23 Sep 2015
Review

รีวิว Wharfedale DS-1 ไร้สายไม่ไร้สี ลำโพงผู้ดีมีบลูทูธ!


  • boom

Wharfedale แบรนด์ลำโพงชั้นนำจากอังกฤษที่โด่งดังมายาวนานจากเซ็ตลำโพงสร้างชื่อหลากหลายรุ่น ซึ่งที่ผ่านมานี้มักจะเป็นลำโพงแยกชิ้นซะส่วนใหญ่ แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไปจุดประสงค์การใช้งานของคนเราก็หลากหลายมากยิ่งขึ้น การฟังเพลงจากคอมพิวเตอร์ก็เริ่มกลายมาเป็นกระแสหลัก สำหรับนักฟังรุ่นใหม่ ทำให้เกิดเป็นไลน์สินค้าตัวใหม่นามว่า DS-1

Wharfedale DS-1 เป็นลำโพงแอ็คทีฟแบบสเตอริโอที่มาพร้อมกับฟีเจอร์การเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth ที่พ่วงเอา Codec ยอดนิยมอย่าง aptx มาด้วย พร้อมกับแอมป์ DSP คุณภาพสูงที่ทำงานคู่กับไดร์เวอร์สุดคลาสสิคเอกลักษณ์เฉพาะของ Wharfedale

สเปคโดยย่อของ Wharfedale DS-1

DescriptionDesktop Active Speaker System
Maximum Power Output14W
Channels2.0
NFCSupported
Bluetooth4.0 BC8 support aptX
S/N Ratio>80dB (A weighted)
Line Input Sensitivity350mV
Frequency Response50Hz – 20kHz

ราคา 7,990 บาท

Design – การออกแบบ

ตัวตู้มีสีดำกลอสซี่มันวาวสวยงามรอบตัว ขนาดกะทัดรัดพอเหมาะที่จะวางข้างจอคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปได้เป็นอย่างดี

ด้านหน้าเป็นเบสไดร์เวอร์ขนาด 10 ซม. และซิลค์โดมทวีตเตอร์ ขนาด 2 ซม.​ ที่ทำงานร่วมกันเพื่อตอบสนองความถี่ในช่วง 55Hz ถึง 20kHz บริเวณขอบไดร์เวอร์ทั้งสองตัวประดับด้วยเส้นสายโลหะคล้ายรุ่น Diamond โดยที่ลำโพงข้างขวาจะมีไฟ LED บอกสถานะอยู่มุมด้านล่าง โดยเมื่อใช้งานบลูทูธจะเป็นสีฟ้า ถ้าเป็น AUX ปกติจะเป็นสีเขียว

เห็นลำโพงบลูทูธที่ไหนก็มักจะเห็นฟีเจอร์ NFC พ่วงมาด้วยคู่กันเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการจับคู่อุปกรณ์ สำหรับ DS-1 เราสามารถนำสมาร์ทโฟนของเรามาทาบไว้ที่ด้านบนของลำโพงข้างขวาที่มีสติ๊กเกอร์ NFC แปะอยู่ได้เลย

ด้านหลังของลำโพงทั้งสองจะมีท่อเบสรีเฟล็กซ์อยู่ สำหรับตัวลำโพงข้างขวาที่เป็นเมนยูนิต ก็จะมีแผงควบคุมสำหรับปรับระดับเสียงพร้อมปุ่ม Source และ Pair สำหรับสลับการใช้งานระหว่าง บลูทูธกับพอร์ตอะนาล็อก 3.5 มม.

หากพิจารณาภาพรวมแล้ว DS-1 เหมือนเป็นการเอา DNA ของลำโพงแซทเทิลไลท์ในเซ็ต DX-1 ที่ผมเคยรีวิว มาเสริมเติมแต่งเอา Bluetooth และแอมป์พลิฟายเออร์ใส่เข้าไป ทำให้กลายร่างมาเป็นลำโพงสเตอริโอสำหรับใช้งานคู่กับอุปกรณ์ไอทีไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อป, สมาร์ทโฟน และเครื่องเล่นไฟล์ต่างๆ

สำหรับอุปกรณ์ที่แถมมาให้ในกล่องก็จะมีสาย RCA สำหรับต่อลำโพงสองข้างเข้าด้วยกัน, อะแด็ปเตอร์ไฟขนาด 50 V และยางรองฐานของ 3M ซึ่งเช่นเคยผมก็แนะนำให้ติดเข้าที่ฐานลำโพงไว้เลยนะครับ เพราะนอกจากจะช่วยดูดซับแรงปฏิกิริยาแล้ว ยังมีส่วนช่วยไม่ให้ตัวตู้ด้านล่างถลอกเป็นรอยอีกด้วย

Connectivity – ช่องต่อ

ลำโพงด้านขวาเป็นที่เสียบสาย AUX, สายเชื่อมระหว่างลำโพงสองข้าง
และสุดท้ายคือช่องเสียบอะแด็ปเตอร์ไฟ
ส่วนด้านซ้ายมีอยู่ช่องเดียวก็คือช่องเดียวสำหรับเชื่อมสายจากลำโพงข้างขวา