20 Aug 2018
Review

รีวิว Zappiti One SE 4K HDR สานต่อความสำเร็จการเป็นเครื่องเล่นไฟล์ที่จัดเต็มไปด้วยคุณภาพและความสามารถ ควรค่าแก่การเป็นเจ้าของ


  • TopZaKo

รีวิว 4K HD Player Zappiti One SE 4K HDR

Review 4K HD Player Zappiti One SE 4K HDR

ราคา 8,190 บาท

สเปกเบื้องต้นของ Zappiti One SE 4K HDR

Chipset Realtek RTD1295
 CPUARM® Cortex® CA53 x4 (Quad Core)
 GPU Mali™-T820 MP3 (3 Core)
 RAM 2 GB DDR4
 Storage 16 GB
 HDMI V. HDMI 2.0
 HDR Yes
 HDD Slot 1
 Price 8,190 บาท

ผู้คนส่วนใหญ่หลังจากเหนื่อยล้าจากการทำงาน ทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ก็มักจะเลือกการชมภาพยนตร์หรือซีรี่ส์สักเรื่องเพื่อเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งในยุคนี้คนส่วนใหญ่มักจะมีมุมดูหนังฟังเพลงภายในบ้านกันมากขึ้น โดยในบางครั้งการที่เราจะต้องเก็บแผ่นหนังเยอะๆ ก็อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่นัก การมีเครื่องเล่นไฟล์คุณภาพสูงพร้อมความสามารถที่ครบครันไว้ใช้ก็คงจะดีไม่น้อยเครื่องเล่น วันนี้ผมจะมาแนะนำ HD Player รุ่น Zappiti One SE 4K HDR ให้ทุกคนรู้จักกันครับ

Design – การออกแบบ

Zappiti One SE 4K HDR พระเอกของงานนี้
ความสามารถที่ให้เพิ่มมาจากรุ่นเก่า

Zappiti One SE 4K HDR นั้นเป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นก่อนอย่าง Zappiti One 4K HDR ซึ่งหากดูการออกแบบโดยรวมนั้นแทบจะไม่แตกต่างกันเลย ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมอย่างดี มาในโทนสีดำด้าน มีวงกลมใสตรงกลางพร้อมโลโก้ตัว Z เด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลาง มีสัญลักษณ์ยี่ห้อ Zappiti และชื่อรุ่นอยู่บริเวณซ้ายมือบน (วิธีดูว่าเป็นรุ่น Zappiti One 4K HDR หรือ Zappiti One SE 4K HDR ให้ดูจุดนี้จะง่ายสุด) โดยรวมดูแพง ให้อารมณ์ความ Premium ได้เป็นอย่างดี

ด้านหน้าตัวเครื่อง Zappiti One SE 4K HDR พร้อมเสา Wi-Fi

ซึ่งจุดที่ Zappiti One SE 4K HDR  พัฒนามาจากรุ่นเก่าอย่าง Zappiti One 4K HDR อย่างเห็นได้ชัดมีทั้งหมด 3 อย่างตามที่ผู้ผลิตบอกคือ อย่างแรก มีการเพิ่ม HDMI Out ให้เป็น 2 ช่อง ช่องแรกจะเป็น Out ภาพและเสียงตามปกติ ส่วน Out ช่องที่ 2 จะเป็น Out เสียงโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการต่อตรงเข้าจอภาพและผ่านชุดเครื่องเสียงแบบแยกกันเพื่อให้ได้คุณภาพของภาพและเสียงแบบสูงสุด อย่างที่ 2 ช่องต่อ RCA Audio Out อะลูมิเนียมชุบทองที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมเอาใจนักฟังเพลงได้เป็นอย่างดี และอย่างสุดท้าย คือ IR in ตัวรับสัญญานรีโมทคอนโทรล

สำหรับจุดเด่นของ HD Player รุ่นนี้คือมีช่องใส่ HDD Internal ขนาด 3.5 มม. แบบ Hot Swap ทำให้นำ HDD เข้าออกได้อย่างง่ายดายไม่ต้องไขน็อตให้ยุ่งยาก เหมาะกับคนที่ชอบถอด HDD เข้าออกบ่อยๆ หรือ มี HDD เก็บหนังไว้หลายลูกนั่นเองครับ

ช่องใส่ HDD แบบ Hot Swap

มาดูในส่วนของช่องต่อเจ้า Zappiti One SE 4K HDR กัน ครั้งแรกที่แกะกล่องออกมาผมประทับใจมากสำหรับจุดนี้ เรียกได้ว่าจัดเต็ม ครบครัน โดยมีอะไรบ้างตามด้านล่างนี้เลยครับ

ช่องต่อของ Zappiti One SE 4K HDR
1. SD/MMC Card Slot x 1
2. USB 2.0 x 3, USB 3.0 x 1
3. USB Type C x 1
4. DC 12V In
5. HDMI 2.0 Out x 2 (Audio Only 1)
6. HDMI 2.0 in x 1
7. Ethernet WAN x 1, LAN x 1 (10/100/1000) Mbps
8. Wi-Fi Built-in
9. IR Reciver
10. Optical x 1
11. Coaxial x 1
12. AV Out x 1
13. HDD Hot Swap Slot x 1

ช่องต่อต่างๆ ทางด้านหลังของ Zappiti One SE 4K HDR
ช่องต่อทางด้านซ้ายของ Zappiti One SE 4K HDR
อุปกรณ์ต่างๆ ที่มีให้ภายในกล่อง

รีโมทก็ถือว่าให้มาแบบจัดเต็มเช่นเดียวกัน มีปุ่มทั่วไปอย่างปุ่ม เปิด/ปิดเครื่อง, ปุ่มลูกศร, ปุ่ม ok, Play Pause แต่เครื่องนี้มีปุ่มพิเศษที่ทำมาให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นที่หลายๆ เครื่องไม่มีให้ เช่น ปุ่ม Aspect Ratio ปรับสัดส่วนภาพ, ปุ่ม 3D สำหรับปรับแต่งภาพ 3 มิติ หรือ กดเพื่อแปลงหนัง 3มิติ เป็น 2 มิติ แบบปกติ, ปุ่ม Zappiti ปุ่มลัดเข้า Zappiti Video, ปุ่ม Explorer เพื่อเข้าสู่หน้าจัดการไฟล์, ปุ่ม HOME เข้าสู่เมนูหลัก, ปุ่ม Mouse ที่กดแล้วจะมีเมาส์ขึ้นมาที่หน้าจอเพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น และอีกจุดหนึ่งที่ผมชอบมากเลยเลยคือเวลากดปุ่มจะมีไฟเรืองแสงตามปุ่มต่างๆ ออกมา แบบ Backlit ที่ทำให้ใช้งานในที่มืดหรือตอนกลางคืนได้อย่างสะดวกสบายไร้ปัญหา

รีโมท ที่มาพร้อมไฟแบบ Backlit
สามารถใช้ Smart Phone เป็นรีโมทได้ (เฉพาะ Android เท่านั้น)

Features – ลูกเล่น

หน้า เมนูหลัก หรือ หน้า Home

Zappiti One SE 4K HDR ตัวนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 6.0.1 โดยในการใช้งานครั้งแรกเราจะต้องทำการสมัคร user idกับทาง Zappiti ก่อน เพื่อให้สามารถใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ของเครื่องได้อย่างเต็มที่ โดยแบ่งเป็น 4 ส่วนหลักๆ ดังนี้

Zappiti (Zappiti Video) จุดศูนย์รวมหลักของการเล่นไฟล์วีดีโอต่างๆ ในเครื่อง ที่ตัวเครื่องสามารถจัดเรียงไฟล์ ทำปก แยกหมวดหมู่ให้แบบอัตโนมัติ ผ่านระบบออนไลน์ได้เลย (ต้องใช้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต) สำหรับวิธีทำปกสามารถดูได้ ที่ zappiti-thailand.com เลยครับ

EXPLORER – ไว้สำหรับเข้าค้นหาและเล่นไฟล์ตามโฟล์เดอร์ที่เราต้องการจากไดร์ฟต่างๆ เช่น HDD หรือ Fashdrive

Music – โปรแกรมสำหรับเล่นไฟล์เพลงต่างๆ

My App – แสดงแอปทั้งหมดที่ถูกติดตั้งไว้ในตัวเครื่อง

ด้วยความที่ Zappiti เครื่องนี้เป็นระบบปฏิบัติการแบบ Android ที่มาพร้อม Google Play Store ทำให้เราสามารถเข้าไปโหลดแอปพลิเคชั่นต่างๆ มาใช้งาน หรือ เลือกซื้อหนังลิขสิทธิ์แท้มารับชมก็ทำได้เช่นกัน

แต่ทาง Zappiti ได้มี Store แบบพิเศษที่คัดเลือกแอปที่ใช้งานได้เหมาะสมกับตัวเครื่องมาให้แล้ว นั่นก็คือ AptoideTV ที่สามารถ โหลด แอป YouTube ที่รองรับภาพแบบ 4K รวมไปถึงแอป สตรีมมิ่งยอดนิยมอย่าง Netflix ส่วนแอปอื่นๆ ที่แนะนำให้โหลดควรเป็นพวกแอปที่ใช้งานง่ายๆ เช่น เบราเซอร์อย่าง Google Chrome, แอปดูทีวี, แอปสตรีมมิ่งต่างๆ จะให้ประสบการณ์การใช้งานได้ดีที่สุด ซึ่งหากจะโหลดแอปเพิ่มเติมผมแนะนำให้โหลดจากทาง AptoideTV จะดีกว่าครับ

หน้ารวมแอปทั้งหมดที่ถูกติดตั้งไว้ในเครื่อง
โปรแกรมเล่นไฟล์เพลงต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้ในตัว
Google Play Store ในส่วนของ แอปพลิเคชั่นที่เราสามาเลือกโหลดมาติดตั้งได้
Google Play Store ในส่วนของภาพยนตร์
AptoideTV Store ที่ทาง Zappiti คัดเลือกแอปที่เหมาะสมกับตัวเครื่องไว้ให้แล้ว

แอปที่เราทุกคนใช้งานกันเป็นประจำอย่าง YouTube ก็ใช้งานได้ดี สามารถค้นหาคลิปต่างๆ รายการทีวี มิวสิควีดีโอใหม่ๆ สามารถเล่นออกมาได้อย่างดีไม่มีสะดุด และที่สำคัญรองรับความละเอียดภาพสูงสุดถึง 4K เรียกว่าคมชัดกันแบบสะใจไปเลย แต่น่าเสียดายเล็กน้อยตรงที่ไม่รองรับภาพแบบ HDR

แอป YouTube เลือกความละเอียดแบบ 4K ได้
รับชมได้อย่างไม่มีสะดุด

อีกหนึ่งแอปที่คนนิยมกันในยุคนี้ก็คือ Netflix โดยในการทดสอบผลออกมาคือรองรับความละเอียดภาพสูงสุดได้ที่ 1080p พร้อมเสียงแบบ 2 CH เท่านั้น ซึ่งถือว่าเพียงพอในการรับชมแบบทั่วไปได้ในประมาณหนึ่ง โดยในการใช้งานแอปนี้แนะนำให้ใช้เมาส์ควบคุมการใช้งานจะสามารถใช้งานได้ดีกว่ารีโมท แต่หาก TV ใครมี Netflix ในตัว ผมแนะนำให้รับชมผ่าน TV จะดีกว่าครับ

แอป Netflix ก็มีให้ Download นะ

ในการทดสอบการใช้งานแอป Google Chrome ให้การใช้งานที่ประทับใจผมไม่น้อย ความลื่นไหล การแสดงผลต่างๆ รวมไปถึงตัวหนังสือไม่มีอาการแสดงผิดเพี้ยนให้เห็นแต่อย่างใด โดยในการใช้งานแนะนำให้ทำการเชื่อมต่อ Mouse และ Keyboard เพื่อการใช้งานที่สะดวก ใกล้เคียง Computer

แอป Google Chrome ตอนกำลังพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการ
สามารถแสดงผลส่วนต่างๆ บนเว็บไซต์ และ ตัวอักษรได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน

ในบางครั้งที่เราเปิดเครื่องใช้งานมาเป็นเวลานานแล้ว อาจมีอาการหน่วง เกิดขึ้นบ้าง นั่นเป็นเพราะว่าบางครั้งเราไม่ได้ออกโปรแกรมอย่างถูกวิธี โดยการกด Back 2 ครั้งที่รีโมทเพื่อออกจากโปรแกรมก่อน ส่วนใหญ่มักจะกดปุ่ม Home เลยทำให้โปรแกรมต่างๆ ทำงานอยู่เบื้องหลังส่งผลให้ตัวเครื่องทำงานหนักจึงทำให้เกิดอาการเครื่องอืดเครื่องช้าลงนั่นเอง

Task Killer กำลังทำงาน

ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะงงมาจากในส่วนของช่องต่อคือ Zappiti เครื่องนี้มี HDMI Input มาให้ 1 ช่องนั้นเอาไว้ทำอะไร…? คำตอบก็คือ เอาไว้ใช้สำหรับต่อสัญญาณเข้าเพื่อใช้ Zappiti เป็นเครื่องบันทึกวีดีโอนั่นเองครับ โดยเหมาะกับการนำไว้ใช้บันทึกรายการทีวีต่างๆ เพื่อไว้รับชมภายหลังนั่นเอง

โปรแกรมบันทึกวีดีโอผ่าน HDMI In

ส่วนการตั้งค่าต่างๆ ด้านภาพ และ เสียง Zappiti One SE 4K HDR สามารถ Output ภาพได้สูงสุดถึง 4096 x 2160 ที่ 60 Hz แต่แนะนำให้ใช้ Auto ให้ตัวเครื่องส่งสัญญาณที่ดีที่สุดที่เหมาะกับทีวีของคุณได้จะสะดวกกว่า ส่วนเรื่องเสียงก็สามารถ Passthrough เสียง Dolby Atmos กับ DTS:X ผ่านทาง HDMI ได้ทั้ง 2 ช่องไปให้ AVR หรือเครื่องเสียงที่รองรับ ถอดสัญญาณเสียงออกมาได้อย่างสบายๆ หรือหากใครใช้เครื่องเสียงรุ่นเก่าหรือ Soundbar ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเชื่อมต่อเสียงแบบ Digital ไม่ได้ HD Player เครื่องนี้ยังมี Digital Audio Output แบบ Coaxial ที่สามารถส่งเสียงแบบ Dolby Digital กับ DTS ได้ มาให้เลือกใช้ และหากเครื่องไหนไม่สามารถถอดระบบเสียงที่กล่าวไปข้างต้นได้สาสมารถเลือกให้ตัวเครื่อง Zappiti ถอดสัญญาณเสียงให้ โดยเลือกเป็น LPCM 2 Channel หรือ LPCM Multi-Channel ได้เช่นกัน

หน้าหลักของการตั้งค่า
ความละเอียดภาพที่ตัวเครื่องรองรับ
ตั้งค่า Output เสียง