28 Aug 2017
Review

รีวิว Onkyo LS5200 – มินิชุดโฮมเธียเตอร์ 2.1 แชนแนล รองรับ 4K และการสตรีมมิ่งผ่านระบบเน็ตเวิร์คได้สมบูรณ์แบบ


  • raweepon

2.1ch Home Theater in a Box

Onkyo LS5200

ห่างหายจากการรีวิวชุดซิสเต็ม HTiB กันไปนานพอสมควร สำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่กำลังมองหาชุดโฮมเธียเตอร์ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดก็คงจะมีให้เลือกอยู่ไม่กี่แบรนด์มากนักที่ยังคงลงเล่นในตลาดกลุ่มนี้อยู่ ซึ่ง Onkyo เองก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกจากแดนปลาดิบ ที่ยังคงมีผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงตั้งแต่รุ่นเล็กๆ ไปจนถึงรุ่นใหญ่ระดับ Hi-End กันเลยทีเดียว

โดยเจ้า Onkyo รุ่น LS5200 ที่เราจะนำมารีวิวให้ได้รับชมกันในครั้งนี้ถือว่าเป็นชุดซิสเต็ม HTiB ที่มีขนาดเล็กอีกหนึ่งชุดที่กระผมได้เคยรีวิวมาเลยก็ว่าได้ เพราะว่ามันเป็นชุดซิสเต็มระบบเสียงแบบ 2.1 แชนแนลเท่านั้น แน่นอนว่ามันได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ตอบสนองการรับฟังเพลงเป็นหลัก แต่จะว่าไปก็สามารถนำมาใช้รับชมภาพยนตร์ หรือแม้จะต่อกับเครื่องเล่นเกมส์ก็สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบครันไม่แพ้กันนะ

Onkyo LS5200 เป็นชุดโฮมเธียเตอร์ขนาดเล็กที่มาพร้อมกับการรองรับการใช้งานที่ค่อนข้างจะครอบจักรวาล โดยตัวของ AV Receiver จะมาพร้อมกับช่องต่อทั้งแบบแอนะล็อกและดิจิทัล ในส่วนของภาคถอดรหัสเสียงจะรองรับ DTS-HD Master Audio และ Dolby TrueHD พร้อมกันนี้ในส่วนของด้านการประมวลผลภาพก็รองรับ 4K Upscaling ภาพที่ความละเอียดจากระดับ Full HD 1080p ธรรมดาๆ ไปเป็นความละเอียดระดับ 4K ได้ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ส่วนที่เป็นลูกเล่นอื่นๆ อย่างเช่น การสตรีมมิ่งเพลงจาก Smart Device ผ่านทาง Chromecast built-in, Wi-Fi, AirPlay และ Bluetooth ไปยังตัวของ AV Receiver ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้มันยังมีความสามารถอื่นๆ ที่กระผมยังไม่ได้กล่าวถึงอีกมากมาย เดี๋ยวเราคงจะได้เห็นกันในรีวิวนี้อย่างแน่นอน จนคุณอาจจะต้อง ร้องว้าว! ว่าเครื่องเล็กแค่นี้สามารถใช้งานฟังก์ชั้นอย่างนั้นอย่างนี้ ได้ด้วยเหรอ?

Design – การออกแบบ

อันดับแรกเลยต้องขอพาคุณผู้อ่านทุกท่านมาไล่ดูไปเรื่อยๆ ที่ส่วนของดีไซน์กันก่อนนะ โดยลักษณะรูปร่างของเจ้า Onkyo LS5200 ทั้งชุดจะมีขนาดที่ค่อนข้างแตกต่างกับชุด HTiB ตัวอื่นๆ ที่กระผมได้เคยรีวิวมาแล้วก่อนหน้านี้ และจะเห็นว่าตัว AV Receiver มีขนาดที่ค่อนข้างบางใกล้เคียงกับเครื่องเล่น Blu-ray Player อีกด้วย

ระบบเสียงของชุดนี้จะเป็นแบบ 2.1 แชนแนล เมื่อลองนับๆ รวมกันแล้วจะมีลำโพงทั้งหมดเพียงแค่ 3 ตัวเท่านั้น (รวมลำโพงซับวูฟเฟอร์) ทำให้ลักษณะการใช้งานจะเหมาะกับการนำไปใช้งานกับห้องที่มีขนาดเล็ก อย่างเช่น ห้องนั่งเล่นของบางบ้านที่ไม่สะดวกติดตั้งติดตั้งชุด HTiB แบบ 5.1 แชนแนล เนื่องด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ หรือผู้ที่ใช้งาน Soundbar อยู่แต่ต้องการชุดซิสเต็มที่รองรับการใช้งานได้หลากหลายกว่าก็สามารถจับ HTiB ชุดนี้เข้าไปติดตั้งทดแทนได้

เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบกับพระเอกของเราที่ประกอบไปด้วยตัวของเครื่อง AV Receiver, ลำโพงคู่หน้า และลำโพงซับวูฟเฟอร์ ทั้งหมดล้วนมาในโทนสีดำอันเคร่งขรึม
นี่ก็คือหน้าตาของอุปกรณ์ทั้งหมดที่ทาง Onkyo ได้ใส่มาให้ภายในชุดนี้

ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดนี้จะประกอบไปด้วย
1. คู่มือแนะนำการติดตั้ง และการใช้งาน จำนวน 1 ชุด
2. สายสัญญาณสำหรับใช้เชื่อมต่อกับลังโพงหลักคู่หน้า จำนวน 2 เส้น
3. หิ้งพร้อมน็อตสำหรับใช้ยึดลำโพงหลักคู่หน้าเข้ากับผนัง จำนวน 2 ชุด
4. แผ่นยางสำหรับใช้รองใต้ตูดลำโพงหลักคู่หน้า จำนวน 2 ชุด
5. สายอากาศวิทยุ DAB/FM จำนวน 1 เส้น
6. ถ่านขนาด AAA สำหรับใช้กับรีโมทคอนโทรล จำนวน 2 ก้อน

มาเริ่มเจาะลึกที่หน้าตาของ AV Receiver กันดีกว่า สำหรับตัวเครื่องจากที่กระผมได้ลองหาข้อมูลบนเว็บไซต์ของ Onkyo เข้าใจว่าจะมีอยู่ทั้งหมด 2 สี คือ สีขาว และสีดำ (แต่เข้าใจว่าในไทยทาง CMG น่าจะนำเข้ามาเฉพาะโมเดลสีดำเท่านั้น)

ตัวเครื่อง AV Receiver ที่นำมาใช้งานภายในชุดนี้จะมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “TX-L20DWL 2.1” โดยตัวบอดี้จะมีขนาดเล็กเพรียวบางกว่าชุด HTiB ตัวอื่นๆ เพราะว่าทาง Onkyo ได้จัดเจ้านี่ไว้ในกลุ่มของ Lifestyle Home Entertainment ที่จะอยู่ในระดับเดียวกันกับชุด Soundbar และชุดลำโพงขนาดเล็กแบบตั้งโต๊ะที่มีระบบภาคขยายเสียงในตัวหรือมี Receiver และภาคขยายติดมาให้ภายในชุด

ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กแต่มันก็มาพร้อมกับความสามารถในการรองรับการเชื่อมต่อเข้ากับระบบเน็ตเวิร์คได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านทางสัญญาณ Wi-Fi, Bluetooth หรือจะเชื่อมต่อผ่านทางสาย LAN ก็ได้ด้วย

ในส่วนของสเปคตัวเครื่องที่เป็นจุดเด่นเลยนั้นจะมีดังนี้
– ช่องต่อลำโพงซ้ายขวาที่สามารถรองรับกำลังขับได้สูงสุดที่ 85 W x 85 W (4 Ω, 1 kHz, 1%, 1 Channel Driven, IEC)
– รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่านทางสัญญาณ Wi-Fi และ Bluetooth Version 4.1+LE, A2DP 1.2/AVRCP 1.4
– รองรับการเชื่อมต่อกับ Smart Device ผ่านทาง Chromecast built-in, AirPlay และรองรับการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Spotify, TIDAL, Deezer, TuneIn และ Pandora ได้ในตัว
– มาพร้อมกับช่องต่อ HDMI Inputs จำนวน 4 พอร์ต / และมีช่องต่อ HDMI Out จำนวน 1 พร้อมกับรองรับการถ่ายทอดสัญญาณภาพที่ความละเอียดระดับ 4K/60p UltraHD (HDCP 2.2, 4:4:4 Color Space, HDR, BT.2020 Color)
– รองรับการ Upscaling ภาพวีดีโอ Full HD 1080p ให้มีความละเอียดสูงขึ้นเป็นระดับ 4K
– เนื่องด้วยระบบเสียงเป็นแบบ 2.1 แชนแนล จึงทำให้ตัวเครื่องสามารถรองรับการถอดรหัสเสียงได้เพียงแค่ DTS-HD Master Audio, DTS-HD High Resolution, DTS 96/24, DTS-HD Express, Dolby TrueHD, Dolby Digital และ Dolby Digital Plus เท่านั้น

ถัดมาต่อกันที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง AV Receiver กันดีกว่า สำหรับบริเวณด้านหน้าที่เป็นส่วนของหน้ากากนั้นจะทำมาจากวัสดุที่เป็นพลาสติกขึ้นรูปเคลือบด้วยสีดำและพื้นผิวแบบมันเงา (Glossy) ทำให้มีความพรีเมียมไม่ใช่น้อย แต่การใช้งานจริงอาจจะต้องระวังเรื่องขนแมวกันสักเล็กน้อย

ทางด้านหน้าซ้ายของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยปุ่มควบคุมและช่องเชื่อมต่อต่างๆ ดังนี้
1. ปุ่ม Power สำหรับเอาไว้ เปิด/ปิด
2. ช่องต่อ USB จำนวน 1 พอร์ต
3. ช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร จำนวน 1 พอร์ต
4. ปุ่มลูกศร ขึ้น/ลง สำหรับเลือก Input และฟังก์ชันต่างๆ

ขยับมาทางบริเวณด้านขวาของหน้าเครื่อง ที่จุดนี้จะมีปุ่มที่เอาไว้ใช้สำหรับปรับจูนช่องสัญญาณวิทยุ และใกล้ๆ กันจะเป็นวอลุ่มที่เอาไว้ใช้สำหรับปรับระดับความ ดัง/เบา ของเสียง
ในส่วนลำโพงหลักซ้ายขวาที่ถูกใส่มาให้นั้นจะมีชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการว่า “SKM-648”

ภายด้านในของตู้ลำโพงจะได้ถูกติดตั้งไดร์เวอร์แบบมิดเรนจ์และทวิตเตอร์ที่ให้กำลังขับรวมอยู่ข้างละ 85 W และสามารถถ่ายทอดคลื่นเสียงได้ตั้งแต่ย่านความถี่ 100 Hz ไปจนถึง 20 kHz โดยที่บริเวณหน้ากากด้านหน้าของลำโพงสามารถถอดออกได้ด้วยนะ

เทียบกันระหว่างด้านหน้าและด้านหลังที่มีสีดำเข้มทั้งตัว

สำหรับตัวบอดี้ของลำโพงหลักซ้ายขวาจะเป็นวัสดุที่ถูกขึ้นรูปจากพลาสติกเนื้อดีแข็งแรงเป็นพิเศษ และไม่ต้องห่วงว่าระหว่างลำโพงซ้ายกับขวามันจะมีสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน เพราะเข้าใจว่ามันน่าจะถูกหล่อขึ้นรูปจากบล็อกพิมพ์ จึงไม่ต้องกังวลว่ามันจะมีขนาดรูปทรงไม่เท่ากัน

โดยตัวผิววัสดุของลำโพงหลักซ้ายขวายังคงความเป็นอัตลักษณ์เคร่งขรึมเรียบหรูเหมือนกับตัวเครื่อง AV Receiver ด้วยการใช้โทนสีดำมันเงาทั้งหมด ส่วนที่หน้ากากที่ใช้สำหรับปิดป้องกันตัวไดร์เวอร์นั้นก็มีการใช้ใยผ้าสังเคราะห์และแปะโลโก้คำว่า “Onkyo” เอาไว้ที่ด้านล่าง ทั้งนี้ส่วนที่เป็นช่องสำหรับเสียบสายลำโพงจะใช้เป็นแบบสปริงหนีบ ซึ่งจะสามารถหนีบเข้ากับสายลำโพงที่แถมมาให้ภายในชุดได้พอดิบพอดี

อ้อ! เกือบลืมบอกไปว่าขนาดของตู้ลำโพงหลักซ้ายขวาจะมีขนาดอยู่ที่ 102 x 170 x 105 มิลลิเมตร (กว้าง x สูง x ลึก) และที่ด้านใต้ของก้นลำโพงจะมีช่องที่เอาไว้ยึดน็อตเข้ากับฐานวางหิ้ง ซึ่งเจ้าฐานวางหิ้งที่แถมมานั้นจะเป็นขาเหล็กสแตนเลสขนาดเล็กที่สามารถยึดติดเข้ากับผนังได้อย่างสวยงาม

ในส่วนหน้าตาของรีโมทคอนโทรลนั้นทาง Onkyo เองก็ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ ด้วยการใช้วัสดุที่เป็นสีดำด้านและสีดำมันเงา นอกจากนี้การจัดวางปุ่มกดต่างๆ ยังคงเรียบร้อยและกดใช้งานได้ง่ายเหมือนเช่นเดิม
ถัดมาต่อกันที่พระเอกอีกตัวของเรานั่นก็คือลำโพงซับวูฟเฟอร์

ซึ่งเจ้านี่เป็นอีกหนึ่งกำลังหลักที่จะมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับลำโพงหลักซ้ายขวานั่นเอง โดยวัสดุหลักของตัวตู้ลำโพงนั้นทำมาจากไม้สังเคราะห์ชนิดพิเศษและพ่นเคลือบด้วยสีดำด้าน ส่วนที่บริเวณฐานขาตั้งและด้านบนจะเป็นพลาสติกสีดำมันเงา

พลิกมาดูที่ด้านหลังของตู้ลำโพงซับวูฟเฟอร์จะมีปุ่ม “LINK” ที่เอาไว้ใช้กดในกรณีที่ลำโพงไม่ซิงค์กับตัวเครื่อง AV Receiver และข้างๆ กันจะเป็นช่องสำหรับเสียบสายไฟ
อย่างที่บอกไปว่าที่ด้านบนตัวซับวูฟเฟอร์นั้นจะใช้เป็นแผ่นพลาสติกแบบมันวาวในการปิดพื้นผิวด้านบน จึงทำให้ดูแล้วมีความพรีเมียมพอสมควร แต่ทว่าด้านบนก็ไม่ได้ใช้เป็นโทนสีดำมันเงาและปล่อยโล่งแต่อย่างใด เพราะว่ามีการสกรีนโลโก้ “Onkyo”เอาไว้
พลิกมาดูที่ด้านใต้ของซับวูฟเฟอร์จะเป็นแบบ Direct ที่ประมาณด้วยสายตาแล้วน่าจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 5-6 นิ้ว พร้อมกันนี้ส่วนที่เป็นท่อเบสก็จะคายลมลงที่บริเวณจุดนี้ด้วยเช่นกัน

สำหรับสเปคของลำโพงซับวูฟเฟอร์ที่ถูกติดตั้งมาภายในชุดนี้จะเป็นลำโพงแบบไร้สายการใช้งานถือว่าง่ายมากๆ เพราะว่าเสียบปลั๊กไฟที่อยู่บริเวณด้านหลังของตู้ลำโพงก็สามารถใช้งานได้ทันที

โดยตัวตู้ลำโพงนั้นจะเป็นแบบ Active ใช้ชื่อรุ่นว่า “SKW-B50” มาพร้อมกับกำลังขับ 50 W (4 Ohms, 100 Hz, 1%, IEC) และรองรับการตอบสนองคลื่นเสียงในย่านความถี่ 40 Hz ไปจนถึง 200 Hz ซึ่งก็จะช่วยชดเชยเสียงความถี่ในบางย่านให้กับลำโพงคู่หลักได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ขนาดของตัวตู้ลำโพงจะอยู่ที่ 261 x 337 x 269 มิลิเมตร (กว้าง x สูง x ลึก)