั่นก็คือ “ฐานตั้งจอ” ซึ่งนักออกแบบได้นำเอาความเรียบง่ายของ “นาฬิกาแดด” มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเจ้า MX279H สังเกตได้จากเส้นสายของฐานตั้งจอไล่ขึ้นไปยังแขนที่ใช้รับน้ำหนักตัวจอมอนิเตอร์นั่นเอง

หมายเหตุ ถ้าใครนึกถึงหน้าตาของนาฬิกาแดดไม่ออกลองไปถามอากู๋ดูจ้า แล้วท่านจะร้อง อ่อ ^^

ตัวจอมอนิเตอร์เมื่อมองจากด้านข้างถือว่าค่อนข้างบางเลยล่ะ โดยมีความหนา เพียงแค่ 17.5 มิลลิเมตรเท่านั้น
ถ้าซูมเข้าไปที่ขอบจอข้างขวาใกล้ๆ จะพบกับสกรีนคำว่า “Designed by ASUS in TAIWAN”
แม้ว่าทาง ASUS จะให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ที่ด้านหน้ามากเพียงใด แต่ทีมออกแบบ ก็ยังไม่ลืมที่จะเก็บรายละเอียดที่ด้านหลังของจอมอนิเตอร์ด้วย
วัสดุที่ด้านหลังทำมาจากพลาสติกที่ทนทาน โดยมีการเลือกใช้สีดำแบบมันเงาและที่ขอบจอทั้ง 4 ด้าน จะมีความโค้งมนเล็กน้อยไม่ถึงกับเหลี่ยม ส่วนตรงกลางจะเป็นลอยปั้มคำว่า “ASUS”
ถัดมาที่แขนหรือขายึดจออันนี้กระผมก็เรียกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ มันสามารถปรับ ก้ม-เง้ย หน้าจอได้ที่มุม -5 ถึง 20 องศา
ถัดมาที่แขนหรือขายึดจออันนี้กระผมก็เรียกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ มันสามารถปรับ ก้ม-เง้ย หน้าจอได้ที่มุม -5 ถึง 20 องศา
ส่วนที่มุมด้านล่างสุด ซ้าย-ขวา จะเห็นว่ามีช่องตะแกรงเล็กๆ ซึ่งช่องนี้ก็เป็นทาง ออกของเสียงที่เปล่งมาจากไดรเวอร์ทางด้านในนั่นเอง
เมื่อพลิกมาดูที่ด้านใต้จะพบกับช่องลำโพงอีก 2 ช่อง โดยเจ้า ASUS MX279H ได้รับการออกแบบ ตัวไดรเวอร์จากทีม ASUS Golden Ear และทีม Bang & Olufsen ICEpower

ซึ่งขุมพลังที่ใช้ในการถ่ายทอดเสียงออกมาให้เราได้ยินนั้นเป็นลำโพงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 32 มิลลิเมตร จำนวน 2 ตัว มาพร้อมกับ Amplifier ในตัวและให้กำลังขับมากถึง 5 วัตต์ต่อแชนแนล

ช่องต่อ

หลังจากที่กระผมได้พาท่านผู้อ่านไปชมในส่วนของดีไซน์ และเล่าถึงประวัติความเป็นมาว่าทำไมเจ้า ASUS MX279H ถึงได้มีดีไซน์ออกมาเช่นนี้ จากนี้จะขอเปลี่ยนบรรยากาศไปชมส่วนที่เป็นช่องต่อกันบ้างต้องขอบอกว่าทาง ASUS ก็ใส่มาให้เกือบๆ เต็ม Max เช่นกัน ซึ่งจะมีช่องต่อชนิดไหนมาให้ใช้งานบ้างต้องไปดูกัน !!

สำหรับปุ่มควบคุมที่ติดมากับตัวจอมอนิเตอร์เป็นปุ่มแบบสัมผัส ซึ่งปุ่มชนิดนี้ เรามักเห็นในจอมอนิเตอร์ระดับพรีเมียม
ช่องต่อที่แถมมาให้ถือว่าพอเหมาะกับการใช้งานเลยล่ะ โดยเฉพาะพอร์ต HDMI ที่ให้มามากถึง 2 พอร์ต

ช่องต่อที่มาพร้อมกับเจ้า ASUS MX279H มีดังนี้
   1. พอร์ต HDMI จำนวน 2 พอร์ต
   2. พอร์ต VGA จำนวน 1 พอร์ต
   3. พอร์ต Audio input จำนวน 1 พอร์ต
   4. พอร์ต Earphone jack จำนวน 1 พอร์ต
   5. พอร์ต DC in (Power) จำนวน 1 พอร์ต
   6. Kensington Lock (ด้านล่าง) สำหรับไว้คล้องกับสายล็อคจอกันจอหาย