27 Mar 2017
Review

รีวิว Polk MagniFi Mini ซาวด์บาร์ไซส์จิ๋ว แต่เสียงไซส์เบิ้ม เพิ่มความคุ้มด้วยสตรีมมิ่งผ่าน Wi-Fi


  • lcdtvthailand

Home Theater Soundbar System

Polk MagniFi Mini

ราคา 12,490 บาท

สำหรับผู้ที่ต้องการการฟังที่ดี เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมภาพยนตร์หรือฟังเพลง แต่ติดปัญหาเรื่องความจำกัดของพื้นที่ติดตั้ง ครั้นจะจัดชุดโฮมเธียเตอร์เต็มระบบก็อาจไม่เหมาะสม ตัวเลือกถัดมาที่น่าสนใจก็คงหนีไม่พ้นซาวด์บาร์ ซึ่งช้อยส์นี้ก็อาจใช้ไม่ได้กับทุกท่านเสมอไป เพราะบางท่านใช้ทีวีที่มีจอขนาดเล็ก หรือบนโต๊ะวางทีวีเต็มไปด้วยกล่องสัญญาณและเครื่องเล่นต่างๆ

ด้วยเหตุเหล่านี้ Polk Audio จึงได้ออกแบบซาวด์บาร์รุ่นล่าสุดให้ตอบโจทย์ผู้ที่ใช้ทีวีขนาดเล็กสุด 24 นิ้ว ไปจนทีวีขนาดใหญ่ ก็สร้างความสวยงามในการติดตั้งได้ สามารถเข้าวางแทรกได้อย่างไม่เบียดเบียนกล่องสัญญาณหรือเครื่องเล่นบนโต๊ะวางทีวี เติมเต็มความสนุกด้วยพลังเสียงที่เกินตัว และซาวด์บาร์ที่ว่านี้ก็คือ Polk Magnifi Mini ชุดซาวด์บาร์พร้อมซับวูฟเฟอร์ไร้สาย ตัวเครื่องขนาดเล็กจิ๋ว แต่หิ้วฟีเจอร์มาชนิดคับกล่อง!

Design – การออกแบบ

บอกเลยว่า Polk MagniFi Mini รุ่นนี้ มีขนาดกะทัดรัดจริงๆ มองเผินๆ ต้องคิดว่าเป็นลำโพงพกพาแน่นอน เพราะตัวเครื่องซาวด์บาร์ มีหน้ากว้างเพียง 13.4 นิ้ว และส่วนสูงอยู่ที่ 3.2 นิ้ว ผิดขนาดจากซาวด์บาร์ทั่วไปที่หน้ากว้างไม่ต่ำกว่า 30 นิ้ว ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทาน น้ำหนักประมาณ 1.76 กก. ภายนอกหุ้มด้วยผ้า ให้ความกระชับมือเวลาหยิบจับ ฐานตัวเครื่องมีลักษณะเป็นยาง รองรับการสะเทิอนระหว่างใช้งาน

กรอบตรงกลางเครื่องจะมีไฟ LED ขนาดเล็ก จำนวน 5 ดวง เรียวเป็นแนวดิ่ง คอยบอกสถานะยามใช้งาน

ชุดปุ่มคำสั่งต่างๆ จะอยู่ทางด้านบนของตัวเครื่อง ใช้วัสดุเป็นยางโทนสีกลมกลืน สัญลักษณ์ของปุ่มคำสั่งชัดเจนเข้าใจง่าย โดยจะมีปุ่มปิด-เปิดเครื่อง, ปุ่มเปิดการเชื่อมต่อ Bluetooth, ปุ่มสลับช่องอินพุตการเชื่อมต่อ (HDMI/Optical/AUX), ปุ่มโหมดเสียงสำหรับการชมยามกลางคืน และปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง

ปุ่มการเชื่อมต่อ Bluetooth มีเฉพาะแค่บนตัวเครื่อง ไม่มีบนรีโมท

ขยับมาทางด้านหลัง มีช่องเชื่อมต่อให้มาพอสมควร เพียงพอต่อการใช้งาน เริ่มต้นที่ช่องต่อแรก เป็นช่องต่อสำหรับเสียบสายไฟ ถัดมาที่ช่องต่ออินพุต HDMI พิเศษตรงที่เป็น ARC หรือ Audio Return Channel ปกติแล้วเราจะเห็นซาวด์บาร์มีช่องต่ออินพุตมากมาย แล้วส่งสัญญาณภาพผ่านเอ๊าท์พุตไปที่ทีวี แต่ใน MagniFi Mini มีช่องต่อ HDMI ARC ให้ทีวีส่งสัญญาณเสียงมาที่ซาวด์บาร์โดยตรงด้วย HDMI เส้นเดียว เพราะผู้ใช้งานส่วนใหญ่ต่อสายสัญญาณต่างๆ ไว้ที่ทีวีอยู่แล้ว เพราะใช้งานง่ายกว่าการต่ออินพุตผ่านซาวด์บาร์

สำหรับทีวีที่ไม่มีช่องต่อ HDMI ARC ก็ไม่ต้องห่วง ยังมีช่องต่อ Optical หรือ AUX ขนาด 3.5 มม. มาให้ ส่วนช่องต่อ USB นั้นไม่สามารถเล่นไฟล์ มีไว้เพื่อการอัพเดทเฟิร์มแวร์ ต่อมาเป็นฟีเจอร์หลักของรุ่นนี้เลย ปุ่มเปิดสัญญาณ Wi-Fi รองรับแบนด์วิธ 2.4GHz กับ 5GHz เพื่อให้สตรีมมิ่งทุกการฟังแบบไร้สายผ่านซาวด์บาร์นี้ หรือถ้า Wi-Fi ยังให้ความเสถียรในการเชื่อมต่อไม่มากพอ สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายในบ้านโดยตรงผ่านช่องต่อ Ethernet ได้

สัญลักษณ์ “จุด” ที่ต่อหลังตัวหนังสือช่องต่อ คือสัญลักษณ์บอกช่องต่อด้วยไฟ LED ด้านหน้าเครื่อง

เห็นเล็กจิ๋วแบบนี้ อย่าดูถูกพลังเสียงกันเชียว เพราะ MagniFi Mini มีกำลังขับสูงสุด 150W ภายในตัวเครื่องบรรจุดอกลำโพงไว้ถึง 6 ดอก จำลองชุดลำโพงด้านหน้าของโฮมเธียเตอร์ที่ประกอบด้วย ลำโพงเซ็นเตอร์ และลำโพงคู่หน้าซ้ายขวา อัดไว้ในรูปแบบซาวด์บาร์ 3 แชนแนล แบ่งเป็นทวีตเตอร์ขนาดครึ่งนิ้ว จำนวน 2 ดอก กับมิดเรนจ์ขนาด 2.25 นิ้ว จำนวน 4 ดอก ตามภาพด้านล่าง… 

ใครจะคิด… หน้ากว้างแค่นิดเดียว แต่อัดลำโพงไว้ถึง 6 ดอก!

ซับวูฟเฟอร์เองก็ตอบรับในเรื่องการประหยัดพื้นที่ติดตั้ง ด้วยดีไซน์ทรงสลิม หน้ากว้างเพียง 7.4 นิ้ว และความสูง 14.4 นิ้ว ซับวูฟเฟอร์นี้จึงสามารถแทรกในพื้นที่แคบ หรือวางตั้งตรงมุมห้องโดยไม่เสียพื้นที่ไปมาก ตัวตู้เป็นทรงเปิด ดอกลำโพงขนาด 6.5 นิ้ว อยู่ด้านใต้ตัวตู้ คอยยิงเสียงเบสลงพื้น มีฐานเป็นขา 4 มุม ใช้วัสดุเป็นยาง ให้ความยืดหยุ่นต่อการสะเทือน

ดีไซน์สลิมเพรียวบาง ติดตั้งง่ายไม่เกะกะ
ไฟบอกสถานะการใช้งาน และช่องเสียบสายไฟจะอยู่ทางด้านหลัง
จุดกำเนิดความหนักแน่น มาจากดอกลำโพงนี้แหละ!

ส่วนของรีโมทนั้นมีปุ่มคำสั่งที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นอย่างยิ่ง โดยช่วงบนของรีโมทจะเป็นปุ่มคำสั่งแบบเดียวกับที่ตัวเครื่อง ยกเว้นปุ่ม Bluetoothช่วงกลางรีโมตจะเป็นชุดคำสั่งเพิ่มลดระดับเสียงต่างๆ ได้แก่ Bass สำหรับเพิ่มลดระดับเสียงเบสจากซับวูฟเฟอร์, ตรงกลาง สำหรับเพิ่มลดระดับความดังเสียงทั้งหมด และสุดท้าย Voice สำหรับเพิ่มลดระดับเสียงพูดจากฟีเจอร์ Voice Adjust หากปรับแล้วยังไม่ถูกใจ บนรีโมทก็มีโหมดเสียงสำเร็จรูปให้ใช้งานกัน 3 โหมด คือ Movies – โหมดภาพยนตร์, Sport – โหมดกีฬา และ Music – โหมดฟังเพลง

รีโมทขนาดพอดีมือ มีปุ่มคำสั่งแยกชัดเจน ใช้งานง่าย

Features – ลูกเล่น

จากที่เกริ่นกันไปข้างต้นกับฟีเจอร์ Voice Adjust ซึ่งฟีเจอร์นี้ถือว่าเป็นจุดขายอันโดดเด่นของซาวด์บาร์ซีรีส์ MagniFi เลย มีหน้าที่ในการขจัดปัญหาที่หลายท่านมักพบเจอบ่อยๆ นั่นคือเสียงสนทนาหรือเสียงพูดของตัวละครมีระดับเสียงที่เบากว่าเสียงอื่นๆ ต้องคอยปรับลดระดับเสียงระหว่างการรับชมบ่อยๆ ฟีเจอร์ Voice Adjust นี้จะทำการแยกเสียงพูดออกมา ให้เพิ่มลดเฉพาะเสียงพูดได้ตามใจชอบอย่างง่ายๆ เพียงกดปุ่ม Voice บนรีโมทนั่นเอง

ฟีเจอร์ที่เป็นหัวใจหลักของซาวด์บาร์ซีรีส์ MagniFi

ถัดมาที่ไฮไลต์เด่นของ Polk MagniFi Mini กับการเชื่อมต่อไร้สายที่ไม่ได้มีแค่ Bluetooth ยังสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi แบนด์วิธ 2.4GHz กับ 5GHz ซึ่งรับส่งสัญญาณเสียงได้ดีกว่าแน่นอน พร้อมบิลต์อิน Google Cast ช่วยให้สตรีมมิ่งฟังเพลงกันเพลินๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นหรืออุปกรณ์ที่รองรับการสตรีมด้วย Google Cast ผ่านเครือข่ายวง LAN ของอินเทอร์เน็ตภายในบ้าน

วิธีการเซ็ตอัพให้ MagniFi Mini เชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ต้องการนั้นไม่ยากเลย สิ่งแรกคือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Google Home ลงในสมาร์ทโฟนก่อน ได้ทั้ง iOS และ Android ต่อด้วยกดปุ่ม Wi-Fi ด้านหลังตัวซาวด์บาร์เพื่อเปิดสัญญาณ

แอพพลิเคชั่น Google Home

จากนั้นให้เข้าแอพฯ Google Home ตัวแอพฯ จะการค้นหาอุปกรณ์ที่สามารถใช้งาน Google Cast โดยอัตโนมัติ เมื่อเจอ MagniFi Mini แล้ว กดเลือกเพื่อทำการเชื่อมต่อได้เลย ใช้เวลาเพียงครู่เดียว หน้าแอพฯ ก็แจ้งให้กดเล่นเสียงทดสอบ เพื่อยืนยันความสมบูรณ์ในการเชื่อมต่อ ต่อมาหน้าแอพฯ จะให้เลือกเครือข่ายสัญญาณ Wi-Fi ที่ต้องการเชื่อมต่อ เท่านี้ก็พร้อมที่จะฟังเพลงได้แล้ว หากในสมาร์ทโฟนมีบริการสตรีมมิ่งที่รองรับ Google Cast หน้าอินเทอร์เฟสของ Google Home จะแจ้งให้ทราบและกดใช้งานได้ทันที

ถ้าหน้าจอแสดงแบบนี้ก็พร้อมลั่นได้เลย

ส่วนใครที่คิดว่ายุ่งยาก อยากเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายด้วยวิธีที่ง่ายกว่านี้ สามารถนำสาย LAN ต่อจาก Router มาเสียบที่ช่องต่อ Ethernet แบบตรงๆ ได้เลย ไม่ต้องมีขั้นตอนอะไรให้มากมาย ซึ่งการใช้งานด้วยแอพฯ Google Home สามารถตั้งค่าให้ซาวด์บาร์เปิด โหมดผู้มาเยือน เพื่อรับการสตรีมจากอุปกรณ์อื่นๆ ที่บริเวณใกล้เคียง แต่ไม่ได้อยู่ในวง LAN เดียวกัน สามารถเชื่อมต่อได้ชั่วคราวด้วย